[CR] Tohoku Autumn 2018

สวัสดีครับ ช่วงเดือนปลายตุลาคมที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปชมใบไม้แดงที่แถบ Tohoku เลยถือโอกาสมาแชร์เส้นทางเผื่อมีใครสนใจครับ

ผมเดินทางช่วง วันที่ 21-28 ตุลาคม โดยแผนมีคร่าวๆดังนี้ครับ

Day 1 – Aomori; Tokyo – Aomori
Day 2 – Aomori; ปราสาท Hirosaki, สวนแอปเปิ้ล, ศาลเจ้า Nakano Momiji Yama
Day 3 – Aomori; Hakkoda Ropeway, Oriase Gorge เดินเส้นทางธรรมชาติ
Day 4 – Sendai; Geibikei gorge + วัด Yamadera
Day 5 – Sendai ; Naruko gorge
Day 6 – Tokyo; Sendai – Tokyo
Day 7 – Tokyo; เดินซื้อของ
Day 8 – Tokyo – BKK

โดยในส่วนของรีวิวจะรีวิวช่วงวันที่ 1-5 นะครับเพราะที่เหลือจะเป็นเส้นทางปกติที่กลับโตเกียวกับเดินซื้อของทั่วไปครับ


ข้อมูลเบื้องต้น

ใบไม้แดงที่ญี่ปุ่นจะแดงไล่จากเหนือลงใต้ครับ โดยจะเริ่มจากที่ฮอกไกโดก่อน ซึ่งโซนโทโฮกุที่พวกผมไปจะแดงไล่ต่อมาจากฮอกไกโดครับ ตอนที่เริ่มวางแผนผมเริ่มวางตั้งแต่ช่วงต้นสิงหาคม โดยอิงจากทั้งเว็บไซต์และข้อมูลจากเพื่อนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นครับ เว็บไซต์ที่ผมใช้เช็คมีหลายเว็บครับ แต่ที่ใช้อ้างอิงจริงๆจะมี 2 เว็บครับคือ

https://www.jrailpass.com/blog/japan-autumn-leaves-forecast

https://koyo.walkerplus.com/list/ar0202/


จากภาพจะเห็นได้ว่าโซนโทโฮกุช่วง Aomori จะแดงกลาง พฤศจิกายนครับ วึ่งหากไปไล่ดูพยากรณ์ของปีเก่าๆก็จะอ้างอิงประมาณนี้ แต่พอสอบถามจากเพื่อน กับอ้างอิงจากรีวิวของคนที่ไปมาปีก่อนๆ ช่วง 21-31 ตุลาคมก็เป็นช่วงที่ใบไม้เริ่มแดงแล้ว ผมเลยกะว่าวัดดวงจองไปช่วง 21-28 ตุลาคมครับ เพราะใกล้ช่วงวันหยุด

ทีนี้ปัญหาที่เกิดคือช่วงประมาณปลายกันยากับต้นตุลา ที่ญี่ปุ่นมีพายุเข้าเยอะครับ อากาศเลยร้อนนานกว่าปกติส่งผลให้ใบไม้เริ่มแดงช้ากว่าปี 2016 กับ 2017 ใครที่ไม่อยากเสี่ยงแป๊กมากแบบผมแนะนำให้เริ่มเช็คตอนต้นตุลาคครับจะค่อนข้างชัวร์ที่สุด

ส่วนเว็บที่ผมชอบที่สุดคือเว็บ https://koyo.walkerplus.com/list/ar0202/ ครับเพราะจะอ้างอิงจากสถานที่แต่ละที่ที่อยากไปเลยมีบอก % ที่แดงแล้วด้วย ซึ่งผมว่าตรงกว่าของ https://www.jrailpass.com/blog/japan-autumn-leaves-forecast ครับ

การเดินทาง

การเดินทางครั้งนี้ผมจะใช้แต่ JR Pass เป็นหลักครับ ซึ่งผมซื้อ JR All Area แบบ7 วันไป ไม่ได้ขับรถเองซึ่งพอไม่ได้ขับรถเที่ยวเองเลยพบว่าพลาดจุดสวยๆไปหลายจุดเลยครับ ทั้งเหตุผลด้านเวลาและข้อจำกัดของตารางรถ ซึ่งเดี๋ยวจะมีบอกเป็นแต่ละจุดไปครับ สำหรับท่านที่จะไปโซน Tohoku ผมแนะนำให้ซื้อ JR East pass เพราะมันเลือกวันใช้งานได้ แล้วพอไปถึงโซนพวกอาโอโมริ เช่ารถขับเอาผมว่าจะเก็บสถานที่สำคัญได้ครบที่สุดครับ

ส่วนสายการบินที่ใช้บินไปคือบิน Scoot แล้วซื้อพวกน้ำหนักกับหารเพิ่มเอาครับเพราะชอบที่เวลาลงเครื่องมันพอดีกับรอบชินคันเซ็น วันที่ 21 ตุลา ออกจากดอนเมือง 0:45 ไปถึง โตเกียว 8:45 แล้วผมเลยมีเวลาจองตั๋วชินคันเซ็นไปลง Aomori โดยไปถึงประมาณ 17:00 ครับ

วันที่ 1 – 21 Oct

เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดก่อนบินประมาณ 3 ชั่วโมงครับ ที่บ้านผมเริ่มไปเข้าแถวก่อนเคาน์เตอร์เปิดประมาณ 15 นาที น้ำหนักของ scoot สามารถรวมกันกับเพื่อนร่วมทางที่ไปด้วยกันได้ครับ

เที่ยวบินของผมถึงนาริตะประมาณ 8:50 ไม่ไดีมีดีเลย์ ระยะเวลาในการใช้ผ่าน ตม.ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ ช่วงที่ลงเครื่อง มีคนมาเข้าแถวผ่าน ตม.ค่อนข้างเยอะ ถ้าวางแผนจะจองรถไฟแบบเอาเซฟเผื่อเวลาที่ ตม. ซัก 1:30 ชั่วโมงจะค่อนข้างเซฟครับ ผ่าน ตม มาได้กระเป๋าก็ถูกเอามาวางไว้ตรงสายพานเรียบร้อยแล้ว เที่ยวบินที่ผมลงตรง Terminal 2 หลังจากรับกระเป๋าก็เดินไปรอคิว Activate JR Pass ที่ออฟฟิศของ JR ใน Terminal ครับ

สำหรับออฟฟิศของ JR ภายในสนามบิน เจ้าหน้าที่เค้าจะอนุญาติให้เราจองตั๋วแค่ 2 ขานะครับ อย่างกรณีผมทำได้แค่จองตั๋วไป Aomori กับจองตั๋วรถไฟอีกรอบนึงที่จะเดินทางออกจาก Aomori ไป Sendai ระยะเวลาในการต่อคิว + Activate + จองใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีครับ ถ้าเอาเซฟเผื่อเวลาไว้ 1:15 ชั่วโมงจะค่อนข้างเซฟ อย่างกรณีผม เครื่องลง 8:50 ผมจองรถไฟที่จะออกจากนาริตะตอนรอบ 11:48 เพื่อไปถึง Aomori 17:04 (Shin-Aomori ห่างจาก Aomori ประมาณ 6 นาที)

โรงแรมที่ผมพักคือ APA Hotel Aomorieki-higashi ซึ่งตัวโรงแรมห่างจากสถานทีแบบเดินเท้าประมาณ 5-10 นาทีครับ

สถานีรถประจำทางที่จะใช้เดินทางไปทะเลสาบ Towada ก็ตั้งอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟนี่แหละครับ ส่วนร้านของกินบริเวณรอบๆสถานีก็มีค่อนข้างหลากหลาย ผมเลือกใช้ Aomori เป็นศูนย์กลางการเดินทางโดยจะนอนที่นี่ 3 คืนครับ

ของขึ้นชื่อของแถบ Aomori ที่ผมไปหาอ่านมาก็จะมีหอย Hotate กับแอปเปิ้ลครับ ซึ่งเราจะสามารถผมเห็นต้นแอปเปิ้ลได้ทั่วไปรอบๆเมืองเลย


หลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อยผมก็เดินสำรวจแถวๆสถานีเล็กน้อย อย่างภาพข้างล่างนี่คือ A-Factory ครับขายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากแอปเปิ้ลครับ


ใกล้ๆกันมีร้าน Hotate Goya ขายอาหารทะเลเผา รวมถึงหอยเชลล์ครับ พวกผมมาทานอาหารเย็นกันที่ร้านนี้ หอย Hotate ที่นี่ขายเป็นตัวครับ ตัวละ 250 Yen ถ้าสั่งเป็นซาซิมิ เค้าจะมีเอ็นหอยให้กินด้วยครับหนึบๆดี


ตัวเขียวๆดำๆข้างๆหอยนี่เค้าบอกไม่ให้กินกันนะครับให้หั่นทิ้ง


ภายในร้านยังมีกิจกรรมให้ตกหอยด้วยครับ 500 เยน ตกได้ 3 นาทีตกได้เท่าไร่เค้าจะเอามาทำอาหารให้กินแต่ผมไม่ได้ลองตกเพราะช่วงเวลาที่ไปถึงนี่หอยเหลือน้อยละครับ กับดูทรงแล้วคงเสีย 500 เยนฟรีเลยเอาไปซื้อกินดีกว่า

วันที่ 2 – 22 Oct

ผมมีการสลับโปรแกรมวันที่ 3 มาเป็นวันที่ 2 ครับ วันนี้จะเดินทางไปทะเลสาบ Towada เดินชมลำธาร Oriase

ตารางรถจากเว็บนี้ครับ – http://www.jrbustohoku.co.jp/route/detail/?RID=14

ตามแผนคือพวกผมจะมาขึ้นรถบัสรอบ 7:30 ครับ โดยมาถึงบริเวณป้ายรถตอน 7:00 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แถวยาวมากแล้วสุดท้ายผมได้ขึ้นคันที่ 2 จาก 3 คันที่ทางสถานีเตรียมมาครับ สำหรับคนที่มี JR Pass สามารถใช้ตั๋วเพื่อขึ้นรถบัสได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ

เนื่องจากมีคนขึ้นรถเยอะ รถเสียเวลากว่าจะออกนาน ทำให้ผมนั่งไปถึงป้ายแรกช้าไป 10 นาทีครับ ป้ายแรกที่จะลงคือ Ropeway station เพื่อไปชม Hakkoda Ropeway ครับ

คำแนะนำการขึ้นกระเช้าคือพอไปถึงสถานีรีบเดินลงไปต่อคิวซื้อตั๋วเลยครับ แล้วรีบไปต่อคิวให้ได้จุดท้ายกระเช้า ถ้ากะแล้วไม่ได้อยู่คิวต้นๆให้รอรอบต่อไปครับ เพราะถ้าได้กลางๆคิวจะได้ภาพสวยๆค่อนข้างยาก หรือถ้าท่านใดไม่ได้ซีเรียสมาก ก็เข้าคิวตามปกติครับ ชมด้วยตาสวยเหมือนกัน



ระยะเวลาที่กระเช้าใช้เวลาขึ้นกับลงเวลารอบละประมาณ 15 นาทีครับ หากขึ้นไปถึงยอดแล้วยังมีเส้นทางให้เดินชมวิวรอบๆนะครับ แต่ผมไม่ได้เดินเพราะอยากทำเวลา เนื่องจากรถบัสมาถึงช้าครับ


ระหว่างขึ้นลงนี่จะเห็นทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปชัดเจนช่วงกำลังออกตัวจะเห็นแดงๆครับ ถ้าท่านใดมาช่วงเดียวกับผมช่วงปีก่อนหน้า จะเห็นช่วง่อนถึงยอดเริ่มมีหิมะเกาะต้นไม้แล้ว






สุดท้ายพอผมลงมาจากกระเช้า ผมตกรถบัสครับทำให้ต้องรออีก 1 ชั่วโมงเลยกว่ารถรอบต่อไปจะมา และผมจากการตกรถนี้ทำให้ผมต้องเลือกตัดบางจุดที่จะแวะชมทิ้ง นั่นคือ Jigoku numa pond ครับ ซึ่งป้ายที่จะแวะชมจะอยู่ห่างจากป้าย Ropeway station ไป 2 ป้าย สาเหตุที่ต้องตัดคือ หากผมลงไปแวะป้ายนั้น ผมจะต้องรอรถรอบต่อไปนานจนอาจทำให้ไม่มีเวลาไปทะเลสาบ Towada ครับ สำหรับท่านที่อยากเที่ยวสบายๆเวลาไม่บีบผมแนะนำขับรถเที่ยวหรือไม่ก็ไปค้างที่ทะเลสาบ Towada ก็จะช่วยให้ไม่เจอปัญหาแบบผมครับ

แต่ในควาโชคร้ายยังมีความโชคดีครับ บริเวณ Ropeway station มีอีกจุดถ่ายรูปข้างๆกันครับ เดินมาข้างๆลานจอดรถก็เห็นเลย



อีกปัญหาที่ผมเจอคือตอนลงไปชมบางจุดแล้ว ต่อให้มีรถบัสมาอาจไม่ได้ขึ้นนะครับเพราะรถเต็ม เต็มแบบไม่มีที่ยืนเพราะคนนั่งจนเต็มแล้วครับ

ป้ายที่พวกผมลงคือป้ายที่จะชมน้ำตก Choshi ครับ กะว่าเดินล่องไปเลื่อยๆตามลำธารจนถึงทะเลสาบแล้วขึ้นรถกลับพอดี เพราะกลัวว่าถ้าลงแล้วเดินมาจากทะเลสาบ Towada แล้วจะมีไม่ที่นั่งขากลับครับ



ช่วงที่ผมมาใบไม้ยังไม่ค่อยแดงเลยครับค่อนข้างเสียดาย แต่เส้นทางตลอดข้างๆลำธารก็อากาศดี ทำให้เดินได้เรื่อยๆครับ



เดินมาถึงทะเลสาบ แล้วพอมีจุดให้ถ่ายรูปกับบางต้นที่ใบไม้เปลี่ยนสีไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นยังมีให้นั่งเรือชมทะเลสาบด้วยนะครับ แต่ผมไม่ได้นั่งเพราะเป็น One day trip กลัวตกรถรอบสุดท้ายครับ


ชื่อสินค้า:   Tohoku Trip
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่