ฟูเอร์เตเบนตูรา เกาะแห่งความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น [ฮันนี๋...เบบี๋ ไปด้วย]


ฟูเอร์เตเบนตูรา เกาะแห่งความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น ทำไมฉันถึงรู้สึกอย่างนั้น ดูได้จากรูปหน้าปก แต่อยากลงรูปเต็มให้ดูจะได้ชัดเจน
อันนี้คือรูปที่ไม่ได้ครอป พอไปยืนตรงนั้น มองไปรอบๆ ฉันรู้สึกถึงความเวิ้งว้างแบบไม่มีที่สิ้นสุด มองไปทางไหนก็เห็นแต่ภูเขาหินสีทะมึนนี่ แล้วดูผมฉันสิ สยายตั้งแต่รากจรดปลาย คือที่นี่ลมแรงมากกกกก เธอไม่สามารถใส่หมวกมาเดินสวยๆที่นี่ได้นะ เพราะเธอต้องเดินแบบดูทิศทางลม เรียกว่าหันผิดชีวิตเปลี่ยน ผมเธอจะมาปิดหน้าเหมือนยายเพิ้ง ถ้านึกภาพไม่ออก ฉันมีภาพประกอบมาให้ดู จุดเดิม มุมเดิม เวลาเดิม เพียงแค่หันหน้าผิดด้านเท่านั่น...โอเค...หลังจากออกนอกเรื่องไปไกล ขอกลับเข้ามายังเกาะของเรา เกาะแห่งนี้ขึ้นกับจังหวัดลัสปัลมัส ประเทศสเปน เป็นหนึ่งในเกาะของหมู่เกาะคะแนรีในมหาสมุทรแอตแลนติก มีพื้นที่ 1,660 ตารางกิโลเมตร ความยาวของเกาะตั้งแต่เหนือจรดใต้คือ 100 กิโลเมตร ความกว้าง 31 กิโลเมตร และที่เก๋ไก๋คือเป็นเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟ เมื่อ 20 ล้านปีที่แล้ว ว๊าว!!! ปัจจุบันมีเมืองหลวงของเกาะอยู่ช่วงกลางของเกาะชื่อว่า ปรวยโต เดล โรซาริโอ (Puerto del Rosario) สนามบินก็ตั้งอยู่ที่นี่แหละจ้า ชื่อของเกาะนี้มาจากภาษาสเปนที่แปลว่า "ลมแรง" ลมแรงจริงดูได้จากรูปฉัน และผู้คนส่วนใหญ่รู้จักเกาะในนาม “เกาะแห่งฤดูใบไม้ผลิตลอดกาล” คือพอฟังแล้วก็คิดว่า เอิ่ม...เค้าคงหมายถึงอากาศเหมือนช่วงสปิงซีซั่นอะไรอย่างนี้ เพราะในเกาะไม่เห็นต้นไม้ที่มีใบสักเท่าไหร่ ประชากรที่นี่ส่วนมากเป็นคนยุโรปที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ เท่าที่สังเกตก็จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ ช่วงวัยเกษียณอายุแล้วจะมีชาวเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นส่วนใหญ่ และอีกกลุ่มคือ วัยรุ่นที่รักกีฬาทางน้ำพวกเซิร์ฟบอร์ด ไคท์เซิร์ฟ วินเซิร์ฟ ซึ่งกลุ่มนี่แหละที่ทำให้ฉันอยากไปเที่ยวเกาะนี้ 55555 (ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆนะ)
ถามว่าเกาะนี้อยู่ส่วนไหนของสเปน บอกเลยว่าไกลจากสเปนมาก เอาแผนที่มาให้ดูกันคร่าวๆ จุดแดงๆคือเกาะนี้จร้า

สำหรับประวัติเชิงลึกอ่านได้จากวิกิพีเดียนะจ๊ะ https://en.wikipedia.org/wiki/Fuerteventura
  
ใครที่อยากมา มาดูสิว่าต้องเดินทางกันยัง เกาะนี้ไม่สามารถบินตรงจากไทยได้ เพราะเครื่องบินที่ลงที่นี่ส่วนมากเป็นเครื่องบินเล็ก เหมือนพวกเครื่องบินที่บินภายในประเทศ หรือพวกบินใกล้อย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ เราต้องไปลงเมืองใหญ่ใกล้ๆ แล้วต่อเครื่องบินเล็กมาจ้า
หลังจากเท้าก้าวออกมาที่ลานหน้าสนามบิน ฉันรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย ความรู้สึกเหมือนไปเหยียบดาวอังคาร เพราะเงียบมาก มองไปทางไหนเห็นแต่ภูเขาดินที่ไร้ซึ่งต้นหญ้า มีเพียงกระบองเพชรขึ้นประปราย เป็นเกาะแห้งแล้งที่ล้อมรอบด้วยทะเล คิดถึงรุ่นบุกเบิกของที่นี่ต้องลำบากมากแน่ๆเลย


การจะขับรถที่นี่ต้องค่อนข้างมั่นใจว่ารถเราสภาพดี อย่าไปเสียกลางทางเชียวล่ะ เพราะอะไรเหรอ ไม่ใช่ถนนเค้าไม่ดีนะ แต่แค่ไม่ค่อยมีผู้คน และไม่มีอะไรข้างทางเลย 55555
บ้านเรือนของที่นี่ เค้าเป็นทรงกล่อง ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเทคนิคการสร้างบ้านกลางทะเลทรายรึเปล่า อันนี้ถ้ามีสถาปนิกผ่านมาอ่าน ช่วยไขความกระจ่างด้วยจ้า


หลังจากเรามาถึงก็ขับรถตะลอนชมรอบเกาะ ช่วงทางเหนือของเกาะมีเมืองที่ชื่อ โคลาเรรโค่ (Corralejo) การออกเสียงยากมากสำหรับฉัน เนื่องจากตัว r ควบกันสองตัว ฉันออกเสียงเหมือนกลั้วคอด้วยน้ำยาบ้วนปาก ทีเด็ดของเมืองนี้คือ ทรายขาวมากกกก ทั้งภูเขาเลยรวมทั้งบนชายหาดด้วย เห็นแล้วอยากจะลงไปนอนเกลือกกลิ้งเลยทีเดียว ทะเลและชายหาดที่เกาะนี้สวยมากจริงๆ สวยจนลืมความเวิ้งว้างของภูเขาไปเลย
ส่วนช่วงกลางเป็นเมืองหลวงของที่นี่ ก็จะมีสนามบิน ร้านค้าใหญ่ ท่าเรือ และเมืองค่อนข้างใหญ่กว่าที่อื่นๆ
ส่วนตอนใต้ก็เป็นชายหาดและบ้านพักต่างอากาศเช่นกัน
และมีอยู่หาดนึงที่ทำให้ฉันช็อคไปนิดๆ เรื่องมีอยู่ว่าฉันก็กำลังแฮปปี้กับทรายขาว ทะเลใส ท้องฟ้าครามอย่างถึงที่สุด มีตาลุงคนนึงเดินผ่านไปแบบไม่นุ่งอะไรเลย และฉันเห็น...  คือมันคงเป็นธรรมดาของที่นี่ที่ใครจะแก้ผ้าเดินบนหาดก็ได้ แต่ไม่เคยเจอแบบนี้ที่ไทยก็ตกใจนิดนึง ไม่ได้ถ่ายรูปเค้ามาให้ดูกันนะเพราะหยิบกล้องไม่ทัน เอ้ย! ไม่ใช่ เพราะมันเสียมารยาท 55555






ที่นี่เด่นเรื่องกีฬาทางน้ำพวกโต้คลื่นมาก เพราะลมแรงตลอดทั้งปี และในทุกๆปีก็มีการจัดแข่งเซิร์ฟจากทั่วโลกด้วยนะ เห็นเค้าเล่าให้ฟังว่า ตอนเช้าแข่งเซิร์ฟตอนเย็นก็ปาร์ตี้ ฟังดูน่าสนุก
นอกจากกีฬาแล้ว ท่องเที่ยวก็ไม่น้อยหน้า มีบริการล่องเรือเที่ยวรอบๆเกาะ หรือจะไปอีกเกาะที่ใกล้กันก็ได้




และเราก็ไม่พลาดที่จะล่องเรือเที่ยวเช่นกัน
คำเตือน ไม่ควรทานอะไรก่อนลงเรือ เพราะไม่งั้นอาจได้ให้อาหารปลากลางทะเล (คำเตือนนี้มาจากประสบการณ์ฉันเอง กินอาหารก่อนขึ้นเรือ พอเรือออกไปได้สักพัก ก็จอดกลางทะเล เท่านั้นแหละ เมาเรืออวกจ้า) นี่เรือที่เราไป
ส่วนนี่กัปตันเรือผู้ใจดี เป็นพ่อของเพื่อนของเพื่อน ที่พาเราไปท่องทะเลแบบฟรีๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ช่วงที่อยู่ในเรือ ก็มีกิจกรรมให้ทำแก้เบื่อ เช่น จอดว่ายน้ำกลางทะเล ตกปลา หรือพวกฝรั่งเค้าก็ชอบไปอาบแดดด้านหน้าเรือกัน

ที่นี่ยังกิจกรรมอื่นๆอีกนะ...ไม่อยากจะเชื่อใช้มั้ยว่าเกาะเล็กๆที่ตอนแรกดูน่าเบื่อจะมีกิจกรรมให้ทำเยอะขนาดนี้
สำหรับใครที่ชอบเดินขึ้นเขาที่นี่เค้าก็มีนะ และกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นคือ เค้ามีมอเตอร์ครอสด้วยแหละเธอ ตอนเราไปเค้ามีแข่งมอเตอร์ครอสพอดี เราเลยแวะไปเชียร์มานิดนึง ขี่กันได้เหินฟ้ามาก เป็นการชมที่ร้อนแรงมากด้วย เพราะนั่งชมกันกลางแดดจ้า ^^

เนื่องจากที่นี่ผู้สูงอายุเยอะก็ต้องมีกิจกรรมเอาใจกันหน่อย มีสนามกอล์ฟ กับคาสิโน ให้ได้มาผ่อนคลายกันด้วย
ส่วนโรงแรม และร้านอาหารที่นี่เห็นดูแห้งแล้งอย่างนี้ แต่โรงแรมเค้าหรูหรา สะดวกสบายใช่เล่นนะจ๊ะ




มาถึงที่ก็ต้องลองชิมอาหารสเปนนะคะ มีมาแนะนำ 2 เมนู อันแรกเป็นข้าวผัดสเปน เมนูนี้ชื่อ ปาเอย่า(paella) อันแรกเราสั่งแบบออริจินัล ส่วนอันสีดำนั้น สั่งแบบที่เค้าใส่น้ำหมึกของปลาหมึกลงไปด้วย รสชาติคล้ายๆกัน แต่ความน่ากินต่างกันเยอะเลย 5555

ส่วนเมนูที่ 2 ชื่อ กัมบัส พิว พิว (gambas phi phi) เมนูจะเหมือนกุ้งผัดกระเทียม ที่เสริฟแบบจานร้อน (คือจานร้อนมาก อย่าเผลอไปแตะเชียว) ขออภัยมือสั่นไปหน่อย สงสัยจะหิว
และสิ่งแปลกตาของที่นี่ คือ "แพะ" เพราะมันไม่ได้มีเฉพาะในฟาร์ม แต่มันเดินอยู่ทั่วไปหมดทั้งเกาะจ้า บางตัวก็คุ้นกับคน อย่างเจ้าตัวขาวบนภูเขานี่คุ้นกับคนมาก เพราะนางเดินอยู่แถวจุดชมวิว คนเลยให้ขนมนางจนนางชิน ส่วนครอบครัวตัวดำนี่เดินอยู่แถวหมู่บ้านแต่กลัวคน ฉันเอาแครอทไปให้พวกนาง พวกนางวิ่งหนีกันไปหมด หรือว่าฉันหน้าตาไม่เป็นมิตรกับธรรมชาติ อันนี้ไม่แน่ใจ ส่วนใครที่ชอบกินชีส ชีสแพะที่นี่ขึ้นชื่อมากนะจ๊ะ


สำหรับทริปนี้จบเท่านี้ ฝากเพื่อนๆ ติดตามกันด้วยนะจ๊ะ ยังมีทริปสนุกๆมาเล่าให้ฟังอีกเยอะเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่