สวัสดีค่ะ
จากที่ได้หาประโยชน์จากการแชร์ข้อมูลของท่านอื่นๆ จนวันนี้ได้ไปยื่นเอกสารมาแล้ว เลยจะขอมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อเป็นการอัพเดทให้ทุกท่านที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ
- สถานที่ยื่นเอกสาร คือ VFS อาคารเทรนดี้ ชั้น 28 ซ.สุขุมวิท 13 ขึ้นลิฟท์เบอร์ 10 (มีที่จอดรถค่ะ เสียค่าบริการตามระยะเวลาค่ะ แนะนำให้เข้าจากทางสุขุมวิท 13 จะสะดวกกว่ามาก เพราะขากลับเราออกทางลัดไปอโศก เค้ามีก่อสร้างทางค่ะ )
- นัดคิวแรกสุด 8.30 น. (เพราะเคยอ่านมาจากท่านนึงว่า คิวแรกๆ จนท. จะยังอารมณ์ดีเพราะว่ายังไม่เหนื่อยมาก ไม่เจอเรื่องหงุดหงิดมาก เราเลยเลือกคิวนี้ค่ะ และเราก็ยังกลับมาทำงานทันเวลาด้วย)
- นัดผ่านเวบไซต์
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/Thai/
(อ่านรีวิวในพันทิปและเวบอื่นๆ ให้คำแนะนำไว้เยอะมาก ขอบคุณมาอีกครั้งค่ะ)
นัด 8.30 น. (คิวแรก) เราไปถึง 7.20 น. (เห่อไปอี๊กกก) มีที่นั่งรอด้านล่างให้ สะดวกสบาย ใครหิวมีร้านกาแฟ มีร้านดังกิ้นโดนัทให้รองท้องค่ะ
จนท. ให้ข้อมูลดีมาก เราดูออกว่าเค้าใส่ใจ เราไม่เคยไปเราก็ตื่นเต้นเนอะ เค้าก็บอกว่าให้รอตรงนี้ครับเดี๋ยวใกล้เวลาผมมาเรียก
8.20 น. จนท. ก็มาเรียกให้ไปขึ้นลิฟท์เบอร์ 10 เป็นลิฟท์ด่วน แวะจอดแค่ชั้น 8 แล้วดิ่งขึ้นชั้น 28 เลยค่ะ สะดวกมาก
ขึ้นไปถึง จนท.ชั้น 28 เรียกวีซ่าเนเธอร์แลนด์แยกแถวต่างหาก (มีเราคนเดียว เท่ที่สุด) (ชั้น 28 รู้สึกจะมีของออสเตรเลียกับสวิสเซอร์แลนด์ด้วยค่ะ)
เราได้เข้าก่อนเลยค่ะ มีสแกนร่างกายเหมือนในสนามบิน จุดนี้เราต้องฝากของที่ไม่เกี่ยวข้องไว้ตรงตู้น้อยๆ ของเค้าค่ะ (เรามีกาแฟ) และห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ ปิดเสียงก็พอค่ะ ห้ามถ่ายรูปด้วยนะคะ
เข้าไปแล้วต้องไปขึ้นลิฟท์ขึ้นไปอีก 1 ชั้นค่ะ จนท. ก็ถามชื่อ เวลานัด แล้วก็ให้บัตรคิวเบอร์ 1 เลยยย (มาตั้งแต่ไก่ยังไม่ตื่นเค้าไม่ให้เบอร์ 0 ก็บุญละ)
แล้วก็เข้าไปรอเรียกตามหมายเลขค่ะ อย่างที่แนะนำเลย จนท.สาวๆ หน้าตาสดใส พร้อมทำงานค่ะ
เราได้เคาน์เตอร์ 2 จนท. น่ารัก (เรามีปัญหาเรื่องการได้ยินนิดหน่อย จนท.ก็เข้าใจค่ะ)
ส่งเอกสารปึกยักษ์ให้ จนท. ตรวจ มีสอบถามนิดหน่อย ไปเที่ยวเหรอคะ ไปกี่คนคะ แล้วก็ดูแพลนเที่ยวเราแล้วก็ถามนิดหน่อยเรื่องที่พัก (มีคืนนึงเราเดินทางด้วยบัสข้ามเมืองเลยไม่มีใบจองโรงแรม)
วิธีการรับเล่มคืน เราเลือกส่ง ems ก็มีเอกสารให้กรอก 2 ใบ + เขียนชื่อที่อยู่ที่ซองเอกสารเองค่ะ
เสร็จแล้วก็นั่งรอเรียกเพื่อชำระเงิน 3,520 บาท (เตรียมไปให้พอดีก็จะสะดวกทั้งสองฝ่ายค่ะ คิวแรกๆ จนท.ยังไม่มีเงินทอนแน่ๆ) รับใบเสร็จ (จนท.จะให้ข้อมูลเรื่อง sms แล้วก็มีเลข Tracking ให้ค่ะ) แล้วก็รอสแกนนิ้ว เข้าไปสแกนนิ้ว 4 นิ้วมือซ้าย 4 นิ้วมือขวา และ 2 นิ้วหัวแม่มือพร้อมกัน เท่านั้น จบ
กลับบ้านได้ สรุปรวมทั้งหมดทุกขั้นตอนตั้งแต่ขึ้นลิฟท์มาจนเสร็จสิ้นกระบวนการ เราใช้เวลาทั้งสิ้น 30 นาที (8.25 น.-8.55 น.)
รอ 15 วันทำการ เราก็จะได้รู้กันค่ะ
ป.ล.
- รูปเราถ่ายเองจากมือถือเลือกแบคกราวด์สีขาว ดูข้อมูลจากในเวบของ VFS แล้ว print ง่อยๆ จากออฟฟิศ ก็ใช้ได้นะคะ ไม่เสียเงิน (งกจัด)
- หลักฐานการเงิน เราขอ Statement ภาษาอังกฤษย้อนหลัง 6 เดือน ผ่านแอพบนมือถือ แล้วถ่ายเอกสารหน้าแรกของสมุดบัญชีไปค่ะ
- จดหมายรับรองการทำงาน ภาษาอังกฤษ ระบุชื่อ ตำแหน่ง วันเริ่มงาน วันที่ลาหยุดงาน พร้อมตัวเลขรายได้ ลงชื่อ ประทับตราบริษัท
- ใบจองที่พัก (เราจองแบบยกเลิกได้ไว้ก่อน เดี๋ยวได้วีซ่าแล้วค่อยไปเปลี่ยนเป็นแบบยกเลิกไม่ได้จะได้ค่าห้องถูกลงอีก แต่ก็จะเป็นที่เดิมทุกวัน) (ช่วงรอวีซ่า
ห้าม เปลี่ยนแปลงการจองเด็ดขาด เพราะเป็นช่วงที่สถานฑูตตรวจสอบข้อมูล)
- มี 1 คืนที่เราจะเดินทางข้ามเมืองด้วยบัส เราก็ไม่ได้จองตั๋วนะคะ (โทรไปถาม VFS จนท.บอกว่าไม่เป็นไร แต่ให้ระบุในแพลนเที่ยวค่ะ (แล้ว จนท. ก็ถามจริงๆ ด้วย) เดี๋ยวได้วีซ่าแล้วค่อยจองอีกทีค่ะ
- ประกันการเดินทาง ต้องซื้อเลยค่ะ เราเลือก MSIG Easy 3 (วงเงินประกัน 1.5MB ตามที่สถานฑูตระบุมา)
- เราเตรียมบัตรพนักงานไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่คืนให้เป็นอย่างแรก (บัตรพนักงานออฟฟิศเราฮามากขอบอก)
- เราเตรียมเอกสารโฉนดคอนโด (ผ่อนธนาคาร) ไปด้วยค่ะ จนท.ก็ถามว่าจะส่งแบบภาษาไทยตามนี้เลยมั้ยคะ เราก็ส่งไปตามนั้นเลยค่ะ
- ใบนัด ที่ VFS ส่งอีเมล์มา Print ไปด้วยนะคะ แต่จนท.ก็คืนมาค่ะ
- Visa Form กรอกรายละเอียดไปให้เรียบร้อยก็จะสะดวกค่ะ ส่วนไหนถ้าไม่เข้าใจจริงๆ เว้นไว้ ไปกรอกที่โน่นได้ค่ะ เซ็นชื่อให้เหมือนใน Passport
- ใบ Check List เอกสาร VFS ก็ print ไป แล้วไปเขียนที่โน่นค่ะ มีบางอย่างเราไม่เข้าใจก็ถาม จนท. แล้วเขียนได้ เซ็นชื่อให้เหมือนใน Passport
- Passport ปัจจุบัน + เล่มเก่า ถ่ายเอกสารหน้าแรกและทุกหน้าที่เคยได้รับวีซ่าหรือสแตมป์เข้าออกประเทศค่ะ (จนท.คืนเล่มเก่าเรามาค่ะ)
- Passport เล่มปัจจุบัน ให้ถ่ายเอกสารหน้าแรกไปเพิ่มอีก 1 ใบนะคะ จนท. เค้าจะใช้สำหรับเขียนเลข Tracking แล้วคืนให้เราพร้อมใบเสร็จรับเงินค่ะ
- ใบจองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ เรา print ไปทุกใบเลย รวมไปถึงใบเสร็จ Condition อะไรต่างๆ ที่สายการบิน Email มา (เราจองตั๋วแล้วจ่ายเงินไปเรียบร้อยหมดแล้วตั้งแต่เดือน กันยาค่ะ เอาความมั่นใจว่าวีซ่าจะผ่านมาจากไหน 55555 พอดีเจอโปรโมชั่นจากสายการบินที่เราอยากลองนั่งมากกกก เลยจัดเลยค่ะ แล้วค่อยมาเตรียมเรื่องอื่น + วีซ่า ทีหลังค่ะ)
* เอกสารที่เป็นสำเนาทุกใบ เราไม่ได้เซ็นสำเนาถูกต้องอะไรเลยค่ะ (ไม่รู้ว่าจริงๆ เซ็นได้มั้ย แต่จากที่เราอ่านมาเค้าแนะนำว่าไม่ต้องเซ็น)
* เราเข้าไปเช็คคิวนัดขอวีซ่าออนไลน์อยู่เรื่อยๆ ค่ะ ปกติจะขอได้ก่อนเดินทาง 90 วัน เราก็เลือกเลยค่ะ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้มีเวลาแก้ไขทัน)
ขอบคุณทุกแหล่งข้อมูล พันทิป บล็อกเกอร์ เฟสบุ้ค ต่างๆ ที่แชร์ข้อมูลไว้นะคะ ช่วยเราได้มากที่สุด เราเลยอยากมาแชร์ให้คนอื่นๆ ที่ต้องการข้อมูลเช่นกันค่ะ
[CR] แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าเชงเกน เนเธอร์แลนด์ 29 พฤศจิกายน 2561 (2018) ผ่าน VFS
จากที่ได้หาประโยชน์จากการแชร์ข้อมูลของท่านอื่นๆ จนวันนี้ได้ไปยื่นเอกสารมาแล้ว เลยจะขอมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อเป็นการอัพเดทให้ทุกท่านที่กำลังหาข้อมูลอยู่นะคะ
- สถานที่ยื่นเอกสาร คือ VFS อาคารเทรนดี้ ชั้น 28 ซ.สุขุมวิท 13 ขึ้นลิฟท์เบอร์ 10 (มีที่จอดรถค่ะ เสียค่าบริการตามระยะเวลาค่ะ แนะนำให้เข้าจากทางสุขุมวิท 13 จะสะดวกกว่ามาก เพราะขากลับเราออกทางลัดไปอโศก เค้ามีก่อสร้างทางค่ะ )
- นัดคิวแรกสุด 8.30 น. (เพราะเคยอ่านมาจากท่านนึงว่า คิวแรกๆ จนท. จะยังอารมณ์ดีเพราะว่ายังไม่เหนื่อยมาก ไม่เจอเรื่องหงุดหงิดมาก เราเลยเลือกคิวนี้ค่ะ และเราก็ยังกลับมาทำงานทันเวลาด้วย)
- นัดผ่านเวบไซต์ http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/Thai/
(อ่านรีวิวในพันทิปและเวบอื่นๆ ให้คำแนะนำไว้เยอะมาก ขอบคุณมาอีกครั้งค่ะ)
นัด 8.30 น. (คิวแรก) เราไปถึง 7.20 น. (เห่อไปอี๊กกก) มีที่นั่งรอด้านล่างให้ สะดวกสบาย ใครหิวมีร้านกาแฟ มีร้านดังกิ้นโดนัทให้รองท้องค่ะ
จนท. ให้ข้อมูลดีมาก เราดูออกว่าเค้าใส่ใจ เราไม่เคยไปเราก็ตื่นเต้นเนอะ เค้าก็บอกว่าให้รอตรงนี้ครับเดี๋ยวใกล้เวลาผมมาเรียก
8.20 น. จนท. ก็มาเรียกให้ไปขึ้นลิฟท์เบอร์ 10 เป็นลิฟท์ด่วน แวะจอดแค่ชั้น 8 แล้วดิ่งขึ้นชั้น 28 เลยค่ะ สะดวกมาก
ขึ้นไปถึง จนท.ชั้น 28 เรียกวีซ่าเนเธอร์แลนด์แยกแถวต่างหาก (มีเราคนเดียว เท่ที่สุด) (ชั้น 28 รู้สึกจะมีของออสเตรเลียกับสวิสเซอร์แลนด์ด้วยค่ะ)
เราได้เข้าก่อนเลยค่ะ มีสแกนร่างกายเหมือนในสนามบิน จุดนี้เราต้องฝากของที่ไม่เกี่ยวข้องไว้ตรงตู้น้อยๆ ของเค้าค่ะ (เรามีกาแฟ) และห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ ปิดเสียงก็พอค่ะ ห้ามถ่ายรูปด้วยนะคะ
เข้าไปแล้วต้องไปขึ้นลิฟท์ขึ้นไปอีก 1 ชั้นค่ะ จนท. ก็ถามชื่อ เวลานัด แล้วก็ให้บัตรคิวเบอร์ 1 เลยยย (มาตั้งแต่ไก่ยังไม่ตื่นเค้าไม่ให้เบอร์ 0 ก็บุญละ)
แล้วก็เข้าไปรอเรียกตามหมายเลขค่ะ อย่างที่แนะนำเลย จนท.สาวๆ หน้าตาสดใส พร้อมทำงานค่ะ
เราได้เคาน์เตอร์ 2 จนท. น่ารัก (เรามีปัญหาเรื่องการได้ยินนิดหน่อย จนท.ก็เข้าใจค่ะ)
ส่งเอกสารปึกยักษ์ให้ จนท. ตรวจ มีสอบถามนิดหน่อย ไปเที่ยวเหรอคะ ไปกี่คนคะ แล้วก็ดูแพลนเที่ยวเราแล้วก็ถามนิดหน่อยเรื่องที่พัก (มีคืนนึงเราเดินทางด้วยบัสข้ามเมืองเลยไม่มีใบจองโรงแรม)
วิธีการรับเล่มคืน เราเลือกส่ง ems ก็มีเอกสารให้กรอก 2 ใบ + เขียนชื่อที่อยู่ที่ซองเอกสารเองค่ะ
เสร็จแล้วก็นั่งรอเรียกเพื่อชำระเงิน 3,520 บาท (เตรียมไปให้พอดีก็จะสะดวกทั้งสองฝ่ายค่ะ คิวแรกๆ จนท.ยังไม่มีเงินทอนแน่ๆ) รับใบเสร็จ (จนท.จะให้ข้อมูลเรื่อง sms แล้วก็มีเลข Tracking ให้ค่ะ) แล้วก็รอสแกนนิ้ว เข้าไปสแกนนิ้ว 4 นิ้วมือซ้าย 4 นิ้วมือขวา และ 2 นิ้วหัวแม่มือพร้อมกัน เท่านั้น จบ
กลับบ้านได้ สรุปรวมทั้งหมดทุกขั้นตอนตั้งแต่ขึ้นลิฟท์มาจนเสร็จสิ้นกระบวนการ เราใช้เวลาทั้งสิ้น 30 นาที (8.25 น.-8.55 น.)
รอ 15 วันทำการ เราก็จะได้รู้กันค่ะ
ป.ล.
- รูปเราถ่ายเองจากมือถือเลือกแบคกราวด์สีขาว ดูข้อมูลจากในเวบของ VFS แล้ว print ง่อยๆ จากออฟฟิศ ก็ใช้ได้นะคะ ไม่เสียเงิน (งกจัด)
- หลักฐานการเงิน เราขอ Statement ภาษาอังกฤษย้อนหลัง 6 เดือน ผ่านแอพบนมือถือ แล้วถ่ายเอกสารหน้าแรกของสมุดบัญชีไปค่ะ
- จดหมายรับรองการทำงาน ภาษาอังกฤษ ระบุชื่อ ตำแหน่ง วันเริ่มงาน วันที่ลาหยุดงาน พร้อมตัวเลขรายได้ ลงชื่อ ประทับตราบริษัท
- ใบจองที่พัก (เราจองแบบยกเลิกได้ไว้ก่อน เดี๋ยวได้วีซ่าแล้วค่อยไปเปลี่ยนเป็นแบบยกเลิกไม่ได้จะได้ค่าห้องถูกลงอีก แต่ก็จะเป็นที่เดิมทุกวัน) (ช่วงรอวีซ่า ห้าม เปลี่ยนแปลงการจองเด็ดขาด เพราะเป็นช่วงที่สถานฑูตตรวจสอบข้อมูล)
- มี 1 คืนที่เราจะเดินทางข้ามเมืองด้วยบัส เราก็ไม่ได้จองตั๋วนะคะ (โทรไปถาม VFS จนท.บอกว่าไม่เป็นไร แต่ให้ระบุในแพลนเที่ยวค่ะ (แล้ว จนท. ก็ถามจริงๆ ด้วย) เดี๋ยวได้วีซ่าแล้วค่อยจองอีกทีค่ะ
- ประกันการเดินทาง ต้องซื้อเลยค่ะ เราเลือก MSIG Easy 3 (วงเงินประกัน 1.5MB ตามที่สถานฑูตระบุมา)
- เราเตรียมบัตรพนักงานไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่คืนให้เป็นอย่างแรก (บัตรพนักงานออฟฟิศเราฮามากขอบอก)
- เราเตรียมเอกสารโฉนดคอนโด (ผ่อนธนาคาร) ไปด้วยค่ะ จนท.ก็ถามว่าจะส่งแบบภาษาไทยตามนี้เลยมั้ยคะ เราก็ส่งไปตามนั้นเลยค่ะ
- ใบนัด ที่ VFS ส่งอีเมล์มา Print ไปด้วยนะคะ แต่จนท.ก็คืนมาค่ะ
- Visa Form กรอกรายละเอียดไปให้เรียบร้อยก็จะสะดวกค่ะ ส่วนไหนถ้าไม่เข้าใจจริงๆ เว้นไว้ ไปกรอกที่โน่นได้ค่ะ เซ็นชื่อให้เหมือนใน Passport
- ใบ Check List เอกสาร VFS ก็ print ไป แล้วไปเขียนที่โน่นค่ะ มีบางอย่างเราไม่เข้าใจก็ถาม จนท. แล้วเขียนได้ เซ็นชื่อให้เหมือนใน Passport
- Passport ปัจจุบัน + เล่มเก่า ถ่ายเอกสารหน้าแรกและทุกหน้าที่เคยได้รับวีซ่าหรือสแตมป์เข้าออกประเทศค่ะ (จนท.คืนเล่มเก่าเรามาค่ะ)
- Passport เล่มปัจจุบัน ให้ถ่ายเอกสารหน้าแรกไปเพิ่มอีก 1 ใบนะคะ จนท. เค้าจะใช้สำหรับเขียนเลข Tracking แล้วคืนให้เราพร้อมใบเสร็จรับเงินค่ะ
- ใบจองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ เรา print ไปทุกใบเลย รวมไปถึงใบเสร็จ Condition อะไรต่างๆ ที่สายการบิน Email มา (เราจองตั๋วแล้วจ่ายเงินไปเรียบร้อยหมดแล้วตั้งแต่เดือน กันยาค่ะ เอาความมั่นใจว่าวีซ่าจะผ่านมาจากไหน 55555 พอดีเจอโปรโมชั่นจากสายการบินที่เราอยากลองนั่งมากกกก เลยจัดเลยค่ะ แล้วค่อยมาเตรียมเรื่องอื่น + วีซ่า ทีหลังค่ะ)
* เอกสารที่เป็นสำเนาทุกใบ เราไม่ได้เซ็นสำเนาถูกต้องอะไรเลยค่ะ (ไม่รู้ว่าจริงๆ เซ็นได้มั้ย แต่จากที่เราอ่านมาเค้าแนะนำว่าไม่ต้องเซ็น)
* เราเข้าไปเช็คคิวนัดขอวีซ่าออนไลน์อยู่เรื่อยๆ ค่ะ ปกติจะขอได้ก่อนเดินทาง 90 วัน เราก็เลือกเลยค่ะ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้มีเวลาแก้ไขทัน)
ขอบคุณทุกแหล่งข้อมูล พันทิป บล็อกเกอร์ เฟสบุ้ค ต่างๆ ที่แชร์ข้อมูลไว้นะคะ ช่วยเราได้มากที่สุด เราเลยอยากมาแชร์ให้คนอื่นๆ ที่ต้องการข้อมูลเช่นกันค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้