เมื่ออะไรเกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้น......

เมื่ออายตนะ 6 เกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้น โลกย่อม
ทำความชมเชยใน
อายตนะ 6 โลกยึดถืออายตนะ ๖ นั่นแหละโลกย่อม
เดือดร้อนเพราะ อายตนะ 6 ฯ 🔯🌎🌍🌏
-นามสูตร
————————————-
เช่น พิศสวรรค์สุดเอื้อมมา เชยชม (ท้าวแสนปม).,
ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราหมณ์เอ๋ย
ยังไม่ เคยเชยชิดพิสมัย (อภัย).เป็นต้นฯ
————————————-

เมื่ออายตนะภายในและภายนอก ๖ เกิดขึ้น โลกจึง
เกิดขึ้น โลกย่อม
    กระทำความเชยชมในอายตนะภายในและ
ภายนอก ๖ โลกยึดถืออายตนะ
    ภายในและภายนอก ๖ นั่นแหละ เมื่ออายตนะ
ภายในและภายนอก 6
    มี โลกจึงเดือดร้อน ฯ
    อุปาทานที่เป็นเหตุให้โลกต้องเดือดร้อนเป็นไฉน
ข้าพระองค์ทูลถาม
    แล้ว ขอพระองค์ตรัสบอก ซึ่งธรรมชาติเป็นเครื่อง
ออกจากโลก บุคคล
    จะพ้นจากทุกข์ได้อย่างไร ฯ
    กามคุณ ๕ ในโลกมีใจเป็นที่ 6 เราประกาศแล้ว
บุคคลคลายความพอใจ ⚛️
    ในกามคุณ 5 นี้ได้แล้วย่อมพ้นจากทุกข์ได้ด้วย
อาการอย่างนี้ เราบอกซึ่ง
    ธรรมชาติเป็นเครื่องออกจากโลกนี้ ตามความ
เป็นจริง แก่ท่านทั้งหลาย
    แล้ว ถ้าแม้ท่านทั้งหลายพึงถามเราเป็นพันฯครั้ง
เราก็
จะบอกข้อนี้แก่ท่าน
    ทั้งหลายเพราะบุคคลย่อมพ้นจากทุกข์ได้ด้วย
อาหารอย่างนี้ ฯ
    ในโลกนี้ใครเล่าข้ามโอฆะได้ ในโลกนี้ใครเล่า
ข้ามอรรณพได้ ใครย่อม
    ไม่จมลงในอรรณพที่ลึกซึ้ง ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่ยึด
เหนี่ยว ฯ
    ผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยศีล มีปัญญา มีใจตั้งมั่นดีแล้ว
มีความหมายรู้ ณ
    ภายใน อยู่มีสติทุกเมื่อ ย่อมข้ามพ้นโอฆะที่ข้ามได้
แสนยาก (นิพพาน)ผู้นั้นเว้น
    จากกามสัญญา ล่วงสังโยชน์ทั้งปวงเสียได้ มี
ความเพลิดเพลินและภพ (ลืม...💾🔌)
    หมดสิ้นแล้ว ย่อมไม่จมลงในอรรณพ คือ สงสาร
อันลึก ฯ
    เชิญท่านทั้งหลาย ดูพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ผู้
มีพระปัญญาลึกซึ้ง
    ผู้ทรงแสดงเนื้อความละเอียด ไม่มีความกังวลไม่
ข้องแล้วยินดีในกามภพ
    พ้นวิเศษแล้วในอารมณ์ทั้งปวง ทรงดำเนินไปใน
ทางอันเป็นทิพย์ ทรง
    แสวงหาคุณอันใหญ่เชิญท่านทั้งหลายดูพระผู้มี
พระภาคพระองค์นั้น
    ผู้มีพระนามไม่ทราม ผู้ทรงแสดงเนื้อความ
ละเอียด ผู้ทรงให้ปัญญา ไม่
    ข้องแล้วในอาลัยในกาม ทรงรู้ธรรมทั้งปวง มีพระ
ปัญญาดีทรงดำเนิน
    ไปในทางอันเป็นอริยะ ทรงแสวงหาคุณอันใหญ่ ฯ
☦️♌️(ออกบวช)🌤
วันนี้เราทั้งหลายเห็นดีแล้วหนอ สว่างไสวแล้ว ตั้งขึ้น
ดีแล้วเพราะเรา
    ทั้งหลายได้เห็นพระสัมพุทธเจ้าผู้ทรงข้ามโอฆะได้
แล้ว หาอาสวะมิได้ ฯ ☀️
2.
ภิกษุ ท. !  ครั้งก่อนแต่การตรัสรู้ เมื่อเรายังเป็น
โพธิสัตว์ ยังไม่ได้ตรัสรู้นั่นเทียว ได้เกิดความปริวิตก
ขึ้นว่า อะไรหนอเป็นรสอร่อยในโลก ?  อะไรเป็นโทษ
ในโลก ?  อะไรเป็นอุบายเครื่องออกไปจากโลก ?  

    ภิกษุ ท. !  ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า สุข
โสมนัสที่ปรารภโลกเกิดขึ้นนี่เอง เป็น รสอร่อยใน
โลก. โลกที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ทรมาน ทนยากมีการ
เปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดานี่เอง เป็น โทษในโลก.
การนำออกและการละเสียสิ้นเชิงซึ่งความกำหนัดด้วย
อำนาจความเพลินในโลกนี่เอง เป็น อุบายเครื่องออก
ไปจากโลกได้.  

    ภิกษุ ท. !  ตลอดเวลาเพียงไร ที่เรายังไม่รู้จักรสอ
ร่อยของโลกว่าเป็นรสอร่อย, ยังไม่รู้จักโทษของโลก
ว่าเป็นโทษ, ยังไม่รู้จักอุบายเครื่องออกว่าเป็น  
อุบายเครื่องออก ตามที่เป็นจริง; ตลอดเวลาเพียงนั้น
เรายังไม่รู้สึกว่าได้ตรัสรู้พร้อมเฉพาะซึ่งอนุตตรสัมมา
สัมโพธิญาณ ในโลก พร้อมทั้งเทวดา มาร พรหมหมู่
สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา พร้อมทั้งมนุษย์.  

    ภิกษุ ท. !  เมื่อใดแล เราได้รู้จักรสอร่อยของโลก
ว่าเป็นรสอร่อยรู้จักโทษของโลกว่าเป็นโทษ รู้จัก
อุบายเครื่องออกว่าเป็นอุบายเครื่องออก ตามที่เป็น
จริงด้วยอาหการอย่างนี้แล้ว; เมื่อนั้นเรารู้สึกว่าได้
ตรัสรู้พร้อมเฉพาะ ซึ่งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ใน
โลก พร้อมทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์ พร้อมทั้ง
สมณพราหมณ์ เทวดา พร้อมทั้งมนุษย์.  

    ก็แหละญาณทัสสนะเครื่องรู้เครื่องเห็นเกิดขึ้นแล้ว
แก่เราว่า ความหลุดพ้นของเราไม่กลับกำเริบ ชาตินี้
เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพเป็นที่เกิดใหม่มิได้มีอีก ดังนี้.
๒.  บาลี ปฐมสูตร สัมโพธิวรรค ตติยปัณณาสก์ ติก. อํ. ๒๐/๓๓๒/๕๔๓.


(เกิด...แก่...เจ็บ...ตาย...🔌🔁🚻🔂➡️☸️

ประเดี๋ยวอย่างนี้...ประเดิ๋ยวอย่างนั้น...ประเดี๋ยวอย่างโน้นแหละ (ตัณหา 3)กามภพ⛔️🚷✋👌👉🤟🖕
🙏🆗🤝💰💵💸

เหตุนั้นแหละ เพราะมีนามรูปพร้อมทั้งวิญญาณตั้งอยู่ .

(ทุกข์...🔁...สุข)เป็นเช่นนั้นเอง.
เพื่อการบัญญัติซึ่งความเป็นอย่างนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่