ทำไมชีวิตคนอื่นเค้าดีกันจัง ? รู้สึกแบบนี้ทุกทีที่ดูโซเชี่ยว

กระทู้คำถาม
พอดู FB แล้วรู้สึกว่า เฮ้ย ทำไมชีวิตคนอื่นเขาดีกันจังเลยอ่ะ เที่ยวโน่นนี่นั่น กินนี่นะ ซื้อกระเป๋าใหม่ ซื้อโน่นนี่ บราๆๆๆ  ทั้งๆ ที่คนเหล่านั้นก็ไม่ได้ร่ำรวยมากมาย ทำไมมีเงินใช้ขนาดนั้น ชีวิตดีจัง ดูแล้วก็สะท้อนย้อนมาน้อยใจตัวเองบ้างในบางเวลา  ว่าถ้าเราทำแบบเค้าชีวิตเราคงลำบากมากแน่ๆ ไม่มีความสามารถทำตัวหรูๆ แบบนั้นได้หรอก แล้วก็ถอนใจก้มหน้าก้มตาประหยัดต่อไป
บอกเราหน่อย ว่ามีคนรู้สึกแบบเราบ้างไหม แล้วทำยังไงอ่ะเวลารู้สึกแบบนี้

เรื่องที่ไปดู FB เริ่มจากว่า เราคิดมาตลอดว่าเราฐานะทางเศรษฐกิจกลางๆ ในสังคมไทย แต่อยู่ๆ น้าเราก็บอกว่าเราคิดผิด คิดเข้าข้างตัวเอง ว่ามีคนลำบากกว่าเราอีกมาก ไม่เจียมตัวเอง น้าเราบอกว่าจริงๆ แล้ว เราเป็นคนจน .................เหวอเล็กน้อย  เรายิ้มเจื่อนๆ แล้วคิดว่า good people they don't judge. แต่ก็อดนึกไม่ได้ว่าหรือเราจนจริงๆ อย่างที่เค้าว่า  เลยไปเปิดดู FB โห  แต่ละคน กินร้านหรู  ทุกอย่างแบรนด์เนม เที่ยวญี่ปุ่น บลาๆๆๆ  โชว์กันเป็นว่าเล่น  ดูแล้วก็เลยสลดลงไปอีก ชักลังเลว่าเราน่าจะเข้าใจผิดจริงๆ  จิตตกพอสมควร  เพราะเราแทบไม่เคยกินหรูๆ แบบนั้นเลย ของแบรนด์เนมก็ใช้แค่พอสมเหตุสมผล ไม่ได้ใช้แบรนด์แพงมมาก และไม่ได้เปลี่ยนบ่อยๆ พังค่อยเปลี่ยน  

ที่เราคิดว่าเราฐานะกลางๆ เพราะ เราไม่มีหนี้สิน มีบ้านเดี่ยวในกทม. เป็นของตัวเอง มีรถราคากลางๆ ขับไปทำงาน เราเลยคิดว่าเอาเองว่าเราฐานะกลางๆ  จริงๆ แล้วฐานะทางเศรษฐกิจแบบเรา  
ถือว่าอยู่ในระดับจนใช่ไหมคะ  ทำไมชีวิตคนอื่นเค้าดีกันจัง
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
คุณไม่เคยเห็นตอนที่เค้าไม่ได้โพสไงครับ เช่นผม


ที่โพส
ไปเที่ยวยุโรป กินหรู มีความสุข


ที่ไม่ได้โพส
ทำงานวัน 10-11 ชม ต่อวัน 7 วันเต๊ม
ทำติดต่อกันไม่ได้หยุดมาล่าสุด ราวๆ เดือนครึ่ง
ทำงานเสร็จต้องเชคบัญชี วางแผนการตลาดต่อ
ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก
สุขภาพอย่างแย่
ชีวิตแต่ละวันอย่างห่วย มีเงิน แต่ไม่มีเวลาใช้
เลิกงานราว 4 ทุ่ม ทำอะไรก็ไม่ได้ปิดหมด คุณภาพชีวิตโคตรแย่
บันเทิงคืออะไร ไม่รู้จัก



นี่คือสิ่งที่แลกมา(คร่าวๆ) กับสิ่งที่คุณเห็นบนเฟสครับ
ความคิดเห็นที่ 16
ถ้าจะใช้ภาษาอังกฤษ ใช้ให้ถูกนะครับ Good people don't judge ไม่ใช่ are not นะครับ

ส่วนเรื่อง Social Network น่ะ มันก็แค่สังคมหลอกลวงที่คนมักจะสร้างขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองสบายใจเท่านั้น  เพราะเอาเข้าจริงๆแล้ว  มันก็คือการอวดชีวิตตัวเองนั่นแหละ ทำให้ชีวิตตัวเองออกไปข้างนอกดูดี  ให้คนอื่นยอมรับ  และบางทีก็ไปถึงขั้นอิจฉาแบบที่คุณหลงเป็นนั่นแหละครับ  เพราะงั้นแล้วใครที่ไหนจะมานั่งพูดความจริงว่า  ชีวิตฉันมีปัญหา มีหนี้สิน  เงินไม่พอนะ ไม่มีความสุข อะไรก็ว่าไป  

ตัวเราเองรู้ดีที่สุด  เรามีหรือไม่มีอะไร  และเราต้องการใช้ชีวิตแบบไหน  ทำไมต้องไปนั่งสนใจชีวิต digital ที่ไม่ใช่ชีวิตจริงเช่นนั้น? แล้วเรื่องของแบรนด์เนมนี่ไร้สาระครับ  คนยุโรปเองแท้ๆเป็นเจ้าของแบรนด์เนม  เศรษฐกิจแข็งกว่าไทยทั้งนั้น  คุณภาพชีวิตก็สูงกว่าที่ไทย  กลับไม่มานั่งสนใจเลยเรื่องพวกนี้  เห็นแต่คนเอเชียนี่ล่ะ  ซื้อจังเลย  ไปดูตามร้านขายของแบรนด์เนมได้ครับ  มีแต่คนเอเชียเต็มไปหมด  เจ้าของประเทศแท้ๆ  ไม่ค่อยจะสนใจกันเลย  เค้าเอาเงินไปทำอะไรที่มันมีค่ากว่านั้นครับ  ผมให้ข้อสังเกตง่ายๆเลย  แบรนด์รถยนต์ที่ใหญ่ และแข็งที่สุดของยุโรป คู่แข่ง Toyota คือ Volkswagen ซึ่งเทียบกันแล้ว  เป็นรถระดับกลาง ไม่ใช่ premium แบบ Mercedes, BMW, Audi แต่กลับเป็นรถที่ขายได้มากที่สุดของยุโรป  แถมเป็นเจ้าของทั้ง Audi, Porsche, Seat และอีกหลายค่ายเสียด้วย  ก็เพราะคนยุโรปนิยมใช้ชีวิตแบบกลางๆตามสังคมเค้านั่นแหละ  คนส่วนกลางมากกว่าส่วนล่างและบน เอาให้เพียงพอให้ที่ต้องการ  เอาเงินไปทำอย่างอื่น  ไปเที่ยว  ไปลงทุน  ดีกว่าครับ  คนละทางกับคนเอเชียเลยด้วยซ้ำ  ผมยกตัวอย่างใกล้ตัวผมให้  หัวหน้าผม คนรอบตัวผมที่เงินเดือนปีนึงนับแล้วเป็นซัก 8-10 ล้านบาทไทย  ใส่เสื้อเชิ๊ตยี่ห้อธรรมดาแบบ Olymp ทุกวัน  แถมปั่นจักรยานไปทำงานทุกเช้าครับ รถไม่จำเป็นต้องใช้  บ้านใกล้  ไม่ซื้อ  เค้าจะซื้อแบบ Porsche ก็ซื้อได้สบายๆ แต่ไม่ทำครับ  ปั่นจักรยานดีกว่า  เอาเงินไปใช้ด้านอื่นดีกว่า  ชีวิตสบายจะตายชัก  ผมนับถือ และนำมาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตก็คนแบบนี้

อย่าปล่อยให้อะไรที่มันเป็นวัตถุนิยม หรืออะไรที่มันผิวเผินแบบนี้ มาเป็นตัวกำหนดความสุขของตัวเอง  เราต้องรู้จุดยืน และภูมิใจในสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเองครับ   ชีวิตจึงจะมีความสุขอย่างแท้จริง
ความคิดเห็นที่ 17
Fb ถ้าจะเปรียบก็เหมือนโชว์รูม ครับ หลังร้านก็ว่ากันอีกที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่