
Akshat Mehrish กล่าวหลังเกมที่เสมอกันระหว่างมาเลเซียและไทยไว้ว่า
1. คำสาปทีมชาติไทยยังคงมีอยู่ต่อไปในบูกิต จาลิล

ทีมไทยมาบูกิต จาลิล ที่ไรก็ต้องวิตกจริตทุกที ทัพช้างศึกยังไม่เคยชนะในสนามที่มีความจุ 87,000 ที่นั่งแห่งนี้เลย และมาเลเซียก็หวังให้เปนเช่นนั้นต่อไป ตั้งแต่เริ่มเกมเปนมาเลเซียที่วิ่งเข้าใส่แนวรับไทยต่อเนื่อง แต่ตลอดทั้งเกมก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ซึ่งทั้งเกมทัพช้างศึกก็ไม่สามารถยิงมาเลเซียได้เลยเช่นกัน แต่กระนั้นไทยก็ดูจะเฉยๆกับผลเสมอ เพราะในอีก 4 วันข้างหน้าพวกเขาจะเปิดบ้านต้อนรับทีมเสือเหลืองที่กรุงเทพ
2. ผู้เล่นหมายเลขสิบสองของมาเลเซียสุดยอดที่สุด

เพราะการหนุนหลังของแฟนบอลเหล่านี้เปนแรงผลักดันให้ทีมชาติของพวกเขาเล่นได้ดีเกินคาด และนี่คือจุดแข็งที่สุดของเสือเหลืองมาลายันเมื่อได้ลงเล่นในบ้านช่วงการแข่งขัน 2018 AFF Suzuki Cup ที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้
3. พวกเราหยุดไทยได้

ไทยดีสุดในการแข่งขันครั้งนี้จากหลายๆอย่าง ช้างศึกถล่มคู่แข่งที่ขวางหน้ามาทุกทีมจะมากบ้างน้อยบ้าง ทีมมาเลเซียรู้ดีและระมัดระวังกับอาวุธเหล่านี้ที่ทีมไทยมี เมื่อจับสรรวัชญ์ได้ตั้งแต่ต้นเกม ไม่ปล่อยให้หมายเลข 10 มีพื้นที่เล่น เมื่อผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมของไทยถูกจัดการ ศูนย์หน้าของไทยก็จะหายไปจากเกม การโจมตีของไทยก็จะไร้ประสิทธิภาพลง
4. มาเลเซียได้แต่ขู่แต่ไม่ทำให้เกิดผลร้ายแรง

มาเลเซียครองเกม 63.2% ส่งบอลมากกว่า 200 ครั้งและแม่นยำถึง 88.5% แต่ไม่ว่าจะมีโอกาสเยอะขนาดไหนแนวรุกของมาเลเซียก็ยิงพลาดเป้าหมายไปหมด ตลอดทั้งคืนยิงไป 23 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้งแต่ก็ไม่เปนประตู
5. ไทยได้ประโยชน์จริงหรือ??

ก็แค่สงสัยเท่านั้นว่าการเสมอกันในเลกแรกทำให้ทัพช้างศึกได้ประโยชน์ในเลกสองจริงรึ แชมป์ 5 สมัยตั้งเป้าไว้สองอย่างคือ
1) ยิงประตูได้นอกบ้าน และ
2) ไม่เสียประตู
ในเมื่อพลาดเป้าหมายแรกไป แต่ก็ทำอย่างที่สองสำเร็จซึ่งน่าจะสำคัญยิ่งกว่า แนวรับไทยได้รับการยกย่องและยอมรับเมื่อพวกเขาไม่ยอมเสียประตู แต่นั้นแหละต้องโทษแนวรุกมาเลเซียของเราเองที่ทำไม่ได้ทั้งๆที่พวกเราน่าจะได้ประโยชน์มากในเกมนี้ก่อนที่จะไปกรุงเทพ
อ้างอิง: จากบนความของ Akshat Mehrish ผู้เขียนของ Fox Sport Asia
AFF Suzuki Cup 2018: 5 เรื่องที่ต้องพูดถึงในเกมที่มาเลเซียเสมอกับไทย!!
Akshat Mehrish กล่าวหลังเกมที่เสมอกันระหว่างมาเลเซียและไทยไว้ว่า
1. คำสาปทีมชาติไทยยังคงมีอยู่ต่อไปในบูกิต จาลิล
ทีมไทยมาบูกิต จาลิล ที่ไรก็ต้องวิตกจริตทุกที ทัพช้างศึกยังไม่เคยชนะในสนามที่มีความจุ 87,000 ที่นั่งแห่งนี้เลย และมาเลเซียก็หวังให้เปนเช่นนั้นต่อไป ตั้งแต่เริ่มเกมเปนมาเลเซียที่วิ่งเข้าใส่แนวรับไทยต่อเนื่อง แต่ตลอดทั้งเกมก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ซึ่งทั้งเกมทัพช้างศึกก็ไม่สามารถยิงมาเลเซียได้เลยเช่นกัน แต่กระนั้นไทยก็ดูจะเฉยๆกับผลเสมอ เพราะในอีก 4 วันข้างหน้าพวกเขาจะเปิดบ้านต้อนรับทีมเสือเหลืองที่กรุงเทพ
2. ผู้เล่นหมายเลขสิบสองของมาเลเซียสุดยอดที่สุด
เพราะการหนุนหลังของแฟนบอลเหล่านี้เปนแรงผลักดันให้ทีมชาติของพวกเขาเล่นได้ดีเกินคาด และนี่คือจุดแข็งที่สุดของเสือเหลืองมาลายันเมื่อได้ลงเล่นในบ้านช่วงการแข่งขัน 2018 AFF Suzuki Cup ที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้
3. พวกเราหยุดไทยได้
ไทยดีสุดในการแข่งขันครั้งนี้จากหลายๆอย่าง ช้างศึกถล่มคู่แข่งที่ขวางหน้ามาทุกทีมจะมากบ้างน้อยบ้าง ทีมมาเลเซียรู้ดีและระมัดระวังกับอาวุธเหล่านี้ที่ทีมไทยมี เมื่อจับสรรวัชญ์ได้ตั้งแต่ต้นเกม ไม่ปล่อยให้หมายเลข 10 มีพื้นที่เล่น เมื่อผู้เล่นที่สร้างสรรค์เกมของไทยถูกจัดการ ศูนย์หน้าของไทยก็จะหายไปจากเกม การโจมตีของไทยก็จะไร้ประสิทธิภาพลง
4. มาเลเซียได้แต่ขู่แต่ไม่ทำให้เกิดผลร้ายแรง
มาเลเซียครองเกม 63.2% ส่งบอลมากกว่า 200 ครั้งและแม่นยำถึง 88.5% แต่ไม่ว่าจะมีโอกาสเยอะขนาดไหนแนวรุกของมาเลเซียก็ยิงพลาดเป้าหมายไปหมด ตลอดทั้งคืนยิงไป 23 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้งแต่ก็ไม่เปนประตู
5. ไทยได้ประโยชน์จริงหรือ??
ก็แค่สงสัยเท่านั้นว่าการเสมอกันในเลกแรกทำให้ทัพช้างศึกได้ประโยชน์ในเลกสองจริงรึ แชมป์ 5 สมัยตั้งเป้าไว้สองอย่างคือ
1) ยิงประตูได้นอกบ้าน และ
2) ไม่เสียประตู
ในเมื่อพลาดเป้าหมายแรกไป แต่ก็ทำอย่างที่สองสำเร็จซึ่งน่าจะสำคัญยิ่งกว่า แนวรับไทยได้รับการยกย่องและยอมรับเมื่อพวกเขาไม่ยอมเสียประตู แต่นั้นแหละต้องโทษแนวรุกมาเลเซียของเราเองที่ทำไม่ได้ทั้งๆที่พวกเราน่าจะได้ประโยชน์มากในเกมนี้ก่อนที่จะไปกรุงเทพ
อ้างอิง: จากบนความของ Akshat Mehrish ผู้เขียนของ Fox Sport Asia