สวัสดีคะ
พอดีเราคือผู้ป่วยติดเชื้อ H.จากการส่องกล้องของหมอร.พ.ประกันสังคมแห่งหนึ่ง ได้รับยาฆ่าเชื้อสำหรับโรคนี้มากินคู่กับอะม็อกซี่ ครั้งที่ 1 เกิดผื่นแพ้ ครั้งที่ 2 เปลี่ยนตัวยาเป็นอีกยี่ห้อ อีกตัวยา (คลาริทรัยมาซิน) ก็แพ้ ครั้งที่ 3 ก็เปลี่ยนตัวยาและกิน ก็แพ้... สรุป แพ้ 3 ครั้ง เลยเปลี่ยน ร.พ.
มารักษากับร.พ.ใหม่เอกชนชื่อดัง วินิจฉัยว่า ไม่มีแผลในกะเพาะแต่ติดเชื้อ H.โดยไม่มีแผล หมอจะไม่ให้ยาฆ่าเชื้อเพราะมันไม่ใช่วิธีรักษาที่ถูกต้อง ก็เลยไม่ได้รับยาฆ่าเชื้อใดๆ มีแต่ให้ยาลดกรด กับยาลดความเครียด และยาแก้ปวดท้อง สรุป ก็หายปวดท้อง หายอาการต่างๆ ไม่มีลมไม่มีกรดเกินในกะเพาะ ไม่มีปัญหาการทานแล้วไม่ย่อย ผ่านมาราวๆ 5-8 เดือน จนหยุดยาลดกรดไปเลย หยุดยาทุกอย่าง
แต่แล้วฝันร้ายก็กลับมาอีก คือ มีกรดเกิน มีอาหารไม่ย่อย มีกรดไหลย้อนทั้งที่ในอดีตไม่เคยมี มีลมในกะเพาะมากทั้งที่หายไปร่วม 5 เดือน สรุปว่า เราต้องรักษาการติดเชื้อ H. หรือไม่ แล้วถ้ากินยาไปแล้ว ยังแพ้ยาอีก เป็นครั้งที่ 4
สมควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ คือตอนนี้ลังเลว่าจะควรไปรักษา H. ให้หายก่อน เสี่ยงกับการแพ้ยาอีกรอบดีไหม เพราะทรมานกับอาการที่เกิดขึ้นนี้มาก ถ้าบอกว่า เครียดนิ ไม่มีคะ หยุดเครียดไปแล้ว จิตใจดีมากคะ นอนหลับสบาย ชิลๆ ไม่มีอาการนอนไม่หลับเหมือนตอนไปรักษากับร.พ.แห่งแรกเลยคะ
หมอร.พ. ที่ 2 รักษาดีคะ แต่ก็งงๆในงงกับคำวินิจฉัยของหมอคะ เพราะดันไม่มียาฆ่าเชื้อเลย จึงตัดสินใจไม่ถูกว่า จะรักษาอาการติดเชื้อดีหรือไม่ ทั้งที่ก็งงในงงกับอาการตัวเอง เพราะอาการก็หายไปราวๆ 5 เดือน ก็กลับมาใหม่ ทั้งที่ไม่มีพฤติกรรมที่ควรจะทำให้เกิดกรดไหลย้อน ไม่กินกาแฟ ชาน้ำอัดลม และไขมัน ของทอด ใดๆที่เสี่ยงต่อโรคเลยคะ
ตัดสินใจไม่ถูกคะ ว่า จะรับการรักษาติดเชื้อหรือไม่รักษาดี แล้วก้งงกับอาการของตนเองด้วย
สอบถามว่า ควรรักษาอาการติดเชื้อ H. ไพโลไรอย่างไรทั้งที่ไม่มีแผลในกะเพาะ และแพ้ยาฆ่าเชื้อ
พอดีเราคือผู้ป่วยติดเชื้อ H.จากการส่องกล้องของหมอร.พ.ประกันสังคมแห่งหนึ่ง ได้รับยาฆ่าเชื้อสำหรับโรคนี้มากินคู่กับอะม็อกซี่ ครั้งที่ 1 เกิดผื่นแพ้ ครั้งที่ 2 เปลี่ยนตัวยาเป็นอีกยี่ห้อ อีกตัวยา (คลาริทรัยมาซิน) ก็แพ้ ครั้งที่ 3 ก็เปลี่ยนตัวยาและกิน ก็แพ้... สรุป แพ้ 3 ครั้ง เลยเปลี่ยน ร.พ.
มารักษากับร.พ.ใหม่เอกชนชื่อดัง วินิจฉัยว่า ไม่มีแผลในกะเพาะแต่ติดเชื้อ H.โดยไม่มีแผล หมอจะไม่ให้ยาฆ่าเชื้อเพราะมันไม่ใช่วิธีรักษาที่ถูกต้อง ก็เลยไม่ได้รับยาฆ่าเชื้อใดๆ มีแต่ให้ยาลดกรด กับยาลดความเครียด และยาแก้ปวดท้อง สรุป ก็หายปวดท้อง หายอาการต่างๆ ไม่มีลมไม่มีกรดเกินในกะเพาะ ไม่มีปัญหาการทานแล้วไม่ย่อย ผ่านมาราวๆ 5-8 เดือน จนหยุดยาลดกรดไปเลย หยุดยาทุกอย่าง
แต่แล้วฝันร้ายก็กลับมาอีก คือ มีกรดเกิน มีอาหารไม่ย่อย มีกรดไหลย้อนทั้งที่ในอดีตไม่เคยมี มีลมในกะเพาะมากทั้งที่หายไปร่วม 5 เดือน สรุปว่า เราต้องรักษาการติดเชื้อ H. หรือไม่ แล้วถ้ากินยาไปแล้ว ยังแพ้ยาอีก เป็นครั้งที่ 4
สมควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ คือตอนนี้ลังเลว่าจะควรไปรักษา H. ให้หายก่อน เสี่ยงกับการแพ้ยาอีกรอบดีไหม เพราะทรมานกับอาการที่เกิดขึ้นนี้มาก ถ้าบอกว่า เครียดนิ ไม่มีคะ หยุดเครียดไปแล้ว จิตใจดีมากคะ นอนหลับสบาย ชิลๆ ไม่มีอาการนอนไม่หลับเหมือนตอนไปรักษากับร.พ.แห่งแรกเลยคะ
หมอร.พ. ที่ 2 รักษาดีคะ แต่ก็งงๆในงงกับคำวินิจฉัยของหมอคะ เพราะดันไม่มียาฆ่าเชื้อเลย จึงตัดสินใจไม่ถูกว่า จะรักษาอาการติดเชื้อดีหรือไม่ ทั้งที่ก็งงในงงกับอาการตัวเอง เพราะอาการก็หายไปราวๆ 5 เดือน ก็กลับมาใหม่ ทั้งที่ไม่มีพฤติกรรมที่ควรจะทำให้เกิดกรดไหลย้อน ไม่กินกาแฟ ชาน้ำอัดลม และไขมัน ของทอด ใดๆที่เสี่ยงต่อโรคเลยคะ
ตัดสินใจไม่ถูกคะ ว่า จะรับการรักษาติดเชื้อหรือไม่รักษาดี แล้วก้งงกับอาการของตนเองด้วย