[SR] ##REVIEW## Aquaman (2018) อควาแมน เจ้าสมุทร | อลังการล้านแปด [ไร้ส้มป่อย]

     ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณคุณเพื่อนอันแสนเป็นที่รักของผมมาที่นี้ด้วยนะครับ ที่ส่งตั๋วมาให้ข้าพเจ้าดูหนังในรอบพิเศษ นับวันชักจะรักเพื่อนมากกว่าแฟนแล้วนะ(ฮา)
     ผมรอคอยมานานครับ รอคอยที่จะรอกรี๊ดดังๆ ในโรงขณะที่ดูหนัง DC ล่าสุดนี่ก็ยืนปรบมือในโรงขณะที่ดู Wonder Woman ครับ(อันนี้เขาปรบก่อนเราเลยปรบมือตาม) และพอดูจบถึงแม้ผมจะไม่ได้กรี๊ดดังๆ ในโรง แต่ผมก็ตะโกนในใจดังๆ ว่า "นี่สิวะ! มันต้องอย่างงี้สิ!" เพราะหนังเรื่องนี้คือหนังที่จะมาแบ่งเบาภาระการแบกจักรวาลของ Wonder Woman ครับ

เรื่องย่อ

     ภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำคุณไปพบกับที่มาของลูกครึ่งมนุษย์-ครึ่งชาวแอตแลนติส อาเธอร์ เคอร์รี่ และพาไปชมการผจญภัยครั้งสำคัญของชีวิต ที่นอกจากจะบังคับให้เขาต้องเผชิญหน้ากับตัวตนที่แท้จริงของตนเองแล้ว ยังเพื่อให้เขาได้ค้นพบว่าเขาคู่ควรกับสิ่งที่เขาเกิดมาเพื่อเป็นหรือไม่...ในฐานะราชา
     โอ้พระเจ้า! มันสนุกมากนะเธอ มันสนุกกว่าหนังบางเรื่องของ Marvel อีก(หมายถึง Thor นะ) ซึ่งหนังทั้งสองเรื่องนี้มีความคล้ายกันอย่างนึง คือเป็นหนังที่มีความลิเกสูงมาก เหมือนเอา Game of Thrones มาผสมกับ 300 อ่ะครับ และก็ส่วนผสมอื่นๆ อีกมากมายเข้ามายำๆๆๆ แล้วก็เขย่าๆๆๆ จนกลายมาเป็นหนังเรื่องนี้ แต่การที่ยำๆๆๆ เขย่าๆๆๆ แบบนี้ก็ได้ผลนะครับถ้าผกก. มือถึงจริง และผมว่า Wan นี่แหละคือผกก. คนๆ นั้น
     ตัวหนังแตกต่างจากหนังเรื่องที่ผ่านๆ มาของ DC ค่อนข้างมากครับ ไม่ใช่แค่ว่าสเกลมันใหญ่ขึ้นแค่นั้น แต่มันมีสเต็ปในการเล่าแบบเป็นขั้นตอนไป ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไมหนัง DC ยุคหลังๆ ถึงไม่คิดจะเล่าเรื่องแบบนี้ ทั้ง BvS ที่เล่าเรื่องแบบตะกุกตะกัก, SS ก็เล่าแบบงงๆ ตัดสลับอดีตกับปัจจุบันบ่อยมาก จะมาดีหน่อยก็ตอนทำ WW กับ JL ที่การเล่าเรื่องดูสมูธขึ้นมามาก และในเรื่องนี้ก็เช่นกัน หนังสามารถทำให้คนคล้อยตามไปได้ด้วยการเล่าเรื่องแบบมีสเต็ป มีจังหวะจะโคนที่ลื่นไหลไม่สะดุด และก็ไม่ดำเนินเรื่องแบบซีเรียสเกินไป ออกจะสนุกสนานด้วยซ้ำ แต่ว่าการเล่าเรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้อรรถรสในการดูลดลงเลย กลับทำให้เราบันเทิงกับตัวหนังได้มากขึ้นซะงั้น และพอหนังใส่ฉากอารมณ์เข้ามา เรากลับอินซะงั้น ทั้งๆ ที่จังหวะของหนังนี่คนละโทนกันเลย ถ้าผกก. ไม่เจ๋งจริงทำไม่ได้นะครับ ก็ถือว่า Wan ทำสำเร็จได้ดีในขึ้นนึงเลย
     และแน่นอนครับว่า ถ้าหากปราศจากฝีมือการแสดงของดาราทั้งหลายที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ ความเข้มข้นจะหายไปเลย 50% Momoa เป็นอควาแมนได้ดีครับ พี่แกมีเสน่ห์พอสมควรครับ, Wilson ก็มาในมาดนิ่งๆ แต่ก็เท่ห์อยู่, Defoe ก็ถือว่าดีแต่บทจะน้อยหน่อย, Kidman ก็สง่ามากในลุคราชินีแห่งมหาสมุทร
     แต่รายที่แย่งซีนได้หลายวาระเลยคือ Heard ครับ เจ๊แกสง่างามมากๆ ในลุคสาวผมแดง ระหว่างดูผมถึงกับแต่งเพลงให้เธอเลยว่า "เมร่า..... เธอช่างสง่าเมร่าของพี่" (ฮา) พออยู่ในจอกับคนอื่น ไม่รู้รัศมีเธอเยอะเกินรึเปล่านะครับแต่ว่าเธอจะดูโดดเด่นมากๆ ไม่รู้ทำไม(หรือว่าเราคิดไปเอง555)
     Effect คือพระเอกของหนังเรื่องนี้ครับ ทุกฉากทุกช่วงคือกริ๊บหมดเลย ยิ่งฉากดวลกันท้ายๆ นะ CG นี่มาเต็ม และผมบอกเลยครับว่าฉากไคลแมกซ์ของหนังเรื่องนี้เป็นฉากต่อสู้ที่ดีที่สุดในบรรดาหนัง DC ทุกเรื่อง อันนี้ผมพูดจริง(ทีแรกจะยกให้ฉาก B&S&WWvs.Doomsday  ดีที่สุดละ แต่เรื่องนี้ทำได้สุดกว่าหลายเท่า) และดนตรีประกอบของ Rupert Williams (เจ้าเดียวกับที่ทำธีม WW นั่นแหละ) ก็ติดหูใช้ได้เลยครับ โดยเฉพาะเพลงธีมของเรื่องนี้ก็ไม่เป็นสองรองเรื่องไหนของ DC เลย

สรุป

     ๏ บทหนัง : ดี
     ๏ การดำเนินเรื่อง : สนุกมากๆ
     ๏ นักแสดง : ดีมาก
     ๏ Production : ดีมาก
     ๏ ดูแบบไหนดี : จัด IMAX เลยอย่ารอช้า

คะแนนเฉลี่ยรวม : 9/10
เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู

ใครก็ได้ช่วยสปอยฉาก End Credit ให้ดี เราปวดฉี่มากตอนนั้น พลีสสส