[CR] ##REVIEW## Transformers: Age of Extinction (2014) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 4: มหาวิบัติยุคสูญพันธ์ุ | เละเทะมาก [ไร้ส้มป่อย]

     ดูเหมือนว่าภาคที่แล้ว Michael Bay แกออกมาบอกเองนะครับว่าจะกำกับภาคนั้นเป็นภาคสุดท้าย แต่ว่ารายได้ของภาคนั้นมันเกินหลักพันล้านครับ เราจึงเห็นภาคนี้ออกมา จะบอกว่าภาคนี้แถก็ได้นะครับ แต่ก็เป็นปกติของค่ายหนังแหละ ถ้าหนังถึงแม้คำวิจารณ์มันจะย่ำแย่จมดิน แต่ถ้ามันทำเงิน ยังไงซะภาคต่อก็ต้องถูกสร้างขึ้นมาอยู่ดีครับ หนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เรื่องย่อ

     หลังจากสงครามครั้งใหญ่ที่ทำให้เมืองพังพินาศ แต่โลกก็อยู่รอดปลอดภัย ในขณะที่มนุษยชาติเริ่มฟื้นตัว ก็มีวายร้ายกลุ่มหนึ่งเผยตัวออกมาพยายามจะควบคุมกระแสประวัติศาสตร์... ขณะที่ศัตรูทรงพลังจากโบราณกาลก็ทำให้โลกต้องเผชิญหน้ากับหายนะอีกครั้ง
ด้วยความช่วยเหลือจากมนุษย์กลุ่มใหม่ (นำโดย มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) ออพติมัส ไพรม์และเหล่าออโต้บอท ก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด ในการผจญภัยที่เหลือเชื่อครั้งนี้ พวกเขาจะต้องต่อสู้ในสงครามระหว่างธรรมะและอธรรม ที่ท้ายที่สุดแล้ว ก็กลายเป็นมหึมาสงครามของโลก
     หนังยังคงเป็นหนังหุ่นตีกันเหมือนเดิมครับ ความแปลกใหม่ในภาคนี้ค่อนข้างน้อย(ถึงน้อยมาก) แต่ปริมาณฉากแอคชั่นนี่จัดเต็มเท่าภาคที่แล้ว ยัดมาหมดทั้งระเบิด นิวเคลียร์ ปืนกล จรวด ฯลฯ ขนาดหุ่นมันยังเอาไดโนเสาร์มาเลยครับ และในภาคนี้เปลี่ยนตัวละครคนยกเซ็ตเลย ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าถ้าปูเรื่องมาดี หนังมีสิทธิ์เป็นหนังดีกู้เฟรนไชต์ได้เลยนะครับ เพราะประเด็นต่างๆ ในหนังนับว่าบรรเจิดเลยล่ะ ผมชอบประเด็นผู้สร้างมากครับ ว่าเราทุกคนย่อมมีผู้สร้าง และย่อมมีสักวันที่เจ้าของเราจ้องจะเรียกคืนความเป็นเจ้าของกลับ นั่นเป็นที่มาของพล็อตในภาคนี้ครับ อย่างที่ว่าครับถ้าเล่าเรื่องดี จับประเด็นมาเล่นได้น่าสนใจ หนังจะออกมาแหล่มในระดับนึงเลย แต่ถ้าพูดตรงๆ.......... ผมว่าป๋า Bay แถไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่แฮะ
     ในภาคนี้จงใจจะให้ตัวละครรองภาคเก่าตายยกครัวครับ ฉะนั้นอะไรที่ Bay ไม่สามารถสรรหาเหตุผลที่ Make Sense มาอธิบายได้ ป๋าแกใช้วิธีลัดครับ นั่นคือฆ่าแ_่ง ขนาดตัวละครเก่าๆ นี่ยังหายไปกับสายลมอ่ะ ไอ้พวกแซม มิเคล่า หรือว่าคาร์ลี่ย์อะไรนั่น Gone Boy & Gone Girl หมดเลยครับ แล้วก็ไปจับสลากเอาตัวละครเซ็ตใหม่ แล้วในที่สุดหวยก็มาลงที่เคต เยเกอร์ นักประดิษฐ์กระจอกๆ คนนึงที่แทบจะไม่มีอะไรกิน พร้อมกับลูกสาวเทสซ่า และหนังก็เล่าที่มาของครอบครัวนี้น้อยมากครับ ทำให้เราไม่อินและไม่ซึมซับกับเนื้อเรื่องเท่าที่ควร ตั้งแต่ต้นจนจบผมไม่ได้เอาใจช่วยไอ้พวกนี้แม้แต่น้อย(ออกจะรำคาญด้วยซ้ำบางฉาก) อย่างฉากไต่สายเคเบิ้ล สู้ฉากวิ่งในตึกในภาคสามไม่ได้เลยครับ อันนั้นลุ้นกว่าเยอะ หรือว่าฉากสู้กันกลางถนน อันนี้ขอสปอยนะครับเพราะตะขิดตะควงใจกับฉากนี้มากๆ นั่นก็คือฉากที่เทสซ่าแยกออกจากหมู่มาปล้วติดอยู่ในรถครับ โคตรรำคาญการกระทำของนางมาก คือนางบอกว่านางออกไม่ได้(แล้วเมิงเข้าไปเพื่อ? ทุ่งตั้งกว้างเมิงไม่ไปหลบ?) แล้วพอพ่อบอกให้ทุกกระจก แต่นางตบกระจก! ครับ นาง"ตบ"กระจกเพื่อที่จะให้มันแตก แหม... ไม่เอาหัว_่องมาทุบอ่ะถึงจะได้แตก อีค__ย
     อย่าว่าแต่ตัวละครคนครับ ตัวละครหุ่นก็ชะตากรรมไม่ต่างกัน ของคนนี่บทได้ครับแต่บทนี่เ_ี้ยมาก ต่างกับพวกหุ่นนะครับ คือบทไม่ได้มีอะไรมากแต่แบบว่า... ออกมาทีไรเป็นอันร้องว้าวอ่ะ แต่เหตุผลในการปรากฏตัวของหุ่นแต่ละตัว..... คือ? แรงจูงใจเมิงคือ?
     ส่วนบ่นแรกผ่านไป มาต่อบ่นสอง ในภาคนี้มีการเพิ่มความยาวหนังเข้ามาครับ หลังจากที่ยาวแค่สองชั่วโมงครึ่ง เพิ่มเป็นเกือบสามชั่วโมง(โอ้มายก้อด!) ซึ่งผมก็เตรียมตัวตั้งแต่ก่อนดูแล้วครับ ว่ามันต้องมีเนื้อเรื่องอะไรที่น่าสนใจแน่นอนเลยอ่ะ ก็เลยหวังไปครับว่าอย่างน้อยเนื้อเรื่องน่าจะมีอะไรซ่อนไว้ ครั้นพอดูจบ ก็ตระหนักได้ว่า.......... เอิ่ม ยาวไปแล้วพี่ ตัดลงเหลือแค่สองชั่วโมงเศษๆ ดีกว่านะ
     หนังยาวมากครับ ยาวจนหาวเลยอ่ะ ไม่แปลกที่ตอนผมดูรอบแรกผมหลับยาว ผมก็ว่ามันจะเล่าเรื่องแบบสลับซับซ้อน ชวนติดตามว่ามันจะเป็นยังไง แต่ไม่เลย เล่าเป็นแบบเส้นตรงมากอ่ะ ไม่มีหักมุม ไม่มี Twist ไดๆ ทั้งสิ้น เดินเรื่องไปทื่อๆ เลยอ่ะ และขอบอกว่าช่วงต้นเรื่องผมเบื่อกับการ tie-in โฆษณาแบบยัดๆ มาก มาหมดทั้ง Pepsi, รถสปอร์ต, น้ำยาบ้วนปาก, อาหารเสริม ฯลฯ แต่ก็เข้าใจว่าภาคนี้โดนตัดงบ ก็เลยต้องขอสปอนเซอร์เยอะ ภาพรวมมันเลยดูล้นๆ ไปในหลายฉาก พูดไปพูดมา ผมว่าถ้าภาคก่อนๆ ยาวเท่านี้ มันน่าจะดีนะ เช่นภาคแรกที่มีประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่างแต่ได้รับการเล่าไม่เพียงพอ ถ้าภาคแรกยาวเท่าภาคนี้ก็ได้อิ่มหนำสำราญแน่นอนครับ แต่ภาคนี้มันยาวเกินเหตุเนี่ยสิ เนื้อหาก็มีไม่ถึง 10 หน้า แต่เล่นใหญ่ใช้พื้นที่ไป 100 หน้าทีเดียว(แน่นอนว่าส่วนใหญ่ใช้กับฉากแอคชั่นล้วนๆ) เข้าใจว่าป๋าอยากจะยัดแอคชั่น แต่คุณป๋ายัดให้มันเนียนๆ หน่อยก็ดีนะ อย่างไอ้ฉากตีกันบนถนนกลางเรื่องเนี่ย ตัดออกไปก็ได้นะเสียเวลา เอาเวลาไปเล่าเรื่องดีกว่าป๋า
     บ่นสองผ่านไป มาถึงบ่นโค้งสุดท้าย นั่นก็คือ"บท" โอ้พระเจ้า! ไม่อยากจะเชื่อว่าป๋า Bay ผู้ที่ทำผมน้ำตาซึมใน Armageddon จะทำบทดราม่าออกมาจืดชืดขนาดนี้ บทดราม่าเรื่องลูกกับแฟนลูกนี่เบาบางมากครับ ขนาดบทดราม่าของหุ่นยังจืดเลยครับ ภาคนี้ปูมาน่าสนใจมากๆ เล่าว่าออโต้บอทนี่โดนมนุษย์ตามเก็บเรียบ และออฟติมัสก็ปางตายเลย การที่เราเห็นหุ่นขวัญใจเรามาตั้งแต่เด็กมาเป็นอะไรไปมันทำร้ายจิตใจมากนะครับ เหมือนเอาโดรามอนมาฆ่าอะไรเงี้ย เป็นเราก็ทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่..... ป๋า Bay ไม่คิดจะเล่าให้คนดูคล้อยตามเลยครับ บทจะยัดก็ยัด แบบประมาณว่า "อ่ะ หุ่นดีโดนล่า คิดเอาเอง" เห้ย! ถ้าป๋าจะยัดลงง่ายๆ แบบนี้ไม่เอาเมกะตรอนมาเป็นฝ่ายดีเลยล่ะวะ และตรรกะของการตัดสินใจแต่ละทีมันสิ้นคิดโคตรๆ อ่ะครับ แบบประมาณเอาเมล็ดพันธ์ุไปซ่อน โดยที่รู้ว่ามันระเบิดเมืองทั้งเมืองได้สบาย แล้วทำไมพวกเองไม่เอาไประเบิดยานของไอ้ตัวร้ายตั้งแต่แรกล่ะฟระ! มีหลายอย่างที่อยากจะบ่นครับแต่เกรงว่ารีวิวนี้มันจะยาวเกินไป(เพราะบ่นแท้ๆ) เรามาพูดถึงข้อดีของมันดีกว่าครับ
     แอคชั่นยังมันส์เหมือนเดิมครับ ระเบิดอะไรขนมาหมด ยิ่งฉากตีกันอยู่เมืองจีนนี่นับว่ามันส์เลยนะ Effect ก็เนี๊ยบทุกจุดเลย ภาพนี่ชัดโคตรอ่ะ และอีกอย่างคือตัวร้ายเท่ห์มากครับ ผมว่า Lockdown นี่เป็นตัวร้ายที่ดีที่สุดของเฟรนไชต์เลย ฉากเปิดตัวเท่ห์มากๆ ครับ เรียกได้ว่ารัศมีนี่แอบกลบออฟติมัสอยู่นิดนึงนะ ดาราโอเคครับ Walhberg ก็เล่นเป็นพ่อตาขาโหดได้แมนดี, Reynolds ก็หล่อดีครับ, Pelt นี่ก็ฮ็อตใช้ได้ ดนตรีประกอบถึงแม้จะดร็อปลง แต่ก็ยังเท่ห์เช่นเดิม
สรุป

     ๏ บทหนัง : เละเทะ
     ๏ การดำเนินเรื่อง : อืดมาก
     ๏ นักแสดง : โอเค
     ๏ Production : ดีมาก


คะแนนเฉลี่ยรวม : 6/10
เรตหนัง : หนังโอเค พอดูได้

ชื่อสินค้า:   Transformers: Age of Extinction (2014)
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • - ดูแผ่นนะจ๊ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่