ก่อนหน้านี้แม่เราเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาแล้วเมื่อ 10 ปี ก่อน ตัดเต้าไป 1 ข้าง รักษาตรวจเช็คเรื่อยมาจนมาเป็นซ้ำอีกข้างในช่วงเดือนสิงหาปีนี้ รอบนี้ตัดเต้าออกแต่ไม่ต้องให้คีโม ฉายแสง ให้กินยาเอา จากการที่แม่เราเป็นซ้ำ ทั้งๆที่ควบคุมอาหารการกิน การออกกำลังกายตลอด ทั้งตระกูลไม่เคยมีใครเป็นมีแม่เราคนแรกที่เป็นมะเร็งเต้านม ก็เลยฉุกคิดว่าไปตรวจมั่งดีกว่า ก่อนหน้ายังไม่เคยไปตรวจเพราะคิดว่าอายุยังไม่เยอะ และไม่เคยคลำเจอก้อนอะไรเลย

โรงพยาบาลเอกชนแถวที่ทำงานมีโปรแกรมตรวจเต้านมพอดี ตรวจอัลตร้าซาวด์+ แมมโมแกรม 1700 บาท ตอนแรกพยาบาลจะไม่ทำแมมโมแกรมให้ เพราะอายุยังไม่ถึง 35 (เราอายุ 32) แต่เราบอกว่าแม่เราเป็นซ้ำปีนี้เราเลยอยากตรวจ พยาบาลไปพาไปคุยกะหมอเราก็เล่าให้ฟังตามข้างบน หมอเลยให้ตรวจแมมโมแกรมด้วย พยาบาลพาไปทำแมมโมแกรมก่อน ถ่ายข้างล่ะ 2 มุม  มุมบน-ล่าง กับ มุมด้านข้าง ตึงๆตอนเครื่องมันหนีบแต่ทนไหว พอทำแมมโมแกรมเสร็จก็มาทำอัตร้าซาวด์ต่อ ตอนทำอัลต้าซาวด์หมอรังสีบอกว่าเจอเหมือนก้อนหินปูนเล็กๆนะที่เต้าขวา จากนั้นมาที่ห้องคุณหมอศัลยกรรมที่เป็นคนสั่งตรวจตอนแรก แกบอกว่าเจอก้อนหินปูนที่เต้าขาวนะ ถ้าเอาให้ชัวร์ตัดชิ้นเนื้อมาตรวจก็ได้ แล้วก็ให้พยาบาลมาคุยเรื่องค่าใช้จ่าย พยาบาลประเมินค่าใช้จ่ายประมาณ 1 แสน ฟังแล้วขอมาตั้งหลักก่อน แล้วตอนนั้นหมอพูดประมาณว่าจะตัดหรือไม่ตัดตรวจก็ได้ เราเลยยังไม่ตัดดีกว่า เดี๋ยวขอไปตรวจอีกที่นึงเพื่อยืนยัน พยาบาลให้เซ็นต์ปฏิเสธการผ่าตัด ตอนนั้นก็เอะใจเหมือนกันว่าต้องเซ็นต์ด้วยหรอ เหมือนแค่มาตรวจสุขภาพทั่วไปเอง แล้วก็รับผลแมมโมแรม+อัลต้าซาวด์กลับบ้าน

เวลาล่วงเลยไปเกือบๆ 2 เดือน คิดว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะหินปูนในเต้านมก็พบได้ตามปกติ จนต้นเดือน พ.ย.มีธุระขึ้น กทม. ว่าจะไปนัดที่รามาเพื่อตรวจยืนยันอีกรอบ ต้องเตรียมเอาผลแมมโมแกรม อัลต้าซาวด์ ที่ทำจากโรงพยาบาลเดิมมาโหลดใส่ที่รามาก่อน เลยมาอ่านผลตรวจผลแมมโมแกรม อัลต้าซาวด์ อีกรอบ อ่านมาเจอ BIRADS 4  แนะนำให้ผ่าตัดชิ้นเนื้อ เริ่มเครียด เพราะเป็นขั้นที่ค่อนข้างสูง จนได้คิวนัดตรวจวันที่ 10 พ.ย. 61 หมอก็บอกว่าควรจะตัดชิ้นเนื้อตรวจจริงๆ แกก็ชี้รูปให้ดูว่ามีหินปูนเกาะเยอะบริเวณนี้ หินปูนในเต้านมพบได้ตามปกติจริง แต่จะกระจายๆกัน ไม่ได้มารวมเป็นกลุ่มก้อน การที่มันมารวมกันก็มีหลายสาเหตุชนกระแทก , เป็นเซลล์ที่ตายไปแล้ว หรือที่ร้ายก็จะเป็นเซลล์มะเร็งเลยทำให้หินปูนไปเกาะตัว ถามหมอว่าถ้าไม่ทำแมมโมแกรมก็ไม่เห็นใช่มั้ยคะ หมอบอกว่าโอกาสเห็นยากถ้าไม่ทำแมมโมแกรม เดินออกมาไปทำคิวนัดเจาะชิ้นเนื้อน้ำตาไหล ฟุ้งซ่านระดับ 10 กลัวเป็นมะเร็ง ไม่อยากทำคีโม เพราะอย่างที่บอกว่าผลแมมโมแกรมระบุ BIRADS 4 เป็นขั้นที่ค่อนข้างสูง



21พ.ย.61 คิวเจาะชิ้นเนื้อ ก่อนหน้านี้พยาบาลโทรมาบอกคิวนัดและอธิบายวิธีการนิดหน่อยกับค่าใช้จ่ายคร่าวๆ วิธีที่ทำคือจะใช้เข็มเจาะดูดชิ้นเนื้อออกมา แผลเล็ก ทำแล้วนั่งพักกดน้ำแข็งแปปนึงก็กลับบ้านได้เลย เราต้องไปทำแมมโมแกรมเพิ่มอีกนิดหน่อย จากนั้นเข้าห้องเจาะไม่ได้เป็นเตียงนอนแต่เป็นเก้าอี้นั่ง เอาเต้าวางบนแท่นมีที่หนีบล็อคเต้าเหมือนตอนทำแมมโมแกรม พอล็อคตำแหน่งแล้วก็ต้องนั่งนิ่งๆรอเจาะชิ้นเนื้อออกไป โดยฉีดยาชาก่อนมีความรู้สึกว่าโดนไป 2 เข็ม เตรียมใจเจ็บตอนฉีดยาชาแต่เจ็บน้อยกว่าที่คิด เคยฉีดยาชาผ่าฟันคุดยังเจ็บกว่า พี่เจ้าหน้าหน้าที่ดูแลดีมากใจดีมากมาลูบหลังเราคอยปลอบ เค้าจะคอยบอกทุกขั้นตอนว่ากำลังทำอะไร มีผ้าปิดตาด้วย(ทำมาจากหน้ากากอนามัย)เพราะเรานั่งทำกลัวเราเห็นขั้นตอนเจาะแล้วจะกลัว ระหว่างที่เจาะเค้าจะ x-ray ไปด้วย เพื่อดูตำแหน่งเข็มและหินปูน โดนเจาะ 2 รอบ เหมือนรอบแรกได้ออกมาน้อยไป ตอนเจาะเสียงเหมือนเครื่องปั่นผลไม้ ออกมานั่งประคบเย็นครึ่ง ชม. ไปทำนัดที่ศัลยกรรมเพื่อฟังผลชิ้นเนื้อ ค่าใช้จ่ายในการเจาะ 20000 บาท แต่มีทำแมมโมแกรมเพิ่ม  รวมทั้งหมด 21500 บาท กลับมาพักฟื้นที่บ้านหลังเจาะก็ไม่มีอาการปวดอะไรเลย



1 ธ.ค.61  วันฟังผล ด้วยใจลุ้นระทึก มีผลตรวจเปิดรอหน้าคอมแล้ว ระหว่างนั่งรอคุณหมอเปิดรูปเต้านมที่ทำการเจาะเพิ่ม แกบอกว่าบอกเลยแล้วกันผลดี จะได้ไม่ต้องลุ้น ตอนนั้นโล่งใจมากกกก แต่ว่าไม่ได้เจาะออกไปหมดยังมีเหลืออยู่ ให้รอตรวจ follow up อีก 6 เดือน ไปทำนัดแมมโมแกรม+อัลตร้าซาวด์อีก 6 เดือน แล้วก็ทำนัดคุณหมอศัลยกรรม จ่ายเงินกลับบ้าน

ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ผลตรวจแมมโมแกรมว่าเป็น BIRADS 4 แล้วผลชิ้นเนื้อออกมาดีไม่เป็นมะเร็ง เรารู้ดีว่าตอนผลตรวจแมมโมแกรมออกว่าเป็น BIRADS 4 มันเครียดมันฟุ้งซ่านมากขนาดไหน หาอ่านข้อมูลมากมายทั้งไทยทั้งต่างประเทศ เราก็เป็นคนนึงที่ตอนนี้ยังโชคดีไม่เป็นมะเร็ง ต่อไปก็รอตรวจ follow up ตามขั้นตอน อยากเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คนที่เป็นแบบเราว่า BIRADS 4 ก็ยังเป็นเนื้อดีได้ค่ะ

** เพิ่มเติมเรื่องค่าใช้จ่ายราชการรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกค่าเจาะชิ้นเนื้อได้เต็ม ประกันสุขภาพสามารถเบิกได้แต่ได้เป็น % ตามกรมธรรม์ของแต่ล่ะคน หากเบิกประกันสุขภาพส่วนตัวต้องไปทำเรื่องให้คุณหมอเขียนใบเคลมประกันให้เสียค่าใช้จ่าย 300 บาท ถ้าใครมีนัดเจาะแล้วก็ให้ไปทำเรื่องให้คุณหมอเขียนใบเคลมประกันวันเจาะเลยเราก็ไปทำเรื่องไว้วันเจาะ แต่จนตอนนี้เรายังไม่ได้รับใบเคลมประกันจากคุณหมอคืนมานะคะ