ผมทำโปรเจค Startup มาประมาณ 2 ปีครับ (ถ้ารวมระยะเวลาเตรียมตัวก่อนลงมือด้วยก็นานกว่านั้นอีกร่วมปี)
เป็น Marketplace B2B ซึ่งมีผู้ใช้และฐานลูกค้าพอสมควรและมีการซื้อซ้ำ
ซึ่งงานก็มีหลายส่วนขึ้นและมีรายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันก็คิดว่าน่าจะสามารถปรับให้ดีกว่าเดิมได้อีกหลายส่วน เช่นสามารถเพิ่มบริการที่ตอบโจทย์ และสร้าง value added ให้ช่วยทั้งฝั่งลูกค้าและ ซัพพลายเออร์ ได้มากขึ้น...
ให้บริการสำหรับ mass market ได้ดีขึ้น และน่าจะช่วยจัดการงานให้รวดเร็วและเป็นระบบได้มากขึ้น
นอกจากเว็บที่จะเตรียมจะปรับใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถรองรับบริการเพิ่มและช่วยปรับงานให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น
ส่วนงาน operations ก็สามารถปรับและเพิ่มอีกหลายส่วน...
แต่ปัญหาหลักในตอนนี้คืองานเกือบทั้งหมดผมยังจัดการเองคนเดียว (ที่ผ่านมามี full time, part time และ freelancer ช่วยบ้างเป็นช่วงๆ) เลยคิดว่า priority ในการ scale up นี้น่าจะต้องหาทีมมาช่วยก่อน
ที่ผ่านมาโปรเจคนี้รายจ่ายยังมากกว่ารายได้เกือบทุกเดือนครับ...
รายได้ที่เข้ามาก็ใช้ไปเป็นค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมด (ค่าพัฒนาโปรแกรม ค่าจ้างพนักงาน ทั้งประจำ พาร์ทไทม์และฟรีแลนซ์ ค่าบริหารจัดการ และค่าโฆษณา) เลยคิดว่าในตอนนี้ถ้าหาทีมโดยจ้างเป็นพนักงานประจำน่าจะหนักไป (และก็อาจจะจ้างได้แค่เด็กจบใหม่)
ที่สำคัญทีมน่าจะต้องมีทั้งทักษะ/ประสบการณ์พอตัว และและสามารถปรับงานได้เร็วตามการเติบโต ซึ่งน่าจะทำได้ง่ายกว่าหากมาช่วยด้วยใจ...ดังนั้นรูปแบบหุ้นส่วนที่ร่วมกันเป็นเจ้าของหรือแบ่งตามผลงาน น่าจะตอบโจทย์กว่า ?
ซึ่งคิดว่าหากเป็นไปได้ก็จะหาทีมเพิ่มอีก 4-8 คน โดยคิดว่าจะลองหาคนที่สนใจแบบลงแรง แบบผลตอบแทนเป็นหุ้นส่วนดูก่อนครับ...ไม่ต้องลงทุน (ให้คนที่มาร่วมมีความเสี่ยงน้อยที่สุด)
และหลังจากทีมพร้อมแล้ว หากมีคนที่สนใจลงทุน ก็ค่อยพิจารณาความเหมาะสมแต่ละรายไป และให้เป็นตามสัดส่วนหุ้น
แต่ก็ไม่แน่ใจว่า น่าจะแบ่งอย่างไรหรือควรเป็นรูปแบบไหนเพื่อให้ยุติธรรมกับคนที่จะเข้ามา
สมมติว่าโปรเจคนี้ค่าใช้จ่าย 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท:
I คำถามส่วนแรกคือ หากทำโครงสร้างแบ่งหุ้นแบบนี้เหมาะสมไหมครับ ?
1. ประเมินมูลค่าของโประเจคนี้ ณ. ปัจจุบัน = 2.5 ล้าน (ประเมินโดยคิดเฉพาะค่าใช้จ่ายรวมผ่านมา 2 ปี)
2. ระดมทุนเพิ่ม 2.5 ล้านบาท: ทุนรวม = 2.5 + 2.5 = 5.0 ล้านบาท = 100%
3. ค่าใช้จ่ายที่ผ่านมา 2.5 ล้านบาท = ผมถือไว้ 50 %
4. อีก 50 % แบ่งหุ้นโดยหาคนที่สนใจทั้งแบบลงแรงและลงทุน
II. คำถามส่วนที่สองดังนี้ครับ...
1. หากต้องการทีมลงแรง 4-8 คน (ลักษณะงานเป็น operations/marketing เช่นจัดการข้อมูล, content marketing, customer services, market survey โดยไม่ใช่งานเขียนโปรมแกรมหรือ เป็นงานด้าน tech ครับ)
โดยผลตอบแทนสามารถแบ่งเป็นกำไร หรือเป็นหุ้นส่วนได้ แต่ควรจะแบ่งรูปแบบไหน และแบ่งอย่างไรให้เหมาะสม และแบ่งได้ตามความสามารถและผลงานของแต่ละคน ?
(ไม่จำเป็นต้องแบ่งเท่ากัน ? หรือ แบ่งเท่ากันไปก่อนแลัวค่อยปรับตามผลงานตอนหลัง ? และสัดส่วนควรเป็นอย่างไร ?)
2. ควรให้เป็นรูปแบบไหนที่จะให้คนที่มาร่วมทีมมีความเสี่ยงน้อยที่สุดและยุติธรรมกับคนที่มาร่วมครับ ในขณะเดียวกันโปรเจคก็สามารถอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องจ้างเป็นพนักงานประจำในช่วงแรก
3. หากทำไปสักระยะแล้วมีวิธีหรือเทคนิคอะไรที่จะพอจะช่วยกรองคนที่ไม่ใช่ออกและรักษาคนที่ใช่ไว้ได้นาน ? (โครงสร้างผลตอบแทนควรเป็นลักษณะไหนเพื่อช่วยให้ตอบโจทย์นี้ ?)
จริงๆแล้วเข้าใจว่ามีอีกหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย โดยเฉพาะศักยภาพของโปรเจคนี้เอง, ประเภทธุรกิจ, โมเดลธุรกิจ และ การบริหารจัดการ ตลอดจนตัวผู้ก่อตั้งและทีมงานเอง...แต่ในเบื้องต้น หากพิจารณาในสมมติฐานที่ว่าโมเดลธุรกิจนี้มีรายได้เข้ามาและมีศักยภาพในการสร้างรายได้ในระยะสั้นและเติบโตได้ในระยะยาว....สำหรับทีมที่มาร่วม โครงสร้างผลตอบแทนควรเป็นอย่างไรในเบื้องต้นครับ ?
หากใครมีรูปแบบนำเสนอ..โดยจะลงในรายละเอียดตัวเลขหรือแค่เป็นคำแนะนำทั่วไป ก็ขอบคุณมากครับ
หรือหากใครมีประสบการณ์อยากจะแชร์ (ซึ่งอาจจะมีวิธีคิดนอกกรอบนี้) ก็ยินดีเช่นกันครับ
ขอบคุณครับ
ขอคำปรึกษา: จะแบ่งหุ้นสำหรับโปรเจค Startup ยังไงให้ เหมาะสมและยุติธรรมกับคนที่สนใจมาร่วมดีครับ ?
เป็น Marketplace B2B ซึ่งมีผู้ใช้และฐานลูกค้าพอสมควรและมีการซื้อซ้ำ
ซึ่งงานก็มีหลายส่วนขึ้นและมีรายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันก็คิดว่าน่าจะสามารถปรับให้ดีกว่าเดิมได้อีกหลายส่วน เช่นสามารถเพิ่มบริการที่ตอบโจทย์ และสร้าง value added ให้ช่วยทั้งฝั่งลูกค้าและ ซัพพลายเออร์ ได้มากขึ้น...
ให้บริการสำหรับ mass market ได้ดีขึ้น และน่าจะช่วยจัดการงานให้รวดเร็วและเป็นระบบได้มากขึ้น
นอกจากเว็บที่จะเตรียมจะปรับใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถรองรับบริการเพิ่มและช่วยปรับงานให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น
ส่วนงาน operations ก็สามารถปรับและเพิ่มอีกหลายส่วน...
แต่ปัญหาหลักในตอนนี้คืองานเกือบทั้งหมดผมยังจัดการเองคนเดียว (ที่ผ่านมามี full time, part time และ freelancer ช่วยบ้างเป็นช่วงๆ) เลยคิดว่า priority ในการ scale up นี้น่าจะต้องหาทีมมาช่วยก่อน
ที่ผ่านมาโปรเจคนี้รายจ่ายยังมากกว่ารายได้เกือบทุกเดือนครับ...
รายได้ที่เข้ามาก็ใช้ไปเป็นค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมด (ค่าพัฒนาโปรแกรม ค่าจ้างพนักงาน ทั้งประจำ พาร์ทไทม์และฟรีแลนซ์ ค่าบริหารจัดการ และค่าโฆษณา) เลยคิดว่าในตอนนี้ถ้าหาทีมโดยจ้างเป็นพนักงานประจำน่าจะหนักไป (และก็อาจจะจ้างได้แค่เด็กจบใหม่)
ที่สำคัญทีมน่าจะต้องมีทั้งทักษะ/ประสบการณ์พอตัว และและสามารถปรับงานได้เร็วตามการเติบโต ซึ่งน่าจะทำได้ง่ายกว่าหากมาช่วยด้วยใจ...ดังนั้นรูปแบบหุ้นส่วนที่ร่วมกันเป็นเจ้าของหรือแบ่งตามผลงาน น่าจะตอบโจทย์กว่า ?
ซึ่งคิดว่าหากเป็นไปได้ก็จะหาทีมเพิ่มอีก 4-8 คน โดยคิดว่าจะลองหาคนที่สนใจแบบลงแรง แบบผลตอบแทนเป็นหุ้นส่วนดูก่อนครับ...ไม่ต้องลงทุน (ให้คนที่มาร่วมมีความเสี่ยงน้อยที่สุด)
และหลังจากทีมพร้อมแล้ว หากมีคนที่สนใจลงทุน ก็ค่อยพิจารณาความเหมาะสมแต่ละรายไป และให้เป็นตามสัดส่วนหุ้น
แต่ก็ไม่แน่ใจว่า น่าจะแบ่งอย่างไรหรือควรเป็นรูปแบบไหนเพื่อให้ยุติธรรมกับคนที่จะเข้ามา
สมมติว่าโปรเจคนี้ค่าใช้จ่าย 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท:
I คำถามส่วนแรกคือ หากทำโครงสร้างแบ่งหุ้นแบบนี้เหมาะสมไหมครับ ?
1. ประเมินมูลค่าของโประเจคนี้ ณ. ปัจจุบัน = 2.5 ล้าน (ประเมินโดยคิดเฉพาะค่าใช้จ่ายรวมผ่านมา 2 ปี)
2. ระดมทุนเพิ่ม 2.5 ล้านบาท: ทุนรวม = 2.5 + 2.5 = 5.0 ล้านบาท = 100%
3. ค่าใช้จ่ายที่ผ่านมา 2.5 ล้านบาท = ผมถือไว้ 50 %
4. อีก 50 % แบ่งหุ้นโดยหาคนที่สนใจทั้งแบบลงแรงและลงทุน
II. คำถามส่วนที่สองดังนี้ครับ...
1. หากต้องการทีมลงแรง 4-8 คน (ลักษณะงานเป็น operations/marketing เช่นจัดการข้อมูล, content marketing, customer services, market survey โดยไม่ใช่งานเขียนโปรมแกรมหรือ เป็นงานด้าน tech ครับ)
โดยผลตอบแทนสามารถแบ่งเป็นกำไร หรือเป็นหุ้นส่วนได้ แต่ควรจะแบ่งรูปแบบไหน และแบ่งอย่างไรให้เหมาะสม และแบ่งได้ตามความสามารถและผลงานของแต่ละคน ?
(ไม่จำเป็นต้องแบ่งเท่ากัน ? หรือ แบ่งเท่ากันไปก่อนแลัวค่อยปรับตามผลงานตอนหลัง ? และสัดส่วนควรเป็นอย่างไร ?)
2. ควรให้เป็นรูปแบบไหนที่จะให้คนที่มาร่วมทีมมีความเสี่ยงน้อยที่สุดและยุติธรรมกับคนที่มาร่วมครับ ในขณะเดียวกันโปรเจคก็สามารถอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องจ้างเป็นพนักงานประจำในช่วงแรก
3. หากทำไปสักระยะแล้วมีวิธีหรือเทคนิคอะไรที่จะพอจะช่วยกรองคนที่ไม่ใช่ออกและรักษาคนที่ใช่ไว้ได้นาน ? (โครงสร้างผลตอบแทนควรเป็นลักษณะไหนเพื่อช่วยให้ตอบโจทย์นี้ ?)
จริงๆแล้วเข้าใจว่ามีอีกหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย โดยเฉพาะศักยภาพของโปรเจคนี้เอง, ประเภทธุรกิจ, โมเดลธุรกิจ และ การบริหารจัดการ ตลอดจนตัวผู้ก่อตั้งและทีมงานเอง...แต่ในเบื้องต้น หากพิจารณาในสมมติฐานที่ว่าโมเดลธุรกิจนี้มีรายได้เข้ามาและมีศักยภาพในการสร้างรายได้ในระยะสั้นและเติบโตได้ในระยะยาว....สำหรับทีมที่มาร่วม โครงสร้างผลตอบแทนควรเป็นอย่างไรในเบื้องต้นครับ ?
หากใครมีรูปแบบนำเสนอ..โดยจะลงในรายละเอียดตัวเลขหรือแค่เป็นคำแนะนำทั่วไป ก็ขอบคุณมากครับ
หรือหากใครมีประสบการณ์อยากจะแชร์ (ซึ่งอาจจะมีวิธีคิดนอกกรอบนี้) ก็ยินดีเช่นกันครับ
ขอบคุณครับ