วันนี้เวลาประมาณ 7:00 Pm ได้ขึ้นคิวรถตู้ที่หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว เป็นคิวรถ ไปฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เส้นทางจะขึ้นทางด่วน ในราคา35 บาท ตามปกติของทุกวันเวลากลับบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ที่ได้พบเจอวันนี้ น่ากลัวและเป็นอันตรายมาก เราได้ขึ้นรถตู้คันนึง คนขับเป็นผู้ชาย ผิวคล้ำ วัยรุ่นถึงกลางคน ตัดผมสกินเฮดหรือทรงนักเรียน ส่วนทะเบียนรถ ไม่ได้จดมา ในระหว่างทางที่อยู่บนทางด่วน เราเริ่มสังเกตว่าคนขับรถ ขับเร็วมาก อยู่ที่110-120 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ซึ่งบนทางด่วน ก็มีรถอยู่คอนข้างเยอะ แต่ไม่ติด คนขับรถได้ขับรถจี้คันข้างหน้า และพยายามจะแซง ตอนแรกอยู่เลนขวาสุด และได้ปาดแซงซ้ายไปทีเดียวสองเลน จนอยู่เลยซ้ายสุด และปาดกลับเข้าเลนขวาทันที และพยายามเบรก (ไม่รู้เจตนาจะแกล้งรถที่ต้องการจะแซงหรือไม่) ซึ่งเบี่ยงทีเดียวสามเลนอาจจะไม่แปลกถ้ารถโล่ง แต่นี่ใช้ความเร็วในการขับที่เร็วมากและรถมีระยะห่างหันเพียง1-2คัน ซึ่งคนปกติ หากจะแซง จะค่อยๆ เบี่ยงทีละเลน และใช้ความเร็วที่ชะลอลง
ซึ่งคนขับได้ปาดแซงจากขวาสุด ไปซ้ายสุด อยู่แบบนี้ประมาณสองสามรอบ จนเราเริ่มกลัว และภาวนาขอให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ทันใดนั้น พวงมาลัยก็หลุดออกมา ใช่อ่านไม่ผิด !!!! พวงมาลัยหลุด !!!! มันเหมือนจังหวะซิทคอมในหนังมาก แต่ตอนนั้นคือขำไม่ออกค่ะ มือเริ่มสั่น หัวใจเริ่มเต้นแรง. และภาวนา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง มันน่ากลัวจริงๆ คนขับรถก็พยายามดันพวงมาลัยกลับเข้าไป ซึ่งยังคงขับในความเร็ว 100 กมต่อชม เริ่มไม่ปาดสามเลน แต่ยังคงแซงอยู่ และพยายามใส่พวงมาลัยให้เข้าที่อย่างเหมือนเรื่องปกติ ซึ่งพวงมาลัย ก็เข้าที่สองสามวิ แล้วก็หลุดออก และก็ใส่ และก็หลุด หลุดอยู่หลายครั้งมาก ไม่อยากจะนับ ไม่ได้นับ เพราะมัวแต่ภาวนาให้มันกลับเข้าไปเหมือนเดิม และให้คนขับรถมีปัญญาในการขับรถ ว่าพวงมาลัยหลุดขนาดนี่ คุณควรขับช้าๆแล้ว และไม่ควรแซงแล้ว เพราะหากแซง นั่นคือ คุณต้องหักพวงมาลัย แล้วตอนนี้อยู่บนทางด่วน ถ้าหากพวงมาลัยใส่ไม่ได้ ไม่ทัน แล้วมันเสียการควบคุม ในความเร็วแบบนั้น รถตกทางด่วนได้นะ จนสุดท้าย รถลงจากทางด่วนได้ เริ่มโล่งใจเพราะอย่างน้อย รถที่ติดด้านล่าง ก็ชะลอความเร็วในการขับรถของคนขับคนนี้ได้ สุดท้ายพอถึงป้ายแรกที่จอดหลังจากลงมาจากโทลเวย์ เราก็รีบลงทันที ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะต้องจดเลขทะเบียนรถ แต่สุดท้ายด้วยความกลัว มันลืมทุกอย่างไปหมดเลย ภาวนาขอให้อย่าเจอคนแบบนี้อีกเลย สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถตู้ก็ขอให้ปลอดภัยทุกคนนะคะ
สิ่งที่สังเกต 1.คนขับรถไม่ได้เสียงบัตร ที่จะมีแจ้งเตือนหากขับเร็วเกิน
2. คนขับรถ คุณเป็นคนถือพวงมาลัย คุณต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ชีวิตสิบกว่าชีวิตในรถ
3. คนขับรถ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาสูง แต่ความเป็นมนุษย์ และจิตสำนึก ความรับผิดชอบของคุณต้องสูง
4. ขอบคุณสำหรับคนขับรถดีๆที่ทำงานให้บริการ ขณะเดียวกัน ทาง ขสมก ควรคัดกรองคนในการขับรถมากขึ้น
5. คนขับรถไม่ได้ตื่นตระหนกกับการที่พวงมาลัยหลุด เหมือนเป็นเรื่องปกติ มีความเป็นไปได้ว่า เกิดเหตุการรทแบบนี้ขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ...จะต้องรอให้ครั้งสุดท้ายเป็นครั้งที่เกิดความสูญเสียขึ้นหรอ?
หวังว่า ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ที่ทำงานเกี่ยวกับการดูแลเรื่องรถตู้ จะเข้าไปดำเนินการ ให้รถสาธารณะมีความปลอดภัยมากกว่านี้นะคะ
ยาวมากตั้งแต่โพสมา
ช่วยกันระวัง ช่วยกันแชร์ด้วยนะคะ
บางที การเดินทางใน กทม สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในเมือง หรอบ้านไกล รถตู้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเราเองก็อยากประหยัดเวลาจากการนั่งรถเมล์
รอดชีวิตจากรถตู้ซิ่งจน "พวงมาลัยหลุด" บนโทลเวย์ แต่รถยังคงขับไปเรื่อยๆด้วยความเร็ว100Km/h
ซึ่งคนขับได้ปาดแซงจากขวาสุด ไปซ้ายสุด อยู่แบบนี้ประมาณสองสามรอบ จนเราเริ่มกลัว และภาวนาขอให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ทันใดนั้น พวงมาลัยก็หลุดออกมา ใช่อ่านไม่ผิด !!!! พวงมาลัยหลุด !!!! มันเหมือนจังหวะซิทคอมในหนังมาก แต่ตอนนั้นคือขำไม่ออกค่ะ มือเริ่มสั่น หัวใจเริ่มเต้นแรง. และภาวนา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง มันน่ากลัวจริงๆ คนขับรถก็พยายามดันพวงมาลัยกลับเข้าไป ซึ่งยังคงขับในความเร็ว 100 กมต่อชม เริ่มไม่ปาดสามเลน แต่ยังคงแซงอยู่ และพยายามใส่พวงมาลัยให้เข้าที่อย่างเหมือนเรื่องปกติ ซึ่งพวงมาลัย ก็เข้าที่สองสามวิ แล้วก็หลุดออก และก็ใส่ และก็หลุด หลุดอยู่หลายครั้งมาก ไม่อยากจะนับ ไม่ได้นับ เพราะมัวแต่ภาวนาให้มันกลับเข้าไปเหมือนเดิม และให้คนขับรถมีปัญญาในการขับรถ ว่าพวงมาลัยหลุดขนาดนี่ คุณควรขับช้าๆแล้ว และไม่ควรแซงแล้ว เพราะหากแซง นั่นคือ คุณต้องหักพวงมาลัย แล้วตอนนี้อยู่บนทางด่วน ถ้าหากพวงมาลัยใส่ไม่ได้ ไม่ทัน แล้วมันเสียการควบคุม ในความเร็วแบบนั้น รถตกทางด่วนได้นะ จนสุดท้าย รถลงจากทางด่วนได้ เริ่มโล่งใจเพราะอย่างน้อย รถที่ติดด้านล่าง ก็ชะลอความเร็วในการขับรถของคนขับคนนี้ได้ สุดท้ายพอถึงป้ายแรกที่จอดหลังจากลงมาจากโทลเวย์ เราก็รีบลงทันที ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะต้องจดเลขทะเบียนรถ แต่สุดท้ายด้วยความกลัว มันลืมทุกอย่างไปหมดเลย ภาวนาขอให้อย่าเจอคนแบบนี้อีกเลย สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถตู้ก็ขอให้ปลอดภัยทุกคนนะคะ
สิ่งที่สังเกต 1.คนขับรถไม่ได้เสียงบัตร ที่จะมีแจ้งเตือนหากขับเร็วเกิน
2. คนขับรถ คุณเป็นคนถือพวงมาลัย คุณต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ชีวิตสิบกว่าชีวิตในรถ
3. คนขับรถ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาสูง แต่ความเป็นมนุษย์ และจิตสำนึก ความรับผิดชอบของคุณต้องสูง
4. ขอบคุณสำหรับคนขับรถดีๆที่ทำงานให้บริการ ขณะเดียวกัน ทาง ขสมก ควรคัดกรองคนในการขับรถมากขึ้น
5. คนขับรถไม่ได้ตื่นตระหนกกับการที่พวงมาลัยหลุด เหมือนเป็นเรื่องปกติ มีความเป็นไปได้ว่า เกิดเหตุการรทแบบนี้ขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ...จะต้องรอให้ครั้งสุดท้ายเป็นครั้งที่เกิดความสูญเสียขึ้นหรอ?
หวังว่า ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ที่ทำงานเกี่ยวกับการดูแลเรื่องรถตู้ จะเข้าไปดำเนินการ ให้รถสาธารณะมีความปลอดภัยมากกว่านี้นะคะ
ยาวมากตั้งแต่โพสมา
ช่วยกันระวัง ช่วยกันแชร์ด้วยนะคะ
บางที การเดินทางใน กทม สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในเมือง หรอบ้านไกล รถตู้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเราเองก็อยากประหยัดเวลาจากการนั่งรถเมล์