รีวิวทริปสุราบายา (06-10 ก.ค. 2018)
รีวิวนี้อาจจะยืดยาวเพราะรูปเยอะและพูดมากไปหน่อย ใครเบื่ออ่านข้ามๆก็ได้นะคะ 😂😂😅
ก็ไม่แน่ใจ ว่าไปไงมาไงถึงมาตกลงปลงใจเลือกทริปนี้กัน เพราะจริงๆมันอีกที่หลายทริปมาที่แพลนกันจะไป และปักหมุดวันเวลาเรียบร้อยแล้ว..อยู่ๆก็คุยกัน ไปที่นี่เถอะ แล้วก็เจอตั๋วถูก (หรือเปล่า?) ก็จองตั๋วไป 😂 สรุปเออ ไปก็ไปวะ ทริปอื่นพักไว้ก่อน ไปอันนี้กัน..ตอนแรกคือแอนจะไปกับกวาง 2 คน แต่จู่ๆ ก็มี 2 สามี-ภรรยา (รุ่นพี่กวาง) ขอติดตามไปด้วย เอ่า ไปก็ไปกัน go go
ทริปนี้เราต้องบิน กทม. - สุราบายา - กทม. ซึ่งตอนนี้ต้องบินแบบ Transfers เพราะสุราบายาไม่มีบินตรงแล้ว แอนกับกวางเลือกไป Transfers ที่สิงคโปร์ เพราะคิดว่าระหว่างรอเครื่องน่าจะมีของกินให้เลือกสรรเยอะกว่ามาเลเซีย ปล. ตอนไปแอนกับกวางบินไปแค่ 2 คน เพราะนัดเจอกับพี่ปึงและป้าแหม่มที่ปลายทางเด้อ

แต่ก่อนไป กวางมันได้ติดต่อ local guide ไว้ล่วงหน้าแล้ว ชื่อ Adit ซึ่งก่อนจะไปก็ศึกษาหาข้อมูลนี่ล่ะว่าจะไปยังไง ติดต่อไกด์คนไหนดี ซึ่งหลายๆรีวิวที่อ่าน เลยทำให้มาลงตัวที่ไกด์ Adit

ค่าใช้จ่าย คนละ 14,480 บาท
- ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ 2 คน 10,455 บาท (@5,230 บาท) ไปสายการบิน Scoot – กลับสายการบิน Jetstar
- ค่าทัวร์ที่สุราบายาตลอดทริป 10,600,000 รูเปีย ราคารวม 4 คน (ประมาณ 25,000 บาท) (@6,250 บาท) ราคานี้รวมค่ารถตู้ + ค่าน้ำมัน +local guide + ค่าโรงแรม 4 คืน พร้อมอาหารเช้า 3 มื้อ + ค่าเช่าม้า + ค่ารถจิ๊บ + ค่าตั๋วเข้าสถานที่ต่าง ฯลฯ
- ค่าโน่นนี่นั่นที่เป็นส่วนเกินอีกประมาณคนละ 3,000 บาท
ซิม internet
เราใช้ซิม AIS 2 Fly ซึ่งรองรับทั้งสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ..ในที่นี่ต้องยอมรับในบางจุดอาจไม่มีสัญญาณ เพราะขึ้นเขาสูง อยู่กลางหุบเขาบ้าง แต่ถ้าอยู่ในจุดปกติโดยรวมแล้วสัญญาณดี แรงเว่ออ่ะ
สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น
- เสื้อกันหนาว เพราะที่ Kawah Ijen และ Bromo หนาว ว ว ว ว ว มาก
- แมสปิดจมูก สำหรับใส่ตอนขึ้น Ijen เพราะกลิ่นกำมะถันจะแรงมาก แต่พอไปถึงข้างบนไกด์จะแจก gas mask ให้ใส่อีกชั้นนึง ,และสำหรับใส่ตอนไปปากปล่องภูเขาไฟ Bromo เพราะว่าฝุ่นจะเยอะมากเช่นกัน
- ไฟฉาย เพราะการเดินทางขึ้นเขาจะเป็นช่วงกลางคืน
- ยาแก้เมารถ สำหรับคนที่ชอบเมารถ เพราะเส้นทางแต่ละที่นั้น นับไม่ถูกเลยกว่าผ่านมาแล้วกี่หมื่นโค้ง 5555
- รองเท้าแตะ สำหรับใส่เข้าน้ำตกมาดาคารีปูรา
.........ไปค่ะ เริ่มรีวิวการเดินทาง...........
Day 1 : 06.07.2018 : สนามบินดอนเมือง
ทริปนี้เราเลือกบินขาไปโดยสายการบิน Scoot เที่ยวบินที่ TR-867
- เวลา 22.55 น. ออกเดินทางจาก สนามบินดอนเมือง
Day 2 : 07.07.2018 : สนามบิน Changi – Surabaya - Hotel Catimor
- เวลา 02.20 น. เดินทางถึง สนามบิน Changi สิงคโปร์ เพื่อรอ Transfers ต่อไปยัง สุราบายา ...รอเบาๆเอ๊ง ไม่นานมาก ไม่นานเลย แค่ 5 ชั่วโมง 55 นาที 555555555555 เป็นการรอต่อเครื่องที่นานที่สุดแล้วเนี่ย นั่งรอ นอนรอ ตีลังการอจนได้เวลาเดินทางต่อ
- เวลา 08.15 น. ออกเดินทางจากสนามบิน Changi สิงคโปร์ เที่ยวบินที่ TR-264
- เวลา 09.35 น. เดินทางถึง Surabaya เป็นที่เรียบร้อย
ถึงแล้วก็ติดต่อญาติสิคะจะรออะไร ซึ่งพี่ปึงกับพี่แหม่มเจอกับไกด์ท้องถิ่นไปก่อนหน้าเรามาถึงแล้ว...Hallo พี่ปึง พี่แหม่ม อยู่หนายยยยยยยยยยย น้องถึงแล้ว....พอเจอผู้ร่วมชะตากรรมครบแล้ว ไปค่ะ เดินไปหาไกด์กัน ไกด์ที่มารับเราไม่ใช่ Adit แต่เป็นหนุ่มน้อยตาหวานนามว่า อาลีฟ (ไม่แน่ใจชื่อเพราะเจอนางแปปเดียว) ซึ่งเดินทางมากับรถ Avanza 4 ประตู

…จริงๆแล้วตลอดทริปนี้ อาลีฟต้องเป็นไกด์ให้เรา แต่บังเอิญว่าพี่ปึงกับพี่แหม่มขอเปลี่ยนรถเป็นรถตู้ เพราะว่าสัมภาระของเราเยอะแยะมากโข คราวนี้พอเปลี่ยนเป็นรถตู้ ไกด์ก็ต้องโดนเปลี่ยนด้วยโดยปริยาย ไกด์คนใหม่นี้มีชื่อว่า Deddy คะ พอเห็นหน้าไกด์คนใหม่ครั้งแรกแล้วแบบว่า...เอาอาลีฟหนุ่มน้อยตาหวานของชั้นคืนมา 555555555 พอเปลี่ยนรถเรียบร้อยแล้ว Deddy ก็พาเราเริ่มออกเดินทางกันเลย
- เวลา 11.00 น. ไปคะไป ออกเดินทาง ..วันนี้แวะกินข้าวสาย (เที่ยง + เย็น) ตามปั๊ม (มื้อนี้ไม่รวมอยู่ในทริป)
อาหารมื้อแรก..

วันนี้ตามแพลน เราต้องนั่งรถไปอีกประมาณ 260 กว่ากิโล ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง (ถนนเล็กและขึ้นเขาเป็นส่วนมากเลยใช้เวลานาน) เพื่อไป check in ที่ Hotel Catimor แล้วไปต่อกันที่น้ำตก waterfall Belawan ...นั้นคือสิ่งที่วาดฝันไว้ ซึ่งเรื่องราวความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะกว่าเราจะไปถึงโรงแรมก็โน่นนนนนนนน เกือบ 3 ทุ่มแล้วคะพี่น้อง นั่งรถกันก้นบานเลยทีเดียว ใครจะไปไหนต่อได้ล่ะ ไม่ไปแล้ว เข้าห้องนอน!!!
- เวลา 21.00 น. check in ที่ Hotel Catimor ก่อนแยกย้ายไปนอน ก็ต้องนัดแนะกับ Deddy ซะหน่อย ไงยูว์ พรุ่งนี้เจอกันกี่โมง .... Deddy นัดเจอกัน 00.30 น. แม่เจ้าโว๊ย นี่ 3 ทุ่มกว่าแล้ว กว่าจะได้นอนก็ 4 ทุ่ม วันนี้สินะที่จะใส่ชุดนอนแล้วไม่ได้นอน ของจริง 55555555555 ไปคะ อาบน้ำแต่งตัวรอ ตื่นมาจะได้พร้อมเดินทางเลย good night ka.
Day 3 : 08.07.2018 : Kawah Ijen - waterfall Belawan - Cemara Indah Hotel
- เวลา 00.30 น. เรา 4 คน พร้อมออกเดินทางไป Kawah Ijen แต่ Deddy ยังไม่ตื่น!! 5555 ปล.ต่อไปนี้เราขอเรียก Deddy ว่าพี่ตูน เพราะทรงนางคล้ายๆพี่ตูน ก็เลยแซวนาง แล้วนางรู้จักพี่ตูนด้วยนะ อิอิ
เช้านี้พี่ตูน เอาขนมปังทาครีม1 คู่ กับไข่ต้ม 1 ฟอง ให้ทุกคนพกติดตัวไปกินตอนขึ้นเขา (มื้อนี้รวมในทริป)...พอทุกคนพร้อมแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทาง... Kawah Ijen มีระดับความสูง ประมาณ 2,386 M มีจุดเด่น คือ ลาวาสีฟ้า (Blue lava) หรือ เปลวไฟสีน้ำเงิน แนะนำนะคะ จุดนี้ควรพกน้ำเปล่าขวดเล็กไปด้วย เพราะจะเหนื่อยมาก
- เวลา 02.00 น. โดยประมาณ ก็ถึง ปากทาง Kawah Ijen วันนี้มีไกด์เพิ่มอีก 1 คน สำหรับพาขึ้นเขา (ค่าใช้จ่ายรวมไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่จะให้ทิปเขาอีกก็ได้) ส่วนพี่ตูนก็เดินไปด้วยกันกับเราอยู่ ...ขอบอกว่าหนาวมาก มาก มาก มาก ดีนะเมื่อวานแวะซื้อเสื้อกันหนาวไว้แล้ว แต่ด้วยความที่ต้องเดินขึ้นเขาไปอีก ไอ้ที่หนาวๆอยู่ก็ร้อนได้ เพราะว่าชั้นเหนื่อยเหลือเกิน กว่าจะไปถึง...จริงๆแล้วเขาลูกนี้ก็ไม่ได้สูงจนขนาดขึ้นไม่ไหวนะ..แล้วทำไมเราเกือบขึ้นไม่ไหว 5555
ช่วงแรกๆของการเดินก็ยังชิว เดินได้ไวอยู่ พอถึงกลางๆเขาเท่านั้นล่ะรู้เรื่อง!!! มันเหมือนเป็นทางชั้น 80 – 90 องศาได้มั้ง ด้วยความที่นอนน้อยขั้นสุด บวกกับความกดอากาศ และควันของกำมะถันที่ลอยอยู่ไกลๆ แอนเลยขอแวะอ้วก 2 รอบ..เดินไป 20 ก้าว บอกขอพักก่อน 😂 ขอเติมวิตามินในน้ำเปล่า เดินๆ อยู่สปีดช้าลง พี่ตูนคงรำคาญหรือสงสารไม่รู้ ก็ช่วยดันหลัง 55555 ...ก่อนจะมาที่นี่เป็นห่วงพี่ปึงกับพี่แหม่มจะไม่ไหว สรุปเป็นช้านเองที่ไม่ไหว พี่ปึงกับพี่แหม่มเดินอย่างชิวครับพี่น้อง 55555
เราใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ได้มั้ง (อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะลืมดูเวลาที่แน่นอน) ก็ได้นั่งรอให้ฟ้าสว่าง แต่จริงๆ ถ้าจะดู บลูเฟรม ต้องเดินลงไปข้างล่างอีก ปกติบลูเฟรม จะหมดหลังตี 5 นะ สำหรับใครจะดูต้องรีบลงไป...แต่ในส่วนของแอน กวาง และพี่แหม่มนั้น ชั้นขออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว ไม่ไหวจะไปแล้ว ปล่อยให้พี่ปึงกับไกด์อีกคนลงไปถ่ายรูปมาฝากก็แล้วกัน
พอฟ้าสว่าง หลังจากพักจนหายเหนื่อย เลยได้เดินขึ้นตรงสันเขา เก็บรูปภาพสวยๆมากฝากกัน และวันนี้นี่เอง ที่พวกเราได้รู้ว่า พี่ตูน local guide ของเรา ถ่ายรูปโครตสวย สวยมาก สวยเหลือเกิน.... พี่ตูน (Deddy) เป็นทุกอย่างให้เราแล้วจริงๆ ขับรถก็โครตเก่ง ถ่ายรูปก็โครตสวย entertain ก็ดีขั้นสุด ใจดีมาก มีน้ำใจงามเป็นเลิศ ...สรุปว่าโครตดีเลย รักนาง Love Love Love
และนี่ Good guide ของเรา " Deddy" หรือพี่ตูนนั่นเอง ^__^

- เวลา 07.30 น. หลังจากเต็มอิ่มกับความสวยตรงหน้าแล้ว ก็ได้เวลาเดินลงเขากลับ
- เวลา 09.30 น โดยประมาณ เรากลับมากินอาหารที่ โรงแรม (มื้อนี้ไม่รวมอยู่ในทริป) ตุนแรงไว้ เพราะหนทางนี้อีกยาวไกล
- เวลา 10.30 น. check out แล้วออกเดินทางไปยัง waterfall Belawan
จากโรงแรม นั่งรถมาประมาณ 10 นาที ..waterfall Belawan เป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่ แต่น้ำแรงมาก ถ้าตกลงไปอาจคอหักตายได้ ...แต่เหมือนเดิม สวยเหมือนเดิม ..และที่เหมือนเดิมอีกอย่างคือต้องเดินเข้าไปเหมือนเดิม 5555 ก่อนพบกับความสวยงามต้องใช้หยาดเหงื่อแลกมาคะ





- เวลา 11.30 น. ไปคะไป ออกเดินทางกันต่อ คราวนี้ยังคงรถยาวๆ อีก 6 ชั่วโมง เพื่อไป check in ที่ Cemara Indah Hotel
- ระหว่างทางพี่ตูนพากินข้าวร้านแบบพื้นบ้านอ่ะ อร่อย คนที่นี้น่ารักกว่าที่คิด ยิ้มแย้มตลอดเลย

- เวลาประมาณ 18.00 น. check in ที่ Cemara Indah Hote

เก็บประเป๋า แล้วเดินออกไปหาของกินกัน เมนูอาหารว่างมื้อเย็นนี้ พี่ตูนแนะนำไก่สะเต๊ะ อร่อยมากๆ รสชาติไม่เหมือนบ้านเราอ่ะ ส่วนผสมกันคนล่ะแบบ แต่อร่อยเหาะ


พอกินเสร็จก็เดินดูของแถวนั้นนิดหน่อย แล้วก็กลับมากินข้าวเย็นที่ โรงแรมกัน (มื้อนี้ไม่รวมอยู่ในทริป) ก่อนจะแยกย้ายไปนอน พักเอาแรงก่อนขึ้น Mount Bromo. พรุ่งนี้ ซึ่งพี่ตูนนัดเจอเราอีกที ตอน 01.30 น.
เลี้ยวไป Indonesia >> Bromo - Ijen - waterfallBelawan - Savanna <<
รีวิวนี้อาจจะยืดยาวเพราะรูปเยอะและพูดมากไปหน่อย ใครเบื่ออ่านข้ามๆก็ได้นะคะ 😂😂😅
ก็ไม่แน่ใจ ว่าไปไงมาไงถึงมาตกลงปลงใจเลือกทริปนี้กัน เพราะจริงๆมันอีกที่หลายทริปมาที่แพลนกันจะไป และปักหมุดวันเวลาเรียบร้อยแล้ว..อยู่ๆก็คุยกัน ไปที่นี่เถอะ แล้วก็เจอตั๋วถูก (หรือเปล่า?) ก็จองตั๋วไป 😂 สรุปเออ ไปก็ไปวะ ทริปอื่นพักไว้ก่อน ไปอันนี้กัน..ตอนแรกคือแอนจะไปกับกวาง 2 คน แต่จู่ๆ ก็มี 2 สามี-ภรรยา (รุ่นพี่กวาง) ขอติดตามไปด้วย เอ่า ไปก็ไปกัน go go
ทริปนี้เราต้องบิน กทม. - สุราบายา - กทม. ซึ่งตอนนี้ต้องบินแบบ Transfers เพราะสุราบายาไม่มีบินตรงแล้ว แอนกับกวางเลือกไป Transfers ที่สิงคโปร์ เพราะคิดว่าระหว่างรอเครื่องน่าจะมีของกินให้เลือกสรรเยอะกว่ามาเลเซีย ปล. ตอนไปแอนกับกวางบินไปแค่ 2 คน เพราะนัดเจอกับพี่ปึงและป้าแหม่มที่ปลายทางเด้อ
แต่ก่อนไป กวางมันได้ติดต่อ local guide ไว้ล่วงหน้าแล้ว ชื่อ Adit ซึ่งก่อนจะไปก็ศึกษาหาข้อมูลนี่ล่ะว่าจะไปยังไง ติดต่อไกด์คนไหนดี ซึ่งหลายๆรีวิวที่อ่าน เลยทำให้มาลงตัวที่ไกด์ Adit
ค่าใช้จ่าย คนละ 14,480 บาท
- ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ 2 คน 10,455 บาท (@5,230 บาท) ไปสายการบิน Scoot – กลับสายการบิน Jetstar
- ค่าทัวร์ที่สุราบายาตลอดทริป 10,600,000 รูเปีย ราคารวม 4 คน (ประมาณ 25,000 บาท) (@6,250 บาท) ราคานี้รวมค่ารถตู้ + ค่าน้ำมัน +local guide + ค่าโรงแรม 4 คืน พร้อมอาหารเช้า 3 มื้อ + ค่าเช่าม้า + ค่ารถจิ๊บ + ค่าตั๋วเข้าสถานที่ต่าง ฯลฯ
- ค่าโน่นนี่นั่นที่เป็นส่วนเกินอีกประมาณคนละ 3,000 บาท
ซิม internet
เราใช้ซิม AIS 2 Fly ซึ่งรองรับทั้งสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ..ในที่นี่ต้องยอมรับในบางจุดอาจไม่มีสัญญาณ เพราะขึ้นเขาสูง อยู่กลางหุบเขาบ้าง แต่ถ้าอยู่ในจุดปกติโดยรวมแล้วสัญญาณดี แรงเว่ออ่ะ
สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น
- เสื้อกันหนาว เพราะที่ Kawah Ijen และ Bromo หนาว ว ว ว ว ว มาก
- แมสปิดจมูก สำหรับใส่ตอนขึ้น Ijen เพราะกลิ่นกำมะถันจะแรงมาก แต่พอไปถึงข้างบนไกด์จะแจก gas mask ให้ใส่อีกชั้นนึง ,และสำหรับใส่ตอนไปปากปล่องภูเขาไฟ Bromo เพราะว่าฝุ่นจะเยอะมากเช่นกัน
- ไฟฉาย เพราะการเดินทางขึ้นเขาจะเป็นช่วงกลางคืน
- ยาแก้เมารถ สำหรับคนที่ชอบเมารถ เพราะเส้นทางแต่ละที่นั้น นับไม่ถูกเลยกว่าผ่านมาแล้วกี่หมื่นโค้ง 5555
- รองเท้าแตะ สำหรับใส่เข้าน้ำตกมาดาคารีปูรา
Day 1 : 06.07.2018 : สนามบินดอนเมือง
ทริปนี้เราเลือกบินขาไปโดยสายการบิน Scoot เที่ยวบินที่ TR-867
- เวลา 22.55 น. ออกเดินทางจาก สนามบินดอนเมือง
Day 2 : 07.07.2018 : สนามบิน Changi – Surabaya - Hotel Catimor
- เวลา 02.20 น. เดินทางถึง สนามบิน Changi สิงคโปร์ เพื่อรอ Transfers ต่อไปยัง สุราบายา ...รอเบาๆเอ๊ง ไม่นานมาก ไม่นานเลย แค่ 5 ชั่วโมง 55 นาที 555555555555 เป็นการรอต่อเครื่องที่นานที่สุดแล้วเนี่ย นั่งรอ นอนรอ ตีลังการอจนได้เวลาเดินทางต่อ
- เวลา 08.15 น. ออกเดินทางจากสนามบิน Changi สิงคโปร์ เที่ยวบินที่ TR-264
- เวลา 09.35 น. เดินทางถึง Surabaya เป็นที่เรียบร้อย
ถึงแล้วก็ติดต่อญาติสิคะจะรออะไร ซึ่งพี่ปึงกับพี่แหม่มเจอกับไกด์ท้องถิ่นไปก่อนหน้าเรามาถึงแล้ว...Hallo พี่ปึง พี่แหม่ม อยู่หนายยยยยยยยยยย น้องถึงแล้ว....พอเจอผู้ร่วมชะตากรรมครบแล้ว ไปค่ะ เดินไปหาไกด์กัน ไกด์ที่มารับเราไม่ใช่ Adit แต่เป็นหนุ่มน้อยตาหวานนามว่า อาลีฟ (ไม่แน่ใจชื่อเพราะเจอนางแปปเดียว) ซึ่งเดินทางมากับรถ Avanza 4 ประตู
…จริงๆแล้วตลอดทริปนี้ อาลีฟต้องเป็นไกด์ให้เรา แต่บังเอิญว่าพี่ปึงกับพี่แหม่มขอเปลี่ยนรถเป็นรถตู้ เพราะว่าสัมภาระของเราเยอะแยะมากโข คราวนี้พอเปลี่ยนเป็นรถตู้ ไกด์ก็ต้องโดนเปลี่ยนด้วยโดยปริยาย ไกด์คนใหม่นี้มีชื่อว่า Deddy คะ พอเห็นหน้าไกด์คนใหม่ครั้งแรกแล้วแบบว่า...เอาอาลีฟหนุ่มน้อยตาหวานของชั้นคืนมา 555555555 พอเปลี่ยนรถเรียบร้อยแล้ว Deddy ก็พาเราเริ่มออกเดินทางกันเลย
- เวลา 11.00 น. ไปคะไป ออกเดินทาง ..วันนี้แวะกินข้าวสาย (เที่ยง + เย็น) ตามปั๊ม (มื้อนี้ไม่รวมอยู่ในทริป)
อาหารมื้อแรก..
วันนี้ตามแพลน เราต้องนั่งรถไปอีกประมาณ 260 กว่ากิโล ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง (ถนนเล็กและขึ้นเขาเป็นส่วนมากเลยใช้เวลานาน) เพื่อไป check in ที่ Hotel Catimor แล้วไปต่อกันที่น้ำตก waterfall Belawan ...นั้นคือสิ่งที่วาดฝันไว้ ซึ่งเรื่องราวความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะกว่าเราจะไปถึงโรงแรมก็โน่นนนนนนนน เกือบ 3 ทุ่มแล้วคะพี่น้อง นั่งรถกันก้นบานเลยทีเดียว ใครจะไปไหนต่อได้ล่ะ ไม่ไปแล้ว เข้าห้องนอน!!!
- เวลา 21.00 น. check in ที่ Hotel Catimor ก่อนแยกย้ายไปนอน ก็ต้องนัดแนะกับ Deddy ซะหน่อย ไงยูว์ พรุ่งนี้เจอกันกี่โมง .... Deddy นัดเจอกัน 00.30 น. แม่เจ้าโว๊ย นี่ 3 ทุ่มกว่าแล้ว กว่าจะได้นอนก็ 4 ทุ่ม วันนี้สินะที่จะใส่ชุดนอนแล้วไม่ได้นอน ของจริง 55555555555 ไปคะ อาบน้ำแต่งตัวรอ ตื่นมาจะได้พร้อมเดินทางเลย good night ka.
Day 3 : 08.07.2018 : Kawah Ijen - waterfall Belawan - Cemara Indah Hotel
- เวลา 00.30 น. เรา 4 คน พร้อมออกเดินทางไป Kawah Ijen แต่ Deddy ยังไม่ตื่น!! 5555 ปล.ต่อไปนี้เราขอเรียก Deddy ว่าพี่ตูน เพราะทรงนางคล้ายๆพี่ตูน ก็เลยแซวนาง แล้วนางรู้จักพี่ตูนด้วยนะ อิอิ
เช้านี้พี่ตูน เอาขนมปังทาครีม1 คู่ กับไข่ต้ม 1 ฟอง ให้ทุกคนพกติดตัวไปกินตอนขึ้นเขา (มื้อนี้รวมในทริป)...พอทุกคนพร้อมแล้ว เราก็เริ่มออกเดินทาง... Kawah Ijen มีระดับความสูง ประมาณ 2,386 M มีจุดเด่น คือ ลาวาสีฟ้า (Blue lava) หรือ เปลวไฟสีน้ำเงิน แนะนำนะคะ จุดนี้ควรพกน้ำเปล่าขวดเล็กไปด้วย เพราะจะเหนื่อยมาก
- เวลา 02.00 น. โดยประมาณ ก็ถึง ปากทาง Kawah Ijen วันนี้มีไกด์เพิ่มอีก 1 คน สำหรับพาขึ้นเขา (ค่าใช้จ่ายรวมไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่จะให้ทิปเขาอีกก็ได้) ส่วนพี่ตูนก็เดินไปด้วยกันกับเราอยู่ ...ขอบอกว่าหนาวมาก มาก มาก มาก ดีนะเมื่อวานแวะซื้อเสื้อกันหนาวไว้แล้ว แต่ด้วยความที่ต้องเดินขึ้นเขาไปอีก ไอ้ที่หนาวๆอยู่ก็ร้อนได้ เพราะว่าชั้นเหนื่อยเหลือเกิน กว่าจะไปถึง...จริงๆแล้วเขาลูกนี้ก็ไม่ได้สูงจนขนาดขึ้นไม่ไหวนะ..แล้วทำไมเราเกือบขึ้นไม่ไหว 5555
ช่วงแรกๆของการเดินก็ยังชิว เดินได้ไวอยู่ พอถึงกลางๆเขาเท่านั้นล่ะรู้เรื่อง!!! มันเหมือนเป็นทางชั้น 80 – 90 องศาได้มั้ง ด้วยความที่นอนน้อยขั้นสุด บวกกับความกดอากาศ และควันของกำมะถันที่ลอยอยู่ไกลๆ แอนเลยขอแวะอ้วก 2 รอบ..เดินไป 20 ก้าว บอกขอพักก่อน 😂 ขอเติมวิตามินในน้ำเปล่า เดินๆ อยู่สปีดช้าลง พี่ตูนคงรำคาญหรือสงสารไม่รู้ ก็ช่วยดันหลัง 55555 ...ก่อนจะมาที่นี่เป็นห่วงพี่ปึงกับพี่แหม่มจะไม่ไหว สรุปเป็นช้านเองที่ไม่ไหว พี่ปึงกับพี่แหม่มเดินอย่างชิวครับพี่น้อง 55555
เราใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ได้มั้ง (อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะลืมดูเวลาที่แน่นอน) ก็ได้นั่งรอให้ฟ้าสว่าง แต่จริงๆ ถ้าจะดู บลูเฟรม ต้องเดินลงไปข้างล่างอีก ปกติบลูเฟรม จะหมดหลังตี 5 นะ สำหรับใครจะดูต้องรีบลงไป...แต่ในส่วนของแอน กวาง และพี่แหม่มนั้น ชั้นขออยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว ไม่ไหวจะไปแล้ว ปล่อยให้พี่ปึงกับไกด์อีกคนลงไปถ่ายรูปมาฝากก็แล้วกัน
พอฟ้าสว่าง หลังจากพักจนหายเหนื่อย เลยได้เดินขึ้นตรงสันเขา เก็บรูปภาพสวยๆมากฝากกัน และวันนี้นี่เอง ที่พวกเราได้รู้ว่า พี่ตูน local guide ของเรา ถ่ายรูปโครตสวย สวยมาก สวยเหลือเกิน.... พี่ตูน (Deddy) เป็นทุกอย่างให้เราแล้วจริงๆ ขับรถก็โครตเก่ง ถ่ายรูปก็โครตสวย entertain ก็ดีขั้นสุด ใจดีมาก มีน้ำใจงามเป็นเลิศ ...สรุปว่าโครตดีเลย รักนาง Love Love Love
- เวลา 07.30 น. หลังจากเต็มอิ่มกับความสวยตรงหน้าแล้ว ก็ได้เวลาเดินลงเขากลับ
- เวลา 09.30 น โดยประมาณ เรากลับมากินอาหารที่ โรงแรม (มื้อนี้ไม่รวมอยู่ในทริป) ตุนแรงไว้ เพราะหนทางนี้อีกยาวไกล
- เวลา 10.30 น. check out แล้วออกเดินทางไปยัง waterfall Belawan
จากโรงแรม นั่งรถมาประมาณ 10 นาที ..waterfall Belawan เป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่ แต่น้ำแรงมาก ถ้าตกลงไปอาจคอหักตายได้ ...แต่เหมือนเดิม สวยเหมือนเดิม ..และที่เหมือนเดิมอีกอย่างคือต้องเดินเข้าไปเหมือนเดิม 5555 ก่อนพบกับความสวยงามต้องใช้หยาดเหงื่อแลกมาคะ
- เวลา 11.30 น. ไปคะไป ออกเดินทางกันต่อ คราวนี้ยังคงรถยาวๆ อีก 6 ชั่วโมง เพื่อไป check in ที่ Cemara Indah Hotel
- ระหว่างทางพี่ตูนพากินข้าวร้านแบบพื้นบ้านอ่ะ อร่อย คนที่นี้น่ารักกว่าที่คิด ยิ้มแย้มตลอดเลย
- เวลาประมาณ 18.00 น. check in ที่ Cemara Indah Hote
เก็บประเป๋า แล้วเดินออกไปหาของกินกัน เมนูอาหารว่างมื้อเย็นนี้ พี่ตูนแนะนำไก่สะเต๊ะ อร่อยมากๆ รสชาติไม่เหมือนบ้านเราอ่ะ ส่วนผสมกันคนล่ะแบบ แต่อร่อยเหาะ
พอกินเสร็จก็เดินดูของแถวนั้นนิดหน่อย แล้วก็กลับมากินข้าวเย็นที่ โรงแรมกัน (มื้อนี้ไม่รวมอยู่ในทริป) ก่อนจะแยกย้ายไปนอน พักเอาแรงก่อนขึ้น Mount Bromo. พรุ่งนี้ ซึ่งพี่ตูนนัดเจอเราอีกที ตอน 01.30 น.