คุณบรรยง พงษ์พานิช ที่ปลุกกระแสความเหลื่อมล้ำในการถือครองทรัพย์สิน นับเป็นบุคคลสำคัญในวงการการเงิน การธนาคาร และเศรษฐศาสตร์คนหนึ่ง
แต่ไม่คิดว่า คุณบรรยงจะเลอะเทอะได้ถึงขนาดนี้
สืบเนื่องจากประเด็นความเลื่อมล้ำในการถือครองทรัพย์สิน เป้นที่น่าวิตกว่าคนไทยจะอยู่ในภาวะ "แก่ก่อนรวย" ว่าง่ายคือ มีรายได้มีกินมีใช้ก็จริง แต่พอแก่ตัวกลับไม่มีทรัพย์สินพอให้ดำรงชีพได้
ซึ่งคุณบรรยง ห่วงใยประเด็นนี้เป็นพิเศษ ก็เลยพยายามตีแผ่เรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าคุณบรรยงกำลังล้ำเส้นจากการตีแผ่มาเป็นก่อดราม่า
เมื่อวันที่ 5/12/61 คุณบรรยง ได้โพสตืเฟสส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องนี้
ลิ้งค์ https://www.facebook.com/banyong.pongpanich/posts/1001185230084776
โดยจั่วหัวมาอย่างชัดเจนว่า "#ไอ๊ย่ะ.....#สองปีที่แล้วแค่ได้ขึ้นโพเดียม(อันดับสาม) #ปีนี้ครองแชมป์โลกไปซะแล่ว"
แล้วก็สาธยายข้อมูลจากเครดิตสวิส

ทั้งๆที่คุณบรรยง รู้เต็มอกว่ารายงานนี้ ออกรายงานมาแค่ 40ประเทศ จาก 193ประเทศของมนุษยชาติ
แต่ก็ยังใช้คำว่า#ปีนี้ครองแชมป์โลกไปซะแล่ว
ซึ่งสติปัญญาระดับคุณบรรยง น่าจะรู้วิธีการพาดหัวให้ตรงกับข้อเท็จจริงมันควรจะเป็นอย่างไร
ถ้าจะให้ตรงกับข้อเท็จจริง ก็ควรพาดหัวว่า "ประเทศไทยเหลื่อมล้ำในการถือครองทรัพยืสินมากที่สุดในรายงานของCS" หรือ "ประเทศไทยครองแชมป์เหลื่อมล้ำที่สุดใน40ประเทศจากรายงานของCS" ฯลฯ
แต่คุณบรรยงเลือกใช้วิธีพาดหัวก่อดราม่า และด้วยคุณภาพสื่อไทย ก็เอาประเด็นนี้ไปตีแผ่ทันที
แทนที่คนจะสนใจประเด็นความเหลื่อมล้ำ แทนที่เราจะได้เห็น"วาระสังคม" ว่าด้วยความเหลื่อมล้ำในการถือครองทรัพย์ ได้เห็นคนระดมความคิดกันแก้ปัญหา แต่ปรากฎว่าจากข่าวนี้นำมาสู่ดราม่ามากมาย ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเหลื่อมล้ำเลย เช่น
"เพราะไอ้ตู่ไง เลยเหลื่อมล้ำแบบนี้"
"เพราะไอ้แม้วนั่นแหละ ที่ทำให้เหลื่อมล้ำ เพราะข้อมูลตั้งแต่ปี49" ฯลฯ

ต่อมาวันที่ 7/12/61 คุณบรรยงได้ออกมาชี้แจงตามโพสต์ต่อไปนี้
ลิงค์ https://www.facebook.com/banyong.pongpanich/posts/1002402713296361
และมาพร้อมกับความตลกต่อที่1 คือออกมาบอกว่า"จั่วหัวเรียกความสนใจ" ไทยเหลื่อมล้ำมากสุดใน 40ประเทศที่ออกรายงานมา "แต่ก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เขียนบอกไว้ให้เละเอียด"

ตัวเองพาดหัวใช้คำว่า #ปีนี้ครองแชมป์โลกไปซะแล่ว แต่กลับมาขอโทษเหนียมๆอยู่ในวรรคนี้ และก็ชี้แจงประเด็นอื่นๆต่อไป

พอไม่นานนัก สภาพัฒน์มีการแถลงประเด็นนี้ โดยโฆษกสภาพัฒน์ คุณบรรยงก็ได้โพสต์โต้กลับคำชี้อแจงของสภาพัฒน์
โดยในตอนท้ายคุณบรรยงได้ทิ้งท้ายเอาไว้ ซึ่งเป็นความตลกต่อที่2 ดังนี้

ทั้งๆที่ตัวเองจั่วหัวว่า "ไทยครองแชมป์" "ไทยเหลื่อมล้ำที่สุดในโลก" โดยไม่ได้พาดหัวให้ตรงประเด็นแท้ๆ แต่ตอนหลังกลับมาบอกในทำนองว่าเห็นด้วยกับโฆษกสภาพัฒน์ที่บอกว่า"เรา(ไทย)ไม่ได้เหลื่อมล้ำที่สุดในโลก"

แถมมีตลกต่อที่3อีกคือ คุณบรรยงบอกในทำนองว่าดีใจที่ได้จุดกระแสนี้ขึ้นมาให้คนสนใจ

ไม่ทราบว่าคุณบรรยงจะรู้หรือไม่ว่ากระแสที่คุณบรรยงสร้างขึ้นมานั้น มันไม่ได้ทำให้คนในสังคมสนใจเรื่องความเหลื่อมล้ำจริงๆ แต่เป็นประเด็นมาให้คนดราม่ากัน ด่ากันไปด่ากันมา โยงไปเรื่องแม้วเรื่องตู่ พรรคการเมืองหลายพรรคก็ออกมาตีกิน            
ผมอยากถามคุณบรรยงว่า มีตรงไหนที่คนสนใจเรื่องนี้จริงๆ และร่วมมือร่วมใจกันผลักดันให้เป็นวาระสังคม เพื่อนำไปสู่การแก้ปํญหา "คำตอบคือไม่มี" ก็มีแต่ด่ากันไปมาเต็มเฟสไปหมดอย่างที่ผมบอก

นี่เรายังไม่ได้คุยถึงเรื่องความน่าเชื่อถือของรายงายของเครดิตสวิส เพราะข้อมูลของไทยนั้นยังน้อย และค่อนข้างเก่า ถึงแม้จะมีวิธีการปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด แต่วิธีการของเครดิตสวิสนั้น จะเป็นที่น่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหนนั้น ก็ยังสรุปได้ยาก
แถมเครดิตสวิสนั้น ยังเป็นเจ้าเดียวกับที่บอกว่าคนไทยมีความมั่งคั่งต่อประชากรเพิ่มขึ้นประมาณ 300% หรือ 8.2% ต่อปี
https://www.posttoday.com/finance/news/572836

ไม่รู้ว่าคุณบรรยงได้อ่านรายงานนี้ของเครดิตสวิส คุณบรรยงจะรู้สึกอย่างไรกับการจัดทำรายงานของเครดิตสวิส หรือคนที่บอกว่าข้อมูลของเครดิตน่าเชื่อถือสุดๆ พอมาเจอข่าวนี้ ผมก็อยากรู้ว่า ข้อมูลของเครดิตสวิสยังน่าเชื่อถือสุดๆหรือไม่

แต่ที่แน่ๆเรื่องนี้เริ่มด้วยการบิดเบือน จงใจก่อดราม่า กลายเป็นดราม่าใหญ่โต แต่ท้ายสุดสังคมไม่ได้อะไรนอกจากดราม่าด่ากันไปมา
เริ่มด้วยดราม่า มันก็ย่อมจบด้วยดราม่าใช้ไหมครับ คุณบรรยง พงษ์พาณิช

จากใจ คนที่ติดตามอ่านงานเขียนมาตลอด แต่ไม่คิดว่าวันนี้คุณจะเลอะเลือนได้ขนาดนี้