ทำไมสุภาพสตรี จึงเข้าไปตักน้ำที่บ่อน้ำทิพย์ไม่ได้

พระธาตุหญิง สู่ พระธาตุชาย ควรปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด

แต่ก่อน..ตรงหัวมุมเจดีย์ล่างราวเหล็กทางเดินไปเจดีย์บน..
มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์..แต่น้ำแห้งไปแล้ว..เพราะมีผู้หญิงไปตักน้ำ
ห้ามผู้หญิงตักน้ำในบ่อ..เด็ดขาด
(ตรงที่เผาขยะตรงหัวมุมข้างราวบันได คือที่ตั้งบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์)


(ภาพเดียวกัน เมื่อ 10 ปีก่อน)

ภาพนี้ คงเห็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิได้ชัดเจน
เเต่ก่อนราว 10 ปีที่ผ่านมา พระเจดีย์องค์ล่างที่ผู้หญิงกราบมี 2 องค์
โดนฟ้าผ่าทั้งเจดีย์บนและล่าง..จนพังทลาย
จึงมีการบูรณะเจดียใหม่
รวมองค์ด้านล่างเป็นองค์เดียว..รูปทรงเหมือนเจดีย์ด้านบน
ต่อมาน้ำในบ่อแห้งราว 5 ปีที่ผ่านมาเพราะมีผู้หญิงไปตักน้ำในบ่อนั้น
บ่อน้ำห้ามผู้หญิงตักเด็ดขาด..ในทุกบ่อที่มีบนเขามอระอิ

................ สูงเสียดฟ้า ขุนเขาแห่งศรัทธา "มุลาอิ" Mulayit Taung,Burma .............


"มุลาอิ" Mulayit Taung หรือ Myleh Yit เป็นส่วนหนึ่งของแนวเขา Dawna Hills เป็นขุนเขาแห่งศรัทธาของชาวพม่า ในรัฐกะเหรี่ยง DKBA มีระดับความสูงของยอดเขาประมาณ 2078 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นที่ตั้งเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของชาวพม่า ที่ผู้ชายสามารถขึ้นมาไหว้สักการะได้ ส่วนอีกเจดีย์ที่อยู่ระดับต่ำลงมาประมาณ 30 เมตร อนุญาตให้ผู้หญิงขึ้นมาได้ สภาพอากาศที่นี่บริสุทธิ์เย็นสบายทั้งปี ตอนที่ผมไปประมาณ 13-14 องศา หากใครมาฤดูหนาวคงได้สัมผัสอุณหภูมิเลขตัวเดียวและมีโอกาสเจอน้ำค้างเเข็ง ตั้งแต่ช่วงปลาย ธ.ค.-ม.ค.แล้วแต่สภาพอากาศในแต่ละปี เราเริ่มต้นเดินทางข้ามประเทศจากประเทศไทยไปยังรัฐกะเหรี่ยง DKBA จังหวัดเมียวดี ประเทศพม่าที่บริเวณบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก เรานัดรถปิคอัพ 4วีลล์ มารับที่ฝั่งพม่า จากนั้นเดินทางบนถนนลูกรัง ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและหิน โยกเยกหัวฟัดหัวเหวี่ยงเคาะกับเหล็กจนโนเพราะง่วงด้วย มีไต่ขึ้นลงตามไหล่เขาที่ค่อนข้างวิบากพอสมควร รวมระยะทางแล้วเกือบ 40 กม. ใช้เวลาทรมารร่างกายประมาณ 4 ชม. ผ่านหมู่บ้านที่มีจุดพัก มีร้านค้า ใครไปก็อย่าลืมซื้อขนมไปฝากเด็กๆ ด้วยนะครับ พอมาถึงบริเวณวัด สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติคือ ไปกราบนมัสการ พือเล่อบา (ศาลพ่อปู่ศิลา) ผู้ปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ ให้ท่านปกปักรักษาระหว่างอยู่ในสถานที่แห่งนี้และตลอดการเดินทาง จากนั้นใครจะขึ้นไปกราบสักการะองค์พระธาตุบนยอดเขามุลาอิ หรือจะไปพักผ่อน กางเต็นท์ที่จุดกางเต็นท์ก็ได้ ซึ่งจุดกางเต็นท์ต้องเดินไปตามแนวเขาอีกประมาณ 1.6 กม. เราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินได้ที่ลานกางเต็นท์หรือใครมีแรงเหลือๆ ก็สามารถมาชมที่ยอดเขามูลาอิได้ บริหารเวลาให้ดี เน้นย้ำ ในพื้นที่ต้องอยู่แบบสำรวม ไม่รบกวนการปฏิบัติธรรมของพระ

------------------------------------- :::สิ่งที่ต้องรู้และปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยว:::
1.เขาพระธาตุมุลาอิ เป็นศาสนสถานและเป็นเขตอภัยทาน ผู้แสวงบุญหรือนักท่องเที่ยวงดรับประทานเนื้อสัตว์ ให้รับประทานอาหารเจ ถือศิลห้าอย่างเคร่งครัด
2.เมื่อเดินทางมาถึงจุดพัก ทีโพมู ให้ชำระร่างกาย ล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวด้วยชุดสุภาพ หลังจากจุดนี้ไปให้พยายามสำรวมคำพูด ห้ามพูดหยาบคาย ตะโกน ตะคอกหรือแสดงกิริยาที่ไม่สุภาพ
3.พอมาถึงบริเวณวัด สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติคือ ไปกราบนมัสการ พือเล่อบา (ศาลพ่อปู่ศิลา) ผู้ปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้ ให้ท่านปกปักรักษาระหว่างอยู่ในสถานที่แห่งนี้และตลอดการเดินทาง
4.ในบิเวณวัด ห้ามผู้ชายและผู้หญิงเดินเคียงชิดกัน ให้เว้นระยะห่าง หากพักแรมคู่สามีภรรยาจะต้องแยกกันนอน ห้ามนอนด้วยกัน และห้ามผู้หญิงตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้องให้ผู้ชายตักให้เท่านั้น
5.ห้ามหยิบจับทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของเราโดยพลการ เว้นแต่เจ้าของอนุญาต
6.ห้ามผู้หญิงเดินขึ้นไปตั้งแต่ทางเดินทางทิศใต้ของพระธาตุหญิงสู่พระธาตุชาย
7.ช่วยกันรักษาความสะอาด
8.หากต้องการนำน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์กลับไปยังบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล ให้ตั้งจิตขออนุญาตจากศาล พือเล่อบา (พ่อปู้ศิลา) ต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นที่ตักน้ำได้
9.สถานที่สรงน้ำของพระ (อาบน้ำ) ฆราวาสชายสามารถไปอาบได้ แต่ห้ามตากผ้าร่วมกับจีวรของพระภิกษุสงฆ์

https://www.facebook.com/pg/travelwithphotographer/photos/?tab=album&album_id=2272217566122665
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.2272217566122665&type=1&l=4605e64754

สถานที่นั้นๆปฏิบัติมาอย่างไร ก็ปฏิบัติตามนั้นนะ แต่ละสถานที่น่าจะมีเหตุผลอยู่ในการกำหนดข้อห้ามนั้นๆนะ