คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เด็กเลี้ยงแกะ ตอนจบไม่ค่อยสวยนะคะ
อ่านแล้วคิดถึงพี่ชายคนโตเราเลยค่ะ อยากมอบตุ๊กตาทองให้ พร้อมมองบน....คนแบบนี้น่ากลัว
พี่ชายเราแบบใช้ชีวิตตัดขาดจากบ้านโดนสมบูรณ์ ชีวิตสมบูรณ์แบบมีเงิน มีเวลาเที่ยว มีเวลาเลี้ยงต้อยบลาๆๆๆ (เป็นหลานรักของอาม่า) ....จะมาบ้านก็ต่อเมื่อมีปัญหาอยากให้คนในบ้านช่วย แต่คนในบ้านมีปัญหาติดต่อเค้าไม่ได้
ตั้งแต่อาม่าเราเริ่มเดินไม่ได้ จนนอนติดเตียง พี่ชายมาแต่ไม่เคยเข้าไปดูเลย ...อาม่าเรียกเค้า เค้าก็เมินเฉย มีบอกให้เราเข้าไปดูแทนตลอด
พ่อเราอยากให้เค้าพาม่าไปโรงบาล ถ้าคุณได้เห็นสิ่งที่พี่ชายเราทำ คุณจะคิดว่า ผู้ชายคนนี้คือยอดชาย เป็นหลานชายที่ใจดีมาก มีความเป็นสูงลิบ...อุ้มอาม่า พูดเพราะมากกับอาม่า ทำเหมือนรักสุดๆ หวงสุดๆ (เค้าจะทำแบบนี้ก็ต่อเมื่อเค้าพาอาม่าออกนอกบ้าน อยู่ต่อหน้าคนอื่นในสังคม) เค้าทำให้คนอื่นรู้สึกว่า คนที่ดูแลอาม่าตัวจริงเป็นคนไม่ดี ห่วงได้ไม่ได้ครึ่งของเค้า ....ชอบดุใส่ ว่าทำไม่ดีอย่าทำ เดี๋ยวเค้าทำเอง!!
แต่เมื่อกลับมาบ้านคือ จบล่ะการแสดง
เห็นแล้วทุเรศลูกตา
คนตอ...คบไม่ได้
อ่านแล้วคิดถึงพี่ชายคนโตเราเลยค่ะ อยากมอบตุ๊กตาทองให้ พร้อมมองบน....คนแบบนี้น่ากลัว
พี่ชายเราแบบใช้ชีวิตตัดขาดจากบ้านโดนสมบูรณ์ ชีวิตสมบูรณ์แบบมีเงิน มีเวลาเที่ยว มีเวลาเลี้ยงต้อยบลาๆๆๆ (เป็นหลานรักของอาม่า) ....จะมาบ้านก็ต่อเมื่อมีปัญหาอยากให้คนในบ้านช่วย แต่คนในบ้านมีปัญหาติดต่อเค้าไม่ได้
ตั้งแต่อาม่าเราเริ่มเดินไม่ได้ จนนอนติดเตียง พี่ชายมาแต่ไม่เคยเข้าไปดูเลย ...อาม่าเรียกเค้า เค้าก็เมินเฉย มีบอกให้เราเข้าไปดูแทนตลอด
พ่อเราอยากให้เค้าพาม่าไปโรงบาล ถ้าคุณได้เห็นสิ่งที่พี่ชายเราทำ คุณจะคิดว่า ผู้ชายคนนี้คือยอดชาย เป็นหลานชายที่ใจดีมาก มีความเป็นสูงลิบ...อุ้มอาม่า พูดเพราะมากกับอาม่า ทำเหมือนรักสุดๆ หวงสุดๆ (เค้าจะทำแบบนี้ก็ต่อเมื่อเค้าพาอาม่าออกนอกบ้าน อยู่ต่อหน้าคนอื่นในสังคม) เค้าทำให้คนอื่นรู้สึกว่า คนที่ดูแลอาม่าตัวจริงเป็นคนไม่ดี ห่วงได้ไม่ได้ครึ่งของเค้า ....ชอบดุใส่ ว่าทำไม่ดีอย่าทำ เดี๋ยวเค้าทำเอง!!
แต่เมื่อกลับมาบ้านคือ จบล่ะการแสดง
เห็นแล้วทุเรศลูกตา
คนตอ...คบไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
คือสงสัยกับอุปนิสัยใจคอว่ามันแปลกกับคนรอบข้างมากไหมครับ
ต้นเหตุของการพิมพ์ครั้งนี้คือมีปากเสียงกับพ่อซึ่งเกิดขึ้นน่าจะถือว่าบ่อย ต้นเรื่องครั้งนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ ไม่เกี่ยวกับผมด้วยซ้ำทำให้เริ่มหงุดหงิด ซึ่งผมก็มีเรื่องเครียดมาจากสังคมนอกบ้านอยู่แล้ว อยากหนีจากวังวนความน่าเบื่อนี้ ก็หาทางออกโดยใช้สร้างเรื่องเอาเรื่องสังคมนอกบ้านมาประติประต่อแล้วก็คิดมโนเรื่องเศร้าๆ(บีบน้ำตานั่นแหละ)ให้ไอ้ที่มีปากเสียง(ซึ่งผมไม่เกี่ยวด้วยซ้ำ)กันนั้นเย็นลง เพียงแค่พ้นสายตาเท่านั้นอารมณ์ก็กลับมาเหมือนเดิม ไม่รู้สึกผิดอะไร ไม่รู้สึกอะไรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่การขึ้นเสียงกับคนเป็นพ่อมันควรจะรู้สึกผิดบ้างอย่างน้อยแค่ลึกๆในใจก็ยังดี แต่ความคิดมันจะว่างเปล่าขนาดนี้แบบลืมเรื่องหงุดหงิดไปเลย มันจะไม่รู้สึกอะไรแบบนี้เลย? พอพ่อแม่มาสนใจอีกก็แค่ปั้นหน้าเศร้าต่อ ขอแค่ได้อยู่สงบๆพอ หรือว่าผมเลววะ? ผมว่าผมก็เทาๆนะ ผมคิดผมเป็นคนที่”ไม่ใส่ใจกับอะไรเลย” ซึ่งมันจะรู้สึกแบบนี้ตลอด แล้วมันทำให้คิดว่ามันมีเรื่องคล้ายๆแบบนี้เกิดขึ้นกับผมบ่อยผมก็แค่คิดว่า”ไม่สำคัญ” แค่ทำอะไรสักอย่างแล้วก็ลืมๆไปเลยแบบง่ายๆเลย ทำให้ผมสงสัยตัวเองว่ามันดีแล้วเหรอ มันถูกต้องแล้วหรือเปล่าวะ? เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรหรือมีนิสัยแบบนี้มานานแค่ไหนก็จำไม่ได้แล้ว ...เอาเป็นว่าเรื่องมันก็ทำนองนี้แหละ เดี๋ยวมันจะเพ้อยาวกว่านี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
แต่ที่ผมต้องการจากการพิมพ์มาครั้งนี้คือ ท่านที่อ่านคิดว่าผมเป็นยังไงในมุมมองท่าน ท่านว่ามันประหลาดไหมครับ มีใครเป็นแบบผมไหม คือผมคิดมาตลอดเลยว่าการผมเป็นคนไม่สนใจเรื่องคนอื่นเลยควรแก้ยังไงดี
ใครมีประสบการณ์คล้ายๆกันก็แชร์ได้นะครับ ใครที่อ่านแล้วไม่พอใจจะด่าก็ด่าได้นะ ผมเป็นคนไม่เก็บส่วนที่เป็นอารมณ์หรือคำหยาบคายมาคิด เผลอๆผมอาจจะเจอทางออกหรือคำตอบจากการถูกด่าก็ได้มั้ง แต่ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับหากที่พิมพ์ไปแล้วทำให้รู้สึกไม่ชอบใจหรือไม่สบอารมณ์ หรือสิ่งที่พิมพ์อาจดูย้อนแย้งกัน ตั้งกระทู้แรกเลยนะเนี่ย