พอดีเมื่อสักครู่ ผมได้เกิดสงสัยขึ้นมาว่า "ฟันปลอม" น่ะ ในภาษา Latin มันแปลว่าอะไร ก็เลยลอง Search ในกุเกิ้งดู ก็ไปเห็นลิงค์วิกิพีเดีย แต่ก็ไม่ได้คำตอบ แต่เห็นว่ามีลิงค์ไปที่ "สถานีย่อย:แพทยศาสตร์" ก็เลยลองจิ้มเข้าไปดู เผื่อว่าจะได้ข้อมูลเพิ่ม ก็ได้เจอบทความหนึ่ง ซึ่งเป็นพระราชดำรัสที่ผมกำลังจะกล่าวถึงในกระทู้นี้ ขึ้นมาบนหัวของเว็บเพจ ความว่า..
"ฉันชอบวิชาปกครอง แต่ฉันไม่เรียน เพราะวิชาดังกล่าวเป็นวิชาที่ฉันมองเห็นว่าล้วนแต่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนยังความทุกข์ร้อนให้แก่ผู้อื่น ฉันเกิดเป็นคนควรจะทำตนให้มีค่า หมายถึงว่าทำตนให้เป็นที่หลั่งออกซึ่งประโยชน์ต่อผู้อื่น ให้ผู้อื่นได้รับความสุขจากเรา ฉะนั้น ฉันจึงเลือกเรียนวิชาแพทยศาสตร์"
— พระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย
แม้ว้าผมจะไม่ได้เรียนแพทย์ แต่อ่านแล้วผมรู้สึกประทับใจมาก ว่ามีคนคิดแบบเดียวกับผมอยู่ด้วย อีกทั้งยังเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ เพียงแต่ว่า เส้นทางที่ผมเลือกเดินนั้นต่างกันออกไป เพราะผมชอบขีด ชอบเขียน ชอบจินตนาการ แล้วก็ชอบ "สร้าง" อะไรขึ้นมาเล่นๆ จากจินตนาการนั้น เลยเลือกมาเรียนสถาปัตย์ แต่กระนั้น..
..ถึงแม้ว่าทางที่ผมเลือกเดินในเส้นทางที่ต่างออกไป แต่ด้วยความที่มีความเชื่อแบบเดียวกันนั้น
จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมหลงไหลในวิชาชีพนั้น หรือบางที ผมอาจเกิดมาเพื่อที่จะปกป้องสิ่งเหล่านั้นก็เป็นได้..
*หากผมใช้คำพูดไม่เหมาะสม หรือผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ แต่คือผมประทับใจกับพระราชดำรัสข้อนี้จริงๆ เลยอยากเอามาแชร์ เผื่อจะเป็นประโยชน์ เป็นกำลังใจแก่ผู้ที่คิดแบบเดียวกัน หรือแม้กระทั่งเตือนใจใครหลายๆ คนได้ครับ.
ขอพระราชทานพระราชานุญาตอัญเชิญพระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก มาสักข้อครับ
พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย
แม้ว้าผมจะไม่ได้เรียนแพทย์ แต่อ่านแล้วผมรู้สึกประทับใจมาก ว่ามีคนคิดแบบเดียวกับผมอยู่ด้วย อีกทั้งยังเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ เพียงแต่ว่า เส้นทางที่ผมเลือกเดินนั้นต่างกันออกไป เพราะผมชอบขีด ชอบเขียน ชอบจินตนาการ แล้วก็ชอบ "สร้าง" อะไรขึ้นมาเล่นๆ จากจินตนาการนั้น เลยเลือกมาเรียนสถาปัตย์ แต่กระนั้น..
จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมหลงไหลในวิชาชีพนั้น หรือบางที ผมอาจเกิดมาเพื่อที่จะปกป้องสิ่งเหล่านั้นก็เป็นได้..
*หากผมใช้คำพูดไม่เหมาะสม หรือผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ แต่คือผมประทับใจกับพระราชดำรัสข้อนี้จริงๆ เลยอยากเอามาแชร์ เผื่อจะเป็นประโยชน์ เป็นกำลังใจแก่ผู้ที่คิดแบบเดียวกัน หรือแม้กระทั่งเตือนใจใครหลายๆ คนได้ครับ.