Knight of Clues คดีที่ 11 : ความวุ่นวายในทิศทักษิณ

สวัสดครับทุกท่าน ไม่ได้เขียนเรื่องนี้นาน มีเวลา (จากการอู้ในการทำงาน) ก็เลยได้เขียนแล้วครับ โดยคดีนี้ ไม่มีปริศนา ไม่มีการต่อสู้ มีแต่ปัญหาที่เกิดขึ้น และวิธีแก้ไข ซึ่งจะจบในตอนเดียว ลองอ่านกันดูครับ

ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คดีที่ 11 : ความวุ่นวายในทิศทักษิณ



    ปราสาทลัวร์

    หากปราสาทนี้ใช้ชื่อเดียวกับชื่อเมือง ย่อมเป็นปราสาทอันที่พำนักขององค์ราชาแห่งนครลัวร์

    ตามปกติแล้วห้องหับในปราสาทมีมากมายจนนับไม่ไหว แต่มีอยู่ห้องหนึ่งที่สำคัญและใหญ่โตที่สุด

    เป็นห้องโถงกลางสำหรับประชุม

    ห้องนี้ปกติแล้วยากที่จะพบเห็นผู้คนอยู่เต็มความจุของห้อง ทว่าในวันนี้กลับมีผู้คนอยู่ทุกจุด

    เหล่าข้าราชการ ขุนนาง แม่ทัพฝ่ายต่าง ๆ ของนครลัวร์ต่างมารวมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว

    แน่นอนว่าผู้ตรวจการพิเศษอย่างปิแอร์ก็เช่นกัน

    ไม่นานองค์ราชาก็ทรงเดินมาประทับที่บัลลังก์ ทันทีที่ท่านประทับลงเหล่าผู้คนที่อยู่ที่ต่างคุกเข่าทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียง

    “ลุกขึ้น” องค์ราชาบอก “ไม่ต้องมากพิธีอะไร รีบเข้าเรื่องเลยดีกว่า ท่านเฟอร์ดินันท่านช่วยบอกทุกคนหน่อยสิว่าข้าเรียกทุกคนมาเพราะเหตุใด”

    แม่ทัพใหญ่แห่งนครลัวร์ เฟอร์ดินัน เซเบอร์โค้งทำความเคารพอีกครั้ง หันไปกล่าวกับทั้งหลายในห้องโถงนี้ว่า

    “ทุกท่านคงพอทราบแล้ว” เขากล่าวเสียงดังหนักแน่น “เรื่องที่กลุ่มแนวร่วมประชาชนทิศทักษิณตั้งกองกำลังและคุมตัวคณะผู้ตรวจการแผ่นดินไว้ ซึ่งเพียงแค่นี้ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเท่าไร ทว่าในคณะผู้ตรวจการแผ่นดินนั้นมีพระชามาดา (ลูกเขย) ขององค์ราชาอยู่ด้วย”

    หลายคนในห้องโถงสีหน้าเปลี่ยน แต่บางคนก็เรียบเฉย น่าจะพอทราบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

    “ทางเรากำลังหาวิธีจัดการกับสถานการณ์นี้ และต้องการให้ทุกท่านที่อยู่ที่นี่ให้ความร่วมมือด้วย” แม่ทัพเฟอร์ดินันว่าต่อ

    “สถานการณ์เช่นนี้ให้ข้านำทีมลอบชิงตัวประกันเลยดีหรือไม่” ราจิสเอ่ยถาม เขาเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของนครลัวร์ มีหน้าที่ปฏิบัติอื่นใดนอกเหนือการปฏิบัติรูปแบบปกติของกองทัพ  

    “เช่นนั้นยังมิควร” องค์ราชาแห่งนครลัวร์กล่าวขึ้นมา “จริงอยู่ว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของท่านจะชำนาญในกรณีเช่นนี้ แต่ข้าไม่อยากให้ชีวิตลูกเขยของข้าต้องเป็นอันตราย อีกทั้งช่วงนี้หลายเมืองจ้องจะเล่นงานนครลัวร์ของเราอยู่ตลอด หากเกิดมีการปะทะกันเต็มรูปแบบ มีสงครามเกิดขึ้นภายในเมืองเช่นนี้ หลายเมืองต้องฉวยโอกาสเล่นงานเป็นแน่”

    ดำรัสจบก็หันไปทางพระราชธิดาที่อยู่อีกมุม นางในตอนนี้ใบหน้าไม่ดีหนัก ดูเศร้าสร้อยอย่างมาก

    “เช่นนี้ควรทำอย่างไรขอรับ” ราจิสถามพระองค์

    “เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้ พวกท่านช่วยกันหาวิธี และรีบหาให้ได้โดยเร็วด้วย” องค์ราชากล่าว สีหน้าของพระองค์ก็ไม่ต่างจากลูกสาวนัก

    เหล่าผู้คนที่อยู่ที่นี่ยังคงนิ่งเงียบ ไม่มีผู้ใดกล่าวอะไร ไม่ทราบว่าทั้งหมดคิดวิธีไม่ได้ หรือเก็บงำไม่ยอมออกความเห็นกันแน่

    “ข้าน้อยคิดว่ามันคงจะมีแค่วิธีบุกชิงตัวประกันละมั้งขอรับพระองค์” แม่ทัพเฟอร์ดินันกล่าว

    “ไม่ หากทำแบบนั้นมันเสี่ยงเกินกว่าข้าจะรับได้ ไม่มีวิธีดี ๆ จะช่วยเหลือลูกเขยข้าและหยุดเหตุการณ์นี้ได้เลยหรือ”

    “เกรงว่าจะไม่มีขอรับ” แม่ทัพใหญ่แห่งนครลัวร์ตอบ จากนั้นก็หันไปทางแม่ทัพและขุนนางคนอื่น แล้วพูดต่อว่า “ท่านใดมีความคิดเห็นอื่นบ้าง?”

    ไม่มีผู้ใดตอบ ไม่ว่าขุนนางฝ่ายไหน แม่ทัพหน่วยใด ก็ไม่มีใครกล้าออกความเห็น

    แต่ว่ากลับมีคนผู้หนึ่งยกมือและพูดขึ้นมา

    “ข้าคิดว่ามีวิธี”

    เสียงพูดอันผ่อนคลายราวกับไม่ทุกข์ร้อนอะไรเช่นนี้ ทุกคนต่างทราบดีว่าเป็นของผู้ใด

    ปิแอร์ ผู้ตรวจการพิเศษแห่งนครลัวร์นั่นเอง

    “ท่านปิแอร์ ท่านมีวิธีจริง ๆ หรือ” องค์ราชาเอ่ยถาม

    “ข้าน้อยพอมีวิธีอยู่บ้าง เพียงแต่ต้องให้เวลาข้าสักช่วงหนึ่ง พระองค์ทรงประทานให้ข้าได้ไหมขอรับ” อังตวนตอบ

    “จะเอาอย่างไรก็ตามใจท่านเลยปิแอร์ แต่ห้ามให้ลูกเขยข้าเป็นอะไรเด็ดขาด และต้องจัดการเรื่องนี้ได้โดยไม่มีสงครามเกิดขึ้นมาภายหลังด้วย” องค์ราชากล่าว “แต่ว่าท่านจะใช้วิธีอย่างไร?”

    “เรื่องวิธีนั้นข้าน้อยยังไม่แน่ใจนัก แต่ข้าน้อยอยากขอความร่วมมือจากฝ่ายอื่นด้วยจะได้หรือไม่” ปิแอร์ว่าต่อ

    “เป็นฝ่ายใด”

    “คงต้องขอแรงท่านราจิสเตรียมกำลังไว้ให้พร้อม” ผู้ตรวจการพิเศษหันไปทางราจิส

    “หน่วยปฏิบัติการพิเศษของข้าพร้อมเสมอ ท่านต้องการใช้งานเมื่อใดแจ้งได้ทันที” ราจิสตอบอย่างมั่นใจราวกับพร้อมลุยตอนนี้เลย

    “ขอบคุณท่านมาก” ปิแอร์โค้งให้เล็กน้อย “ส่วนท่านเฟอร์ดินัน ในกองทัพของท่าน มีหน่วยสืบข่าวอยู่หรือไม่”

    “ย่อมมี ท่านจะให้สืบข่าวอันใด” เฟอร์ดินันถาม

    “เรื่องนี้คงต้องคุยรายละเอียดกันอีกที” ปิแอร์บอกกับเขา

    หลังจากประชุมนี้จบ ทางองค์ราชาได้มอบหมายให้ปิแอร์เป็นหัวหน้าในการจัดการกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งสถานการณ์ทางทิศทักษิณที่กลุ่มแนวร่วมประชาชนควบคุมอยู่นั้นยังไม่อยู่ในความสงบ เหล่าประชาชนที่ก่อการต่างลุกหือเรียกร้องข้อต่อรอง เพื่อแลกเปลี่ยนกับพระชามาดาที่เป็นตัวประกัน

    ข้อต่อรองส่วนใหญ่เป็นเรื่องปากท้องและความเป็นอยู่ เพราะประชาชนในทิศทักษิณนี้ค่อนข้างอยู่อย่างแร้นแค้น ไม่มีกำลังเงิน และไร้หน่วยงานจากทางการเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนทางทิศทักษิณเริ่มก่อกำลัง ตั้งต้นเป็นแนวร่วมประชาชนเพื่อต่อรองกับทางการ

    และดันบังเอิญว่าทางคณะผู้ตรวจการแผ่นดินของทางการที่พระชามาดาเดินทางมาย่านนี้พอดี ทางแนวร่วมประชาชนจึงเข้าควบคุมและจับทั้งหมดเป็นตัวประกันไว้
    

(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่