[SR] ทริปปล่อยเบลอ อยากชวนพวกเธอไปเที่ยวโคตาคินาบาลูด้วยกัน

สวัสดีค่ะ พ่อ แม่ พี่น้อง ลุง ป้า น้า อา ชาวพันทิปทั้งหลาย
วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวการไปโคตา คินาบาลูครั้งแรกของเรา
ชื่อนี้คงคุ้นหูกันดี ในสายเทรคกิ้ง คินาบาลู ภูเขาแห่งความตาย
ชื่ออาจจะฟังดูน่าไม่น่าเข้าใกล้ แต่ทำไมสายเทรคกิ้งจากทั้วทุกมุมโลกถึงอยากมาสัมผัส
เขาคินาบาลู เป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศมาเลเซีย
มีความสูงกว่า 4,000 เมตร ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เราก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในการเทรคกิ้ง
เมื่อได้รู้ว่าแอร์เอเชียมีบินตรง ไม่ต้องอ้อม ไม่ต้องแวะ และใช้เวลาไม่นาน
ก็อยากที่จะมาพิชิตได้สักครั้งในชีวิต
มีตั๋วแล้ว มีเพื่อนร่วมทริปแล้ว แต่แล้ว ก็มีคนร่างกายไม่ไหว เจ็บหัวเข่าเสียก่อน
อย่างที่รู้ เขาคินาบาลู และต้องเดินขึ้นบันได
เราเลยตัดสินใจ เปลี่ยนแผนไม่ขึ้นยอดเขาคินาบาลู
แต่จะเป็นการไปเที่ยวชิมลางในโคตา คินาบาลู ก่อนกลับมาแก้มือกันใหม่
ทริปนี้จะเป็น 4 คืน 3 วัน ในเมือง KK หรือโคตา คินาบาลูค่ะ
เริ่มจากเราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุด 10 ปีซ้อนนนนน
บินตรงไม่อ้อมไม่เหนื่อย เราเลือกบินวันเสาร์นะคะ ไฟล์ท 09:30 น. จะถึงโคตาประมาณ 13:35 น. ค่ะ แป๊บ ๆ ก็ถึงแล้ว
ด้วยความที่บินไฟล์ทเช้า ออกจากดอนเมือง 09:30น.
เราไม่ลืมกดจองบริการเสริม Value Pack แพ็กเกจสุดคุ้ม
จ่ายราคาเหมาทีเดียว ได้น้ำหนักกระเป๋าถึง 20 กิโลกรัม
อาหารร้อน หรือของว่าง เผื่อหิว ก็มื้อเช้าสำคัญนี่คะ
ราคาดีกว่าทานในสนามบิน เลือกที่นั่งได้ พร้อมประกันเดินทางอีก
คุ้มสุดอะไรสุด กดจองตั๋ว ก็อย่าลืมกดจอง Value Pack เด้อ

เวลาที่มาเลเซียจะเร็วว่าที่ไทยประมาณ 1 ชั่วโมงนะคะ
หลังจากลงจากเครื่อง เราก็เดินหน้าไปต่อแถวเพื่อตรวจคนเข้าเมืองค่ะ
เรายื่นพาสปอร์ตยืนประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ ไอ้บ้าเอ้ย ไม่ถึง 2 นาทีเลยค่ะ ไม่ทงไม่ถามอะไรสักคำ ผ่านกันง่าย ๆ
จากนั้นก็ลงมารับกระเป๋า แล้วหยิบมือถือขึ้นมาเรียก Grab เพื่อเข้าไปในเมือง
Grab ที่นี่ถูกกฎหมายนะคะ ไม่ต้องกลัว เรียกได้สบาย ๆ
เรายังไม่เช่ารถ เพราะมาถึงก็บ่ายโมงกว่า ๆ แล้ว และวันนี้จะเข้าที่พักและเที่ยวในเมือง
Grab ก็ราคาไม่แพงด้วย เลยคิดว่าน่าจะราคาถูกกว่าเช่ารถค่ะ
อ๋อ เราใช้ Sim2Fly นะคะ ราคาไม่แพง
จากสนามบินมาที่พัก ราคา 6MYR ค่ะ ประมาณ 48 บาท
แนะนำว่าให้จ่ายเป็นเงินสดจะดีกว่าตัดบัตรนะคะ
เมื่อได้รถแล้ว เราก็ไปที่พักค่ะ เราจองไว้กับทาง Airbnb
ห้องน่ารักดีค่ะ มากัน 3 คน คืนละ 1,805 บาท ตกคนละ 602 บาทค่ะ
ในห้องตกแต่งด้วยสีดำเสียส่วนใหญ่ ห้องน้ำในตัว มีทีวี น้ำอุ่น ตู้เย็น
เรียกได้ว่าความสะดวกสบายครบครัน
เราเลือกที่จะเข้าห้องพักก่อน เพื่อมาเก็บกระเป๋า จะได้เดินเที่ยวแบบโล่ง ๆ

หลังจากเก็บกระเป๋าสำรวจห้องพักเรียบร้อย
เราก็เรียก Grab อีกนั่นแหละค่ะ เพื่อที่จะไปร้านอาหารอิตาเลี่ยน
ชื่อว่า Little Italy ค่ะ ใครชอบทานพิซซ่า พาสต้า แนะนำเลยค่ะ  ดีงามมาก

หลังจากนั้นเราก็เดินชมเมืองไปเรื่อย เดินไปเรื่อยจริง ๆ ค่ะ
จนเดินมาถึง Jesselton Point ที่นี่จะเป็นท่าเรือเฟอรี่ ท่าเรือข้ามเกาะ
อย่างอยากเที่ยววันเดย์ทริปก็มาขึ้นเรือที่นี่ค่ะ
แต่นอกจากจะเป็นท่าเรือแล้ว ช่วงพลบค่ำจะเป็นแหล่งนัดพบของชาวโคตา
และนักท่องเที่ยวที่จะมานั่งชิล มาทานอาหาร และชมพระอาทิตย์ตกกันที่ท่าเรือแห่งนี้
เราอยู่ที่ท่าเรือจนพระอาทิตย์ตก และเดินชมเมืองยามเย็นไปเรื่อย ๆ
เพื่อที่จะเดินไปตลาดกลางคืนค่ะ

ระหว่างทางก็เจอตลาดผลไม้ ซึ่งมีทุเรียนสีเลือดด้วย ไม่ชิมไม่ได้แล้วววว
ทุเรียนนี้รสชาติไม่เหมือนทุเรียนบ้านเรา และกลิ่นก็ไม่เหมือนด้วยค่ะ
จะออกคล้าย ๆ ถั่ว มัน ๆ สักหน่อย แล้วปกติไม่ชอบกินถั่วด้วย เราเลยไม่ค่อยปลื้มน่ะ
อาจจะเพราะเรายึดติดกับกลิ่นและรสชาติของหมอนทอง ก้านยาวบ้านเรามากกว่ามั้ง แต่ถ้าใครมาก็ลองชิมดูค่ะ

หลังจากชิมทุเรียน เดินชมผลไม้กันสักพัก เราก็มาต่อกันที่ตลาดกลางคืน
ที่นี่อารมณ์คล้าย ๆ โต้รุ่ง ถนนคนเดิน ที่มีร้านขายอาหารเยอะ ๆ
แต่จะเน้นไปทางอาหารทะเลเสียส่วนใหญ่
แต่อาหารทะเลของเขาก็จะมีแบบสด ๆ ยังไม่ปรุง และแบบปรุงสุกแล้ว ย่างแล้ว เผาแล้ว ให้เราเลือกอีกทีค่ะ
นอกจากอาหารทะเล ก็จะมีข้าวแกงข้าวราด อาหารตามสั่งในแบบเฉพาะมาเล
มีไก่ย่าง ผลไม้ปอกพร้อมทาน มีมะพร้าวสด ซึ่งลูกใหญ่มากกก ใหญ่กว่าบ้านเราเยอะ
แต่ไม่หวานเหมือนบ้านเรา จะค่อนไปทางเปรี้ยวค่ะ
อาหารตกเป็นเงินไทยก็จานละ 50-60 บาท
ถ้าอาหารทะเลก็จะราคาสูงขึ้นหน่อย แต่ก็ไม่แพงค่ะ
ทานอาหารอะไรเสร็จก็กลับเข้าที่พัก เตรียมตะลุยกันต่อในวันพรุ่งนี้

วันที่สองของการเดินทาง
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เรารีบเช็คเอ้าท์ลากกระเป๋ามาที่ Gaya Street Sunday Market
เราตั้งใจจะมาเดิน ตลาดนี้จะมีเฉพาะวันอาทิตย์นะคะ
เคยได้ยินมาว่า อยากรู้เรื่องราวของเมืองไหนประเทศไหนดีขึ้น ให้มาเดินตลาดของเขา
ซึ่งเราก็ไม่พลาดอยู่แล้ว https://goo.gl/maps/vpqoXKjj9M62 แผนที่ค่ะ
Gaya Street จะเป็นตลาดเช้ามีเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น
เป็นตลาดที่อยู่ในย่านเมืองเก่า บรรยากาศคล้าย ๆ ถนนคนเดินบ้านเรา แค่เป็นเป็นตอนกลางวัน
เป็นสินค้าทำมือจากคนท้องถิ่นเอง นอกจากนี้ยังมีอาหาร มีใบชา กาแฟ ผลไม้ เครื่องประดับ
เสื้อผ้า ตุ๊กตาไม้ให้เราได้เลือกซื้อกันค่ะ

หลังจากเดินชมตลาดเช้าเป็นที่เรียบร้อย ก็ต้องหาอะไรลงท้องกันเสียหน่อย
เราเลือกมาที่ร้าน Yuit Cheong ร้านโกปี๊ที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ.1896
หรือประมาณ 122 ปีแล้วค่ะ เก่าแต่เก๋านะ ร้านนี้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว
ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหน ๆ ต่างอยากลองแวะเวียนมาลิ้มชิมรส เราก็หนึ่งในนั้นแหละเธอ
ร้านนี้ยังเป็นร้านที่ครองใจคนในท้องถิ่นอีกด้วย ไม่ว่าจะด้วยรสชาติที่ถูกปาก และบริการที่ถูกใจ
ร้านนี้ขึ้นชื่อก็คงจะเป็นเนื้อสะเต๊ะ ย่างให้เห็นอยู่หน้าร้าน ควันลอยส่งกลิ่นหอมไปทั่ว
แต่ถ้าใครไม่ทานเนื้อวัว ก็มีเนื้อไก่นะคะ แต่สำหรับเราสายเนื้อ ยกใจให้เนื้อไปเต็ม ๆ
นุ่มละมุนลิ้น มากับน้ำจิ้มที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ยังมีขนมปัง ก๋วยเตี๋ยวให้เราได้ลิ้มลองอีกนะคะ
เมนูซิกเนเจอร์ที่นี้คือ Kaya Toast ค่ะ เป็นขนมปังปิ้งที่ทาเนยและกายา
หรือสังขยานั้นแหละค่ะ ทาแบบพอดี ๆ หนานุ่ม ทานกับสะเต๊ะ อ๊อยยยยยย ดีจัง
ด้วยความที่เป็นร้านขึ้นชื่อ ทำให้คิวค่อนข้างจะยาว
ห้ามแทรกคิวนะคะ เป็นเรื่อง วันที่เราไป มีคนท้องที่พยายามจะแทรกคิวนักท่องเที่ยว
โอ้โหหหห เจ้าของร้านนี้ด่าไฟแลบเลยแหละค่ะ จนเกือบจะวางมวยกันเลยทีเดียว
หลังจากเชิญคนพาลออกจากร้านได้แล้ว เจ้าของร้านก็เดินขอโทษลูกค้ายกใหญ่ น่ารักเชียว
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06:00 - 18:00 น. นะคะ

หลังจากทานอาหารเสร็จเราก็มาที่ฝั่งตรงข้ามตลาดกลางคืนค่ะ
เพื่อที่จะมาเช่ารถค่ะ ดูจากในเนตตรงนี้มีหลายเจ้าเลย
แต่ละเจ้าก็ราคาไม่แพง เริ่มที่ 800 บาทต่อวัน
แต่เดินเท่าไร ตามแมพไปก็หาร้านเช่ารถไม่เจอสักที โทรถามนัดแนะกันเขาบอกอยู่ตรงนี้
ใกล้มินิมาร์ทนะ เห็นไหม รอเขาตรงนั้นนะ เดี๋ยวไปรับ
เราก็รอ และรอ เขาก็โทรมาทำไมเห็นเรา เราก็ไม่เห็นเขา
คุยไปคุยมา คนละมินิมาร์ทจ้า
สรุปได้ใจความว่า ร้านเช่ารถหลายเจ้าที่ดูมา ย้ายกิจการไปที่สนามบินหมดแล้ว
ฮ่า ๆ โคตรซวย นอกจากจะเจอฝนตกแล้ว ยังต้องกลับไปสนามบินเพื่อเช่ารถอีก
เอาเป็นว่าใครมาโคตา ก็รับรถจากสนามบินไปเลยนะคะ
อย่าเปรี้ยวเหมือนเรา กะจะมาเช่าเอาข้างนอก เพราะเรทดีกว่า สุดท้ายก็ได้กลับไปสนามบิน
เจ้าที่เราเช่า วันละ 128 MYR ค่ะ ประมาณพันนิด ๆ ค่าน้ำมันที่นี่โคตร ๆ ถูกเลยแหละ 50MYR นี่เต็มถังแล้ว

ใจจริงเราตั้งใจจะไปล่องแก่งค่ะ แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจแบบนี้
เราเลยเลือกที่จะไปน้ำตก Murug Turug ก็ดันไม่ให้เข้าเพราะกลัวน้ำป่าจะมา
เขากลัวจะอันตราย วันนี้มันไม่ใช่วันของเราจริง ๆ
ในการเดินทางมาน้ำตกก็ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ เรียกได้ว่าเสียเที่ยวเลยแหละค่ะ
แต่ถ้าใครมาโคตา น้ำตานี่น่าสนใจนะคะ เพราะเดินทีเดียว ได้เก็บน้ำตกหลายน้ำตกเลยค่ะ
มีหลายน้ำตกที่อยู่ในเส้นทางเดินป่านี้

แต่ก็ต้องดูสภาพดินฟ้าอากาศมาดี ๆ นะคะ เพราะอย่างเราซวยที่เจอพายุเข้า
เมื่อพลาดจาดน้ำตก และฝนก็ตกไม่หยุด เราจำใจต้องละความพยายามมาหาของกิน
เรามาที่ร้าน Welcome Seafood Restaurant https://goo.gl/maps/Jj4KafBqaRx
เป็นร้านซีฟู้ด สด ๆ รสชาติดี ขึ้นชื่อเลยค่ะ คนเยอะมากกกกกกกก แต่ไม่ต้องรอนาน บริการว่องไว

จากนั้นเราก็เข้าที่พักค่ะ ที่พักคืนนี้เราก็จองผ่าน Airbnb อีกแล้ว 2 คืน 5,512 บาท
ตกคืนละ 2,756 บาท ห้องอยู่บนห้าง IMAGO เลยค่ะ มีครัว มีห้องนั่ง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำค่ะ
ตกแต่งด้วยโทนสีขาว สะอาดตา ที่สำคัญสะดวกสบายสุด ๆ
ชื่อสินค้า:   โคตาคินาบาลู
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้รับตั๋วเครื่องบินจากทางแอร์เอเชีย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่