เราได้อะไรจากเคสของเฌอปรางบ้าง

หนึ่งในข่าวดังสุดของวันนี้ คือการที่เฌอปราง เข้าแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากถูกตัดต่อภาพทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัว ผมได้ตามเรื่องนี้จากหลายๆช่องทาง ซึ่งก็ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง ผมเลยขอมาแชร์ลงที่นี่ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนและชวนคุยครับ ถ้าไม่เห็นด้วยหรือเสนอแนะอะไร พิมพ์ไว้ได้เลยครับ

1. ความเป็นพิษของโลกโซเชียลเมืองไทย - เคยมีบทความนึงของต่างประเทศกล่าวไว้ (ขออภัยที่จำชื่อบทความและที่มาไม่ได้) ว่าโซเชียลเมืองไทยนั้น ถูกขนานนามว่า "The Most Toxic Social Network on the Planet" คำกล่าวนี้ผมว่าไม่ได้เกินจริงเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าคนดีๆจะมีเยอะ แต่ต้องยอมรับว่า คนแย่ๆมีเยอะกว่า(มากกกกกก) และยิ่งคนส่วนใหญ่ปกปิดตัวตนในโลกอินเตอร์เน็ต ทำให้คนเหล่านี้ ก้าแสดงด้านที่ไม่ดีออกมาอย่างไม่ปิดบัง โดยเฉพาะคำพูดที่พิมพ์ออกมา วีรกรรมของเหล่าโซเชียลไทยถูกแสดงให้เห็นหลายครั้ง เช่น เคสนาซ่า และอื่นๆอีกมากมาย

2. ผู้ชายไม่ใช่เพศเดียวที่น่ากลัวสำหรับผู้หญิง - ปกติแล้วบนโซเชียล เมื่อพูดถึงความหยาบคาย ภาพที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงคือเหล่าผู้ชายที่ปลดปล่อยภาษาย้อนยุคกันเป็นเรื่องปกติ แต่เคสนี้(เอาจริงๆก็ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว) คนส่วนใหญ่กลับแปลกใจ ที่ความเห็นแย่ๆที่แสดงความริษยา ความเกลียดชัง และความเป็นศัตรูอย่างแรงกล้าแบบไม่ปิดบัง กลับออกมาจากเพศหญิงและเพศทางเลือกซะเป็นส่วนใหญ่

3. คนที่ความคิดดีๆ มีมากกว่าที่เราคิด - วันนี้ หลังจากข่าวเรื่องเฌอปรางกระจายออกไป ก็ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็วเป็นบริเวณกว้าง #เฌอปราง ติดเทรนในทวิตเตอร์ สื่อหลายที่ได้เล่นข่าวนี้ในทันที ซึ่งส่วนFeedbackที่ได้กลับมา นับเป็นบวกอย่างมาก ที่น่าสนใจคือ ไม่ได้มีแค่แฟนคลับวงBNKเท่านั้น แต่แม้กระทั่งเหล่าแฟนคลับวงเกาหลี ไอดอลวงอื่น influencers และคนในวงการ ก็ออกมาให้กำลังใจเฌอกันอย่างล้นหลาม เพราะเรื่องนี้ ได้แสดงให้เห็น สิทธิ ที่คนๆนึงพึงมี พึงได้รับ และได้ลุกขึ้นมาทำการปกป้องสิทธ์นั้นด้วยตัวเอง ซึ่งตรงนี้ ต้องขอบคุณทุกๆท่านอย่างมากครับ (ตรงนี้ผมชอบนะ ในทวิตนี่คือ แฟนเกิร์ลเกาหลีและวงอื่นๆ ต่างให้กำลังใจเฌอกันทั้งนั้น)

อาจมีหลายเรื่องที่ผมตกหล่นไป ท่านใดช่วยเสริมหรือแสดงทัศนะ ต้องขอบคุณและเชิญเต็มที่ได้เลยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่