[CR] เกาะบาหลีกับชะนีผู้โดดเดี่ยว



                    ขอพื้นที่แนะนำตัว สวัสดีค่ะ เราชื่อ ชะอม ชะนีพันธุ์ผสมที่เพิ่งหลุดพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัย จะมาเป็นคนเล่าเรื่องราวการเดินทางไปบาหลีในครั้งนี้ให้ฟังค่ะ

                    ก็แหงสิ...แกเดินทางไปคนเดียวนิ จะมีชะนีตัวไหนจะมาเล่าเป็นเพื่อนได้อีกกัน

                    ต้องขอออกตัวก่อนว่า เราไม่เคยเขียนกระทู้รีวิวมาก่อนเลยไม่แน่ใจว่าจะเรียกกระทู้นี้ว่ารีวิวได้ไหม แต่ก็เอาลงในหมวดรีวิวไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ใจจริงแค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางของเราให้ทุกคนอ่านเท่านั้นเอง อาจจะมีสาระบ้างบางช่วง หรืออาจจะหาสาระอะไรไม่ได้เลย ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ถ้ากระทู้นี้ไม่เป็นไปตามความต้องการของใคร

                    เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

                    การเดินทางไปบาหลีในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวครั้งแรกของเรา งงไหม ก่อนหน้านี้เราเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยในบาหลีค่ะ

                    หลายคนอาจสงสัย อ้าว! เคยไปแล้วนิ ก็ต้องรู้จักเส้นทาง การใช้ชีวิตนั่นดีอ่ะสิ

                    โน๊ว โนวค่ะ ห่างไกลจากที่หลายคนคิดไว้มากเลย เอาเป็นว่าเราข้าม ๆ มันไปละกัน ที่เกริ่นขึ้นมาเพราะว่าจะมีบางช่วงของการเดินทางที่เราได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าที่เป็นคนบาหลี

                    ทริปบาหลีเราวางแผนว่าจะเดินทางไปเที่ยวไว้ตั้งแต่ต้นปี นัดเพื่อน นัดผู้ไว้เรียบร้อย จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 6 เดือนกับสายการบินของเพื่อนบ้านเรานี่เอง เป็นแบบ Full service ไปต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ ราคาไปกลับประมาณห้าพันกลาง ๆ แถมรวมน้ำหนักกระเป๋าอีก 30 กิโล เสียเวลาต่อเครื่องไม่กี่ชั่วโมง ถือว่าคุ้มมาก แต่สำหรับใครที่ชอบบินตรงก็อย่าว่ากันนะคะ เอาเป็นว่าสไตล์ใครสไตล์มันเนอะ ระยะเวลาการเดินทางของทริปนี้ขออนุญาตยังไม่เฉลยนะคะ ให้ไปหาคำตอบกันเองในกระทู้ ชั่วร้ายไหม ฮ่า ฮ่า ฮ่า

                    หลังจากจองตั๋วเสร็จ เราก็เริ่มเขียนตารางการเดินทางค่ะ หาข้อมูลจาก Internet บ้าง ถามเพื่อนที่บาหลีบ้าง อ่านรีวิวจากหลาย ๆ ท่าน ทั้งใน Pantip และ readme.me พอเขียนตารางเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วเราก็มาหาโรงแรมที่จะพักจากแอพจองโรงแรมจุดสี ๆ 5 จุด เพราะได้ส่วนลดเยอะดี ที่เหลือก็แค่รอเวลาที่จะบิน

                    ดูเหมือนทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีใช่ไหมคะ แต่เปล่าเลย ผู้อ่านหลายคนคงพอเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ได้

                    ใช่ค่ะ เราโดนผู้เท

                    เทแบบไม่บอกไม่กล่าวอะไรเราเลย ก็แอบเสียใจ(มาก)เหมือนกัน เพราะแผนเที่ยวที่เราคิดไว้มันมีเขาอยู่ในนั้นด้วย

                    เอาวะ! ไม่มีผู้ แต่กุยังมีเพื่อน แต่ใครจะคิด แม้แต่เพื่อนก็ยังมาเทชะนีคนนี้! โถ่วว อิอมผู้น่าสงสาร

                    ถ้านังเพื่อนตัวดีทั้งหลายเข้ามาอ่านถึงตรงนี้ รู้ไว้เลยนะว่าชะนีงอน เอาไอติม ชาบู บิงซูมาง้อด้วย

                    แต่จะให้ทิ้งทริปนี้ ก็เสียดายเงินค่าตั๋วที่จ่ายไปแล้ว เออ! ไปคนเดียวก็ได้ เราตัดสินใจโละตารางการเดินทางที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ทิ้ง แล้วนั่งเขียนใหม่ รวมถึงหาโรงแรมที่พักใหม่ทั้งหมด หลายคนอาจสงสัยทำไมต้องเขียนใหม่ ใช้ตารางอันเดิมไม่ได้เหรอ ก่อนอื่นเลยคือตารางอันเก่าเราตั้งใจเขียนเพื่อเอาไว้เที่ยวกับเพื่อนค่ะ ถ้าขืนเรายังใช้ตารางเดิมอยู่แต่กลายเป็นว่ามีแค่เราคนเดียวที่อยู่ในแผนนั้น เราจะค่อนข้างรู้สึกแย่ เหมือนเวลาเราตั้งใจทำอาหารมาเผื่อทุกคน แต่กลายเป็นเราคนเดียวที่กินมัน พอเห็นภาพไหมคะ เลยคิดว่าเขียนขึ้นมาใหม่ให้แค่ตัวเองคนเดียวดีกว่า เพื่อนหลายคนพอรู้ว่าจะไปคนเดียวก็ไม่อยากให้ไป รวมถึงพ่อกับแม่ ยิ่งมาโดนผู้เทด้วยแล้วก็เลยยิ่งเป็นห่วงกันใหญ่ เราเข้าใจความรู้สึกของทุกคนนะ แต่เราเข้าใจความรู้สึกของเราดีที่สุด

                    บางครั้งการที่เราเลือกที่จะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วออกเดินทางในช่วงเวลาที่เรารู้สึกแย่นั้น มันไม่ใช่การหนีปัญหานะคะ เราแค่เลือกจะให้เวลากับตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ได้ให้โอกาสตัวเองในการพบเจอผู้คนใหม่ ๆ นี่คือวิธีเยียวยาตัวเองในแบบของเรา

                    แล้วเหตุการณ์ก็กลับมาสงบอีกครั้ง...ซะที่ไหนล่ะ...

                    สองเดือนก่อนออกเดินทางมีข่าวแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซีย ทางตอนเหนือของเกาะลอมบอก ซึ่งเกาะที่ว่าเนี่ย มันอยู่ข้าง ๆ กันกับเกาะบาหลีเลย แล้วไม่ใช่เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว มันเกิดขึ้นถึง สามครั้ง ในหนึ่งสัปดาห์ รอบแรกสั่นสะเทือนรุนแรงขนาด 6.4 แมกนิจูด ทำให้ดินภูเขาไฟรินจานีบนเกาะลอมบอกเกิดการถล่มลงมา มีข่าวนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนหนึ่งยังติดอยู่กลางภูเขา หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เกิดแผ่นดินไหวรอบสองตามมา สั่นสะเทือนรุนแรงถึง 7 แมกนิจูด รอบนี้ทำให้เกาะบาหลีรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนด้วยเช่นกัน ทางการถึงกับออกมาประกาศเตือนภัยสึนามิ

                    โอ๊ยยยย ย! อิอม ตอนเกิดแกไม่ได้หยิบโชคมาด้วยเหรอห๊ะ!

                    ใจหนึ่งก็คิด อีกตั้งสองเดือน อะไร ๆ มันคงเข้าที่แล้วแหละ

                    โล่งใจได้ไม่นาน...ไม่นานจริง ๆ ค่ะ... เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอีกครั้งและครั้งนี้ก็รุนแรงพอจะทำให้เกิดสึนามิขึ้นที่เมืองปาลู เกาะสุราเวสี ก่อนเที่ยวบินของเราแค่สามวัน...ย้ำ! แค่สามวัน! ทุกคนที่รู้ว่าเรากำลังจะไปบาหลีรุมโทรกระหน่ำ จนมือถือในกระเป๋ากางเกงนี่สั่นเป็นระวิงเลยค่ะ

                    แต่แผ่นดินไหวก็ไม่สามารถหยุดยั้งความห้าวหาญของชะนีนางนี้ลงได้

                    ไปค่ะ ไปบาหลีกัน



                    เที่ยวบินที่เราจองไว้เป็นรอบเช้าค่ะ เก็บกระเป๋าออกจากบ้านตั้งแต่ตีสามเพราะบ้านค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากสนามบินพอสมควร ถามว่าได้นอนไหม หึ! ก็ไม่ใช่ว่าตื่นเต้นหรืออะไรหรอกนะคะ แค่แอบไปเถลไถลแถวถนนข้าวสารมาเท่านั้นเอง แหะ ๆ  พอถึงสนามบินเคาน์เตอร์ของสายการบินเพื่อนบ้านก็กำลังเปิดให้เช็คอินพอดี ช่วงที่ไปคนไม่เยอะเท่าไหร่ ทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ ที่ต้องผ่านไปยังเกตใช้เวลาเพียงเล็กน้อย แต่ใช้เวลาเดินไปยังเกตนานมาก

                    ใคร! ใครมันออกแบบสุวรรณภูมิให้เกตมันอยู่ไกลขนาดนี้วะ!  
    
                    ขาไปเราได้ที่นั่งริมทางเดิน ทั้งจากกรุงเทพไปกัวลาลัมเปอร์และจากกัวลาลัมเปอร์ไปเดนปาซาร์ อดดูวิวเลย แต่ไม่เป็นไร เพราะสิ่งที่เราสนใจไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่อยู่ตรงนี้ค่ะ อาหาร! ตอนเสิร์ฟพนักงานจะถามเราว่าเราต้องการรับอะไรระหว่างไก่กับปลา


                    ฝั่งซ้ายเสิร์ฟตอนเครื่องไปกัวลาลัมเปอร์ เราเลือกไก่ค่ะ มีกลิ่นเครื่องเทศนิดๆ ไม่แรงมาก สำหรับคนที่ไม่ถูกจริตกับเครื่องเทศอย่างเราทานได้ค่ะ
                    ฝั่งขวาเสิร์ฟตอนเครื่องไปเดนปาซาร์ เราเลือกปลาค่ะ ลองเปลี่ยนบ้าง รสชาติคล้ายๆ ปลาทอดน้ำแดงบ้านเรา ถือว่าผ่านค่ะ แบบผ่านไปเลยสำหรับเราจะไม่กินอีกแล้ว เหอะๆ



                    และเวลาที่เรารอคอยมาตลอด 6 เดือนก็มาถึง เครื่องลงจอดแล้วจ้า ใช้เวลาบินไปเกือบ 8 ชั่วโมง เดินผ่าน ตม. แบบสบาย ไม่ถามอะไรเลย มองหน้าแล้วปั๊มสองที เชิญคนต่อไป! ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีค่ะ ยกเว้น... Wifi! ก่อนหน้านี้เพื่อนบาหลีทักมาว่านางจะมารับที่สนามบินตั้งแต่ตอนเรายังอยู่ไทย นัดเวลากันเสร็จสรรพเรียบร้อย แต่ดันลืมนัดสถานที่ที่จะเจอ! แล้ว Wifi ที่สนามบินที่นี่คือสัญญาณหายากมาก พอต่อสัญญาณได้ เดินไปก้าวหนึ่ง แกหายอีกแล้ว! แล้วชะนีจะติดต่อเพื่อนยังงายยยยยยย! เดชะบุญ! ถือบุญที่ติดตัวมายังพอมี เราหาเพื่อนเจอค่ะ

                    พอออกจากสนามบินแล้ว สิ่งแรกที่เราทำคือ หาที่แลกเงินค่ะ
                    
                    สำหรับใครที่กำลังจะเดินทางไปบาหลี ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ แนะนำให้แลกเป็นรูเปียร์ไปส่วนหนึ่งก่อนแล้วอีกส่วนหนึ่งแลกเป็นดอลลาห์สหรัฐไว้ไปแลกเพิ่มที่บาหลีก็ได้ค่ะ สามารถแลกกับ Super rich แต่ต้องโทรไปที่ Call center แจ้งเรื่องก่อนวันที่เราจะแลกล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันค่ะ กรณีของเราด้วยความที่ไม่รู้และชะล่าใจทำให้เดินทางไปแลกเปลี่ยนกับ Super rich ก่อนออกเดินทางแค่วันเดียว ผลคือไม่สามารถแลกได้ค่ะ เลยต้องแลกเป็นดอลลาห์สหรัฐไปทั้งหมด

                    พอได้เงินมาเป็นฟ่อนแล้วก็สบายใจชะนีละ เพื่อนจะพาไปไหนไปหมดเลยค่ะ ใจง่ายไหมล่ะ คืนแรกเราพักที่โฮสเทลใน Seminyak ค่ะ พื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องปาร์ตี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า บ่งบอกนิสัยของคนเขียนมาก หลังจาก Check in ก็ขอให้เพื่อนพาไปหาซื้อ Sim card เพื่อนแนะนำของค่ายนี้ค่ะ


                    SimPATI สำหรับเราถือว่าโอเคเลยค่ะ เน็ตแรงไม่มีตกจนกว่าเราจะใช้เน็ตหมด แถมโทรฟรีตั้งแต่เริ่มเปิดใช้งานเลย

                    คืนนี้ตั้งใจจะออกตี้แต่ฝืนสังขารไม่ไหว เพราะแฮงค์ตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกจากไทย นอนชาร์จแบตไปยาว ๆ เลยแล้วกัน

                    ข้อแนะนำเรื่องการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลนัก ที่บาหลีเขาใช้กันอยู่ 2 แอพค่ะ มี Grab อย่างที่บ้านเราใช้กันกับอีกแอพหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นกันคือ Gojek มีความคล้ายกันกับ Grab ของบ้านเราเพียงแต่ว่ามีบริการแค่รถมอเตอร์ไซด์กับสั่งอาหารเท่านั้น

                    ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส มาทะเลทั้งทีจะมานอนกินบ้านกินเมืองไม่ได้ ไปค่ะ หาภารกิจให้ตัวเอง ไปเดินเล่นที่หาด เปิด Google maps ดู เห้ย! ใกล้ ๆ แค่นี้เอง เดินไปแปปเดียวก็ถึง

                    ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง

                    ไหนใกล้ ๆ แก อิอม! เดินจนจะผอมอยู่แล้วยังไม่เห็นแม้แต่หาดทราย คุณผู้ชายทั้งหลายที่เข้ามาอ่านคะ รบกวนช่วยระวังไว้สักนิด อย่าปล่อยชะนีไว้กับแผนที่ มิเช่นนั้นจะต้องบวกเวลาเดินทางเพิ่มเป็นอีกเท่าหนึ่งเลยค่ะ จากที่จะมาเดินชายหาดตอนเช้า กลายเป็นว่าเราได้มาเดินชายหาดตอนสาย คิดแบบผู้หญิงโลกสวย เวลาไหนก็ไม่สำคัญ ถือว่าได้เดินหาดอยู่ดี


                    ใครที่เห็นภาพนี้แล้วบอกว่า...สวยสู้หาดบ้านเราไม่ได้...จริงค่ะ หาดบ้านเราสวยกว่า แต่ถ้าเรามาถึงบาหลีเพื่อเจอหาดแบบบ้านเรา เราจะเสียเงินเป็นหมื่นบินมาทำไมคะ สำหรับเราแล้วทุกที่ที่ขึ้นชื่อว่าทะเล มันมีเสน่ห์ในตัวมันเอง แบบที่ต่อให้ไปทะเลที่อื่นก็ไม่สามารถให้ความรู้สึกแบบเดิมได้

                    เดินทำเอ็มวีจนสาแก่ใจเราก็เดินกลับ เตรียมตัวออกไปเดินสำรวจทางหนีทีไล่ใกล้ ๆ โฮลเทล  ถนนในบาหลีไม่ใหญ่มากค่ะ แค่กว้างให้พอรถวิ่งสวนกันได้ แต่มีซอยเล็กซอยน้อยเยอะมาก เดินกันเป็นเขาวงกตเลย เข้าซอยนู่นออกซอยนี้จนมาเจอตลาดของคนท้องถิ่น สิ่งแรกที่สะดุดตาเลยคือ ชานัง ค่ะ
ชื่อสินค้า:   Bali Indonesia
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่