KUNMING  LIJIANG  SHANGRI-LA

             หนีห่าวววววว ไอแอม  “ไทกั๋ว”  ครั้งนี้เป็นการเดินทางไปจีนครั้งแรกในชีวิต อู้วหูววววว ตื่นเต้น + กลัวในสิ่งที่เลื่องลือกันมาช้านาน “ห้องน้ำ” ที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมานั้น แต่ก็ช่างค่ะ เราจะไม่สนใจใดๆ จะไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางการเที่ยวของเราได้ 555




          ทริปนี้ผุดขึ้นมาจากที่สายการบิน  Air Asia ปล่อยตั๋วโปรออกมาช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในสายเที่ยวแบบประหยัด “ตั๋วไม่โปรเราไม่ไป” 5555 ซึ่งต้องใช้ความสามารถในการแย่งชิงตั๋วไปกลับ ภูเก็ต – คุณหมิง มาได้ในราคา 1,300 บาท จ่ายตังค์แล้วสบายใจ จากนั้นก็อ่านรีวิวแล้วรีวิวเล่า ทั้งใน เฟซบุ๊ค พันทิป บล็อกต่างๆ ทุกเว็ปไซต์ที่เราสามารถหาข้อมูลได้

          ทริปนี้เราเดินทางกันไป 2 คน แต่เนื่องจากทั้ง 2 คน ไม่มีใครพูดจีนได้เลย นอกจาก ไทกั๋ว หนีห่าว เชี้ยเชี้ย 555 แต่เราก็ไม่หวั่น(มั้ง) เอาจริงๆคือเป็นการเดินทางเที่ยวแบบมีความกลัวอยู่ในใจมากๆ แต่ก็นะจ่ายตังไปแล้ว เสียตังไปแล้ววววว ต้องได้ไป


ขั้นเตรียมความพร้อม

1. เตรียมเอกสารการเดินทาง โดยการขอวีซ่าเข้าประเทศจีน
ในจังหวัดภูเก็ตมีสถานทูตจีน เราจึงสามารถไปขอได้ด้วยตนเอง  (โดยผู้ที่จะขอวีซ่าที่นี่ได้จะต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านที่ภูเก็ตหรือมีใบรับรองการทำงานว่าทำงานที่จังหวัดภูเก็ต) ช่วงเวลาในการขอวีซ่า วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-11.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ เอกสารที่จะต้องใช้มีดังนี้
        - passport
        - รูปถ่าย 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว 2 รูป
        - ใบจองที่พักในวันที่เราจะเดินทางไป
        - ใบรับรองการทำงานหรือสำนำทะเบียนบ้าน(ที่อยู่ภูเก็ต)
        - เอกสารกรอกรายละเอียดขอวีซ่า
ใช้เวลาในการดำเนินการ 4 วันทำการ เมื่อถึงวันที่ต้องไปรับจะเป็นช่วงบ่าย ประมาณ 15.00 น. พร้อมชำระเงิน 1,000 บาท


2. โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่สำคัญต้องใช้
    -    Maps Me
แอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการนำทางของเราตลอดการเดินทางในจีน เป็นแอพที่ดีมากกกกกกกก คือสามารถใช้งานในขณะออฟไลน์ได้ แต่ก่อนจะใช้งานจะต้องใช้อินเตอร์เน็ตในการโหลดแผนที่ที่เราจะไปไว้ก่อน เราจะเดินทางไป แชงกีล่า ลี่เจียง ซึ่งอยู่ในมณฑลยูนนาน ก็ทำการโหลดข้อมูลแผนที่ไว้
** เป็นแอพที่แม่นยำและแนะนำเลย สามารถดูสายรถเมล์ที่ผ่าน สถานที่สำคัญ ที่พัก ค่อนข้างละเอียดเลย

        -    Best VPN Proxy Betternet
ประเทศจีนจะบล็อกแอพที่เราใช้กัน เช่น Line Facebook Instagram Google และอีกหลายๆ แอพ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องโหลดแอพพลิเคชั่น VPN ที่จะทำให้เราสามารถเล่นแอพเหล่านี้ได้ ซึ่งเราใช้แอพนี้ Best VPN Proxy Betternet สามารถเชื่อมต่อและเล่นได้ปกติ

        -     iTranslate
ใช้งานฟรี 7 วัน ใช้งานในโหมดออฟไลน์ได้ แต่ต้องลงทะเบียนอะไรสักอย่าง เลยไม่ค่อยได้ใช้ แต่เมื่อเราต้องการจะสื่อสารกับคนจีนที่นั่น เค้าจะมีแอพที่แปลภาษาจากจีนเป็นอังกฤษ และให้เราพูดโต้ตอบได้เลย


3. แลกเงิน
เราแลกเงินไป 18,000 บาท  แลกมาได้ในเลท 4.63 TBH/CYN Super Rich


4. การจองที่พัก + ตั๋วเครื่องบิน
    - ตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ
จองผ่านเว็บ Trip.com  ได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับ คุณหมิง – ลี่เจียง ในราคา 4960 บาท/2คน
    - ที่พัก
จองผ่านเว็บ Trip.com  ที่พักที่แชงกีล่าสามารถเข้าพักได้ปกติ แต่ที่พักที่ลี่เจียงมีการส่งอีเมลล์และโทรกลับมาเรื่องการปฏิเสธที่พักเนื่องจากรับเฉพาะคนจีนเท่านั้น จึงทำเรื่องขอคืนเงิน ส่วนรายละเอียดราคาและรีวิวที่พักค่อยไปใส่ในวันเข้าพักนะคะ(เอาจริงๆแล้วที่พักไม่ต้องจองก็ได้นะ ช่วงธันวาคมเป็นช่วงหน้าโลวของเค้าที่พักเยอะมาก ถ้าจองไปก่อนอาจจะมึนกับซอกซอยที่มีเยอะ แนะนำหาตรงนั้นเลย)


5. ซิมมือถือ
มีหลากหลายค่ายของเราเลือกใช้ของ True ราคา 399 บาท/4 Gb/8 วัน ก่อนไปเราก็ไปลงทะเบียนให้เรียบร้อย เมื่อถึงจีนก็สามารถใช้งานได้เลย


หลังจากศึกษาวิธีการเดินทาง อ่านรีวิวจนปวดหัวจะอ้วกแล้วนั้นนนนนนน ถึงเวลาอันสมควรแล้วค่ะ
อย่าช้ากันเลยไปดูรูปกันดีกว่าค่ะ
ไปค่ะไป เราจะไปดินแดนอันกว้างขวาง ครั้งแรกที่จีนกันนนนนนน ไป…..

วันที่ 1
ถึงสนามบินคุณหมิงราวๆ ตีสองกว่า ระหว่างนั่งเครื่องอย่าลืมขอใบเขียนเข้าเมืองจากแอร์นะคะ เราไม่แน่ใจว่าหลับหรือหน้าตากลมกลืนกับชาวจีน5555 แต่ไม่เป็นไรหน้า ตม. มีโต๊ะไว้กรอกเอกสารอีกค่ะ ตม. ไม่ได้ถามอะไรเราเลยค่ะ มีสแกนนิ้วเป็นภาษาไทยด้วยสะดวกดี หลังจากนั้นเราขึ้นไปยังชั้นสามเพื่อรอต่อเครื่องไป
ลี่เจียงค่ะ ระหว่างรอคือหนาวมากกกก อยากได้เครื่องดื่มร้อนสักแก้วแต่ตู้กดนั้นจะต้องจ่ายเงินผ่าน QR Code อย่างเดียวเลย เสียใจ






วันที่ 2
ถึงลี่เจียงตอน 8 โมงค่ะ ลงเครื่องก็เดินตรงไปประตูทางออกที่สามเพื่อต่อรถบัสเข้าเมืองค่ะ ราคาคนละ 20 หยวน จ่ายบนรถได้เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเราก็ถึงเมืองลี่เจียงค่ะ




มื้อแรกของวันเป็นข้าวต้มถั่วเขียวที่หน้าตาเป็นมิตรสุด แต่......จืดสนิทค่ะ 3 หยวน



ตามแผนของเราจะเดินทางต่อไปแชงกรีล่าเลย สถานีรถบัสต่อไปแชงกรีล่าอยู่ใกล้ๆ เดินไม่นานค่ะ เดินย้อนถนนขึ้นไป สถานีจะอยู่ใกล้โรงเรียนค่ะ (เรื่องขำขันมีอยู่ว่าเดินไปถึงแล้วแต่ไม่เห็นดันไปเปิดกูเกิลแมพ แล้วเดินตาม ซึ่งเอาจริงเดินหลงอยู่เกือบชั่วโมง สุดท้ายยอมแพ้นั่งแท็กซี่แล้วก็ต้องมองหน้ากันเพราะพี่แท๊กพามานะจุดแรกที่เราเปิดกูเกิ้ลแมพ5555) เอาเถอะนะความตาถั่วไม่เข้าใครออกใคร ซื้อตั๋วไปแชงกันดีกว่า เราก็ได้ตั๋วมาในราคาคนละ 68 หยวน รอแปปเดียวรถก็ออกค่ะ ออกตรงเวลามีเที่ยวรถทุกครึ่งชั่วโมงค่ะเที่ยวรถเยอะมาก




รถออกแล้วนั่งดูข้างทางเพลินๆ รถจอดอีกแล้วค่ะ แวะรับคนจากสถานีซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเก่าอีกสถานีค่ะใครสะดวกตรงไหนขึ้นได้ นั่งรถไปราวๆ 3 ชั่วโมงก็แวะพักค่ะ (ตอนนั่งไปแชงกรีล่าควรนั่งฝั่งด้านขวามือค่ะ วิวดีเป็นภูเขาสวยงามมาก) แล้วก็เดินทางต่อไปอีกชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงค่ะ ถึงขนส่งแชงกรีล่าจะมีแท็กซี่มาเสนอเยอะแยะ อย่าใจอ่อนนะ มาหาแท็กซี่แบบเดินเลยออกจากขนส่งหน่อย แท็กซี่จะกดมิเตอร์ค่ะ เริ่มต้น 6 หยวน แต่ด้วยระยะใกล้มิเตอร์เลยไม่ขึ้น เค้าเลยชาร์ตเพิ่มอีก 2 หยวน เข้าเมืองมาไม่เกิน 3 กิโลค่ะ






          เราพัก Prayer Wheel Guesthouse ราคาราวๆ 463 บาท อยู่แถวๆ วัดต้าฝอค่ะ สะดวกดี ที่พักมีเรียงรายมากมาย คนค่อนข้างเยอะและดูมีอะไร แต่ด้วยความที่ที่พักทางเข้าเล็กๆ เราก็มองไม่เห็นตามเคยและเดินวนวัดไปหนึ่งรอบ อันที่จริงติดวัดเลยค่ะ ที่พักน่ารัก เจ้าของใจดีมากค่ะ ห้องพักดูใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่แปรงสีฟัน รองเท้าอาบน้ำ ยันฮีตเตอร์ที่เตียงโดยรวมประทับใจมากค่ะ





มาถึงแล้วเดินขึ้นวัดต้าฝอสักหน่อย  วิวสวยมากค่ะ





ลงมาแล้วเราก็มาทดลองฮอตพอตแบบชาวทิเบตที่มีของแนะนำเป็นเนื้อจามรี ราคาค่อยข้างสูงสำหรับเรา ราวๆ 188 หยวน อยู่ที่คนชอบนะคะ แต่สำหรับเราไม่ค่อยถูกปาก




ก่อนนอนเราคุยกับเจ้าของที่พักเรื่องที่เที่ยววันพรุ่งนี้ สรุปเราจะไปกันสองที่ค่ะ คือวัดซงจ้านหลินซือ และภูเขาน้ำแข็งสื่อข่า เราได้ราคาทั้งค่าตั๋วและค่าเดินทางคนละ 300 หยวนค่ะ ถือว่าราคาคุ้มค่ามากค่ะ เพราะค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ก็ค่อนข้างแพงมากค่ะ คืนนี้รีบเข้านอนเตรียมร่างกายสำหรับวันพรุ่งนี้กันค่ะ

จะบอกว่าคืนที่เราไปคือ หนาว หนาวมากกกกกก แม้เจ้า -4 ๐c ปากสั่น ขาสั่น อย่าช้า!! รีบเอาตัวซุกที่นอนโดยไว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า

วันที่ 3

ตื่นนนนน จ้า ตื่นนนนน โอ้ยยยยย หนาววววว เรานัดเค้าไว้ 8 โมงค่ะ ซึ่งเหมือนว่าจะเช้าเกินไป เราเดินไปข้างนอกเพื่อจะหาอะไรกิน แต่แล้ววว ไม่มีร้านไหนเปิดเลย T-T ด้วยความเบ๊อะของเราสองคนเดินออกมาเพื่อขึ้นรถไปทัวร์กันนั้น ก็ลืม!! ลืมแบตกล้องงงงงง นี่เราจะไม่ได้รูปสวยๆนะ ทำสายตาอ้อนวอนนนน ขอวิ่งกลับไปเอาแบตกล้องก่อนนนนน ด้วยที่ระดับความสูงและความไม่ฟิตของเรา หอบแ_กจ้า เห้ออออออ

** เค้าบอกว่าให้เอากล้องไว้ในเสื้อถ้ายังไม่ได้ใช้เพราะว่าอากาศเย็นจะทำให้แบตกล้องหมดไวขึ้น **


มาถึงแล้วววววว วัดซงจ้านหลินซือ เราจะต้องไปซื้อตั๋วและนั่งรถบัสต่อขึ้นไปยังวัดค่ะ (ค่าตั๋วที่นี่ราคา 115 หยวน)


สวยงามตระการตามากค่ะ ถึงสักทีถ่ายรูปกันด้านหน้าไม่รอช้า เดินขึ้นกันเถอะ เดินไปก็กินช็อกโกแลตไปค่ะ เพิ่มพลังงาน วันที่เราไปอากาศเย็นมากถ่ายรูปกันอยู่ดีๆ หิมะก็ร่วงโปรยปรายมาจากฟ้า วู้วววว ฟินนนนน






หลังจากไหว้พระเรียบร้อยแล้วนั้นก็เดินลงมาเพื่อถ่ายรูปในมุมที่เป็นจุด view point ที่ว่าสวยที่สุด เดินวนไปค่ะ