กราบสวัสดีชาว Pantip ทุกท่านครับ นี่เป็นการ Review รวมถึงการเขียน Pantip ครั้งแรกของผม เพราะฉะนั้น !!
ถ้าอ่านแล้ว งงๆ อย่าว่ากันนะครับ ....

งานแต่งงานของเราเริ่มจากการที่ผมขอแฟนของผมแต่งงานตั้งแต่วันที่ 21 – 04 – 17 แล้วเราก็เริ่มวางแผนจากการหาวันที่ดีๆกับเราซึ่งเราสองคนเน้นฤกษ์มากกกก นั่นคือ ฤกษ์ สะดวกกกก !!
เราเลยมองช่วง วาเลนไทน์ปี 2018 ซึ่งถือว่าเร็วมากกกก และยังไปชนกับเพื่อนๆของเราอีกหลายคน เพราะงั้น ผ่านครับ !!
ผ่านไปจนมาได้วันที่ 11 – 11 – 18 นั่นเอง !!

เอิ่มมม สามสี่บรรทัดผมพาไปไม่เกี่ยวกับสถานที่ ที่จะรีวิวเลยทีเดียว ฮ่ะ !! เข้าเรื่องงงง !!
หลังจากได้วันแล้ว เราคิดกันว่าจะจัดงานแบบหมั้นเช้า และแต่งเย็น ขอแบบภาพและวีดีโอเช้างามๆโชว์ช่วงงานเย็นเลย !!
ต่อมาเราก็คุยกันถึงงานเช้า ว่าเราอยากให้เป็นงานสำหรับญาติๆ และเพื่อนสนิทๆร่วมงานสัก 80-100 คน เราก็เริ่มมองหาสถานที่
ด้วยความที่เราสองคนบ้านอยู่แถวๆหลักสี่ รามอินทราเราก็กวาดดูสถานที่แต่งงานละแวกนี้ไม่ว่า โรงแรม – เรือนไทย – สโมสร ต่างๆ
และก็เจอ วิภาวดีพาเลซ เข้าให้ !!
ซึ่งตอนที่เจอนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และยังไม่เปิดให้บริการ (แต่เริ่มมีการจองกันบ้างแล้ว) ครั้งแรกที่เราเข้ามา ก็แปลกหูแปลกตามากไม่เคยเจอที่จัดงานสไตล์นี้เลย เป็นแบบย้อนยุคไปในช่วงรัชกาลที่ 5 (น่าจะประมาณนั้นนะครับ)

ที่วิภาวดีพาเลซ มีให้ใช้จัดงาน 3 เรือนครับ หอชมวัง – เรือนปารุสก์ – เรือนวิภาวดี ซึ่งด้วยจำนวนคนร่วมงานของเรา รวมถึงความชอบของคุณผู้หญิงแล้ว ไปจบที “เรือนปารุสก์” ครับ

เรือนปารุสก์เป็นอาคารหลังสีเหลือง 2 ชั้นตั้งเด่นเป็นสง่าตั้งแต่เข้ามาจอดรถ ด้านหน้ามีน้ำพุ อยู่ด้วย ตามรูปเลยครับ
ภายในชั้น 1 ถูกจัดวางโต๊ะสำหรับจัดเลี้ยง หรือรับรองผู้เข้าร่วมงาน อยู่ประมาณสัก 10-15 โต๊ะน่าจะได้ มีเวทีขนาดกำลังดี และมีห้องน้ำด้านหลังของตัวอาคาร (ห้องน้ำก็เยอะพอสมควร และดูดีม๊วกเลยครับ แต่ผมแอบลายตากับกระเบื้องนิดๆ แต่ก็สวยดีครับ) เริ่มตั้งแต่เข้าบ้านมาทางเข้าจะจัดวางโต๊ะลงทะเบียนและจุดแกลลอรี่เล็กๆหรือใหญ่ๆตามใจได้เลยครับ

จากนั้นเข้าบ้านมาทางซ้ายเจอบันไดโค้งๆ เป็นอีกมุมที่มาละไม่ถ่ายรูปเห็นจะไม่ได้ ซึ่งผมคิดว่ามุมนี้สวยมากกกก ถ้าเป็นช่วงเช้าแสงเข้าด้านหน้าบ้าน กระจกตรงบันไดพอดี เป๊ะเวอร์ๆๆๆครับ
(ตอนนี้ผมเองยังไม่ได้รูป เดียวถ้าได้ละจะมาอัพเดทอีกทีนะครับ

)
มาชั้น 2 ก็แบ่งเป็นโซนๆไปเลย ขึ้นมาถึงตรงหน้าจะเจอกับชุดโซฟาหลุยส์นำเข้าจากฝรั่งเศส (เห็นบอกราคาหลักครึ่งล้าน นั่งกันระวังๆเลยทีเดียว) มุมนี้จะจัดไว้สำหรับพิธีหมั้น –สู่ขอ – รับไหว้ ครับก็จะมีการจัดเรียงเก้าอี้ด้านหน้าโซฟาอยู่สัก 40-50 ตัวเห็นจะได้ครับ

ส่วนห้องทางซ้ายจะเป็นห้องสำหรับพิธีสงฆ์ครับ มียกที่นั่งขึ้นมาสำหรับพระสงฆ์สูงจากพื้น แล้วผู้เข้าร่วมงานรวมถึงบ่าวสาวไม่ต้องนั่งพื้น เพราะมีเก้าอี้ให้นั่งอย่างสวยงาม (อันนี้ผมกับแฟนค่อนข้างถูกใจเพราะผู้ใหญ่ของเราสองคนนั่งพื้นคงไม่ค่อยสะดวกแล้ว) ห้องนี้ทำมุมถ่ายวีดีโอได้สวยเลยทีเดียวครับ

ด้านหน้าห้องพิธีสงฆ์จะเป็นพื้นที่สำหรับรดน้ำสังข์ครับ ที่เรือนปารุสก์มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ไม่ต้องโยกของไป ย้ายของมาครับ

และสุดท้ายซ้ายมือถัดจากพื้นที่รดน้ำสังข์มีอีก 1 ห้องซึ่งถ้ามองว่าเป็นบ้านมันก็คือห้องนอนนั่นเอง ห้องนี้หลักๆทางพิธีจะใช้เป็นห้องส่งตัวครับ แต่ทางสถานที่นั้นให้ใช้สำหรับบ่าวสาวแต่งตัวแต่งหน้าทำผมได้ มีห้องน้ำในตัว มีตู้เสื้อผ้า มีตู้เซฟสำหรับเก็บของมีค่าครับ

คร่าวๆของสถานที่ในส่วนของเรือนปารุสก์ก็น่าจะประมาณนี้ครับ ส่วนของวันงานจริงๆนั้น ผมเองคิดว่าทีมงานเค้าค่อนข้างมืออาชีพทุกคนนะครับ ตอนแรกผมเองดูว่าทำไมเค้าใจเย็นจัง ดูบางทีเหมือนชะล่าใจไป แต่พอถึงเวลาจริงๆเค้าก็ทำตามแผนได้หมดครับ และผู้ใหญ่กับแขกส่วนใหญ่มาก็ชมกันเยอะครับ รวมๆส่วนตัวผมประทับใจครับ
และจากที่ได้ใช้บริการสถานที่จัดงานแต่งของ วิภาวดี พาเลซ แล้วนั้น ผมจะขอกล่าวถึงจุดเด่น และ สิ่งที่อยากให้ปรับปรุง (เพื่ออยากให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น) สักหน่อยนะครับ แบบส่วนตัวผมเองเลยละกันครับ
จุดเด่นของวิภาวดีพาเลซ (เรือนปารุสก์)
1. สถานที่สวยงามครับ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากกกก อันนี้คนส่วนใหญ่ที่มางานชมครับ
2. ตัวสถานที่เองเป็นสัดส่วนดี กว้างใช้ได้ ไม่ต้องโยกของไป ย้ายของมา
3. ส่วนของพิธีสงฆ์ บ่าวสาว แขกผู้ใหญ่ไม่ต้องนั่งพื้น (อันนี้ชอบส่วนตัวหน่อยครับ) เพราะญาติผู้ใหญ่เรา ขาแข้ง ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่แล้ว
4. ความเป็นมืออาชีพของทีมงานครับ (ทั้งจัดเตรียมของ พาทำพิธี และ อำนวยความสะดวกต่างๆ)
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงของวิภาวดีพาเลซ (เรือนปารุสก์) ,อยากให้พิจารณาปรับปรุง คือ
1. สถานที่ไม่มีแผนที่ให้ (แต่จะให้เป็นสแกนบาร์โค้ดแทน) เข้าใจว่ามันทันสมัยและช่วยประหยัดกระดาษได้นะครับ แต่แขกที่เป็นผู้ใหญ่จะเป็นปัญหาตรงนี้ครับ ด้วยความที่ ที่ตั้งอยู่ค่อนข้างลึก และเข้าออกได้หลายทาง การให้แผนที่น่าจะสำคัญ อยากให้ปรับปรุงเพิ่มการให้แผนที่ครับ (อันนี้ผมต้องทำเองละพิมพ์ใส่ซองให้แขกเอง)
2. เรือนนี้ที่วางรองเท้าอยู่หน้าบันไดเลย เวลาถ่ายรูปอาจจะต้องย้ายไปที่อื่นไม่ให้ติดเฟรมภาพ (วันงานเพื่อนบ่าวสาวย้ายกันเอง)
3. ถ้ามีการจัดงานชนกัน 2 งาน (ซึ่งของผมก็ชนครับ555) เจ้าหน้าที่อาจดูแลไม่ทั่วถึงในวันงาน ประมานนี้ครับ
Cri. ภาพส่วนใหญ่นำมาจาก FB ของวิภาวดีพาเลซ เองนะครับ และบางภาพจากที่ถ่ายช่วงมาดูสถานที่แรกๆ เพราะภาพของผมเองยังไม่ได้
แต่ส่วนของภาพบรรยากาศจะขอลงเป็นคลิป Presentation งานเช้าที่ตั้งใจเปิดในงานเย็นละกันนะครับ
ความเห็นส่วนใหญ่อาจอิงจากความเห็นส่วนตัวผมเป็นหลัก ถ้ามีอะไรผิดพลาดไปผมต้องขออภัยด้วยครับ....
TK..
[CR] REVIEW !! สถานที่แต่งงาน " วิภาวดีพาเลซ - เรือนปารุสก์ " - Vibhavadi Palace โดยเจ้าบ่าวไงจะใครล่ะ !!
ถ้าอ่านแล้ว งงๆ อย่าว่ากันนะครับ ....
งานแต่งงานของเราเริ่มจากการที่ผมขอแฟนของผมแต่งงานตั้งแต่วันที่ 21 – 04 – 17 แล้วเราก็เริ่มวางแผนจากการหาวันที่ดีๆกับเราซึ่งเราสองคนเน้นฤกษ์มากกกก นั่นคือ ฤกษ์ สะดวกกกก !!
เราเลยมองช่วง วาเลนไทน์ปี 2018 ซึ่งถือว่าเร็วมากกกก และยังไปชนกับเพื่อนๆของเราอีกหลายคน เพราะงั้น ผ่านครับ !!
ผ่านไปจนมาได้วันที่ 11 – 11 – 18 นั่นเอง !!
เอิ่มมม สามสี่บรรทัดผมพาไปไม่เกี่ยวกับสถานที่ ที่จะรีวิวเลยทีเดียว ฮ่ะ !! เข้าเรื่องงงง !!
หลังจากได้วันแล้ว เราคิดกันว่าจะจัดงานแบบหมั้นเช้า และแต่งเย็น ขอแบบภาพและวีดีโอเช้างามๆโชว์ช่วงงานเย็นเลย !!
ต่อมาเราก็คุยกันถึงงานเช้า ว่าเราอยากให้เป็นงานสำหรับญาติๆ และเพื่อนสนิทๆร่วมงานสัก 80-100 คน เราก็เริ่มมองหาสถานที่
ด้วยความที่เราสองคนบ้านอยู่แถวๆหลักสี่ รามอินทราเราก็กวาดดูสถานที่แต่งงานละแวกนี้ไม่ว่า โรงแรม – เรือนไทย – สโมสร ต่างๆ
และก็เจอ วิภาวดีพาเลซ เข้าให้ !!
ซึ่งตอนที่เจอนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และยังไม่เปิดให้บริการ (แต่เริ่มมีการจองกันบ้างแล้ว) ครั้งแรกที่เราเข้ามา ก็แปลกหูแปลกตามากไม่เคยเจอที่จัดงานสไตล์นี้เลย เป็นแบบย้อนยุคไปในช่วงรัชกาลที่ 5 (น่าจะประมาณนั้นนะครับ)
ที่วิภาวดีพาเลซ มีให้ใช้จัดงาน 3 เรือนครับ หอชมวัง – เรือนปารุสก์ – เรือนวิภาวดี ซึ่งด้วยจำนวนคนร่วมงานของเรา รวมถึงความชอบของคุณผู้หญิงแล้ว ไปจบที “เรือนปารุสก์” ครับ
ภายในชั้น 1 ถูกจัดวางโต๊ะสำหรับจัดเลี้ยง หรือรับรองผู้เข้าร่วมงาน อยู่ประมาณสัก 10-15 โต๊ะน่าจะได้ มีเวทีขนาดกำลังดี และมีห้องน้ำด้านหลังของตัวอาคาร (ห้องน้ำก็เยอะพอสมควร และดูดีม๊วกเลยครับ แต่ผมแอบลายตากับกระเบื้องนิดๆ แต่ก็สวยดีครับ) เริ่มตั้งแต่เข้าบ้านมาทางเข้าจะจัดวางโต๊ะลงทะเบียนและจุดแกลลอรี่เล็กๆหรือใหญ่ๆตามใจได้เลยครับ
จากนั้นเข้าบ้านมาทางซ้ายเจอบันไดโค้งๆ เป็นอีกมุมที่มาละไม่ถ่ายรูปเห็นจะไม่ได้ ซึ่งผมคิดว่ามุมนี้สวยมากกกก ถ้าเป็นช่วงเช้าแสงเข้าด้านหน้าบ้าน กระจกตรงบันไดพอดี เป๊ะเวอร์ๆๆๆครับ
(ตอนนี้ผมเองยังไม่ได้รูป เดียวถ้าได้ละจะมาอัพเดทอีกทีนะครับ
มาชั้น 2 ก็แบ่งเป็นโซนๆไปเลย ขึ้นมาถึงตรงหน้าจะเจอกับชุดโซฟาหลุยส์นำเข้าจากฝรั่งเศส (เห็นบอกราคาหลักครึ่งล้าน นั่งกันระวังๆเลยทีเดียว) มุมนี้จะจัดไว้สำหรับพิธีหมั้น –สู่ขอ – รับไหว้ ครับก็จะมีการจัดเรียงเก้าอี้ด้านหน้าโซฟาอยู่สัก 40-50 ตัวเห็นจะได้ครับ
ส่วนห้องทางซ้ายจะเป็นห้องสำหรับพิธีสงฆ์ครับ มียกที่นั่งขึ้นมาสำหรับพระสงฆ์สูงจากพื้น แล้วผู้เข้าร่วมงานรวมถึงบ่าวสาวไม่ต้องนั่งพื้น เพราะมีเก้าอี้ให้นั่งอย่างสวยงาม (อันนี้ผมกับแฟนค่อนข้างถูกใจเพราะผู้ใหญ่ของเราสองคนนั่งพื้นคงไม่ค่อยสะดวกแล้ว) ห้องนี้ทำมุมถ่ายวีดีโอได้สวยเลยทีเดียวครับ
ด้านหน้าห้องพิธีสงฆ์จะเป็นพื้นที่สำหรับรดน้ำสังข์ครับ ที่เรือนปารุสก์มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ไม่ต้องโยกของไป ย้ายของมาครับ
และสุดท้ายซ้ายมือถัดจากพื้นที่รดน้ำสังข์มีอีก 1 ห้องซึ่งถ้ามองว่าเป็นบ้านมันก็คือห้องนอนนั่นเอง ห้องนี้หลักๆทางพิธีจะใช้เป็นห้องส่งตัวครับ แต่ทางสถานที่นั้นให้ใช้สำหรับบ่าวสาวแต่งตัวแต่งหน้าทำผมได้ มีห้องน้ำในตัว มีตู้เสื้อผ้า มีตู้เซฟสำหรับเก็บของมีค่าครับ
คร่าวๆของสถานที่ในส่วนของเรือนปารุสก์ก็น่าจะประมาณนี้ครับ ส่วนของวันงานจริงๆนั้น ผมเองคิดว่าทีมงานเค้าค่อนข้างมืออาชีพทุกคนนะครับ ตอนแรกผมเองดูว่าทำไมเค้าใจเย็นจัง ดูบางทีเหมือนชะล่าใจไป แต่พอถึงเวลาจริงๆเค้าก็ทำตามแผนได้หมดครับ และผู้ใหญ่กับแขกส่วนใหญ่มาก็ชมกันเยอะครับ รวมๆส่วนตัวผมประทับใจครับ
และจากที่ได้ใช้บริการสถานที่จัดงานแต่งของ วิภาวดี พาเลซ แล้วนั้น ผมจะขอกล่าวถึงจุดเด่น และ สิ่งที่อยากให้ปรับปรุง (เพื่ออยากให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น) สักหน่อยนะครับ แบบส่วนตัวผมเองเลยละกันครับ
จุดเด่นของวิภาวดีพาเลซ (เรือนปารุสก์)
1. สถานที่สวยงามครับ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากกกก อันนี้คนส่วนใหญ่ที่มางานชมครับ
2. ตัวสถานที่เองเป็นสัดส่วนดี กว้างใช้ได้ ไม่ต้องโยกของไป ย้ายของมา
3. ส่วนของพิธีสงฆ์ บ่าวสาว แขกผู้ใหญ่ไม่ต้องนั่งพื้น (อันนี้ชอบส่วนตัวหน่อยครับ) เพราะญาติผู้ใหญ่เรา ขาแข้ง ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่แล้ว
4. ความเป็นมืออาชีพของทีมงานครับ (ทั้งจัดเตรียมของ พาทำพิธี และ อำนวยความสะดวกต่างๆ)
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงของวิภาวดีพาเลซ (เรือนปารุสก์) ,อยากให้พิจารณาปรับปรุง คือ
1. สถานที่ไม่มีแผนที่ให้ (แต่จะให้เป็นสแกนบาร์โค้ดแทน) เข้าใจว่ามันทันสมัยและช่วยประหยัดกระดาษได้นะครับ แต่แขกที่เป็นผู้ใหญ่จะเป็นปัญหาตรงนี้ครับ ด้วยความที่ ที่ตั้งอยู่ค่อนข้างลึก และเข้าออกได้หลายทาง การให้แผนที่น่าจะสำคัญ อยากให้ปรับปรุงเพิ่มการให้แผนที่ครับ (อันนี้ผมต้องทำเองละพิมพ์ใส่ซองให้แขกเอง)
2. เรือนนี้ที่วางรองเท้าอยู่หน้าบันไดเลย เวลาถ่ายรูปอาจจะต้องย้ายไปที่อื่นไม่ให้ติดเฟรมภาพ (วันงานเพื่อนบ่าวสาวย้ายกันเอง)
3. ถ้ามีการจัดงานชนกัน 2 งาน (ซึ่งของผมก็ชนครับ555) เจ้าหน้าที่อาจดูแลไม่ทั่วถึงในวันงาน ประมานนี้ครับ
Cri. ภาพส่วนใหญ่นำมาจาก FB ของวิภาวดีพาเลซ เองนะครับ และบางภาพจากที่ถ่ายช่วงมาดูสถานที่แรกๆ เพราะภาพของผมเองยังไม่ได้
แต่ส่วนของภาพบรรยากาศจะขอลงเป็นคลิป Presentation งานเช้าที่ตั้งใจเปิดในงานเย็นละกันนะครับ
ความเห็นส่วนใหญ่อาจอิงจากความเห็นส่วนตัวผมเป็นหลัก ถ้ามีอะไรผิดพลาดไปผมต้องขออภัยด้วยครับ....
TK..
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้