อ้างอิง
http://www.nationtv.tv/main/content/378673090/
วันนี้ (29 พ.ย.) เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร่วมกับพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน และนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดีฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษรกับพวก ร่วมกันทุจริต คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1.3 หมื่นล้านบาทนั้น
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ บอกว่า ดีเอสไอรับสำนวนไว้เป็นคดีพิเศษที่ 146/2556 และมีคดีเกี่ยวเนื่องรับเป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 โดยดำเนินคดีกับพระธัมมชโย และผู้เกี่ยวข้องในความผิดฐานร่วมกันรับของโจร ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบหลักฐานว่ามีความเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ดังนั้นดีเอสไอ จึงแยกเป็นคดีพิเศษที่ 24/2560 และสอบสวนต่อเนื่องจนได้พยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว
โดยพบว่านายศุภชัย สั่งจ่ายเงินจากสหกรณ์ฯ คลองจั่นเข้ามูลนิธิฯ ขนนกยูง 125 ล้านบาท เพื่อนำไปสร้างอาคารลูกโลก ซึ่งคดีนี้ดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหานางวรรณา จิรกิติ ภรรยานักการเมือง ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิฯขนนกยูง และนางสาวอารีพันธุ์ ตรีอนุสรณ์ กรรมการเเละเลขานุการมูลนิธิฯขนนกยูง ซึ่งเสียชีวิตแล้ว ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.การฟอกเงิน โดยคดีนี้ดีเอสไอส่งสำนวนให้อัยการแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งฟ้อง
นอกจากนี้ดีเอสไอยังตรวจพบเพิ่มเติมว่า นายศุภชัยได้สั่งจ่ายเช็คในนามสหกรณ์ฯคลองจั่นอีก 11 ฉบับ เข้าบัญชีพระธัมมชโยโดยตรงกว่า 530 ล้านบาท และสั่งจ่ายเช็คเข้าบัญชีวัดพระธรรมกายอีก 700 ล้านบาท เพื่อนำไปสร้างวิหารคต รวมเงินทั้งสิ้นเกือบ 1,500 ล้านบาท โดยปปง. ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินชั่วคราว ทั้งเงินสดและอาคารวัตถุทั้งหมดแล้ว
ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน บอกว่าในส่วนของคดีแพ่งนายธรรมนูญ อัติโชติ พร้อมด้วยสมาชิกสหกรณ์ฯคลองจั่นผู้เสียหาย ได้มาร้องทุกข์กับดีเอสไอ และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาตามคำร้องขอ เพื่อเอาผิดมูลนิธิฯขนนกยูง และอัยการจะยื่นคำร้องให้ศาลแพ่งพิจารณา หากพบความผิดจะยึดทรัพย์มูลนิธิทั้งหมดให้ตกเป็นของแผ่นดิน และคืนผู้เสียหาย
ส่วนการติดตามตัวพระธัมมชโยอยู่ระหว่างติดตามสัญญาณโทรศัพท์ และประสานกับบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเบาะแสขณะนี้มาจาก 2 ทาง ทั้งยังอยู่ในประเทศ และออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยังไม่พบว่ามีการโอนออกไปสร้างวัดสาขาในต่างประเทศ
อธิบดีดีเอสไอ แถลงคำสั่ง...เกี่ยวกับธรรมกาย
http://www.nationtv.tv/main/content/378673090/
วันนี้ (29 พ.ย.) เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร่วมกับพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน และนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดีฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษรกับพวก ร่วมกันทุจริต คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1.3 หมื่นล้านบาทนั้น
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ บอกว่า ดีเอสไอรับสำนวนไว้เป็นคดีพิเศษที่ 146/2556 และมีคดีเกี่ยวเนื่องรับเป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 โดยดำเนินคดีกับพระธัมมชโย และผู้เกี่ยวข้องในความผิดฐานร่วมกันรับของโจร ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงิน แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบหลักฐานว่ามีความเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ดังนั้นดีเอสไอ จึงแยกเป็นคดีพิเศษที่ 24/2560 และสอบสวนต่อเนื่องจนได้พยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว
โดยพบว่านายศุภชัย สั่งจ่ายเงินจากสหกรณ์ฯ คลองจั่นเข้ามูลนิธิฯ ขนนกยูง 125 ล้านบาท เพื่อนำไปสร้างอาคารลูกโลก ซึ่งคดีนี้ดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหานางวรรณา จิรกิติ ภรรยานักการเมือง ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิฯขนนกยูง และนางสาวอารีพันธุ์ ตรีอนุสรณ์ กรรมการเเละเลขานุการมูลนิธิฯขนนกยูง ซึ่งเสียชีวิตแล้ว ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.การฟอกเงิน โดยคดีนี้ดีเอสไอส่งสำนวนให้อัยการแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาสั่งฟ้อง
นอกจากนี้ดีเอสไอยังตรวจพบเพิ่มเติมว่า นายศุภชัยได้สั่งจ่ายเช็คในนามสหกรณ์ฯคลองจั่นอีก 11 ฉบับ เข้าบัญชีพระธัมมชโยโดยตรงกว่า 530 ล้านบาท และสั่งจ่ายเช็คเข้าบัญชีวัดพระธรรมกายอีก 700 ล้านบาท เพื่อนำไปสร้างวิหารคต รวมเงินทั้งสิ้นเกือบ 1,500 ล้านบาท โดยปปง. ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินชั่วคราว ทั้งเงินสดและอาคารวัตถุทั้งหมดแล้ว
ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน บอกว่าในส่วนของคดีแพ่งนายธรรมนูญ อัติโชติ พร้อมด้วยสมาชิกสหกรณ์ฯคลองจั่นผู้เสียหาย ได้มาร้องทุกข์กับดีเอสไอ และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาตามคำร้องขอ เพื่อเอาผิดมูลนิธิฯขนนกยูง และอัยการจะยื่นคำร้องให้ศาลแพ่งพิจารณา หากพบความผิดจะยึดทรัพย์มูลนิธิทั้งหมดให้ตกเป็นของแผ่นดิน และคืนผู้เสียหาย
ส่วนการติดตามตัวพระธัมมชโยอยู่ระหว่างติดตามสัญญาณโทรศัพท์ และประสานกับบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเบาะแสขณะนี้มาจาก 2 ทาง ทั้งยังอยู่ในประเทศ และออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ยังไม่พบว่ามีการโอนออกไปสร้างวัดสาขาในต่างประเทศ