ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากปัญหางานที่สะสม พวกเราจึงเริ่มตั้งเป้าหมายการไปทริปสั้นๆ ใกล้กรุงเทพฯ ไปเสาร์-อาทิตย์จะได้มีแรงมาเผชิญงานวันจันทร์ต่อ จึงวางทริปโดยการ... จับฉลาก.. จนมาลงเอยที่ระยอง ... เผื่อการประหยัดเวลาจึงตัดสินใจขับรถกันไป พร้อมวางแพลน สั้นๆ ง่ายๆ ว่าไปทะเลละกัน เรื่องอื่นค่อยไปตามหาข้างหน้า
แล้วทริปแห่งความบันเทิงจึงเกิดขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ย.61 พวกเราได้เริ่มการบุ๊คจองที่พักจาก Agoda เป็นบ้านพักใกล้ๆ หาดแม่รำพึง ได้แก่ คาซ่า ซีไซต์ระยอง ในราคา 2 วัน 1 คืน 3,900 บาท โดยสามารถเช็คอินเช็คเอาท์กี่โมงก็ได้ เมื่อยืนยันที่พักได้ ก็รวมพลให้พร้อม

เช้าวันเสาร์ที่ 24 พ.ย. 61 ได้มารวมตัวกันที่พุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งอากาศดีจนต้องโยนเสื้อกัน หนาวทิ้ง พร้อมตั้งคำถามว่า “จะเอามาเพื่อ...??” …แต่อย่างน้อยข้อดีคือไม่มีฝน  จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางโดยอาศัย google map ในระหว่างนี้มีค่าทางด่วนคอยเก็บเป็นระยะๆ รวมเป็นเงิน175บาท  จากนั้นเราแวะจุดพักรถที่ชลบุรีเพื่อหาอาหารเช้ากินกันก่อนเข้าตัวเมืองระยอง อาหารที่กินก็แล้วแต่ใครใคร่ซื้อ..ซื้อ

จขกท. ขอบังหน้าตัวเองไว้หน่อยละกัน แอบเขิน  ส่วนเพื่อนๆ คนอื่นก็ปล่อยไปตามนั้น (น่าน..)

จากนั้นรถก็พาเราก็ไปสู่ที่พัก คาซ่า ซีไซต์ระยอง ระหว่างทางการไปถึงเราจะขับเลียบถนนผ่านหาดแม่รำพึง ซึ่งทันที่เราเห็นทะเลก็อดตะโกนออกมาพร้อมกันไม่ได้ว่า .. ทะเลจ๋า .มาหาแล้วจ๊ะ..

11.00 น – แม้คาซ่า ซีไซต์จะเป็นหมู่บ้านที่ติดกับทะเลโดยมีถนนกั้น แต่บ้านพักของเราอยู่เข้าไปในหมู่บ้านค่อนข้างลึก เมื่อเข้าไปถึงที่บ้านก็มีคนมาทำความสะอาดไว้ให้ ภายในบ้าน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีเตาปิ้งย่าง หม้อหุงข้าว ตู้เย็น อุปกรณ์ครัว ที่นอน ผ้าห่ม ผ้าปู เตียงสำรอง ทีวี คาราโอเกะ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน พร้อมบรรยากาศที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว






พวกเราใช้เวลาในการเช็คของเพื่อดูว่ามีสิ่งใดจะซื้อมาเพิ่มเติมหรือเปล่า ส่วนตัวจขกท.แอบอู้จ้ะ   


เมื่อได้ของที่จะซื้อแล้ว เราก็เตรียมตัวมุ่งหน้าไปตลาดบ้านเพ ซึ่งได้ยินมาว่าเป็นตลาดขายอาหารทะเลสดๆ เราหวังหาของสดเพื่อเตรียมไปทำเมนูตอนเย็นนี้คือ ซีฟู้ด ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังตลาด เมื่อไปถึงตลาดก็พบว่ามีร้านขายทอดยาวออกไป




ซึ่งนอกจากอาหารสดที่ต้องยอมรับความสด กับปู กุ้งที่เรายังเห็นการเดินไต่ออกมาไม่กลัวอุณหภูมิแดดตอนเที่ยง อาหารแห้งก็มี พอซื้อเป็นของฝากได้สบาย พ่อค้าแม่ค้าตลาดพูดจาดีมาก พวกเราจึงค่อยๆ เลือกปู กุ้ง หอยนางรม หมึก ปลาอย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังไม่ลืมซื้อน้ำแข็ง ถ่าน น้ำอัดลม ข้าวสาร กับขนมจุกจิกอีกนิดหน่อย รวมเป็นเงิน 1730


ระหว่างทางการกลับพวกเราตัดสินใจแวะทานอาหารที่ร้านข้างทาง เป็นร้านที่ลุงกับป้าทำกัน 2 คน ด้วยความหิวโหยของแต่ละ พวกเราก็แทบไม่ได้สัมผัสถึงรสชาติเลย รู้แค่ว่าท้องต้องอิ่มก่อนทำอย่างอื่น ระหว่างทางจะกลับนั้นเอง


พวกเราก็วางทริปแบบปัจจุบันทันด่วน นั้นคือการไปที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า โดยเสียค่าเข้าคนละ 40 บาทและนำรถเข้าไปเสียคันละ 30 บาท


การนำรถขับขึ้นไปได้นิดเดียวก็จะมีพี่ๆ ทหารมาสอบถามว่าต้องการกางเต้นท์หรือไม่ หากมาเที่ยวชมเกาะเฉยๆ พี่ๆ ทหารก็จะขับรถพาไปยังสถานที่จุดชมวิว (แต่หากมาพักแรมอาจนำรถเข้ามาจอดด้านในได้)




มาถึงแล้วววว






ตามแผนที่เขาแหลมหญ้ามีสถานที่เดินป่าศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง 1.เส้นทางเกาะเสม็ด      2. เส้นทางเกาะกุฎี 3.เส้นทางเขาแหลมหญ้า ด้วยความพวกเราไม่มีเวลามากนักเพราะมาถึงก็เกือบ 14.00 น.แล้ว เราเลยเลือกเส้นทางที่ 3 กัน แม้อากาศจะร้อน แต่ด้วยความสวยงามมาพร้อมกับสะพานไม้ที่ทอดยาวสลับแนวหิน ชวนตื่นเต้นว่าจะตกสะพานหรือจะลื่นโขดหินก่อน










แม้อุปสรรคจะมากมี เราก็ไม่ย่อท้อ พามาถึงเขาแหลมหญ้า


เมื่อปีนไปบนยอดเขาแหลมหญ้า ยอมรับบรรยากาศดีมากจึงไม่แปลกใจว่าทีนี้เป็นจุดที่มากางเต้นท์ ดูดาว บรรยากาศดีสุดๆ พร้อมได้ค้นพบถึงชื่อและที่มาของเขาแหลมหญ้า ว่าแท้จริงแล้วภูเขาที่ทอดยาวไปในทะเล มีร่องรอยของหินแกรนิต(หินที่จขกท.จะลื่นแล้วลื่นอีก)ทิศของเขาแหลมหญ้าได้รับอิทธิพลจากลม ทำให้มีเฉพาะหญ้าที่ขึ้นจนเป็นที่มาของ เขาแหลมหญ้า



ก่อนจะกลับกันพวกเราก็แวะซื้อน้ำดื่มชดเชยกับร่างกายที่สูญเสียพลังงานไปกับการปีนเขาแหลมหญ้า หรือเกร็งหน้าถ่ายภาพก็ไม่แน่ใจ…
ขากลับพวกเราจึงแวะร้านสะดวกซื้อ ซื้อของกิน(ยังจะซื้ออีก) ก่อนจะเข้าที่พักเตรียมตัวเพื่อไปเดินเล่นริมหาดยามเย็น แต่ก่อนหน้านั้นก็แบ่งหน้าที่เก็บของสำหรับอาหารทะเลซื้อมาและ ภารกิจเป่าโป่งปลาการ์ตูนก็เริ่มขึ้น ปลาการ์ตูนนี้พวกเราอยากได้มาจากงานจับฉลากเลยไปขอซื้อต่อผู้โชคดีมาในราคา 300 บาท ตอนแรกก็อยากได้ พอสูบๆจริงๆ เริ่มรู้สึกมันเป็นภาระ ยังดีที่บ้านพักเรามีที่สูบลมให้ เราเลยไม่เหนื่อยมากกก (จริงหรออ!!??)  

เตรียมตัวให้พร้อมเราก็มาลุยที่หาดแม่รำพึงในยามเย็นดีกว่า

ต้องยอมรับบรรยากาศยามเย็น ช่างชวนเหงาซะจริง.. (เพ้ออีก)






หลังจากเล่นทะเลปลดปล่อยหัวใจให้หายเหน็ดเหนื่อยจากงานที่สะสมมานาน ท้องของเราก็เริ่มหิวครวญคราง กลับที่พักไปเตรียมกับข้าวดีกว่า ภาระก็แบ่งงานไปตามหน้าที่ หุงข้าว นึ่งปู หอยนางรม ทอดปลา จุดเตาถ่าน ปิ้งกุ้งและหมึก ระหว่างทำอยู่ก็มีสหายตัวจ้อยๆ น้องแมวแอบมาด้อมๆมอง จนเราแบ่งอาหารไปให้พวกสหายนั้นนิดๆ หน่อยๆ



อาหารพร้อมแล้ว.... เย้ๆ





สิ่งที่ยากกว่าการทำอาหารคือการ ....แกะปูกิน..เอง
คงจะจริงที่ว่าอาหารที่อร่อยที่สุดคืออาหารที่ทำเอง และการได้กินพร้อมหน้าพร้อมตากัน


หลังจากเก็บล้างเสร็จแล้ว ก็เป็นกิจกรรมพักผ่อน ด้วยความที่บ้านพักมีคาราโอเกะ จึงได้ร้องเพลงกันแก้เหงา
สรุปค่าใช้จ่ายวันแรก
ค่าน้ำมันรถ 990/6 = 165
ค่าทางด่วน 175/6 = 30
ค่าอาหารเช้า  45
ค่าบ้านพัก   3900/6 = 650
ค่าอาหารกลางวัน  40
ค่าอาหารทะเล  1150/6 = 192
ค่าซื้อของร้านชำ 437/6 = 73
ค่าขนมร้านสะดวกซื้อ  144/6 =24
ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ     คนและรถ  270/6 =45
ค่าตุ๊กตาปลาภาระ  300/6    = 50
สรุปวันแรก  1314 บาท