“สมาคมประมง”พบแกนนำเพื่อไทย เล่าปัญหากม.ยุคคสช. อัด รัฐไม่สนเสียงชาวประมง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1272297
“สมาคมประมง” เข้าพบแกนนำเพื่อไทย เล่าปัญหาจากกฎหมายที่เกิดขึ้นกว่า 500 ฉบับ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ตัวแทนจากสมาคมชาวประมง นำโดยนาย
ไตรฤกษ์ มือสันทัด รองประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย (อ่าวไทย) เดินทางมาพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นกับประมงไทยกับแกนนำของพรรคพท. โดยพล.ต.ท.
วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวพรรคนาย
ปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค และคุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคพท.ให้การต้อนรับและร่วมพูดคุย
จากนั้นเวลา 12.50 น. นาย
ปลอดประสพ แถลงว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงสุดท้ายของการร่างนโยบายของพรรคเพื่อใช้ในการเลือกตั้งที่จะถึง ซึ่งที่ผ่านมาพรรคก็ได้ลงไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ทั้งนี้ วันนี้เราได้เชิญผู้แทนผู้ประกอบอุตสาหกรรมประมงทุกสาขา และชาวประมงในพื้นที่มารับฟังปัญหา โดยเรามี 4 ประเด็นใหญ่ คือ
1. การประมงพื้นบ้าน การประมงพาณิชย์ และการประมงนอกน่านน้ำจะต้องอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เลือกว่าอะไรมาก่อนมาหลัง
2. เรายืนยันกับชาวประมงว่าเราจะฟื้นฟูการประมง และทรัพยากรประมง รวมถึงจัดระเบียบการประมงให้ยั่งยืน และเกิดการกระจายรายได้
3. สิ่งที่สร้างปัญหาให้การประมงขณะนี้คือไอยูยู โดยประเทศไทยไปยอมรับกฎระเบียบต่างๆโดยไม่คำนึงถึงความสมเหตุสมผล ทำให้เกิดกฎระเบียบมากถึง 500 เรื่อง เราเห็นว่าเรื่องนี้ต้องมีการเจรจากับไอยูยูใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดการผ่อนปรน และเลือกรับข้อตกลงอย่างสมเหตุสมผล เพื่อไม่ให้ทำร้ายชาวประมง และเศรษฐกิจประมงไทย
และ 4. เราจะพยายามนำประเทศไทยกลับไปสู่การเป็นผู้นำด้านการประมงของภูมิภาค และของโลกอีกครั้งหนึ่ง
นาย
ปลอดประสพ กล่าวอีกว่า เรือประมงที่เคยมีอยู่ 8 หมื่นลำ เหลือเพียง 6 หมื่น ประมงนอกน่านน้ำที่เคยมีกว่า 600 ลำ วันนี้แทบไม่มีแล้ว รายได้ที่เคยเกิดจากการประมงก็ลดลงเรื่อยๆ ทั้งปัจจุบันเรายังต้องนำเข้าอาหารทะเลเพื่อรับประทานทั้งที่เราเคยส่งออกไปขาย เป็นไปได้อย่างไร กฎระเบียบที่มีขึ้นมาก็เพื่อเอามากดหัวคน ทั้งที่กฎระเบียบควรออกมาอำนวยความสะดวกให้คนประกอบอาชีพ วันนี้พท.เรามองเห็นปัญหาของชาวประมง และเราจะหาทางแก้ไข และผู้สมัครส.ส.ของเราแถบภาคใต้ครั้งนี้จะมาจากชาวประมงด้วย เพราะเราเห็นว่าปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่
นาย
ไตรฤกษ์ กล่าวว่า อาชีพประมงเราเริ่มประสบปัญหามาตั้งแต่ปี 58 บางคนฆ่าตัวตายเพราะกฎระเบียบต่างๆที่ออกมามากมาย วันนี้มีเอกสาร 30-40 ฉบับที่ต้องหอบลงเรือประมง ตนเชื่อว่ามีเพียงประเทศไทยที่จะทำอาชีพแล้วต้องหอบเอกสารมากมายขนาดนี้โดยที่รัฐไม่ได้มองถึงวิถีชีวิตที่มีมาดั้งเดิม เหมือนการหักพร้ากับเข่า พี่น้องชาวประมงเราพร้อมจะปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่วันนี้ประเทศไทยยังไม่เป็นสากล ผู้นำยังไม่เป็นสากล แต่กลับบอกให้ประชาชนเป็นสากล ตนว่ามันผิดที่ผิดทาง วันนี้เราต้องเผาบ้านไล่แมลงสาปหรือ ที่ผ่านมาพวกเราไม่เคยขอ ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากรัฐบาล แต่วันนี้รัฐบาลกลับมาสร้างปัญหาให้อาชีพประมงต้องล่มสลาย เราต้องสั่งปลาเข้ามาจากต่างประเทศ เพราะประเทศไทยไม่มีปลา เนื่องจากเราไม่มีเรือ รัฐบาลลืมดูว่าวันนี้ชาวประมงอยู่กินกันอย่างไร การจัดระเบียบประมงไทยนั้นไม่ยาก เราเคยเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่วันนี้เราติดลบ วันนี้ตนขอเป็นตัวแทนพี่น้องชาวประมงทั้งประเทศ ตนพร้อมที่จะมาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวประมง
นิด้าโพลระบุ "Gen Y" อยากเห็นพรรคการเมืองชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้องประชาชน หวังศก.ดีหลังเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1272375
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “
นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “
Gen Y กับการเลือกตั้ง 2562” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3 – 6 ธันวาคม 2561 จากประชาชนที่มีอายุระหว่าง 21-38 ปี กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,264 ตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่เกิดในยุค Generation Y (Gen Y) คืออยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2523 – 2540 กับการเลือกตั้ง 2562 ที่จะถึงนี้
จากการสำรวจเมื่อถามถึง
นโยบายที่คน Gen Y อยากเห็นจากพรรคการเมือง ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 66.53 ระบุว่า นโยบายแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน
รองลงมา ร้อยละ 32.83 ระบุว่า นโยบายป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล
ร้อยละ 30.62 ระบุว่า นโยบายการควบคุมราคาสินค้า ลดการผูกขาด
ร้อยละ 20.09 ระบุว่า นโยบายพัฒนาด้านการศึกษา และยกระดับมาตรฐานการศึกษา
ร้อยละ 19.86 ระบุว่า นโยบายแก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ
ร้อยละ 18.51 ระบุว่า นโยบายการกระจายอำนาจ กระจายงานและรายได้ ไม่ให้กระจุกตามเมืองใหญ่
ร้อยละ 9.18 ระบุว่า นโยบาย ด้านสุขภาพการรักษาพยาบาล และการคุ้มครองความเสี่ยงของผู้บริโภค
ร้อยละ 7.99 ระบุว่า นโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระหว่างคนจนกับคนรวย
ร้อยละ 4.51 ระบุว่า นโยบายเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาประเทศ FinTech , Big DATA , Blockchain
ร้อยละ 2.85 ระบุว่า นโยบายการลดงบประมาณของทหาร ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
และร้อยละ 0.16 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นโยบายการจัดการด้านคมนาคม
สำหรับ
เรื่องที่คน Gen Y คิดว่าไม่ถูกต้องหรือรับไม่ได้มากที่สุด พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.02 ระบุว่า เป็นเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ
รองลงมา ร้อยละ 15.27 ระบุว่า เป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ผู้มีอิทธิพล
ร้อยละ 13.05 ระบุว่า เป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองของคน ในประเทศ
ร้อยละ 8.15 ระบุว่า เป็นเรื่องระบบการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ
ร้อยละ 6.65 ระบุว่า เป็นเรื่องปัญหาสังคม (ความยากจน การกระจายรายได้ อาชญากรรม ยาเสพติด)
ร้อยละ 4.27 ระบุว่า เป็นเรื่องการปฏิวัติ/การทำรัฐประหาร และเรื่องการไม่มีการเลือกตั้ง ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ร้อยละ 3.16 ระบุว่า เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
และร้อยละ 0.08 ไม่แน่ใจ และไม่ระบุ ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ด้าน
สิ่งที่คน Gen Y คาดหวังมากที่สุด หลังการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.70 ระบุว่า เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศที่ดีขึ้น
รองลงมา ร้อยละ 12.03 ระบุว่า ส่งเสริมการเพิ่มอาชีพ ลดการว่างงาน พัฒนาให้แรงงานให้มีประสิทธิภาพ
ร้อยละ 10.21 ระบุว่า พัฒนาด้านการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น
ร้อยละ 9.41 ระบุว่า ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย
ร้อยละ 3.56 ระบุว่า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในประเทศและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ร้อยละ 3.48 ระบุว่า ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสายตาของต่างชาติ
ร้อยละ 1.90 ระบุว่า การบริการและการได้รับสวัสดิการของรัฐด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม และเท่าเทียมกัน
ร้อยละ 0.55 ระบุว่า สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็น เช่น อินเทอร์เน็ต น้ำประปา ไฟฟ้า ถนน รถไฟ การคมนาคม ฯลฯ
และร้อยละ 0.16 ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึง
การขับเคลื่อนประเทศไทยที่คน Gen Y อยากเห็นในอนาคต พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 38.13 ระบุว่า แก้ปัญหาการขัดแย้ง สร้างความสามัคคี สร้างจิตสำนึกในการใช้เสรีภาพส่วนบุคคล
รองลงมา ร้อยละ 36.63 ระบุว่า การทำนโยบายสาธารณะที่มาจากประชาชนร่วมกันคิด
ร้อยละ 16.85 ระบุว่า ยกระดับคุณภาพการบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพ
ร้อยละ 15.74 ระบุว่า ส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้
ร้อยละ 10.52 ระบุว่า แก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้
ร้อยละ 5.62 ระบุว่า การแก้ไขปัญหาการเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ
ร้อยละ 3.56 ระบุว่า ส่งเสริมด้านกีฬาให้กับประชาชน เช่น อุปกรณ์กีฬา สนามกีฬา เป็นต้น
ร้อยละ 1.50 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
และร้อยละ 0.16 ไม่แน่ใจ
JJNY : 4in1 ประมงพบพท.อัดรัฐ/GenYอยากเห็นพรรคชูแก้ปากท้อง/ชี้แจกเงินหัวละ500บ./ผบ.ทสส.ย้ำกำลังพลวางตัวเป็นกลาง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1272297
“สมาคมประมง” เข้าพบแกนนำเพื่อไทย เล่าปัญหาจากกฎหมายที่เกิดขึ้นกว่า 500 ฉบับ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ตัวแทนจากสมาคมชาวประมง นำโดยนายไตรฤกษ์ มือสันทัด รองประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย (อ่าวไทย) เดินทางมาพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นกับประมงไทยกับแกนนำของพรรคพท. โดยพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวพรรคนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคพท.ให้การต้อนรับและร่วมพูดคุย
จากนั้นเวลา 12.50 น. นายปลอดประสพ แถลงว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงสุดท้ายของการร่างนโยบายของพรรคเพื่อใช้ในการเลือกตั้งที่จะถึง ซึ่งที่ผ่านมาพรรคก็ได้ลงไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ทั้งนี้ วันนี้เราได้เชิญผู้แทนผู้ประกอบอุตสาหกรรมประมงทุกสาขา และชาวประมงในพื้นที่มารับฟังปัญหา โดยเรามี 4 ประเด็นใหญ่ คือ
1. การประมงพื้นบ้าน การประมงพาณิชย์ และการประมงนอกน่านน้ำจะต้องอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เลือกว่าอะไรมาก่อนมาหลัง
2. เรายืนยันกับชาวประมงว่าเราจะฟื้นฟูการประมง และทรัพยากรประมง รวมถึงจัดระเบียบการประมงให้ยั่งยืน และเกิดการกระจายรายได้
3. สิ่งที่สร้างปัญหาให้การประมงขณะนี้คือไอยูยู โดยประเทศไทยไปยอมรับกฎระเบียบต่างๆโดยไม่คำนึงถึงความสมเหตุสมผล ทำให้เกิดกฎระเบียบมากถึง 500 เรื่อง เราเห็นว่าเรื่องนี้ต้องมีการเจรจากับไอยูยูใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดการผ่อนปรน และเลือกรับข้อตกลงอย่างสมเหตุสมผล เพื่อไม่ให้ทำร้ายชาวประมง และเศรษฐกิจประมงไทย
และ 4. เราจะพยายามนำประเทศไทยกลับไปสู่การเป็นผู้นำด้านการประมงของภูมิภาค และของโลกอีกครั้งหนึ่ง
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า เรือประมงที่เคยมีอยู่ 8 หมื่นลำ เหลือเพียง 6 หมื่น ประมงนอกน่านน้ำที่เคยมีกว่า 600 ลำ วันนี้แทบไม่มีแล้ว รายได้ที่เคยเกิดจากการประมงก็ลดลงเรื่อยๆ ทั้งปัจจุบันเรายังต้องนำเข้าอาหารทะเลเพื่อรับประทานทั้งที่เราเคยส่งออกไปขาย เป็นไปได้อย่างไร กฎระเบียบที่มีขึ้นมาก็เพื่อเอามากดหัวคน ทั้งที่กฎระเบียบควรออกมาอำนวยความสะดวกให้คนประกอบอาชีพ วันนี้พท.เรามองเห็นปัญหาของชาวประมง และเราจะหาทางแก้ไข และผู้สมัครส.ส.ของเราแถบภาคใต้ครั้งนี้จะมาจากชาวประมงด้วย เพราะเราเห็นว่าปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่
นายไตรฤกษ์ กล่าวว่า อาชีพประมงเราเริ่มประสบปัญหามาตั้งแต่ปี 58 บางคนฆ่าตัวตายเพราะกฎระเบียบต่างๆที่ออกมามากมาย วันนี้มีเอกสาร 30-40 ฉบับที่ต้องหอบลงเรือประมง ตนเชื่อว่ามีเพียงประเทศไทยที่จะทำอาชีพแล้วต้องหอบเอกสารมากมายขนาดนี้โดยที่รัฐไม่ได้มองถึงวิถีชีวิตที่มีมาดั้งเดิม เหมือนการหักพร้ากับเข่า พี่น้องชาวประมงเราพร้อมจะปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่วันนี้ประเทศไทยยังไม่เป็นสากล ผู้นำยังไม่เป็นสากล แต่กลับบอกให้ประชาชนเป็นสากล ตนว่ามันผิดที่ผิดทาง วันนี้เราต้องเผาบ้านไล่แมลงสาปหรือ ที่ผ่านมาพวกเราไม่เคยขอ ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากรัฐบาล แต่วันนี้รัฐบาลกลับมาสร้างปัญหาให้อาชีพประมงต้องล่มสลาย เราต้องสั่งปลาเข้ามาจากต่างประเทศ เพราะประเทศไทยไม่มีปลา เนื่องจากเราไม่มีเรือ รัฐบาลลืมดูว่าวันนี้ชาวประมงอยู่กินกันอย่างไร การจัดระเบียบประมงไทยนั้นไม่ยาก เราเคยเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่วันนี้เราติดลบ วันนี้ตนขอเป็นตัวแทนพี่น้องชาวประมงทั้งประเทศ ตนพร้อมที่จะมาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวประมง
นิด้าโพลระบุ "Gen Y" อยากเห็นพรรคการเมืองชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้องประชาชน หวังศก.ดีหลังเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1272375
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “Gen Y กับการเลือกตั้ง 2562” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3 – 6 ธันวาคม 2561 จากประชาชนที่มีอายุระหว่าง 21-38 ปี กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,264 ตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่เกิดในยุค Generation Y (Gen Y) คืออยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2523 – 2540 กับการเลือกตั้ง 2562 ที่จะถึงนี้
จากการสำรวจเมื่อถามถึงนโยบายที่คน Gen Y อยากเห็นจากพรรคการเมือง ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 66.53 ระบุว่า นโยบายแก้ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน
รองลงมา ร้อยละ 32.83 ระบุว่า นโยบายป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล
ร้อยละ 30.62 ระบุว่า นโยบายการควบคุมราคาสินค้า ลดการผูกขาด
ร้อยละ 20.09 ระบุว่า นโยบายพัฒนาด้านการศึกษา และยกระดับมาตรฐานการศึกษา
ร้อยละ 19.86 ระบุว่า นโยบายแก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ
ร้อยละ 18.51 ระบุว่า นโยบายการกระจายอำนาจ กระจายงานและรายได้ ไม่ให้กระจุกตามเมืองใหญ่
ร้อยละ 9.18 ระบุว่า นโยบาย ด้านสุขภาพการรักษาพยาบาล และการคุ้มครองความเสี่ยงของผู้บริโภค
ร้อยละ 7.99 ระบุว่า นโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระหว่างคนจนกับคนรวย
ร้อยละ 4.51 ระบุว่า นโยบายเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาประเทศ FinTech , Big DATA , Blockchain
ร้อยละ 2.85 ระบุว่า นโยบายการลดงบประมาณของทหาร ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
และร้อยละ 0.16 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ นโยบายการจัดการด้านคมนาคม
สำหรับเรื่องที่คน Gen Y คิดว่าไม่ถูกต้องหรือรับไม่ได้มากที่สุด พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.02 ระบุว่า เป็นเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ
รองลงมา ร้อยละ 15.27 ระบุว่า เป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ผู้มีอิทธิพล
ร้อยละ 13.05 ระบุว่า เป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองของคน ในประเทศ
ร้อยละ 8.15 ระบุว่า เป็นเรื่องระบบการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ
ร้อยละ 6.65 ระบุว่า เป็นเรื่องปัญหาสังคม (ความยากจน การกระจายรายได้ อาชญากรรม ยาเสพติด)
ร้อยละ 4.27 ระบุว่า เป็นเรื่องการปฏิวัติ/การทำรัฐประหาร และเรื่องการไม่มีการเลือกตั้ง ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ร้อยละ 3.16 ระบุว่า เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
และร้อยละ 0.08 ไม่แน่ใจ และไม่ระบุ ในสัดส่วนที่เท่ากัน
ด้านสิ่งที่คน Gen Y คาดหวังมากที่สุด หลังการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 58.70 ระบุว่า เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศที่ดีขึ้น
รองลงมา ร้อยละ 12.03 ระบุว่า ส่งเสริมการเพิ่มอาชีพ ลดการว่างงาน พัฒนาให้แรงงานให้มีประสิทธิภาพ
ร้อยละ 10.21 ระบุว่า พัฒนาด้านการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น
ร้อยละ 9.41 ระบุว่า ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย
ร้อยละ 3.56 ระบุว่า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในประเทศและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ร้อยละ 3.48 ระบุว่า ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในสายตาของต่างชาติ
ร้อยละ 1.90 ระบุว่า การบริการและการได้รับสวัสดิการของรัฐด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม และเท่าเทียมกัน
ร้อยละ 0.55 ระบุว่า สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็น เช่น อินเทอร์เน็ต น้ำประปา ไฟฟ้า ถนน รถไฟ การคมนาคม ฯลฯ
และร้อยละ 0.16 ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการขับเคลื่อนประเทศไทยที่คน Gen Y อยากเห็นในอนาคต พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 38.13 ระบุว่า แก้ปัญหาการขัดแย้ง สร้างความสามัคคี สร้างจิตสำนึกในการใช้เสรีภาพส่วนบุคคล
รองลงมา ร้อยละ 36.63 ระบุว่า การทำนโยบายสาธารณะที่มาจากประชาชนร่วมกันคิด
ร้อยละ 16.85 ระบุว่า ยกระดับคุณภาพการบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพ
ร้อยละ 15.74 ระบุว่า ส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยพัฒนากระบวนการเรียนรู้
ร้อยละ 10.52 ระบุว่า แก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงในจังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้
ร้อยละ 5.62 ระบุว่า การแก้ไขปัญหาการเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ
ร้อยละ 3.56 ระบุว่า ส่งเสริมด้านกีฬาให้กับประชาชน เช่น อุปกรณ์กีฬา สนามกีฬา เป็นต้น
ร้อยละ 1.50 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
และร้อยละ 0.16 ไม่แน่ใจ