เมื่อวานเพิ่งสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกามาครับ เลยอยากแชร์ประสบการณ์มาให้เพื่อนๆ ในที่นี้ เพราะก่อนหน้าจะสัมภาษณ์ผมก็ได้ข้อมูลดีๆ จากหลายท่าน หลายกระทู้เช่นกันครับ
***ขอตัดขั้นตอนการขอวีซ่า และชำระค่าธรรมเนียมไปเลยนะครับ เพราะมีหลายกระทู้ทำไว้ดีๆ มาก แล้วครับ***
เช้าตรู่วันนั้นผมกับเพื่อนมาถึงหน้าสถานทูตก่อนเวลานัดที่สมัครไว้ในเวปประมาณ 30 นาที (ผมลงคิว 7:15 ไว้) ไปถึงคิวเริ่มยาวแล้วน่าจะได้สักประมาณ 2 แถวก็ต่อรอจนกว่าพนักงานจะออกมาประกาศผ่านโทรโข่งขอให้เตรียมพาสปอร์ตไว้เพื่อเช็คชื่อในลิสต์ เสร็จแล้วเข้าไปข้างใน ก่อนเข้าต้องปิดมือถือ ฝาก และสแกนตัวเหมือนในสนามบินครับ พอเข้ามา (ข้างในกว้างมากกก) ก็จะมีที่นั่งรอเรียก คิวแรก 7 โมงเช้า ผมเริ่มดูนาฬิกาก็พอเดาได้แล้วว่าไม่ได้สัมภาษณ์ตอน 7:15 แน่ๆ รอสักพักก็ถึงคิวรอบผมเจ้าหน้าที่ก็ขอดูพาสปอร์ตและติดสติกเกอร์มีหมายเลขนั่นนี่ให้เรา "อ่านป้ายหน้าบันไดและเข้าห้องสัมภาษณ์ได้ค่ะ"
ป้ายหน้าบันไดที่ว่าเป็นคำเตือนให้เราจดหมายเลขอีเอ็มเอสสำหรับการส่งพาสปอร์ตเรากลับ (ในกรณีที่ผ่าน) นั่นเอง
ผลักประตูห้องสัมภาษณ์เข้าไป แอร์เย็น คนแน่น จนแถวแทบดูไม่ออกว่าใครมาก่อนมาหลัง ขั้นตอนแรกเดินเข้าพบเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อตรวจสอบขั้นต้นก่อนก็เป็นช่องๆ ไป ถึงตอนนี้ยังไม่ใช่การสัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลข้างต้น เช่น ไปทำอะไร ไปนานแค่ไหน เคยได้วีซ่ามาก่อนแล้วหรือยัง (ใช่ไม่ใช่ ยังไงเขาก็ตรวจได้ครับ ของผมครั้งสุดท้ายไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วยังเช็คได้เลย) เคยเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลมาก่อนหรือไม่ (ของผมมีการเปลี่ยนแปลง เขาให้ผมสะกดเป็นภาษาอังกฤษครับ) ขอรูปหนึ่งใบ ถามว่าถ่ายมาเมื่อไหร่ (แล้วส่งคืนมา) เรียบร้อยก็สแกนนิ้ว 4 นิ้วมือซ้าย 4 นิ้วมือขวา แล้วก็นิ้วโป้งสองข้างพร้อมกัน ใครตื่นเต้น มือเย็น เหงื่อออกง่าย อาจต้องหลายรอบหน่อย แต่ไม่ต้องกลัวครับ พนักงานตั้งแต่ รปภ. จนถึงข้างในสุภาพทุกคน ใจเย็น ไม่ตวาดหรือใช้อารมณ์เลยครับ
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต่ออีกแถวคราวนี้ผมเจอฝรั่ง เขาขอพาสปอร์ตและให้ผมสแกนนิ้วมืออีกรอบ และต่อแถวอีกรอบเพื่อรอคิวสัมภาษณ์ต่อไป เนื่องจากทุกอย่างไม่ได้รวดเร็วนักและเคาเตอร์แต่ละฝ่ายไม่ได้ห่างกันเลย ผมเลยได้เห็นและได้ยินการสัมภาษณ์ของคนที่มาขอก่อนหน้าผมบ้าง แน่นอน ผมเห็นใบสีขาวในตำนาน พร้อมกับคนที่เดินคอตกออกไป บางคนค่อยเก็บเอกสารออกไปอย่างช้าๆ บางคนก็นิ่งไปชั่วครู่ก่อนรับพาสปอร์ตออกไป ... ผมเข้าใจอารมณ์นั้นดี
เอาล่ะ ใบขาวปฎิเสธวีซ่าผมเห็นแล้ว แล้วเจ้าหน้าที่ในตำนานที่ร่ำลือล่ะ ยังไม่เห็นเลย ตอนนั้นเปิดสัมภาษณ์เพียงช่องเดียว เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงนี่นา หรือเช้าๆ อย่างนี้จะเป็นแค่ช่องเดียวกันนะ
ขณะที่กำลังต่อคิวรอสัมภาษณ์ มูลี่ของช่องสัมภาษณ์อีกช่องก็ค่อยๆ เลื่อนๆ ขึ้น ... ชัดเลย ... รูปพรรณสัณฐานตรงตามเวปเป๊ะ เอาแล้วววว เจ้าหน้าที่พูดสำเนียงอเมริกันชัด และ ... ดังออกไมค์ ... การสัมภาษณ์เริ่มระบายได้เร็วขึ้น และการแจกใบขาวก็เพิ่มมากขึ้น จนใกล้ถึงผมตอนนั้นคิดว่าใครก็ได้แล้วล่ะ ยังไงก็ต้องทำให้ดีที่สุดตรงนั้น
ผมได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวครับ และนี่คือบทสัมภาษณ์ คำต่อคำ
ผม: Good Morning.
เจ้าหน้าที่: Mr. XXX?
ผมCorrect
เจ้าหน้าที่: Are you flying to the US for seminar or meeting?
ผม:For tourism purpose, sir.
เจ้าหน้าที่: Going to XXX?
ผม:Right and also XXX.
เจ้าหน้าที่: Have you ever studied in the UK before?
ผม:No, sir.
เจ้าหน้าที่: You have a British accent.
ผม:I visited the country last year, but only as a tourist.
เจ้าหน้าที่: How long are you going to be in the US?
ผม:22 Days.
เงียบไปครู่หนึ่ง พร้อมกับพิมพ์อะไรก็ไม่รู้ด้วยความเร็วสูง(มากก)
เจ้าหน้าที่: How long have you been teaching XXX?
ผม:Since XXX, sir. Therefore about 11 years in total.
เจ้าหน้าที่: Would you mind saying a sentence in this language?
ผม:"Ichjdflsdhafsjdlf4iwdgfghfldgfgfgf"
เจ้าหน้าที่: You have already applied for B1 or B2 Visa before?
ผม:Yes, but that was a very long time ago and I have lost that passport already.
เงียบไปอีกครู่หนึ่ง พิมพ์ๆๆๆ แล้วทำไมไม่รู้สายตาผมเหลือบไปเห็นกองกระดาษสีขาวปฎิเสธที่เขาวางไว้ติดหน้าต่างสัมภาษณ์ด้านใน ความคิดด้านลบเริ่มเข้ามา เงยหน้าขึ้นมาสิ่งที่ผมเห็นก็คือ เจ้าหน้าที่นำพาสปอร์ตผมเก็บเข้ากล่องไปแล้ว พูดสั้นๆ ว่า
เจ้าหน้าที่: "OK!"
ผม: "Thank you very much! Have a nice day!"
บ่ายวันนี้ผมได้รับทั้งเอ็สเอ็มเอ็สและเมล์แจ้งว่าพาสปอร์ตผมเตรียมรอนำส่งแล้ว เหลือแค่ลุ้นว่าจะได้นานเท่าไหร่ จะได้ 10 ปีไหม
สิ่งที่ผมเห็นและเชื่อก็คือ
1. แบบฟอร์มที่เรากรอกในเวป (DS160) น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญมากในการตัดสินใจ เพราะในนั้นมีทั้งคำถามเด่นๆ เช่นประเทศที่เคยไปมา เงินเดือน ฯลฯ
2. หลายคนที่มาสมัครไม่ได้กรอกเอง ซ้ำร้ายสถานที่ให้บริการบางที่กรอกผิดด้วย มีผู้หญิงรายหนึ่งสถานภาพคือ "หย่าร้าง" แต่กลับกรอกมาให้ว่า "โสด"
3. บางคนบอกว่าเป็นเรื่องของดวง ผมไม่แน่ใจเรื่องนี้
4. หลายคนบอกว่าเอกสารที่เตรียมไปไม่ได้ขอดูเลย อันนี้ผมยืนยันครับ (ใบรับรองการทำงาน สมุดบัญชี หนังสือรับรองการเงิน ตั๋ว ที่พัก)
5. เจ้าหน้าที่ทุกคนสุภาพและให้เกียรติผู้ขอวีซ่า
6. สัมภาษณ์ไม่ได้เร็วขนาดนั้น
7. เจ้าหน้าที่ทุกคนสามารถพูดภาษาไทยได้
จบแล้วครับ เดี๋ยวจะมาอัพเดตอีกทีว่าวีซ่าที่ได้มาเป็นอย่างไรบ้างครับ ขอให้กระทู้ของผมมีประโยชน์สำหรับคนที่จะไปขอวีซ่านะครับ โชคดีครับทุกคน
สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาสดๆ ร้อนๆ (11 ธันวาคม 2018)
***ขอตัดขั้นตอนการขอวีซ่า และชำระค่าธรรมเนียมไปเลยนะครับ เพราะมีหลายกระทู้ทำไว้ดีๆ มาก แล้วครับ***
เช้าตรู่วันนั้นผมกับเพื่อนมาถึงหน้าสถานทูตก่อนเวลานัดที่สมัครไว้ในเวปประมาณ 30 นาที (ผมลงคิว 7:15 ไว้) ไปถึงคิวเริ่มยาวแล้วน่าจะได้สักประมาณ 2 แถวก็ต่อรอจนกว่าพนักงานจะออกมาประกาศผ่านโทรโข่งขอให้เตรียมพาสปอร์ตไว้เพื่อเช็คชื่อในลิสต์ เสร็จแล้วเข้าไปข้างใน ก่อนเข้าต้องปิดมือถือ ฝาก และสแกนตัวเหมือนในสนามบินครับ พอเข้ามา (ข้างในกว้างมากกก) ก็จะมีที่นั่งรอเรียก คิวแรก 7 โมงเช้า ผมเริ่มดูนาฬิกาก็พอเดาได้แล้วว่าไม่ได้สัมภาษณ์ตอน 7:15 แน่ๆ รอสักพักก็ถึงคิวรอบผมเจ้าหน้าที่ก็ขอดูพาสปอร์ตและติดสติกเกอร์มีหมายเลขนั่นนี่ให้เรา "อ่านป้ายหน้าบันไดและเข้าห้องสัมภาษณ์ได้ค่ะ"
ป้ายหน้าบันไดที่ว่าเป็นคำเตือนให้เราจดหมายเลขอีเอ็มเอสสำหรับการส่งพาสปอร์ตเรากลับ (ในกรณีที่ผ่าน) นั่นเอง
ผลักประตูห้องสัมภาษณ์เข้าไป แอร์เย็น คนแน่น จนแถวแทบดูไม่ออกว่าใครมาก่อนมาหลัง ขั้นตอนแรกเดินเข้าพบเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อตรวจสอบขั้นต้นก่อนก็เป็นช่องๆ ไป ถึงตอนนี้ยังไม่ใช่การสัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลข้างต้น เช่น ไปทำอะไร ไปนานแค่ไหน เคยได้วีซ่ามาก่อนแล้วหรือยัง (ใช่ไม่ใช่ ยังไงเขาก็ตรวจได้ครับ ของผมครั้งสุดท้ายไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วยังเช็คได้เลย) เคยเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลมาก่อนหรือไม่ (ของผมมีการเปลี่ยนแปลง เขาให้ผมสะกดเป็นภาษาอังกฤษครับ) ขอรูปหนึ่งใบ ถามว่าถ่ายมาเมื่อไหร่ (แล้วส่งคืนมา) เรียบร้อยก็สแกนนิ้ว 4 นิ้วมือซ้าย 4 นิ้วมือขวา แล้วก็นิ้วโป้งสองข้างพร้อมกัน ใครตื่นเต้น มือเย็น เหงื่อออกง่าย อาจต้องหลายรอบหน่อย แต่ไม่ต้องกลัวครับ พนักงานตั้งแต่ รปภ. จนถึงข้างในสุภาพทุกคน ใจเย็น ไม่ตวาดหรือใช้อารมณ์เลยครับ
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต่ออีกแถวคราวนี้ผมเจอฝรั่ง เขาขอพาสปอร์ตและให้ผมสแกนนิ้วมืออีกรอบ และต่อแถวอีกรอบเพื่อรอคิวสัมภาษณ์ต่อไป เนื่องจากทุกอย่างไม่ได้รวดเร็วนักและเคาเตอร์แต่ละฝ่ายไม่ได้ห่างกันเลย ผมเลยได้เห็นและได้ยินการสัมภาษณ์ของคนที่มาขอก่อนหน้าผมบ้าง แน่นอน ผมเห็นใบสีขาวในตำนาน พร้อมกับคนที่เดินคอตกออกไป บางคนค่อยเก็บเอกสารออกไปอย่างช้าๆ บางคนก็นิ่งไปชั่วครู่ก่อนรับพาสปอร์ตออกไป ... ผมเข้าใจอารมณ์นั้นดี
เอาล่ะ ใบขาวปฎิเสธวีซ่าผมเห็นแล้ว แล้วเจ้าหน้าที่ในตำนานที่ร่ำลือล่ะ ยังไม่เห็นเลย ตอนนั้นเปิดสัมภาษณ์เพียงช่องเดียว เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงนี่นา หรือเช้าๆ อย่างนี้จะเป็นแค่ช่องเดียวกันนะ
ขณะที่กำลังต่อคิวรอสัมภาษณ์ มูลี่ของช่องสัมภาษณ์อีกช่องก็ค่อยๆ เลื่อนๆ ขึ้น ... ชัดเลย ... รูปพรรณสัณฐานตรงตามเวปเป๊ะ เอาแล้วววว เจ้าหน้าที่พูดสำเนียงอเมริกันชัด และ ... ดังออกไมค์ ... การสัมภาษณ์เริ่มระบายได้เร็วขึ้น และการแจกใบขาวก็เพิ่มมากขึ้น จนใกล้ถึงผมตอนนั้นคิดว่าใครก็ได้แล้วล่ะ ยังไงก็ต้องทำให้ดีที่สุดตรงนั้น
ผมได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวครับ และนี่คือบทสัมภาษณ์ คำต่อคำ
ผม: Good Morning.
เจ้าหน้าที่: Mr. XXX?
ผมCorrect
เจ้าหน้าที่: Are you flying to the US for seminar or meeting?
ผม:For tourism purpose, sir.
เจ้าหน้าที่: Going to XXX?
ผม:Right and also XXX.
เจ้าหน้าที่: Have you ever studied in the UK before?
ผม:No, sir.
เจ้าหน้าที่: You have a British accent.
ผม:I visited the country last year, but only as a tourist.
เจ้าหน้าที่: How long are you going to be in the US?
ผม:22 Days.
เงียบไปครู่หนึ่ง พร้อมกับพิมพ์อะไรก็ไม่รู้ด้วยความเร็วสูง(มากก)
เจ้าหน้าที่: How long have you been teaching XXX?
ผม:Since XXX, sir. Therefore about 11 years in total.
เจ้าหน้าที่: Would you mind saying a sentence in this language?
ผม:"Ichjdflsdhafsjdlf4iwdgfghfldgfgfgf"
เจ้าหน้าที่: You have already applied for B1 or B2 Visa before?
ผม:Yes, but that was a very long time ago and I have lost that passport already.
เงียบไปอีกครู่หนึ่ง พิมพ์ๆๆๆ แล้วทำไมไม่รู้สายตาผมเหลือบไปเห็นกองกระดาษสีขาวปฎิเสธที่เขาวางไว้ติดหน้าต่างสัมภาษณ์ด้านใน ความคิดด้านลบเริ่มเข้ามา เงยหน้าขึ้นมาสิ่งที่ผมเห็นก็คือ เจ้าหน้าที่นำพาสปอร์ตผมเก็บเข้ากล่องไปแล้ว พูดสั้นๆ ว่า
เจ้าหน้าที่: "OK!"
ผม: "Thank you very much! Have a nice day!"
บ่ายวันนี้ผมได้รับทั้งเอ็สเอ็มเอ็สและเมล์แจ้งว่าพาสปอร์ตผมเตรียมรอนำส่งแล้ว เหลือแค่ลุ้นว่าจะได้นานเท่าไหร่ จะได้ 10 ปีไหม
สิ่งที่ผมเห็นและเชื่อก็คือ
1. แบบฟอร์มที่เรากรอกในเวป (DS160) น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญมากในการตัดสินใจ เพราะในนั้นมีทั้งคำถามเด่นๆ เช่นประเทศที่เคยไปมา เงินเดือน ฯลฯ
2. หลายคนที่มาสมัครไม่ได้กรอกเอง ซ้ำร้ายสถานที่ให้บริการบางที่กรอกผิดด้วย มีผู้หญิงรายหนึ่งสถานภาพคือ "หย่าร้าง" แต่กลับกรอกมาให้ว่า "โสด"
3. บางคนบอกว่าเป็นเรื่องของดวง ผมไม่แน่ใจเรื่องนี้
4. หลายคนบอกว่าเอกสารที่เตรียมไปไม่ได้ขอดูเลย อันนี้ผมยืนยันครับ (ใบรับรองการทำงาน สมุดบัญชี หนังสือรับรองการเงิน ตั๋ว ที่พัก)
5. เจ้าหน้าที่ทุกคนสุภาพและให้เกียรติผู้ขอวีซ่า
6. สัมภาษณ์ไม่ได้เร็วขนาดนั้น
7. เจ้าหน้าที่ทุกคนสามารถพูดภาษาไทยได้
จบแล้วครับ เดี๋ยวจะมาอัพเดตอีกทีว่าวีซ่าที่ได้มาเป็นอย่างไรบ้างครับ ขอให้กระทู้ของผมมีประโยชน์สำหรับคนที่จะไปขอวีซ่านะครับ โชคดีครับทุกคน