ออกตัวก่อนว่า เพื่อนสนิทมาปรึกษาครับ
เพื่อนจะบ่นว่าคนที่ไม่เข้าใจโรคไบโพล่าก็จะคิดว่าเป็นนิสัย ไม่ได้เกิดจากอาการป่วย เกิดจากที่บ้านตามใจจนเคยตัว แต่อยากให้ลองเปิดใจ google ดูก่อนครับว่าพฤติกรรมที่ว่า เป็นอาการของโรคนี้จริงๆ
อาการบางส่วนของผู้ป่วยจะประมาณนี้ครับ (ฟังเพื่อนเล่ามาอีกที จำได้บ้างไม่ได้บ้าง)
คนป่วยที่บ้านเพื่อนป่วยเป็นไบโพล่า ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการรรักษา ยาไม่ค่อยกิน เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้ป่วย คิดว่าหมอหลอกเอาเงินค่ารักษา กับค่ายา ช่วงกินยาก็เหมือนจะกลับมาเป็นปกติ แต่พอไม่ค่อยกินยาซักพักก็อาการกำเริบ
อาการกำเริบก็จะมีพฤติกรรมประมาณนี้
มั่นใจมาก ใครห้ามขัด ใครขัดใจก็จะโมโห
ใช้เงินเปลืองมากกกกกก ไม่มีเหตุผลในการตัดสินใจ อารมณ์ล้วนๆ
อยากจะเป็นเจ้าของกิจการ อยากลงทุน มีโครงการในหัวหลายโครงการ แต่เนื่องจากใช้เงินอย่างไม่มีเหตุผลก็เลยเจ๊งหมด เพราะตัดสินใจด้วยอารมณ์ไม่ได้ใช้เหตุผล
วันดีคืนดีไปถอนเงินจำนวนมากจากธนาคารมาซื้อของที่อยากได้ อยากให้พ่อกับแม่ขายที่ดินเพื่อเอาเงินมาใช้
วันดีคืนดีเอาเงินไปซื้อของไม่จำเป็น อ้อนวอนให้ซื้อให้ แต่พอซื้อมาได้ก็เห่อได้แป๊บเดียวก็เลิกเห่อ วางกองเป็นขยะเต็มห้อง
พอขัดใจไม่ยอมตามใจก็อาละวาด
ช่วงอาการกำเริบ วันดีคืนดี อาการหนักๆ จะคิดไปเองว่าคนอื่นจะมาทำร้าย แต่พอกินยาก็จะกลับมาปกติ
ฯลฯ
ปัจจุบันคนป่วยอยู่กับพ่อแม่ เพราะพี่น้องแต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้ว ต่างคนมุ่งเป้าไปดูแลครอบครัว แต่ก็ผลัดกันช่วยดูแลคนป่วยได้เท่าที่ทำได้
พ่อแม่ของคนป่วยก็อายุมากแล้ว อีกหน่อยผู้ป่วยจะเหลือแค่พี่น้อง
ที่ผ่านมาครอบครัวของผู้ป่วยระแวงตลอดว่าผู้ป่วยจะไปก่อหนี้ที่ไหนอีก
ก็เลยอยากหาทางออกแต่ก็ไม่รู้ว่าสามารถทำได้ไหม
คือ สามารถฟ้องศาลให้ผู้ป่วยไบโพล่าห์ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา มีอาการรุนแรง เป็นๆ หายๆ ให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ โดยให้แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นแบบที่ว่าจริงๆ ได้ไหมครับ
ตามมาตรา 32, 34 ใช่ไหมครับ
จะได้ไม่ต้องมาพะวงว่า คนป่วยจะไปก่อหนี้ที่ไหนอีก
สามารถฟ้องศาลให้ผู้ป่วยไบโพล่าห์ไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา มีอาการรุนแรง เป็นๆ หายๆ เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถได้ไหม
เพื่อนจะบ่นว่าคนที่ไม่เข้าใจโรคไบโพล่าก็จะคิดว่าเป็นนิสัย ไม่ได้เกิดจากอาการป่วย เกิดจากที่บ้านตามใจจนเคยตัว แต่อยากให้ลองเปิดใจ google ดูก่อนครับว่าพฤติกรรมที่ว่า เป็นอาการของโรคนี้จริงๆ
อาการบางส่วนของผู้ป่วยจะประมาณนี้ครับ (ฟังเพื่อนเล่ามาอีกที จำได้บ้างไม่ได้บ้าง)
คนป่วยที่บ้านเพื่อนป่วยเป็นไบโพล่า ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการรรักษา ยาไม่ค่อยกิน เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้ป่วย คิดว่าหมอหลอกเอาเงินค่ารักษา กับค่ายา ช่วงกินยาก็เหมือนจะกลับมาเป็นปกติ แต่พอไม่ค่อยกินยาซักพักก็อาการกำเริบ
อาการกำเริบก็จะมีพฤติกรรมประมาณนี้
มั่นใจมาก ใครห้ามขัด ใครขัดใจก็จะโมโห
ใช้เงินเปลืองมากกกกกก ไม่มีเหตุผลในการตัดสินใจ อารมณ์ล้วนๆ
อยากจะเป็นเจ้าของกิจการ อยากลงทุน มีโครงการในหัวหลายโครงการ แต่เนื่องจากใช้เงินอย่างไม่มีเหตุผลก็เลยเจ๊งหมด เพราะตัดสินใจด้วยอารมณ์ไม่ได้ใช้เหตุผล
วันดีคืนดีไปถอนเงินจำนวนมากจากธนาคารมาซื้อของที่อยากได้ อยากให้พ่อกับแม่ขายที่ดินเพื่อเอาเงินมาใช้
วันดีคืนดีเอาเงินไปซื้อของไม่จำเป็น อ้อนวอนให้ซื้อให้ แต่พอซื้อมาได้ก็เห่อได้แป๊บเดียวก็เลิกเห่อ วางกองเป็นขยะเต็มห้อง
พอขัดใจไม่ยอมตามใจก็อาละวาด
ช่วงอาการกำเริบ วันดีคืนดี อาการหนักๆ จะคิดไปเองว่าคนอื่นจะมาทำร้าย แต่พอกินยาก็จะกลับมาปกติ
ฯลฯ
ปัจจุบันคนป่วยอยู่กับพ่อแม่ เพราะพี่น้องแต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้ว ต่างคนมุ่งเป้าไปดูแลครอบครัว แต่ก็ผลัดกันช่วยดูแลคนป่วยได้เท่าที่ทำได้
พ่อแม่ของคนป่วยก็อายุมากแล้ว อีกหน่อยผู้ป่วยจะเหลือแค่พี่น้อง
ที่ผ่านมาครอบครัวของผู้ป่วยระแวงตลอดว่าผู้ป่วยจะไปก่อหนี้ที่ไหนอีก
ก็เลยอยากหาทางออกแต่ก็ไม่รู้ว่าสามารถทำได้ไหม
คือ สามารถฟ้องศาลให้ผู้ป่วยไบโพล่าห์ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา มีอาการรุนแรง เป็นๆ หายๆ ให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ โดยให้แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นแบบที่ว่าจริงๆ ได้ไหมครับ
ตามมาตรา 32, 34 ใช่ไหมครับ
จะได้ไม่ต้องมาพะวงว่า คนป่วยจะไปก่อหนี้ที่ไหนอีก