ในตอนที่ 2 นี้จะเล่าว่าช่วงเวลาทำงานของมนุษย์ออฟฟิศที่เนเธอร์แลนด์เป็นยังไง
หนึ่งวัน - เราเริ่ม 8.30 นับไป 8.5 ชม. (รวมพักกลางวัน) ก็จะเลิก 17.00 ถ้ามาเร็วหรือช้ากว่านั้นก็ลบบวกกันไป บริษัทหลายๆที่จะเป็น flexible working hours คนส่วนมากเริ่ม 9 โมงเช้า แล้วก็ไม่มีเช็คเวลาเริ่มเลิกงาน
หนึ่งเดือน - สามารถ work from home หรือทำงานจากที่บ้านได้ 2-3 วัน
หนึ่งปี - เราได้วันลาพักผ่อนประจำปี 37 วัน ขั้นต่ำตามกฎหมายของที่นี่คือ 25 วัน แต่อย่าเพิ่งตกใจทำไมเยอะ เพราะวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่นี่มีแค่ 8-10 วันเอง ในขณะที่ไทยมีประมาณ 23 เข้าไปแล้ว
บรรยากาศที่ออฟฟิศช่วงเวลาทำงานมันก็จะเงียบๆหน่อย เราว่าคนที่นี่ไม่ค่อยคุยกันเลยอะเวลานั่งโต๊ะทำงาน แต่ถ้ามีประชุมกันก็อีกเรื่องนึงนะ แรกๆก็ไม่ค่อยชิน เวลาจะถามงานทีก็ได้ยินทั้งหมู่บ้าน
ถ้าอยากจะคุยงาน 10 นาทีขึ้นไป ก็จะส่ง google calendar หากันเลย แล้วก็สามารถใช้ห้องประชุมย่อยๆที่ว่างได้หมด ถ้าอยากจะได้ความเงียบก็สามารถกบดานอยู่ใน focus room ได้ ตอนเราฝึกงานใช้บ่อยมาก บางทีแอบไปนั่งทำทีสิส 5555 เดี๋ยวนี้เป็นคนดี เลิกแล้วๆๆ
โต๊ะทำงานที่ออฟฟิศเราเป็นแบบ mobile office ก็คือวางของจับจองพื้นที่ทำกินบ่ได้เลยค่า ต้องเอาไปเก็บในล็อกเกอร์ ไม่มีเอาขนมครก ข้าวโพดต้ม ชานมไข่มุกมาวางบนโต๊ะเหมือนบ้านเรา คือถ้าอยากกินต้องเดินไปที่ coffee corner ที่มีชา กาแฟ ผลไม้ฟรี แต่ก็อีกนั่นแหละ ประเทศเค้าไม่มีตลาดนัดเหมือนบ้านเราไง ของทานเล่นก็ไม่มีให้ซื้อ แต่ละวันเลยอดๆอยากๆขนม แต่ก็มีเค้กวันเกิด วันเลี้ยงส่งนี้แหละ ที่ทำให้น้ำหนักขึ้น
เรื่องความตรงต่อเวลาที่นี่เป๊ะมาก คนส่วนใหญ่มาทำงานด้วยรถไฟ ขี่จักรยาน แต่ก็สามารถบริหารเวลาได้ดีเลยแหละ ของเราต้องไป 3 ต่อ คือ bus, train, bike รวมๆจากบ้านถึงออฟฟิศก็ 45 นาที ถึงมันจะหลายต่อแต่ไม่รถติดก็ยอมมม เราชอบมากตอนเช้าๆขี่จักรยานไปทำงาน แต่หน้าหนาวก็สุดทรมานเลย
เวลาเลิกงาน ก็ลุกพรึ่บเลยค่ะ ไม่อิดออดรอนายกลับ งานเสร็จแล้วจะรออะไร หกโมงนี่แทบไม่เหลือคนแล้ว
จะว่าไปก็เหมือนทำงานอยู่อีกโลกนึงเลย แบบมาทำงานคือทำงานจริงๆ ถึงเวลาส่วนตัวก็เต็มที่ มีเวลาเหลือช่วงเย็นหลังเลิกงานให้ทำอะไรเยอะเลยแหละ
ติดตามบทความก่อนหน้าได้ที่นี่นะคะ
kwangsblog.wordpress.com
เรื่องเล่าจากการทำงานที่เนเธอร์แลนด์ - 02 When we work
หนึ่งวัน - เราเริ่ม 8.30 นับไป 8.5 ชม. (รวมพักกลางวัน) ก็จะเลิก 17.00 ถ้ามาเร็วหรือช้ากว่านั้นก็ลบบวกกันไป บริษัทหลายๆที่จะเป็น flexible working hours คนส่วนมากเริ่ม 9 โมงเช้า แล้วก็ไม่มีเช็คเวลาเริ่มเลิกงาน
หนึ่งเดือน - สามารถ work from home หรือทำงานจากที่บ้านได้ 2-3 วัน
หนึ่งปี - เราได้วันลาพักผ่อนประจำปี 37 วัน ขั้นต่ำตามกฎหมายของที่นี่คือ 25 วัน แต่อย่าเพิ่งตกใจทำไมเยอะ เพราะวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่นี่มีแค่ 8-10 วันเอง ในขณะที่ไทยมีประมาณ 23 เข้าไปแล้ว
บรรยากาศที่ออฟฟิศช่วงเวลาทำงานมันก็จะเงียบๆหน่อย เราว่าคนที่นี่ไม่ค่อยคุยกันเลยอะเวลานั่งโต๊ะทำงาน แต่ถ้ามีประชุมกันก็อีกเรื่องนึงนะ แรกๆก็ไม่ค่อยชิน เวลาจะถามงานทีก็ได้ยินทั้งหมู่บ้าน
ถ้าอยากจะคุยงาน 10 นาทีขึ้นไป ก็จะส่ง google calendar หากันเลย แล้วก็สามารถใช้ห้องประชุมย่อยๆที่ว่างได้หมด ถ้าอยากจะได้ความเงียบก็สามารถกบดานอยู่ใน focus room ได้ ตอนเราฝึกงานใช้บ่อยมาก บางทีแอบไปนั่งทำทีสิส 5555 เดี๋ยวนี้เป็นคนดี เลิกแล้วๆๆ
โต๊ะทำงานที่ออฟฟิศเราเป็นแบบ mobile office ก็คือวางของจับจองพื้นที่ทำกินบ่ได้เลยค่า ต้องเอาไปเก็บในล็อกเกอร์ ไม่มีเอาขนมครก ข้าวโพดต้ม ชานมไข่มุกมาวางบนโต๊ะเหมือนบ้านเรา คือถ้าอยากกินต้องเดินไปที่ coffee corner ที่มีชา กาแฟ ผลไม้ฟรี แต่ก็อีกนั่นแหละ ประเทศเค้าไม่มีตลาดนัดเหมือนบ้านเราไง ของทานเล่นก็ไม่มีให้ซื้อ แต่ละวันเลยอดๆอยากๆขนม แต่ก็มีเค้กวันเกิด วันเลี้ยงส่งนี้แหละ ที่ทำให้น้ำหนักขึ้น
เรื่องความตรงต่อเวลาที่นี่เป๊ะมาก คนส่วนใหญ่มาทำงานด้วยรถไฟ ขี่จักรยาน แต่ก็สามารถบริหารเวลาได้ดีเลยแหละ ของเราต้องไป 3 ต่อ คือ bus, train, bike รวมๆจากบ้านถึงออฟฟิศก็ 45 นาที ถึงมันจะหลายต่อแต่ไม่รถติดก็ยอมมม เราชอบมากตอนเช้าๆขี่จักรยานไปทำงาน แต่หน้าหนาวก็สุดทรมานเลย
เวลาเลิกงาน ก็ลุกพรึ่บเลยค่ะ ไม่อิดออดรอนายกลับ งานเสร็จแล้วจะรออะไร หกโมงนี่แทบไม่เหลือคนแล้ว
จะว่าไปก็เหมือนทำงานอยู่อีกโลกนึงเลย แบบมาทำงานคือทำงานจริงๆ ถึงเวลาส่วนตัวก็เต็มที่ มีเวลาเหลือช่วงเย็นหลังเลิกงานให้ทำอะไรเยอะเลยแหละ
ติดตามบทความก่อนหน้าได้ที่นี่นะคะ kwangsblog.wordpress.com