สวัสดีครับ..วนมาเจอกันอีกครั้งสำหรับการแบกเป้เที่ยว ปีละครั้งก็เกินพอสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ฮ่าๆ
ฝาก 3 ทริปก่อนหน้าไว้ในอ้อมใจอีกครั้งนะครับ

ครั้งเเรกกับ 15 วันบนเกาะอังกฤษ พร้อมปะทะกัปตัน Gerrard ของ Liverpool อย่างฟลุ๊คๆ
https://pantip.com/topic/33732743
แบกเป้ตะลุยเดี่ยว 3 เมือง กับ 1 ประเทศมหาอำนาจของโลก San Francisco/Los Angeles/Las Vegas @USA April 2016
https://pantip.com/topic/35128699
แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวแดนน้ำเเข็งเเละเเสงเหนือ งบไม่ถึง 6 หมื่น !!
https://pantip.com/topic/37125770

เอาล่ะ ปีนี้ก็เป็นโอกาสอันดีอีกครั้งสำหรับการ แบกเป้ตะลุยเดี่ยวเที่ยวเเดนกังหันลม
ใช่ครับ ฮอลล์เเลนด์หรือเนเธอแลนด์นั่นเอง คงไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะสำหรับเมืองนี้
*รูปภาพอาจจะเล็กไปหน่อยแตกไปนิด เพราะถ่ายจากมือถือแล้วใช้เลนส์ไวด์แบบหนีบ
ตอนดูในโทรศัพท์มันก็ชัดดีครับ พอเอาลงคอมเบลอและเเตกแทบดูไม่ได้เลย ถือว่าดูเป็นฟีลลิ่งพอครับ แหะ แหะ

เสรีภาพเเห่งสายเขียว ลดเลี้ยวตามคูคลอง นั่งมองกังหันลม

จริงๆแล้วเนเธอเเลนด์ไม่ได้อยู่ในลิสที่ผู้เขียนอยากไปเท่าไหร่ แต่อย่างว่าครับ ตั๋วโปรออกมา และอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
เมืองที่อยากไปตั๋วก็ไม่โปรซักที ก็ต้องจัดไปครับ



ครั้งนี้ผมได้ตั๋วโปรของสายการบิน Royal Jordanian Air
(Full Service โหลดกระเป๋าได้ 20 กก.) + Hostel มาในราคา 21,910 บาท
(3-11 พย. 61) ใช้เวลาบิน 4+9 ชม. แวะเปลี่ยนเครื่องที่ Amman ประมาณ 3 ชั่วโมง
ตัวเครื่องใหม่สะอาด เป็น Boeing 787 Dreamliner อาหารก็ดีครับ (รสชาติก็จืดๆตามปกติของอาหารยุโรปนะครับ)

เช็คอินสุวรรณภูมิ จะได้ตั๋วมา 2 ใบเลยนะครับ ส่วนกระเป๋าไปรอรับปลายทางที่อัมสเตอร์ดัมได้เลย

เครื่องใหม่สะอาดดีครับ เบาะเป็น 3/3/3

ส่วนความกว้างของเบา (จขกท สูง 173 ซม) เข่าเกือบติดเหมือนกัน

ส่วนบันเทิงบนจอก็ตามมาตรฐานครับ

และจะเเจกหูฟังแบบนี้ทุกที่นั่ง

เนื่องจากผมไปไฟล์ดึก พอเครื่องออกปุ๊บ อาหารลงทันที (เลือกได้กับแอร์เลยครับ ซึ่งมีไม่กี่อย่างเท่าที่สังเกตุ)

กินเสร็จ ก็เตรียมนอนครับ อีก 9 ชั่วโมงเจอกันที่จอร์แดน

ว๊าปมาอีกทีก่อนเครื่องลง มีอาหารเช้าให้อีก 1 มื้อครับ

สนามบิน Amman ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่ก็ดูกว้างขวางสะอาดดีครับ

ลำนี้แหละครับที่จะพาเราไปสู่ Amsterdam

4 ชั่วโมงต่อมา นกเหล็กลำนี้ก็เตรียมพาเราลงที่สนามบิน Schiphol ที่ Amsterdam

เดินตามป้ายมารับกระเป๋าเสร็จ ก็ผ่านตม. ซึ่งคนเยอะพอสมควรนะครับ มีครึ่งชั่วโมงในการรอ
ผ่านมาได้ด้วยดี ด้วยคำถามมาตรฐานทั่วไป มาทำไร มากี่วัน มากับใคร ไปไหนบ้าง

ออกจากสนามบินมาเจอแลนด์มาร์คเลยครับ ถ้าใครไม่อยากไปเเย่งมุมแย่งคิวหรือแหกขี้ตาไปถ่ายในเมือง
ที่นี่มีครับ คนน้อยด้วย ถ่ายเผื่อไว้ก็ดีครับ..ขอต้อนรับสู่ Amsterdam อย่างเป็นทางการ

มาครั้งนี้..ผมไม่ได้เเว่บออกไปประเทศอื่นเลยครับ ด้วยงบประมาณที่จำกัด อยากเที่ยวแบบครบๆให้จบไปเป็นประเทศ
และไม่อยากเป็นชะโงกทัวร์ เลยตั้งใจเที่ยวที่เดียวแบบค่อยๆไป ชิลๆ ไม่รีบร้อน เพราะแก่แล้วด้วยครับ เดินเยอะกลัวข้อเข่าหลุด ฮ่าๆ

ส่วนรายละเอียดการเดินทางหรืออะไรต่างๆผมคงไม่ขอพูดถึง แต่ที่อยากจะบันทึกไว้คือ 3 ประเภท ของ Pass
ที่ผมได้ใช้ในการทัวร์ครั้งนี้เพราะหาข้อมูลอยู่นานมากครับ เนื่องจากส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็ไปกันไม่กี่วัน
ใช้ Pass กันน้อยประเภท แต่ผมอยู่นานเเละไปค่อนข้างเยอะ จะใช้ Pass แบบเติมเงินคงกระเป๋าฉีก
ลักษณะแพลนแบบผม จึงตกผลึกออกมาได้ 3 ประเภท ของ Pass ดังนี้ครับ


3-Days Amsterdam Traval Ticket (สีฟ้า)
ตั๋วนี้ใช้สำหรับเดินทางในเขตเมือง Amsterdam เมโทร รถราง รถไฟ รถบัส ได้หมด (ไม่แน่ใจเรื่องเรือ เพราะผมไม่ได้ขึ้น)

3-Days Amsterdam Region Travel Ticket (สีแดง)
ใช้เดินทางทั้งในเมืองและรอบนอกอีกนิด (พวก Volendam / Marken / Zaanse Schans / Haarlem ใช้ใบนี้ได้เลยครับ)

Holland Traval Ticket (สีส้ม) อันนี้ใช้ได้ทั้งประเทศครับ ผมใช้ใบนี้สำหรับไป Day tour

Giethoorn by boat เป็นตั๋ว 1-day

ทั้ง 3 ประเภทนี้ ผมซื้อผ่านเวบนี้ครับ  www.discoverholland.com

ส่วน 2 มิวเซียมที่เข้าคือ Van Gogh Museum / Heineken Experience ซื้อผ่านหน้าเวบเลยครับ

Amsterdam City Sightseeing

3 วันเเรก ผมยกให้ในเมือง Amsterdam ก่อนเลยนะครับ บางท่านอาจจะคิดว่ามันเยอะไป แต่สำหรับผมคิดว่ามันโอเคในระดับนึงครับ
ค่อยๆเดิน ค่อยๆขึ้นรถ เก็บภาพ ซึมซับบรรยากาศ ช่วงเช้าสำหรับที่นี่เป็นอะไรที่สงบมากครับ วันไหนอากาศดีเดินได้ชิลๆมาก
ที่เเรกที่ผมมาก็ต้องที่นี่เลยครับ มาให้เช้าที่สุดเพื่อที่ถ่ายภาพออกมาจะได้ไม่ติดนักท่องเที่ยว แลนด์มาร์คที่ยังไงก็ต้องมา
ไปเช้ามากครับ น่าจะแปดโมง ถึงจะได้แบบไม่ติดนักท่องเที่ยวเเบบนี้

อีกแป๊บเดียวเท่านั้น นักท่องเที่ยวก็ทยอยมากัน

บรรยากาศยามเช้าของ Amsterdam ซึ่งถือว่าผมโชคดีที่อากาศดี ไม่มีฝน อุณหภูมิน่าจะราวๆ 8-10 องศา
ก็จะมีคนวิ่งออกกำลังกายแบบนี้เป็นระยะ
และขาดไม่ได้สำหรับเมืองนี้คือคลอง/จักรยาน/รถราง
สายๆก็จะเริ่มมีนักท่องเที่ยวมาเดินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เห็นจนเบื่อเลยครับที่จอดจักรยาน..ปั่นกันจริงจังมากครับ ไม่ได้ปั่นเอาชิล
ส่วนตรงนี้ไม่ชัวร์ว่าเป็นศาลากลางหรือจตุรัสอะไรซักอย่าง วันนั้นมีประท้วงด้วยครับ คนเยอะมาก แต่ก็อยู่ในความสงบดี

และไม่พลาดจริงๆสำหรับของดีของดังเมืองนี้ ดังไม่ดังดูได้จากคิวต่อแถว ตอนนี้ยังสายๆไม่เที่ยงเลยนะครับ
บ่ายๆเคยผ่านเรียกว่าคิวแน่นกว่านี้มาก
ถามว่าอร่อยมั้ย แล้วแต่คนชอบครับ ^^" ดีตรงเยอะ อยู่ท้องไปได้นาน ประหยัดค่าข้าวไป 1 มื้อ

มุมนี้น่าจะเป็นมุมคลองที่สวยที่สุดสำหรับผมแล้ว ปลายคลองจะเป็นโบสถ์พอดี แต่จุดที่ถ่ายเป็นแค่สะพานเเคบๆเล็กๆ
ซึ่งจักรยานเยอะมากครับ ต้องอาศัยจังหวะดีๆ ทั้งหนีจักรยาน และหนีนักท่องเที่ยว

พักสายตากับนักท่องเที่ยวกันบ้างครับ น่าจะเป็นรูปที่ชัดที่สุดในทริปแล้วเพราะถ่ายจากกล้องคอมแพค
ซึ่งก็ถ่ายมาเเค่นี้แหละครับ ไม่รู้จะเเบกไปทำไม

เอาล่ะครับ..พอหอมปากหอมคอสำหรับ Amsterdam ภาคกลางวัน..แต่จะไม่เข้ากับหัวข้อกระทู้ ถ้าเราไม่ได้เดินสูดกลิ่นสายเขียว
ในย่านที่ดังที่สุดในโลกอย่าง Red Light District หมดโควต้าตัวอักษรต่อ 1 โพส เดี๋ยวมาโพสแบบต่อเนื่องเลยครับ