สวัสดีคะ พี่ๆเพื่อนๆในพันทิพ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ยาวหน่อยนะคะ เราอยากที่จะให้ความหวังกับคนที่มีเคสเดียวกับเราคะ อย่างที่เรารู้ๆกันว่าเคสแบบนี้ ความหวังในการที่จะผ่านมันน้อยเหลือเกิน แต่พอดีว่าที่บ้านมีปัญหาเรื่องที่จอดรถ เกิดความอึดอัดจนแฟนอยากจะแยกบ้านออกมา เราเลยตัดสินใจไปจองโครงการใกล้ๆบ้านที่อยู่ปัจจุบัน
ย้อนไปเมื่อสักสองเดือนที่แล้ว ขับผ่านโครงการเห็นว่าแบบบ้านว่าสวยดีเลยขอดูสักหน่อย แต่เข้าไปดูแล้ว ด้วยตัวโครงการ ทำเล แบบบ้าน บริเวณส่วนกลาง มีฟิสเนส+สระว่ายน้ำ บรรยากาศรอบๆมันถูกใจมาก แต่ราคามันก็ค่อนข้างแพงสำหรับเรา ประมาณสามล้านนิดๆ เราเคยคำนวณกันเล่นๆ คิดว่าสองคนไม่น่ากู้ผ่าน เพราะแบงค์ไม่น่าจะคิดรายได้ของเราเพราะรับเงินสด และเราไม่เคยเสียภาษี เราคิดว่ารายได้ไม่ถึง เลยไม่ได้สนใจตรงนี้ ส่วนแฟนทำงานประจำเป็นเซลล์ ทำที่นี่มาเกือบจะครบปีแต่มีทำที่อื่นมาหลายปี ( ทางแบงค์ขอชื่อและเบอร์โทรด้วยคะ ใส่เป็นรายละเอียดเฉยๆ ไม่ได้โทรไปเช็คอะไร ) เงินเดือนประมาณ 25,000 กลางเดือนก็จะมีค่าน้ำมัน 3,000 บ้าง 6,000 บ้างให้เป็นเช็ค และก็จะมีค่าคอมทุกเดือน หลักพัน หลักหมื่นเข้าทุกเดือน แต่ในสลิปเงินเดือนจะไม่ขึ้นค่าน้ำมันที่เข้ามากลางเดือน มีภาระหนี้ ผ่อนรถ 6,500 มีบัตรกดเงินสดยอดประมาณ 40,000 เงินเก็บประมาณ 80,000 ส่วนเราทำที่นี่มา 6 ปี เงินเดือน 15,000 ที่ทำงานจะให้เป็นเงินสด เค้าจะเข้าบัญชีให้ทุกต้นเดือน มีประกันสังคมแต่ฐานที่ออฟฟิสแจ้งแค่ 12,000 ไม่เคยยื่นภาษีเลยเพราะคิดเองว่าฐานไม่ถึง ไม่มีภาระผ่อนอะไร แต่มียอดบัตรกดเงินสดประมาณ 50,000 สิ้นปีนี้น่าจะมีเงินก้อนมาปิดหมด เมื่อคิดที่จะย้ายออก
ที่นี่จึงเป็นที่แรกในใจที่ไปดูโครงการอีกครั้ง วันที่เข้าไปดูอีกรอบมีโปรพิเศษเฉพาะสัปดาห์นั้น จองแค่ 5,000 ( ปรกติ 10,000 ) มีจับฉลากแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนลดต่างๆ ( แอบถามน้องเซลล์ ของรางวัลดีสุดคือแอร์ 18,000 btu แย่สุดคือส่วนลด 5,000 บาท ) น้องเซลล์พาไปดูบ้าน ด้วยทิศทางของลม หน้าบ้านมีแดดเช้า ค่อนข้างโอเคสำหรับเรามากคะ เลยเอาหลังนั้นจาก 2 หลังที่เหลือพร้อมโอน ด้วยความที่เราไปตั้งแต่ 9 โมง ลูกค้าคนแรก คุยรายละเอียดกันนิดหน่อย น้องเซลล์พาดูบ้าน และด้วยความอึดอัดจากที่บ้าน แฟนเลยรูดปรืดจองโดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าจะกู้ผ่านไหม 5555 น้องเซลบอกหนูให้แอร์พี่ไปเลยคะ พี่คุยง่ายมากหนูประทับใจ 5555
"ปัญหาเกิด"
บอกเลยว่า ณ. ตอนที่ออกมาจากโครงการพร้อมใบจอง เราใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงครึ่งชม. เรามองหน้ากันกับแฟนแล้วค่อยๆมานั่งคุยกัน จากความตื่นเต้นเริ่มมาแทนที่ด้วยความกังวลเพราะเซลล์แจ้งว่าถ้ากู้ไม่ผ่าน 2 แบงค์ เราถึงจะได้เงินที่จองคืน และพึ่งจะอ่านเจอว่าคืนแค่ 3,000 ถ้าผ่านไม่เต็มวงเงินเค้าก็นับว่าผ่าน เอาละสิ...เกิดความเสียดายเงิน แต่ลึกๆในใจเราคิดว่าตัวเรากู้ไม่ผ่านแน่ แต่แฟนถ้ากู้คนเดียวผ่านแต่วงเงินไม่น่าจะได้ถึง 100%
โครงการแนะนำให้เราเตรียมเอกสารให้ 3 ที่ คือ ม่วง,เหลืองและส้ม แต่เรามีคนรู้จักอยู่น้ำเงินก็ลองยื่นเองไปด้วย ยื่นพร้อมๆกัน เอกสารหลักๆของแฟนคือ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปหกเดือน สมุดบัญชี แต่แฟนเอาสลิปตั้งแต่ทำที่นี่ให้ทั้งหมดเพราะต้นปีมีตัวโบนัสด้วย ส่วนเรา บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีย้อนหลังไป 2 ปี (เสียค่าขอไป 200 ถ้วน) เราก็วงที่เป็นเงินเดือนให้เค้า มีบางเดือนที่นายให้เงินสดเรา เราไม่ได้เอาเข้าแบค์ก็มี ก็เขียนโน๊ตแปะชี้แจง เรายื่นที่โครงการพร้อมกัน ราคาบ้านคือ 3,200,000 มีส่วนลด 300,000 แต่โครงการยื่นราคาให้เต็ม 100%
แบงค์น้ำเงิน เป็นที่แรกที่เรารู้ผลคร่าวๆ วงเงินสองคนน่าจะได้ประมาณ 2,500,000 เราเลยขอผ่าน
แบงค์สีม่วง พี่ที่ดูแลน่ารักมาก พอได้เคสก็รีบทำให้เลย ซึ่งเราก็มาจบกับที่นี่แหละ เดี๋ยวเรามาอธิบายให้ฟัง
แบงค์สีเหลือง พอได้เคสไป เราต้องเป็นฝ่ายโทรหาตลอด คอยถามจะเอาอะไรเพิ่มไหม พี่เค้าก็บอก ฝ่ายทำเรื่องยังเงียบอยู่เลยผ่านมาเกือบอาทิตย์นึง เค้าก็โทรมาแจ้งว่าเค้าไม่คิดรายได้ของเรา คิดให้แต่ของแฟนได้วงเงินแค่ 1,500,000 ก็เลยต้องผ่าน
ส่วนแบงค์สีส้ม พอได้เอกสารก็บอกว่าอาจจะขอเอกสารเพิ่ม แต่ก็เงียบหาย โทรไปอีกที เค้าก็บอกคล้ายๆกับสีเหลือง วงเงินล้านกว่าๆเหมือนกันก็เลยผ่าน
พี่แบงค์ม่วงขอให้เราไปปริ้นเอกสารส่งสมทบประกันสังคมเพิ่ม เอาปี 61 กับ 60 ในเอกสารมันก็ขึ้น 12,000 ทุกเดือน เอกสารนี้เราสามารถปริ้นเองได้ โดยเข้าที่ web ของประกันสังคม เราต้องสมัครใส่ข้อมูลของเราก่อนนะคะ ( ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเอกสารอยู่ตรงไหนคะ แต่ใน web มีเป็นช่องที่สามารถคุยออนไลกับเจ้าหน้าที่ ช่วยได้เยอะมากเลยคะ พี่เค้าอธิบายเราก็กดหาตามเค้าจนเจอ ) พอได้มาก็รีบส่งอีเมลให้พี่เค้า ถัดมาวันนึงก็มีคนจากแบงค์โทรเข้ามาออฟฟิสถามข้อมูลเรา ว่าทำงานมากี่ปี เงินเดือนเท่าไหร่ ตำแหน่งอะไร ถามประมาณนี้แล้วก็วางไป แต่น้องที่ตอบเค้าไม่รู้ว่าเราเงินเดือนเท่าไหร่ เค้าก็บอกว่าน่าจะ 12,000 เราก็คิดในใจว่า สงสัยจะไม่ได้วงเงินที่ต้องการ แต่ในบุคแบงมันก็ขึ้นอยู่ว่ามีเข้ามา 15,000 มา 2 ปี เราค่อนข้างสับสนและก็กลัวว่าเค้าจะให้วงเงินน้อยเหมือนทุกแบงค์ แต่ตอนเย็นพี่เค้าก็โทรมาแจ้งว่า น้องคะ เคสอนุมัติแล้วคะ วงเงินให้เต็ม 100% คือเราตกใจมากไม่คิดว่าบทจะง่ายก็ง่ายมาก ตอนนี้ก็รอไปตรวจบ้าน น่าจะโอนภายในปีนี้คะ เตรียมตัวเป็นหนี้ก้อนใหญ่แต่ก็เป็นที่ๆเราน่าจะมีความสุข เพราะมันจะเป็นสมบัติชิ้นแรกของเราทั้งสองคน อาจจะต้องประหยัดขึ้นแต่ก็จะคิดหารายได้เพิ่มมาปิดเร็วๆ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังจะกู้บ้านนะคะ โดยเฉพาะเคสเงินสด ลองยื่นดูคะอย่าพึ่งไปกลัว เตรียมเอกสารให้พร้อม ปริ้นเอกสารประกันสังคมให้เค้า สมุดบัญชีก็ย้อนหลัง 2-3 ปี ถ้าเอกสารแน่น พี่สินเชื่อเค้าจะสู้ดันเคสให้คุณแน่นอนคะ ลองยื่นหลายๆธนาคารเพราะกฎการอนุมัติก็แตกต่างกันคะ แต่เราคิดว่าพี่สินเชื่อมีส่วนชงเคสให้ผ่านด้วยคะ ถ้าใครมีข้อมูลอยากสอบถามเพิ่ม inbox มาได้คะ ยินดีตอบให้ทุกคำถามคะ
แชร์ประสบการณ์ของการกู้บ้านในเคสรับเงินเดือนเป็นเงินสด
ย้อนไปเมื่อสักสองเดือนที่แล้ว ขับผ่านโครงการเห็นว่าแบบบ้านว่าสวยดีเลยขอดูสักหน่อย แต่เข้าไปดูแล้ว ด้วยตัวโครงการ ทำเล แบบบ้าน บริเวณส่วนกลาง มีฟิสเนส+สระว่ายน้ำ บรรยากาศรอบๆมันถูกใจมาก แต่ราคามันก็ค่อนข้างแพงสำหรับเรา ประมาณสามล้านนิดๆ เราเคยคำนวณกันเล่นๆ คิดว่าสองคนไม่น่ากู้ผ่าน เพราะแบงค์ไม่น่าจะคิดรายได้ของเราเพราะรับเงินสด และเราไม่เคยเสียภาษี เราคิดว่ารายได้ไม่ถึง เลยไม่ได้สนใจตรงนี้ ส่วนแฟนทำงานประจำเป็นเซลล์ ทำที่นี่มาเกือบจะครบปีแต่มีทำที่อื่นมาหลายปี ( ทางแบงค์ขอชื่อและเบอร์โทรด้วยคะ ใส่เป็นรายละเอียดเฉยๆ ไม่ได้โทรไปเช็คอะไร ) เงินเดือนประมาณ 25,000 กลางเดือนก็จะมีค่าน้ำมัน 3,000 บ้าง 6,000 บ้างให้เป็นเช็ค และก็จะมีค่าคอมทุกเดือน หลักพัน หลักหมื่นเข้าทุกเดือน แต่ในสลิปเงินเดือนจะไม่ขึ้นค่าน้ำมันที่เข้ามากลางเดือน มีภาระหนี้ ผ่อนรถ 6,500 มีบัตรกดเงินสดยอดประมาณ 40,000 เงินเก็บประมาณ 80,000 ส่วนเราทำที่นี่มา 6 ปี เงินเดือน 15,000 ที่ทำงานจะให้เป็นเงินสด เค้าจะเข้าบัญชีให้ทุกต้นเดือน มีประกันสังคมแต่ฐานที่ออฟฟิสแจ้งแค่ 12,000 ไม่เคยยื่นภาษีเลยเพราะคิดเองว่าฐานไม่ถึง ไม่มีภาระผ่อนอะไร แต่มียอดบัตรกดเงินสดประมาณ 50,000 สิ้นปีนี้น่าจะมีเงินก้อนมาปิดหมด เมื่อคิดที่จะย้ายออก
ที่นี่จึงเป็นที่แรกในใจที่ไปดูโครงการอีกครั้ง วันที่เข้าไปดูอีกรอบมีโปรพิเศษเฉพาะสัปดาห์นั้น จองแค่ 5,000 ( ปรกติ 10,000 ) มีจับฉลากแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนลดต่างๆ ( แอบถามน้องเซลล์ ของรางวัลดีสุดคือแอร์ 18,000 btu แย่สุดคือส่วนลด 5,000 บาท ) น้องเซลล์พาไปดูบ้าน ด้วยทิศทางของลม หน้าบ้านมีแดดเช้า ค่อนข้างโอเคสำหรับเรามากคะ เลยเอาหลังนั้นจาก 2 หลังที่เหลือพร้อมโอน ด้วยความที่เราไปตั้งแต่ 9 โมง ลูกค้าคนแรก คุยรายละเอียดกันนิดหน่อย น้องเซลล์พาดูบ้าน และด้วยความอึดอัดจากที่บ้าน แฟนเลยรูดปรืดจองโดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าจะกู้ผ่านไหม 5555 น้องเซลบอกหนูให้แอร์พี่ไปเลยคะ พี่คุยง่ายมากหนูประทับใจ 5555
"ปัญหาเกิด"
บอกเลยว่า ณ. ตอนที่ออกมาจากโครงการพร้อมใบจอง เราใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงครึ่งชม. เรามองหน้ากันกับแฟนแล้วค่อยๆมานั่งคุยกัน จากความตื่นเต้นเริ่มมาแทนที่ด้วยความกังวลเพราะเซลล์แจ้งว่าถ้ากู้ไม่ผ่าน 2 แบงค์ เราถึงจะได้เงินที่จองคืน และพึ่งจะอ่านเจอว่าคืนแค่ 3,000 ถ้าผ่านไม่เต็มวงเงินเค้าก็นับว่าผ่าน เอาละสิ...เกิดความเสียดายเงิน แต่ลึกๆในใจเราคิดว่าตัวเรากู้ไม่ผ่านแน่ แต่แฟนถ้ากู้คนเดียวผ่านแต่วงเงินไม่น่าจะได้ถึง 100%
โครงการแนะนำให้เราเตรียมเอกสารให้ 3 ที่ คือ ม่วง,เหลืองและส้ม แต่เรามีคนรู้จักอยู่น้ำเงินก็ลองยื่นเองไปด้วย ยื่นพร้อมๆกัน เอกสารหลักๆของแฟนคือ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปหกเดือน สมุดบัญชี แต่แฟนเอาสลิปตั้งแต่ทำที่นี่ให้ทั้งหมดเพราะต้นปีมีตัวโบนัสด้วย ส่วนเรา บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีย้อนหลังไป 2 ปี (เสียค่าขอไป 200 ถ้วน) เราก็วงที่เป็นเงินเดือนให้เค้า มีบางเดือนที่นายให้เงินสดเรา เราไม่ได้เอาเข้าแบค์ก็มี ก็เขียนโน๊ตแปะชี้แจง เรายื่นที่โครงการพร้อมกัน ราคาบ้านคือ 3,200,000 มีส่วนลด 300,000 แต่โครงการยื่นราคาให้เต็ม 100%
แบงค์น้ำเงิน เป็นที่แรกที่เรารู้ผลคร่าวๆ วงเงินสองคนน่าจะได้ประมาณ 2,500,000 เราเลยขอผ่าน
แบงค์สีม่วง พี่ที่ดูแลน่ารักมาก พอได้เคสก็รีบทำให้เลย ซึ่งเราก็มาจบกับที่นี่แหละ เดี๋ยวเรามาอธิบายให้ฟัง
แบงค์สีเหลือง พอได้เคสไป เราต้องเป็นฝ่ายโทรหาตลอด คอยถามจะเอาอะไรเพิ่มไหม พี่เค้าก็บอก ฝ่ายทำเรื่องยังเงียบอยู่เลยผ่านมาเกือบอาทิตย์นึง เค้าก็โทรมาแจ้งว่าเค้าไม่คิดรายได้ของเรา คิดให้แต่ของแฟนได้วงเงินแค่ 1,500,000 ก็เลยต้องผ่าน
ส่วนแบงค์สีส้ม พอได้เอกสารก็บอกว่าอาจจะขอเอกสารเพิ่ม แต่ก็เงียบหาย โทรไปอีกที เค้าก็บอกคล้ายๆกับสีเหลือง วงเงินล้านกว่าๆเหมือนกันก็เลยผ่าน
พี่แบงค์ม่วงขอให้เราไปปริ้นเอกสารส่งสมทบประกันสังคมเพิ่ม เอาปี 61 กับ 60 ในเอกสารมันก็ขึ้น 12,000 ทุกเดือน เอกสารนี้เราสามารถปริ้นเองได้ โดยเข้าที่ web ของประกันสังคม เราต้องสมัครใส่ข้อมูลของเราก่อนนะคะ ( ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเอกสารอยู่ตรงไหนคะ แต่ใน web มีเป็นช่องที่สามารถคุยออนไลกับเจ้าหน้าที่ ช่วยได้เยอะมากเลยคะ พี่เค้าอธิบายเราก็กดหาตามเค้าจนเจอ ) พอได้มาก็รีบส่งอีเมลให้พี่เค้า ถัดมาวันนึงก็มีคนจากแบงค์โทรเข้ามาออฟฟิสถามข้อมูลเรา ว่าทำงานมากี่ปี เงินเดือนเท่าไหร่ ตำแหน่งอะไร ถามประมาณนี้แล้วก็วางไป แต่น้องที่ตอบเค้าไม่รู้ว่าเราเงินเดือนเท่าไหร่ เค้าก็บอกว่าน่าจะ 12,000 เราก็คิดในใจว่า สงสัยจะไม่ได้วงเงินที่ต้องการ แต่ในบุคแบงมันก็ขึ้นอยู่ว่ามีเข้ามา 15,000 มา 2 ปี เราค่อนข้างสับสนและก็กลัวว่าเค้าจะให้วงเงินน้อยเหมือนทุกแบงค์ แต่ตอนเย็นพี่เค้าก็โทรมาแจ้งว่า น้องคะ เคสอนุมัติแล้วคะ วงเงินให้เต็ม 100% คือเราตกใจมากไม่คิดว่าบทจะง่ายก็ง่ายมาก ตอนนี้ก็รอไปตรวจบ้าน น่าจะโอนภายในปีนี้คะ เตรียมตัวเป็นหนี้ก้อนใหญ่แต่ก็เป็นที่ๆเราน่าจะมีความสุข เพราะมันจะเป็นสมบัติชิ้นแรกของเราทั้งสองคน อาจจะต้องประหยัดขึ้นแต่ก็จะคิดหารายได้เพิ่มมาปิดเร็วๆ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังจะกู้บ้านนะคะ โดยเฉพาะเคสเงินสด ลองยื่นดูคะอย่าพึ่งไปกลัว เตรียมเอกสารให้พร้อม ปริ้นเอกสารประกันสังคมให้เค้า สมุดบัญชีก็ย้อนหลัง 2-3 ปี ถ้าเอกสารแน่น พี่สินเชื่อเค้าจะสู้ดันเคสให้คุณแน่นอนคะ ลองยื่นหลายๆธนาคารเพราะกฎการอนุมัติก็แตกต่างกันคะ แต่เราคิดว่าพี่สินเชื่อมีส่วนชงเคสให้ผ่านด้วยคะ ถ้าใครมีข้อมูลอยากสอบถามเพิ่ม inbox มาได้คะ ยินดีตอบให้ทุกคำถามคะ