ก่อนอื่นบอกก่อนว่า จขกท.เองก็เข้าสู่วัยแรกเข้าของกลุ่มผู้สูงอายุ เพิ่งจะพ้น60มาไม่กี่วัน
แต่พอได้อ่าน ได้ยินข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และข่าวที่ผู้ขับรถไม่ได้หลบรถพยาบาลฉุกเฉิน อ้างว่าหูตึงไม่ได้ยินเสียงไซเรน
จึงมานึกดูว่า หากต้องรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คงไม่กล้าออกกฎหรือเปลี่ยนกฎเพื่อรักษาความนิยมเป็นแน่
ถึงแม้ว่า ผู้สูงอายุ ที่ถือใบขับขี่แบบตลอดอายุ จะค่อยๆ หมดไป
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า วันนี้ วันพรุ่งนี้ เรื่องเหล่านั้นจะไม่เกิดอีก
สิ่งที่ควรคือ ต้องให้มีการตรวจสุขภาพผู้ขับรถที่สูงวัย ทุก 5 ปี จะโดยแพทย์
หรือจะโดยขนส่ง ที่ใช้เครื่องมือวัดการตัดสินใจ วัดการมองเห็น และอาจจะรวมถึงการได้ยินด้วย
จะได้เป็นการกลั่นกรอง พอรัฐไม่อนุญาต ลูกหลานก็จะได้มีข้ออ้างในการห้ามไม่ให้ขับ
ในครอบครัวผม พ่อผม ก่อนที่จะเสียชีวิต อายุ 80+ ยังขับรถได้ และด้วยความเร็วที่เกินกฎหมายด้วย
ในตอนนั้น ยังไม่มีการถ่ายรูปแบบปัจจุบัน ถ้ามี จะเอามาโชว์เลยว่า 130-140 ก.ม.ต่อช.ม.
(แต่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุใดๆ เลยนะครับ ประสพการณ์สูง ขับมาตั้งแต่อายุยี่สิบกว่า)
แม้ว่าลูก ๆ จะพยายามเตือน และขอร้องแล้วว่าไม่ให้ขับ ว่า หากโรคหัวใจกำเริบขณะขับ จะเป็นอย่างไร
ท่านก็ไม่ฟังครับ นึกอยากไปไหนก็ไปเลย กลางค่ำกลางคืนก็ออกไปขับ
คิดดูว่า สายตาผม ที่อายุ 60 กลางคืนยังมีปัญหา ถ้าแสงไม่มากพอ
ฝากถึงท่านผู้มีอำนาจตัดสินใจ ีบทำเสียตั้งแต่มีข่าวดังๆ แบบนี้
หรือจะรอให้เกิดเหตุมากกว่านี้ก็ตามใจนะครับ
จากอุบัติเหตุยานพาหนะที่เกิดจากผู้สูงอายุ ขอให้นายกฯ พิจารณาแก้กฎหมาย กฎกระทรวง ดีไหม
แต่พอได้อ่าน ได้ยินข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และข่าวที่ผู้ขับรถไม่ได้หลบรถพยาบาลฉุกเฉิน อ้างว่าหูตึงไม่ได้ยินเสียงไซเรน
จึงมานึกดูว่า หากต้องรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คงไม่กล้าออกกฎหรือเปลี่ยนกฎเพื่อรักษาความนิยมเป็นแน่
ถึงแม้ว่า ผู้สูงอายุ ที่ถือใบขับขี่แบบตลอดอายุ จะค่อยๆ หมดไป
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า วันนี้ วันพรุ่งนี้ เรื่องเหล่านั้นจะไม่เกิดอีก
สิ่งที่ควรคือ ต้องให้มีการตรวจสุขภาพผู้ขับรถที่สูงวัย ทุก 5 ปี จะโดยแพทย์
หรือจะโดยขนส่ง ที่ใช้เครื่องมือวัดการตัดสินใจ วัดการมองเห็น และอาจจะรวมถึงการได้ยินด้วย
จะได้เป็นการกลั่นกรอง พอรัฐไม่อนุญาต ลูกหลานก็จะได้มีข้ออ้างในการห้ามไม่ให้ขับ
ในครอบครัวผม พ่อผม ก่อนที่จะเสียชีวิต อายุ 80+ ยังขับรถได้ และด้วยความเร็วที่เกินกฎหมายด้วย
ในตอนนั้น ยังไม่มีการถ่ายรูปแบบปัจจุบัน ถ้ามี จะเอามาโชว์เลยว่า 130-140 ก.ม.ต่อช.ม.
(แต่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุใดๆ เลยนะครับ ประสพการณ์สูง ขับมาตั้งแต่อายุยี่สิบกว่า)
แม้ว่าลูก ๆ จะพยายามเตือน และขอร้องแล้วว่าไม่ให้ขับ ว่า หากโรคหัวใจกำเริบขณะขับ จะเป็นอย่างไร
ท่านก็ไม่ฟังครับ นึกอยากไปไหนก็ไปเลย กลางค่ำกลางคืนก็ออกไปขับ
คิดดูว่า สายตาผม ที่อายุ 60 กลางคืนยังมีปัญหา ถ้าแสงไม่มากพอ
ฝากถึงท่านผู้มีอำนาจตัดสินใจ ีบทำเสียตั้งแต่มีข่าวดังๆ แบบนี้
หรือจะรอให้เกิดเหตุมากกว่านี้ก็ตามใจนะครับ