30 ปีความเหลื่อมล้ำพุ่ง! ....ไทยรัฐออนไลน์ .../sao..เหลือ..noi

กระทู้สนทนา
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงานนำเสนอผลการศึกษา
โครงการ “ศาสตร์พระราชากับการพัฒนาที่ยั่งยืนและตัวชี้วัดความยั่งยืนชุมชนมั่นพัฒนา” ว่า
การพัฒนาของไทยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจหรือจีดีพีไทยเพิ่มขึ้นมาก แต่ดัชนีการกระจาย
รายได้จาก 30 ปีที่แล้ว อยู่ที่ .487 ปัจจุบันอยู่ที่ .484 แสดงให้เห็นว่าสัดส่วนการกระจายรายได้
ลดลง หรือมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น

โดยพบว่าคนจน 20% แรกมีสัดส่วนรายได้ 4% ส่วนคนรวย 20% แรกมีสัดส่วนรายได้ 54%
ขณะเดียวกันคนจน 20% แรกมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น 2,000 บาท แต่คนรวยเพิ่มขึ้น 20,000 บาท
ขณะที่ตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า คนที่มีเงินในบัญชีเกิน 10 ล้านบาท มีแค่
100,000 บัญชี แต่มีเงินรวมกันเท่ากับ 50% ของเงินในบัญชีทั้งหมดกว่า 90 ล้านบัญชีของคนไทย
และคนที่มีเงินในบัญชีไม่เกิน 50,000 บาท มีประมาณ 70 ล้านบัญชี คนจำนวนมากมีเงินในบัญชี
เฉลี่ยประมาณ 4,000-5,000 บาท ส่วนการถือครองที่ดินนั้นจำนวนคน 20% ของประชากรทั้งหมด
ถือครองที่ดินรวมกันกว่า 80% ของที่ดินทั้งหมด โดยคนที่มีที่ดินมากสุดของประเทศมีมากถึง 600,000 ไร่

“ช่วงนี้มีคนส่งข้อมูลในโลกโซเชียลต่อๆกันว่า ไทยมีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด เป็นเบอร์หนึ่งของโลกแล้ว
แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาที่เราภาคภูมิใจกันนักหนานั้น ตัวบ่งชี้ความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้
หรือการกระจายความร่ำรวยนั้นไม่ได้ดีขึ้น เพราะว่าคนที่จนที่สุดไม่มีเงินออม เงินในบัญชีจึงไม่เพิ่มขึ้น
แต่คนรวยมีเงินออมและเข้าถึงโอกาสทุกอย่าง จึงสะสมความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นได้รวดเร็ว ระยะห่างจึงยิ่งมาก
ขึ้น เจ้าสัววิ่งเร็วมากแต่พี่น้องประชาชนค่อยๆคลานกันไป จึงไม่มีทางที่ความเหลื่อมล้ำจะลดลง”

นายกอบศักดิ์กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.ธนาคารชุมชน และร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน เข้า ครม.
รวมทั้ง พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน เพื่อนำไปสร้างความเข้มแข็งให้คนระดับล่าง ให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้
ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอนาคต.

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่