JJNY : 4in1 โพลละอ่อนมช. 98% ไม่เลือกพปชร./ทษช.จี้กกต./เบรกภาษีเค็ม-ชาวบ้านด่าทั้งปท./กูรูชี้ภาษีอีเพย์เมนต์สกัด4.0

กระทู้คำถาม
โพลละอ่อนมช. ผลโหวตชัดเจน 98% ไม่เลือกพลังประชารัฐ !!
https://www.khaosod.co.th/politics/news_1912034

โพลละอ่อนมช. ผลโหวตชัดเจน 98% ไม่เลือกพลังประชารัฐ !!

เฟซบุ๊กเพจ สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ทำกิจกรรมทางด้านการเมือง เปิดให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กโหวตว่าจะเลือกพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาลหรือไม่ โดยเปิดให้โหวตตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ปรากฎว่าผลโพลที่สรุปออกมาในวันนี้พบว่าจากผู้ร่วมโหวต ทั้งหมด 1.6 พันโหวต มีผู้โหวตเลือกพรรคพลังประชารัฐเพียง 2% และกดโหวตไม่เลือกสูงถึง 98%

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




ไทยรักษาชาติ จี้ กกต.อย่าบิดเบือนกลไกหาเสียง ยันไม่ร่วมถก คสช.7 ธ.ค.นี้
https://www.thairath.co.th/content/1437023

"ไทยรักษาชาติ" ประชุมแบ่งงานคณะทำงานหลังปลดล็อก เตือน กกต.อย่าบิดเบือนการหาเสียง ยันไม่ร่วมถก คสช. 7 ธ.ค.นี้ ชี้ไม่ถูกต้องผิด รธน. ขัดหลักการประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.61 ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) มีการประชุมสมาชิกพรรคเพื่อหารือและพูดคุยถึงความต้องการในการทำงานด้านต่างๆ โดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และสมาชิกพรรคกว่า 20 คนเข้าร่วม

โดย ร.ท.ปรีชาพล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการรับฟังความเห็นจากสมาชิกพรรคว่า ได้ระดมความคิดเห็นเพื่อแบ่งบทบาทการทำงานในคณะทำงานด้านต่างๆ รวม 5 คณะ ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจเทคโนโลยี ต่างประเทศ กฎหมาย การเมือง และความมั่นคง และสังคม เมื่อปลดล็อกแล้วคณะทำงานจะได้ไปเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและสื่อสารนโยบายกับประชาชน ในส่วนของการปราศรัยขอเรียกร้องไปยัง กกต.อย่าบิดเบือนธรรมชาติในการหาเสียงมากเกินไป ทั้งนี้ขณะนี้กำลังเร่งทำตัวแทนประจำจังหวัด และจัดตั้งสาขาพรรคในการคัดสรรตัวผู้สมัครต่อไป

ด้าน นายจาตุรนต์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.กล่าวหาพรรคการเมืองที่ไม่ไปร่วมประชุมกับแม่น้ำ 5 สาย ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ว่า เป็นพวกไม่เคารพกติกาและไม่อยากเลือกตั้งว่า ยืนยันว่าพรรคไทยรักษาชาติปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่ไม่เคารพกติกาแต่การไปประชุมร่วมกับ คสช. เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และหลักประชาธิปไตยว่าด้วยการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม การที่ คสช.ทำแบบนี้เท่ากับเป็นการยืนยันว่าจะแทรกแซงการเลือกตั้ง ซึ่งเราไม่เห็นด้วยและจะไม่ไปร่วม และยืนยันว่าต้องการให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วเป็นไปตามกำหนด ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกเสนอชื่อในบัญชีของพรรคการเมือง แล้วจะมาทำหน้าที่รับฟังความเห็นและตัดสินใจในเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง โดย พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่เป็นสมาชิกพรรค เพราะคงใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ คนที่อยู่ในรายชื่อพรรคการเมืองไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรค แต่ขอให้เปิดเผยให้ชัดว่าจะอยู่ในบัญชีรายชื่อ จะได้แยกแยะกันให้ชัดเจนว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ หรือต้องการหยุด พล.อ.ประยุทธ์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้.




'อภิศักดิ์' สั่งเบรกภาษีความเค็ม-ชาวบ้านด่าทั้งประเทศ
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1257312

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของกรมสรรพสามิตที่จะเข้าไปจัดเก็บภาษีจากสินค้าที่มีความเค็ม โดยมองว่าเป็นการจัดเก็บภาษีที่ได้ไม่คุ้มกับเสีย เนื่องจากจัดเก็บภาษีดังกล่าวจะได้รายได้ในจำนวนน้อย และวิธีการจัดเก็บก็ยาก ขณะที่ผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนหรือผู้บริโภคนั้นมีมากกว่า

“เรื่องการจัดเก็บภาษีความเค็มนั้นผมว่าคงเก็บได้ไม่กี่ร้อยบาท พอบอกจะทำชาวบ้านด่ากันทั้งประเทศ แถมวิธีการจัดเก็บก็ยากวัดค่าไม่ได้ แต่กรณีการจัดเก็บภาษีจากค่าความหวานนี่มีผู้ประกอบการเกี่ยวข้องมากกว่า จึงอยากให้กรมสรรพสามิตไปดูการจัดเก็บภาษีสินค้าตัวอื่นและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บทดแทน” นายอภิศักดิ์กล่าว

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงการคลังคงไม่มีการขึ้นอัตราภาษีให้สูงขึ้น แต่จะดำเนินการ 2 วิธี คือ
1.เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีให้เก็บรายได้ได้มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าคนที่อยู่นอกระบบจะต้องเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น
และ 2.การเพิ่มประเภทการจัดเก็บภาษีใหม่ๆ เช่น ภาษีสินค้าออนไลน์ เป็นต้น ปัจจุบันการจัดเก็บรายได้ภาษีอยู่ที่ 15% ของจีดีพี ขณะที่ระดับการจัดเก็บรายได้ภาษีที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 19-20% ต่อจีดีพี

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ล่าสุดกระทรวงการคลังจะพัฒนาระบบการชำระภาษีให้สามารถหักลบกันระหว่างเดบิตและเครดิตให้ระบบการชำระและคืนภาษีทำได้รวดเร็ว ขณะนี้กรมภาษีของกระทรวงการคลังจะพัฒนาระบบภาษีให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด โดยเฉพาะกรมสรรพากรที่จะทำให้ภาษีที่ผู้เสียภาษีต้องจ่าย สามารถนำมาหักกลบกับภาษีที่จะได้รับคืนได้ด้วย ซึ่งทางภาคเอกชนอยากเห็น แต่คนที่ไม่ต้องการเข้าก็บอกว่าการเสียภาษีเป็นออปชั่นจะบังคับไม่ได้ ฉะนั้นมีแนวคิดที่จะทำให้ระบบการชำระภาษีสะดวกขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลจัดเก็บรายได้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย โดยผลการจดเก็บรายได้เดือนตุลาคม 2561 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 206,452 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 10,462 ล้านบาท หรือ 5.3% แสดงให้เห็นว่าการจัดเก็บรายได้ยังเป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่เนื่องจากรัฐบาลมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายแสนล้านบาท จึงทำให้รัฐบาลยังต้องจัดงบประมาณขาดดุล ล่าสุดประเมินว่าการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลจะเข้าสู่จุดสมดุลในช่วง 12 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่การใช้งบประมาณเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนั้นดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่