5 ธันวาคม 2561, กรุงเทพ — GET Thailand เปิดตัวแอพพลิเคชั่น GET โดยให้ผู้ที่ได้รับเลือกจากการลงทะเบียนก่อนล่วงหน้าดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก Google Play Store เพื่อเรียกใช้บริการวินมอเตอร์ไซต์ (GET WIN) และส่งของ (GET DELIVERY) ฟรีไม่จำกัดเที่ยว
GET Thailand เปิดตัวแอพพลิเคชั่น GET เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม 2561 โดยให้บริการช่วงทดสอบนี้ในเขตวังทองหลาง ลาดพร้าวและจตุจักร โดยผู้ใช้แต่ละคนจะสามารถใช้บริการได้ในระยะเวลาไม่เกิน 6 กิโลเมตร นับจากจุดที่เรียกใช้บริการ
GET Thailand เปิดตัวไปก่อนหน้านี้อย่างยิ่งใหญ่ในงาน DigitalThailand Big Bang 2018 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นโดย DEPA ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
โดยมีนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา, รองนายกรัฐมนตรี ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, รองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย รวมถึงตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้สนใจอื่น ๆ จำนวนมาก เข้าเยี่ยมชมและทำความรู้จักกับ GET Thailand และร่วมลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับสิทธิ์ทดลอง Beta App ของ GET Thailand ในงาน
จากการร่วมทดสอบการใช้ในวันแรก (5 ธันวาคม 2561) ไม่ว่าใกล้ไกล (ในระยะทางไม่เกิน 6 กิโลเมตรจากจุดที่เรียกใช้บริการ) วินมอเตอร์ไซต์จะได้รับค่าจ้างในราคา 70 บาทต่อเที่ยว ในขณะที่ผู้ร่วมทดสอบไม่เสียค่าใช้จ่าย แอพพลิเคชั่นใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก มีภาพอะนิเมชั่นแสดงว่า คนขับที่เรียกอยู่ตรงจุดไหน กำลังเดินทางมาถึงจุดไหน และคนขับจะโทรคอนเฟิร์มลูกค้าทุกครั้งเพื่อให้อุ่นใจเมื่อต้องรอใช้บริการ
GET Thailand ได้รับเงินสนับสนุนจาก Go-Jek ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่และรับส่งสินค้ารายใหญ่ในอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Go-Jek เปิดตัวแอพพลิเคชั่นเดียวกันนี้ในสิงคโปร์ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน เพื่อท้าชนกับ Grab ผู้เล่นรายใหญ่เจ้าถิ่นอยู่แล้ว
ทั้ง Go-Jek และ Grab ระดมทุนกว่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนและชิงส่วนแบ่งการตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเรียกยานพาหนะในการเดินทาง สั่งซื้อสินค้าออนไลน์และชำระค่าสินค้าและบริการโดยไม่ใช้เงินสดกว่า 640 ล้านคน
Go-Jek ได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทยักษืใหญ่หลายค่าย เช่น Tencent Holdings ของจีน Temasek Holdings จาดสิงคโปร์ และ Google ของ Alphabet Inc
อังเดร โซลิสทีโอ ประธานบริษัท Go-Jek บอกกับผู้สื่อข่าวในงานเปิดตัวที่สิงคโปร์ว่า ด้วยความที่ Go-Jek เป็นบริการใหม่ในตลาด บริษัทก็จะเน้นเรื่องการให้โปรโมชั่นแก่ผู้ใช้ และในที่สุดก็ต้องวัดกันที่ราคาและการบริการที่จะทำให้ Go-Jek นั้นแตกต่างจากคู่แข่ง
Grab ได้รับเงินสนับสนุนจาก Soft Bank ของญี่ปุ่น และ Didi Chuxing ซึ่งเป้นบริษัทให้บริการเรียกรถรับส่งโดยสารสัญชาติจีน โดย Grab ได้เข้าซื้อกิจการของ Uber Technologies ที่กำลังขาดทุนอย่างหนักในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ และทำให้การเข้าซื้อกิจการของ Uber ในครั้งนั้นเป็นการซื้อกิจการที่สร้างความฮือฮาให้วงการธุรกิจไม่น้อย
กิจการของ Grab หลังเข้าซื้อ Uber ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่ายว่าเป็นการผูกขาดตลาดและทำให้ค่าบริการสูงขึ้น จนเป็นการผลักภาระค่าบริการไปให้ผู้บริโภค
สำหรับในประเทศ Grab ดูเหมือนจะเป็นเจ้าเดียวที่ยังครองส่วนแบ่งการตลาดในขณะนี้ แหล่งข่าวแจ้งว่า Grab เริ่มให้บริการน้อยลงในบางกิจกรรมของธุรกิจในไทย โดยเน้นจัดส่งอาหาร ของกินของใช้ และอื่น ๆ จากอีคอมเมิร์ซมากขึ้น และรับส่งผู้โดยสารน้อยลง จึงทำให้ส่วนของบริการรับส่งผู้โดยสารต้องเรียกเก็บในราคาที่สูง ในขณะพาร์ทเนอร์ที่เป็นเจ้าของรถยนตร์ได้รับส่วนแบ่งน้อยลง
แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ยังบอกอีกว่า Go-Jek จัดสรรงบประมาณราว 4 พันล้านบาทเพื่อลงในประเทศไทย และ Go-Jek ยังจะขยายตลาดออกไปอีก 2 ประเทศได้แก่ มาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
GET Thailand ภายใต้เงินทุนจาก Go-Jek วางแผนให้บริการอื่น ๆ อีกกว่า 14 บริการ โดยไม่นับบริการนั่งวินมอเตอร์ไซต์และรับส่งพัสดุที่กำลังทดงอลในขณะนี้ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนไทย
แหล่งที่มา:
GET ใจดี … ให้คนไทยได้ลองนั่งวินฟรีไม่จำกัดเที่ยวเริ่มตั้งแต่วันพ่อ
GET ใจดี … ให้คนไทยได้ลองนั่งวินฟรีไม่จำกัดเที่ยวเริ่มตั้งแต่วันพ่อ
GET Thailand เปิดตัวแอพพลิเคชั่น GET เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม 2561 โดยให้บริการช่วงทดสอบนี้ในเขตวังทองหลาง ลาดพร้าวและจตุจักร โดยผู้ใช้แต่ละคนจะสามารถใช้บริการได้ในระยะเวลาไม่เกิน 6 กิโลเมตร นับจากจุดที่เรียกใช้บริการ
GET Thailand เปิดตัวไปก่อนหน้านี้อย่างยิ่งใหญ่ในงาน DigitalThailand Big Bang 2018 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นโดย DEPA ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
โดยมีนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา, รองนายกรัฐมนตรี ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, รองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย รวมถึงตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้สนใจอื่น ๆ จำนวนมาก เข้าเยี่ยมชมและทำความรู้จักกับ GET Thailand และร่วมลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับสิทธิ์ทดลอง Beta App ของ GET Thailand ในงาน
จากการร่วมทดสอบการใช้ในวันแรก (5 ธันวาคม 2561) ไม่ว่าใกล้ไกล (ในระยะทางไม่เกิน 6 กิโลเมตรจากจุดที่เรียกใช้บริการ) วินมอเตอร์ไซต์จะได้รับค่าจ้างในราคา 70 บาทต่อเที่ยว ในขณะที่ผู้ร่วมทดสอบไม่เสียค่าใช้จ่าย แอพพลิเคชั่นใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก มีภาพอะนิเมชั่นแสดงว่า คนขับที่เรียกอยู่ตรงจุดไหน กำลังเดินทางมาถึงจุดไหน และคนขับจะโทรคอนเฟิร์มลูกค้าทุกครั้งเพื่อให้อุ่นใจเมื่อต้องรอใช้บริการ
GET Thailand ได้รับเงินสนับสนุนจาก Go-Jek ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่และรับส่งสินค้ารายใหญ่ในอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Go-Jek เปิดตัวแอพพลิเคชั่นเดียวกันนี้ในสิงคโปร์ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน เพื่อท้าชนกับ Grab ผู้เล่นรายใหญ่เจ้าถิ่นอยู่แล้ว
ทั้ง Go-Jek และ Grab ระดมทุนกว่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนและชิงส่วนแบ่งการตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเรียกยานพาหนะในการเดินทาง สั่งซื้อสินค้าออนไลน์และชำระค่าสินค้าและบริการโดยไม่ใช้เงินสดกว่า 640 ล้านคน
Go-Jek ได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทยักษืใหญ่หลายค่าย เช่น Tencent Holdings ของจีน Temasek Holdings จาดสิงคโปร์ และ Google ของ Alphabet Inc
อังเดร โซลิสทีโอ ประธานบริษัท Go-Jek บอกกับผู้สื่อข่าวในงานเปิดตัวที่สิงคโปร์ว่า ด้วยความที่ Go-Jek เป็นบริการใหม่ในตลาด บริษัทก็จะเน้นเรื่องการให้โปรโมชั่นแก่ผู้ใช้ และในที่สุดก็ต้องวัดกันที่ราคาและการบริการที่จะทำให้ Go-Jek นั้นแตกต่างจากคู่แข่ง
Grab ได้รับเงินสนับสนุนจาก Soft Bank ของญี่ปุ่น และ Didi Chuxing ซึ่งเป้นบริษัทให้บริการเรียกรถรับส่งโดยสารสัญชาติจีน โดย Grab ได้เข้าซื้อกิจการของ Uber Technologies ที่กำลังขาดทุนอย่างหนักในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ และทำให้การเข้าซื้อกิจการของ Uber ในครั้งนั้นเป็นการซื้อกิจการที่สร้างความฮือฮาให้วงการธุรกิจไม่น้อย
กิจการของ Grab หลังเข้าซื้อ Uber ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่ายว่าเป็นการผูกขาดตลาดและทำให้ค่าบริการสูงขึ้น จนเป็นการผลักภาระค่าบริการไปให้ผู้บริโภค
สำหรับในประเทศ Grab ดูเหมือนจะเป็นเจ้าเดียวที่ยังครองส่วนแบ่งการตลาดในขณะนี้ แหล่งข่าวแจ้งว่า Grab เริ่มให้บริการน้อยลงในบางกิจกรรมของธุรกิจในไทย โดยเน้นจัดส่งอาหาร ของกินของใช้ และอื่น ๆ จากอีคอมเมิร์ซมากขึ้น และรับส่งผู้โดยสารน้อยลง จึงทำให้ส่วนของบริการรับส่งผู้โดยสารต้องเรียกเก็บในราคาที่สูง ในขณะพาร์ทเนอร์ที่เป็นเจ้าของรถยนตร์ได้รับส่วนแบ่งน้อยลง
แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ยังบอกอีกว่า Go-Jek จัดสรรงบประมาณราว 4 พันล้านบาทเพื่อลงในประเทศไทย และ Go-Jek ยังจะขยายตลาดออกไปอีก 2 ประเทศได้แก่ มาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
GET Thailand ภายใต้เงินทุนจาก Go-Jek วางแผนให้บริการอื่น ๆ อีกกว่า 14 บริการ โดยไม่นับบริการนั่งวินมอเตอร์ไซต์และรับส่งพัสดุที่กำลังทดงอลในขณะนี้ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนไทย
แหล่งที่มา: GET ใจดี … ให้คนไทยได้ลองนั่งวินฟรีไม่จำกัดเที่ยวเริ่มตั้งแต่วันพ่อ