
กลายเป็นคนดังภายในชั่วข้ามคืน ทันทีที่พล.ต.ท.พิสัณฑ์ จุลดิลก ออกมาแฉว่า 2 บิ๊กสมาคมฟุตบอล อย่าง "โจ"พาทิศ ศุภะพงศ์ รองเลขาฯและ เบนจามิน ตัน ซีอีโอ บ.ไทยลีกนำภรรยาชาวเวียตนาม ที่เป็นแม่บ้านมารับเงินเดือนละหลายแสนบาทจากสมาคมฟุตบอลฯทั้งที่ไม่เคยเข้ามาทำงาน ทำเอาภาพลักษณ์ 2 นักบริหารวัยหนุ่ม ที่ที่สมาคมลูกหนังยุคบิ๊กอ๊อด หวังปั้นให้เป็นดาวรุ่งพาวงการฟุตบอลไทยสู่อินเตอร์ มัวหมองลงไปทันที เพราะขัดแย้งกับ ภาพลักษณ์ Fair ไม่โกงที่ประกาศตลอดมา
2คู่หูดูโอ ไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันแค่วันสองวัน แต่มีความสัมพันธ์อันยาวนาน เริ่มจากโฆษก หนุ่มที่เป็นเด็กบ้าบอลแต่เข้าทำงานในสมาคมฯยุคก่อนไม่ได้จึงต้องดิ้นรนไปสอบเป็นเจ้าหน้าที่เอเอฟซี บนแผ่นดินเสือเหลือง มาเลเซีย
ที่นั่นทำให้ได้พบกับหนุ่มตี๋ อดีตเจ้าหน้าที่สมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ที่ผันกายไปทำงานเอเอฟซีเหมือนกัน วัยที่ใกล้กัน มาทำงานต่างบ้านต่างเมืองเหมือนกัน 2หนุ่มรวมถึง ภรรยาคนไทย และเวียตนามของทั้งคู่จึงสนิทสนม กันอย่างรวดเร็ว
จนบุญพาวาสนาส่ง โจ ในฐานะตัวแทนของกลุ่มชลบุรี ได้เข้ามาทำงานในสมาคมฯยุคบิ๊กอ๊อด จึงไม่รอช้าที่จะชวนเพื่อนรักมาทำงานด้วย
ภาษาอังกฤษที่แน่นเปรี๊ยะ หลักการที่ถอดมาจากตำรา นายกฯลูกหนัง ฟังแล้วถึงกับเคลิ้ม ดันทั้งคู่ขึ้นมาเป็นใหญ่ในวงการฟุตบอลไทย
ถ้าไม่พลาดท่าเสียที กรณีพาเมียมารับเงินเดือน จนเป็นประเด็น จะเอาไฟมาเผาบ้านเสียก่อน คู่หูดูโอ ที่กำลังขึ้นหม้อ คงจะรุ่งโรจน์ไปอีกไกล
ว่ากันว่ายอดเงินโอนเข้าบัญชีแต่ละเดือนของภรรยาทั้งคู่สูงถึงคนละ 3-4แสนบาท นี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เอาชื่อคนไม่ได้ทำงานมารับเงินแทน
จากนี้ก็ต้องดูว่าองค์กรรัฐ อย่างกกท., ปปช.ที่ "บิ๊กเจี๊ยบ"ยื่นให้ตรวจสอบ จะขานรับทำหน้าที่ขนาดไหน ถ้ายังแบะๆไม่ว่าอะไร จากนี้ไป คงเห็น"เมีย2018"รับเงินเดือนแทนผัว ไม่ต้องเสียภาษี กันเต็มสำนักงาน
http://www.siamsport.co.th/football/thaipremierleague/view/102120
เผยสัมพันธ์ "โจ-เบน" คู่หูที่ตกเป็นข่าวพาเมียรับเงินเดือนสมาคมฟุตบอล
กลายเป็นคนดังภายในชั่วข้ามคืน ทันทีที่พล.ต.ท.พิสัณฑ์ จุลดิลก ออกมาแฉว่า 2 บิ๊กสมาคมฟุตบอล อย่าง "โจ"พาทิศ ศุภะพงศ์ รองเลขาฯและ เบนจามิน ตัน ซีอีโอ บ.ไทยลีกนำภรรยาชาวเวียตนาม ที่เป็นแม่บ้านมารับเงินเดือนละหลายแสนบาทจากสมาคมฟุตบอลฯทั้งที่ไม่เคยเข้ามาทำงาน ทำเอาภาพลักษณ์ 2 นักบริหารวัยหนุ่ม ที่ที่สมาคมลูกหนังยุคบิ๊กอ๊อด หวังปั้นให้เป็นดาวรุ่งพาวงการฟุตบอลไทยสู่อินเตอร์ มัวหมองลงไปทันที เพราะขัดแย้งกับ ภาพลักษณ์ Fair ไม่โกงที่ประกาศตลอดมา
2คู่หูดูโอ ไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันแค่วันสองวัน แต่มีความสัมพันธ์อันยาวนาน เริ่มจากโฆษก หนุ่มที่เป็นเด็กบ้าบอลแต่เข้าทำงานในสมาคมฯยุคก่อนไม่ได้จึงต้องดิ้นรนไปสอบเป็นเจ้าหน้าที่เอเอฟซี บนแผ่นดินเสือเหลือง มาเลเซีย
ที่นั่นทำให้ได้พบกับหนุ่มตี๋ อดีตเจ้าหน้าที่สมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ที่ผันกายไปทำงานเอเอฟซีเหมือนกัน วัยที่ใกล้กัน มาทำงานต่างบ้านต่างเมืองเหมือนกัน 2หนุ่มรวมถึง ภรรยาคนไทย และเวียตนามของทั้งคู่จึงสนิทสนม กันอย่างรวดเร็ว
จนบุญพาวาสนาส่ง โจ ในฐานะตัวแทนของกลุ่มชลบุรี ได้เข้ามาทำงานในสมาคมฯยุคบิ๊กอ๊อด จึงไม่รอช้าที่จะชวนเพื่อนรักมาทำงานด้วย
ภาษาอังกฤษที่แน่นเปรี๊ยะ หลักการที่ถอดมาจากตำรา นายกฯลูกหนัง ฟังแล้วถึงกับเคลิ้ม ดันทั้งคู่ขึ้นมาเป็นใหญ่ในวงการฟุตบอลไทย
ถ้าไม่พลาดท่าเสียที กรณีพาเมียมารับเงินเดือน จนเป็นประเด็น จะเอาไฟมาเผาบ้านเสียก่อน คู่หูดูโอ ที่กำลังขึ้นหม้อ คงจะรุ่งโรจน์ไปอีกไกล
ว่ากันว่ายอดเงินโอนเข้าบัญชีแต่ละเดือนของภรรยาทั้งคู่สูงถึงคนละ 3-4แสนบาท นี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เอาชื่อคนไม่ได้ทำงานมารับเงินแทน
จากนี้ก็ต้องดูว่าองค์กรรัฐ อย่างกกท., ปปช.ที่ "บิ๊กเจี๊ยบ"ยื่นให้ตรวจสอบ จะขานรับทำหน้าที่ขนาดไหน ถ้ายังแบะๆไม่ว่าอะไร จากนี้ไป คงเห็น"เมีย2018"รับเงินเดือนแทนผัว ไม่ต้องเสียภาษี กันเต็มสำนักงาน
http://www.siamsport.co.th/football/thaipremierleague/view/102120