รัสเซียไม่เคยอยู่ใน Wish List ประเทศที่จะต้องไปของผมเลย แม้จะเป็นประเทศที่ Free VISA สำหรับคนไทย และไปไม่ยาก
แต่ต่อจากนี้คงต้องคิดใหม่ แล้วถามตัวเองว่า "เมื่อไหร่ เราจะไปรัสเซียกันอีกดี…"
Note :
// ทริปนี้ผมใช้เงินไปทั้งหมด ไม่ถึงสองหมื่นครับ กินดี อยู่ดี เที่ยวดี (ไม่รวมตั๋วนะครับ ได้ตั๋วโปรของ Qatar ไปกลับ 9,600 บาท ถูกจนกังวลว่าจะไม่ถึงรัสเซีย)
// ค่าครองชีพที่นี่พอๆกับไทยเลยครับ มีแค่น้ำเปล่าที่ราคาโดด เราเลยกินอยู่ในราคาไทยๆเลย
// ทริปนี้บินมาลงที่ Moscow กลับที่ St.Petersburg ครับ
// ช่วงที่ผมมาคือกลาง พ.ย. ครับ อากาศประมาณ 5 ถึง -4 ยังไม่มีหิมะครับ
// ผมจะรวม short note สำคัญๆต่างๆเกี่ยวกับรัสเซียไว้ให้ตอนท้ายนะครับ
Day 1 ตั๋วถูก เลยต้องนั่งกันจนตูดเปื่อย
จริงๆเราสามารถบินตรงจากกรุงเทพฯไปรัสเซียได้เลยครับ ใช้เวลาประมาณ 9-10 ชม.
แต่สายการบินคงคิดว่ามันสบายไปหน่อยสำหรับพวกตั๋ว 9,600 อย่างเรา 555 เลยต้องไปแวะเปลี่ยนเครื่อง 1 stop ที่ DOHA แต่ก็ใช้เวลาแป๊บเดียวมากๆ ไม่ถึง 2 ชม.
ถือว่าเป็นเรื่องดีๆที่ได้พักเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน และได้ชมวิวสวยๆแบบนี้ ก่อนที่จะถึงรัสเซีย
“Cabin Crew Prepare for landing”
ล้อเครื่องแตะพื้น ในใจยังตื่นเต้นน้อยกว่าความเมื่อยที่นั่งมาเลย 555 ถึงสักที “รัสเซียจ๋า กูมาแล้วจ้า”
กระบวนการตม.ไม่ยากเย็นอย่างที่คิดครับ จริงๆผมเตรียมเอกสารมาเยอะมาก กะว่ามา Battle กับตม.เต็มที่ ทั้ง Plan การเดินทาง / booking ที่พัก / ประกันการเดินทาง / เอกสาร Free VISA สำหรับคนไทย ทั้งภาษาอังกฤษ และรัสเซีย แต่ก็ผ่านมาแบบง่ายๆโดยถูกถามแค่ว่าเป็นนักท่องเที่ยวใช่ไหม? พอตอบ Yes! พร้อมยิ้มหวาน ปั๊มผ่านให้เข้าประเทศทันที!
// เข้าเมือง
จากสนามบิน Domodedovo, Moscow ผมนั่งรถไฟ Aero Express เข้าเมืองครับ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที คนละ 450 RUB
ความตื่นเต้น มันเพิ่งมาเริ่มตรงนี้ล่ะครับ เมื่อมนุษย์เงินเดือนจากประเทศไทย ผู้คุ้นชินกันแต่กับรถไฟฟ้า BTS มาเจอ Aero Express รถไฟสองชั้นนั่งเข้าเมืองของมอสโคว บวกกับความหนาว และกระเป๋าที่ลากมาถึงชานชลา
“โห!!! นี่มันฟีลในหนังหนีตามกาลิเลโอชัดๆ!” โคตรดี!!!
เมื่อเข้าเมืองต่อ Metro อะไรเสร็จสรรพ ภาพแรกที่ต้อนรับเราก็คือ “วินมอเตอร์ไซค์ขับในทางเท้า เดี๋ยว! กูว่าผิดประเทศละ!” ... ความรู้สึกจริงๆตอนนั้นคือ โห! ไมมันสวยงี้วะ ภาพที่คนรัสเซียเห็นคือ ชาวเอเชีย 5 คน ที่คาดว่าน่าจะมาจากประเทศจีน กำลังยื่นชื่นชมแยกไฟแดง ทางม้าลาย และมุมตึกอยู่ 555 ก็เพราะมันสวยทุกมุมจริงๆ (อย่าถือสากับรูป ของจริงสวยกว่า 10 เท่า)
ลากกระเป๋ามาสักพัก ก็ถึงที่พักของเราตลอด 4 วันนี้ที่มอสโคว Sputnik Hostel Personal Space
ที่พักดีทุกอย่างครับ ทั้งโลเคชั่น สถานที่ ความสะอาด สะดวกสบาย สต๊าฟ แต่...อยู่ชั้น 4 และไม่มีลิฟก์ 555 วันอื่นไม่รู้สึกอะไร เท่าวันไปและวันกลับ ที่ต้องลากกระเป๋าหนักเกือบ 20 โลไปด้วย 555
วันแรกไม่อะไรมาก กะพักร่างจากการเดินทางมาไกล ให้ได้ชินกับอะไรรอบๆก่อน เลยเดินไปถามจูเลียร์ สต๊าฟ hostel ลุค nice แบบนิ่งๆและดูกวนตีนนิดๆว่า มีร้านอาหารอะไรแถวนี้แนะนำไหม นางก็บอกมาพร้อมกับทิ้งท้ายว่า “พวกยูต้องไปลอง Home made Vodka นะ มันคือทีเด็ดของที่นี่!” ด๊ายยยยจูเลียร์ มันจะสักเท่าไหนกันเชียว...
โอโห!!! เล่นซะกูร้อนผ่าววววไปทั้งตัวเลยจ้า เหมือนกินเหล้าขาวผสมเบอรี่ ถ้าต่อแก้วสองมีเซได้เลย 555 แต่ยังไงมาแล้วก็แนะนำให้ลองครับ
หลังกินข้าว ก็เข้าซุปเปอร์มาเก็ตต่อ! …เรื่องความเว่อวังอลังการ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหมครับ!!! นี่คือ Eliseyevskiy ซุปเปอร์มาเก็ต 24 ชม.ของรัสเซีย ถ้าเป็นซุปเปอร์ธรรมดา โลกมันจะจำได้ยังไงล่ะ! 555
Day 2 | Lenins Mausoleum - Kremlin Place - Space Museum of Cosmonautics
“อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริ..ง่วงชิพหาย!!!” ไม่มีความร่าเริงผสมอยู่เหมือนในเนื้อเพลงสักนิด 555
วันนี้เราตื่นกันเช้ามากๆ เพราะมีการปรับแพลนเที่ยวนิดหน่อย เพื่อให้ David เพื่อนเกาหลีที่เจอกันที่ Hostel ของเราได้ไปเที่ยวด้วยกันได้
เดินฝ่าอากาศหนาวๆตามเดวิดมันมาเข้าแถวที่ “สุสานเลนิน” เอ่อ..คือ..เดวิด เออ เข้าก็ได้วะ!
ในสุสานเลนิน ห้ามถ่ายรูปนะครับ เดินวน 1 รอบ ดูร่างของเลนิน ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียต ที่เค้าบอกว่าเป็นร่างจริงๆ แล้วก็วนออก จบ! ...กูอุส่าห์ไม่เอาลงไปในแพลนแล้วนะเดวิด 555
(ตรงนี้เป็นด้านนอก ที่เดินเลยออกมาแล้วนะครับ)
Kremlin Palace อันนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ และใช้เวลาเดินมากที่สุดในบรรดา Land Mark สำคัญๆของที่นี่เลยครับ เพราะภายในพระราชวังเคลมลินมันกว้างมาก และแบ่งเป็นหลายโซน ซึ่งเวลาซื้อบัตร ก็จะต้องซื้อแยกๆเป็นโซน สามารถไปยืนอ่านตรงที่ซื้อบัตรอีกทีก็ได้ครับ ว่าเราอยากเข้าโซนไหนบ้าง ส่วนผมไปมาประมาณ 3 โซนครับ ซึ่งโชคดีมากๆคือ วันที่ผมไปแทบไม่ต้องต่อคิวอะไรเลย คนน้อยมาก
อีกหนึ่งทีเด็ดของที่นี่ไม่ใช่อะไรครับ มันคือร้านอาหาร MY MY เป็นคล้ายๆฟู้ดคอร์ทแบบ IKEA บ้านเรา ที่จะต้องถือถาดต่อแถวไปเลือกอาหาร แล้วจ่ายตังค์ที่ปลายทาง แนะนำนะครับ อร่อยดี ราคาไม่แพง มีหลายสาขาในมอสโควด้วย
“ทัชดาวน์ คอนเฟิร์ม!!!”
นั่งรถไฟออกจากใจกลางเมืองมาสักพัก ก็มาถึง Space Musuem ที่ๆเป็นเป้าหมายสำคัญของทุกคนในทริปครับ แหม! ก็อุส่าห์มาถึงประเทศที่เค้าส่งมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศได้เป็นประเทศแรกของโลกทั้งที จะไม่ให้มาดูได้ไง
ใน Space Musuem มีทั้งเรื่องราว อุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่างๆเกี่ยวกับอวกาศของรัสเซีย ทั้งชุดนักบินอวกาศจริงๆ ยานอวกาศสมัยก่อนจริงๆ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงอาหารอวกาศ ที่มีให้ได้ลองกินหลายรสชาติเลย!!! (ผมซื้อมาอันนึง รอดูรีวิวได้ที่เพจได้เลยครับ อาจจะมีอ้วกโชว์ 555)
Day 3 | State historical museum - GUM - Saint Basil's Cathedral - Arabat Street
อธิบายง่ายๆถึง Red Square จุดรวมแลนด์มาร์คสำคัญของรัสเซียไว้งี้ละกันครับ เพื่อให้เห็นภาพ คือมันจะเหมือนโซนๆสนามหลวงบ้านเราครับ ที่จะถูกล้อมรอบด้วยแลนด์มาร์คสำคัญๆต่างๆที่เดินถึงกันได้ เหมือนเราเดินจากวัดพระแก้ว ไปตึกกระทรวงกลาโหมได้ ไปศาลหลักเมืองได้ อะไรแบบนี้อะครับ
ถ้าเสิร์ชว่าห้าง GUM แน่นอน! ก็ต้องเจอร้านไอติมที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ที่เป็นตู้ขายอยู่หัวท้ายห้าง ผ่านไปใครมาก็ซื้อกินกันเป็นว่าเล่น ทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งคนรัสเซีย แต่ผมว่าจริงๆแล้วเจ้าที่อร่อยกว่าคือร้านไอติมรถเข็นตามเสา ตามมุมในห้างครับ ราคาเท่ากันเลยโคนละ 100 RUB (ประมาณ 50 บาท) ไปลองดูครับ
ไม่แปลกใจ ว่าทำไมสถาปนิกที่ออกแบบ Saint Basil's Cathedral ถึงโดนควักลูกตา!!!
ก็เพราะว่ามันสวยมากๆจริงๆเลยครับ มันเหมือนปราสาทในนิทานเลยและไม่ได้สวยแค่ข้างนอกนะครับ ข้างในนี่รายละเอียดดีมาก ทั้งสวยทั้งขลังจริงๆ // เรื่องโดนควักลูกตา ลองไปหาอ่านดูคร่าวๆก็ได้ครับถ้าใครอยากรู้ กลัวเขียนแล้วจะยาวไป
อีกหนึ่งมุมแถวๆ Red Square ที่ผมว่าถ่ายรูปสวยมากๆ ได้ทั้งวิวแม่น้ำมอสโควแบบเต็มๆ และวิวแลนด์มาร์คสำคัญอย่างพระรามวังเคลมลิน มหาวิหาร Saint Basil และห้ามกุม รวมอยู่ด้วยกันอีกด้วย นั้นก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำมอสโคว อยู่ด้านหลังมหาวิหาร Saint Basil ครับ สวยมากกกกกกกกก!
Day 4 | ตลาดของฝาก Izmailovsky Market - นั่งรถไฟข้ามคืนไป St.Petersburg
จริงๆแพลนวันนี้ มีอีกสองสามที่ที่จะไป แต่ด้วยความที่ตื่นสายเลยเหลือที่เดียวพอ 555
นั่นก็คือตลาดของฝาก Izamailovsky ที่นี่จะฟีลเดียวกับจตุจักรบ้านเรา ต่อราคาได้ พ่อค้าแม่ค้าคุ้นเคยกับคนไทยดี บางร้านเราสามารถต่อราคาเป็นภาษาไทยได้เลย แม้เราจะพูดภาษาอังกฤษใส่ แม่ค้าก็จะพูดไทยตอบ 555
// แต่วันที่ผมไป ร้านเปิดน้อยมาก เพราะไม่ใช่วันเปิดหลักของตลาด และเย็นแล้วด้วย ถ้าอยากคึกครื้นให้มาเสาร์ อาทิตย์ กลางวันๆหน่อยนะครับ
9 วัน 8 คืนใน Moscow - Saint Petersburg เที่ยวยุโรป ในราคาไทยๆ | BOM AND JOURNEY
แต่ต่อจากนี้คงต้องคิดใหม่ แล้วถามตัวเองว่า "เมื่อไหร่ เราจะไปรัสเซียกันอีกดี…"
// ทริปนี้ผมใช้เงินไปทั้งหมด ไม่ถึงสองหมื่นครับ กินดี อยู่ดี เที่ยวดี (ไม่รวมตั๋วนะครับ ได้ตั๋วโปรของ Qatar ไปกลับ 9,600 บาท ถูกจนกังวลว่าจะไม่ถึงรัสเซีย)
// ค่าครองชีพที่นี่พอๆกับไทยเลยครับ มีแค่น้ำเปล่าที่ราคาโดด เราเลยกินอยู่ในราคาไทยๆเลย
// ทริปนี้บินมาลงที่ Moscow กลับที่ St.Petersburg ครับ
// ช่วงที่ผมมาคือกลาง พ.ย. ครับ อากาศประมาณ 5 ถึง -4 ยังไม่มีหิมะครับ
// ผมจะรวม short note สำคัญๆต่างๆเกี่ยวกับรัสเซียไว้ให้ตอนท้ายนะครับ
Day 1 ตั๋วถูก เลยต้องนั่งกันจนตูดเปื่อย
จริงๆเราสามารถบินตรงจากกรุงเทพฯไปรัสเซียได้เลยครับ ใช้เวลาประมาณ 9-10 ชม.
แต่สายการบินคงคิดว่ามันสบายไปหน่อยสำหรับพวกตั๋ว 9,600 อย่างเรา 555 เลยต้องไปแวะเปลี่ยนเครื่อง 1 stop ที่ DOHA แต่ก็ใช้เวลาแป๊บเดียวมากๆ ไม่ถึง 2 ชม.
ถือว่าเป็นเรื่องดีๆที่ได้พักเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน และได้ชมวิวสวยๆแบบนี้ ก่อนที่จะถึงรัสเซีย
“Cabin Crew Prepare for landing”
ล้อเครื่องแตะพื้น ในใจยังตื่นเต้นน้อยกว่าความเมื่อยที่นั่งมาเลย 555 ถึงสักที “รัสเซียจ๋า กูมาแล้วจ้า”
กระบวนการตม.ไม่ยากเย็นอย่างที่คิดครับ จริงๆผมเตรียมเอกสารมาเยอะมาก กะว่ามา Battle กับตม.เต็มที่ ทั้ง Plan การเดินทาง / booking ที่พัก / ประกันการเดินทาง / เอกสาร Free VISA สำหรับคนไทย ทั้งภาษาอังกฤษ และรัสเซีย แต่ก็ผ่านมาแบบง่ายๆโดยถูกถามแค่ว่าเป็นนักท่องเที่ยวใช่ไหม? พอตอบ Yes! พร้อมยิ้มหวาน ปั๊มผ่านให้เข้าประเทศทันที!
// เข้าเมือง
จากสนามบิน Domodedovo, Moscow ผมนั่งรถไฟ Aero Express เข้าเมืองครับ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที คนละ 450 RUB
ความตื่นเต้น มันเพิ่งมาเริ่มตรงนี้ล่ะครับ เมื่อมนุษย์เงินเดือนจากประเทศไทย ผู้คุ้นชินกันแต่กับรถไฟฟ้า BTS มาเจอ Aero Express รถไฟสองชั้นนั่งเข้าเมืองของมอสโคว บวกกับความหนาว และกระเป๋าที่ลากมาถึงชานชลา
“โห!!! นี่มันฟีลในหนังหนีตามกาลิเลโอชัดๆ!” โคตรดี!!!
เมื่อเข้าเมืองต่อ Metro อะไรเสร็จสรรพ ภาพแรกที่ต้อนรับเราก็คือ “วินมอเตอร์ไซค์ขับในทางเท้า เดี๋ยว! กูว่าผิดประเทศละ!” ... ความรู้สึกจริงๆตอนนั้นคือ โห! ไมมันสวยงี้วะ ภาพที่คนรัสเซียเห็นคือ ชาวเอเชีย 5 คน ที่คาดว่าน่าจะมาจากประเทศจีน กำลังยื่นชื่นชมแยกไฟแดง ทางม้าลาย และมุมตึกอยู่ 555 ก็เพราะมันสวยทุกมุมจริงๆ (อย่าถือสากับรูป ของจริงสวยกว่า 10 เท่า)
ลากกระเป๋ามาสักพัก ก็ถึงที่พักของเราตลอด 4 วันนี้ที่มอสโคว Sputnik Hostel Personal Space
ที่พักดีทุกอย่างครับ ทั้งโลเคชั่น สถานที่ ความสะอาด สะดวกสบาย สต๊าฟ แต่...อยู่ชั้น 4 และไม่มีลิฟก์ 555 วันอื่นไม่รู้สึกอะไร เท่าวันไปและวันกลับ ที่ต้องลากกระเป๋าหนักเกือบ 20 โลไปด้วย 555
วันแรกไม่อะไรมาก กะพักร่างจากการเดินทางมาไกล ให้ได้ชินกับอะไรรอบๆก่อน เลยเดินไปถามจูเลียร์ สต๊าฟ hostel ลุค nice แบบนิ่งๆและดูกวนตีนนิดๆว่า มีร้านอาหารอะไรแถวนี้แนะนำไหม นางก็บอกมาพร้อมกับทิ้งท้ายว่า “พวกยูต้องไปลอง Home made Vodka นะ มันคือทีเด็ดของที่นี่!” ด๊ายยยยจูเลียร์ มันจะสักเท่าไหนกันเชียว...
โอโห!!! เล่นซะกูร้อนผ่าววววไปทั้งตัวเลยจ้า เหมือนกินเหล้าขาวผสมเบอรี่ ถ้าต่อแก้วสองมีเซได้เลย 555 แต่ยังไงมาแล้วก็แนะนำให้ลองครับ
หลังกินข้าว ก็เข้าซุปเปอร์มาเก็ตต่อ! …เรื่องความเว่อวังอลังการ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหมครับ!!! นี่คือ Eliseyevskiy ซุปเปอร์มาเก็ต 24 ชม.ของรัสเซีย ถ้าเป็นซุปเปอร์ธรรมดา โลกมันจะจำได้ยังไงล่ะ! 555
Day 2 | Lenins Mausoleum - Kremlin Place - Space Museum of Cosmonautics
“อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริ..ง่วงชิพหาย!!!” ไม่มีความร่าเริงผสมอยู่เหมือนในเนื้อเพลงสักนิด 555
วันนี้เราตื่นกันเช้ามากๆ เพราะมีการปรับแพลนเที่ยวนิดหน่อย เพื่อให้ David เพื่อนเกาหลีที่เจอกันที่ Hostel ของเราได้ไปเที่ยวด้วยกันได้
เดินฝ่าอากาศหนาวๆตามเดวิดมันมาเข้าแถวที่ “สุสานเลนิน” เอ่อ..คือ..เดวิด เออ เข้าก็ได้วะ!
ในสุสานเลนิน ห้ามถ่ายรูปนะครับ เดินวน 1 รอบ ดูร่างของเลนิน ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียต ที่เค้าบอกว่าเป็นร่างจริงๆ แล้วก็วนออก จบ! ...กูอุส่าห์ไม่เอาลงไปในแพลนแล้วนะเดวิด 555
(ตรงนี้เป็นด้านนอก ที่เดินเลยออกมาแล้วนะครับ)
Kremlin Palace อันนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ และใช้เวลาเดินมากที่สุดในบรรดา Land Mark สำคัญๆของที่นี่เลยครับ เพราะภายในพระราชวังเคลมลินมันกว้างมาก และแบ่งเป็นหลายโซน ซึ่งเวลาซื้อบัตร ก็จะต้องซื้อแยกๆเป็นโซน สามารถไปยืนอ่านตรงที่ซื้อบัตรอีกทีก็ได้ครับ ว่าเราอยากเข้าโซนไหนบ้าง ส่วนผมไปมาประมาณ 3 โซนครับ ซึ่งโชคดีมากๆคือ วันที่ผมไปแทบไม่ต้องต่อคิวอะไรเลย คนน้อยมาก
อีกหนึ่งทีเด็ดของที่นี่ไม่ใช่อะไรครับ มันคือร้านอาหาร MY MY เป็นคล้ายๆฟู้ดคอร์ทแบบ IKEA บ้านเรา ที่จะต้องถือถาดต่อแถวไปเลือกอาหาร แล้วจ่ายตังค์ที่ปลายทาง แนะนำนะครับ อร่อยดี ราคาไม่แพง มีหลายสาขาในมอสโควด้วย
“ทัชดาวน์ คอนเฟิร์ม!!!”
นั่งรถไฟออกจากใจกลางเมืองมาสักพัก ก็มาถึง Space Musuem ที่ๆเป็นเป้าหมายสำคัญของทุกคนในทริปครับ แหม! ก็อุส่าห์มาถึงประเทศที่เค้าส่งมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศได้เป็นประเทศแรกของโลกทั้งที จะไม่ให้มาดูได้ไง
ใน Space Musuem มีทั้งเรื่องราว อุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่างๆเกี่ยวกับอวกาศของรัสเซีย ทั้งชุดนักบินอวกาศจริงๆ ยานอวกาศสมัยก่อนจริงๆ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงอาหารอวกาศ ที่มีให้ได้ลองกินหลายรสชาติเลย!!! (ผมซื้อมาอันนึง รอดูรีวิวได้ที่เพจได้เลยครับ อาจจะมีอ้วกโชว์ 555)
Day 3 | State historical museum - GUM - Saint Basil's Cathedral - Arabat Street
อธิบายง่ายๆถึง Red Square จุดรวมแลนด์มาร์คสำคัญของรัสเซียไว้งี้ละกันครับ เพื่อให้เห็นภาพ คือมันจะเหมือนโซนๆสนามหลวงบ้านเราครับ ที่จะถูกล้อมรอบด้วยแลนด์มาร์คสำคัญๆต่างๆที่เดินถึงกันได้ เหมือนเราเดินจากวัดพระแก้ว ไปตึกกระทรวงกลาโหมได้ ไปศาลหลักเมืองได้ อะไรแบบนี้อะครับ
ถ้าเสิร์ชว่าห้าง GUM แน่นอน! ก็ต้องเจอร้านไอติมที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ที่เป็นตู้ขายอยู่หัวท้ายห้าง ผ่านไปใครมาก็ซื้อกินกันเป็นว่าเล่น ทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งคนรัสเซีย แต่ผมว่าจริงๆแล้วเจ้าที่อร่อยกว่าคือร้านไอติมรถเข็นตามเสา ตามมุมในห้างครับ ราคาเท่ากันเลยโคนละ 100 RUB (ประมาณ 50 บาท) ไปลองดูครับ
ไม่แปลกใจ ว่าทำไมสถาปนิกที่ออกแบบ Saint Basil's Cathedral ถึงโดนควักลูกตา!!!
ก็เพราะว่ามันสวยมากๆจริงๆเลยครับ มันเหมือนปราสาทในนิทานเลยและไม่ได้สวยแค่ข้างนอกนะครับ ข้างในนี่รายละเอียดดีมาก ทั้งสวยทั้งขลังจริงๆ // เรื่องโดนควักลูกตา ลองไปหาอ่านดูคร่าวๆก็ได้ครับถ้าใครอยากรู้ กลัวเขียนแล้วจะยาวไป
อีกหนึ่งมุมแถวๆ Red Square ที่ผมว่าถ่ายรูปสวยมากๆ ได้ทั้งวิวแม่น้ำมอสโควแบบเต็มๆ และวิวแลนด์มาร์คสำคัญอย่างพระรามวังเคลมลิน มหาวิหาร Saint Basil และห้ามกุม รวมอยู่ด้วยกันอีกด้วย นั้นก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำมอสโคว อยู่ด้านหลังมหาวิหาร Saint Basil ครับ สวยมากกกกกกกกก!
Day 4 | ตลาดของฝาก Izmailovsky Market - นั่งรถไฟข้ามคืนไป St.Petersburg
จริงๆแพลนวันนี้ มีอีกสองสามที่ที่จะไป แต่ด้วยความที่ตื่นสายเลยเหลือที่เดียวพอ 555
นั่นก็คือตลาดของฝาก Izamailovsky ที่นี่จะฟีลเดียวกับจตุจักรบ้านเรา ต่อราคาได้ พ่อค้าแม่ค้าคุ้นเคยกับคนไทยดี บางร้านเราสามารถต่อราคาเป็นภาษาไทยได้เลย แม้เราจะพูดภาษาอังกฤษใส่ แม่ค้าก็จะพูดไทยตอบ 555
// แต่วันที่ผมไป ร้านเปิดน้อยมาก เพราะไม่ใช่วันเปิดหลักของตลาด และเย็นแล้วด้วย ถ้าอยากคึกครื้นให้มาเสาร์ อาทิตย์ กลางวันๆหน่อยนะครับ