สวัสดีเพื่อนชาวพันทิปทุกคน เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าที่เราได้ฟังมากจากพ่อ เราได้มีโอกาสเดินทางกลับไปเยี่ยมที่ทำงานเก่าพ่อ พ่อเลยนึกเรื่องนี้ออกเลยเล่าให้เราฟัง เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ย้อนไปเมื่อประมาณ 22 ปีที่แล้ว ตอนนั้นพ่อพึ่งได้รับการบรรจุเป็นตำรวจใหม่ๆได้มาประจำการในเขตอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ซึ่งภูมิประเทศโดยรอบเขตที่สภ.ที่พ่อประจำการรับผิดชอบส่วนมากจะเป็นป่าและภูเขา ผู้คนอาศัยแบบกระจายตัวไม่อยู่กันเป็นชุมชนเท่าไร ถ้าจะพูดง่ายๆคือห่างไกลความเจริญก็ว่าได้ และมีชุมชนชาวเขาอาศัยอยู่ด้วย เหตุการณ์นี้พ่อก็จำไม่ได้ว่าเกิดขึ้นในช่วงเดือนไหน มีคนมาแจ้งความทีโรงพักว่าพบศพผู้หญิงในป่าข้างทาง จากการสอบปากคำผู้พบศพคนแรก เขาได้นำวัวมากินหญ้าในบริเวณนี้สักพักเขาได้กลิ่นเหม็นเน่าแปลกๆเลยเดินตามกลิ่นเข้าไปเรื่อยๆ กลิ่นเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆเขาก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็นและรีบไปแจ้งความที่โรงพัก ลักษณะของเธอเป็นผู้หญิงผมค่อนข้างยาวดูเหมือนคนผิวค่อนข้างขาวรูปร่างดี สภาพศพไม่สวมเสื้อผ้าลักษณะอาจเป็นไปได้ว่าเธอโดนฆ่าข่มขืน จากสภาพศพของเธอสันนิษฐานว่าเสียชีวิตไม่ตำกว่า 2-3 สัปดาห์เนื่องจากสีผิวของศพเริ่มคล่ำ มีการเน่าเปื่อยของเนื้อเยื่อและมีน้ำเหลืองบริเวณรอบศพ จึงไม่สามารถตรวจสอบเนื้อเยื่อได้ว่าเธอโดนข่มขืนหรือไม่ ทางตำรวจพยายามค้นหาเอกสารที่สามารถแสดงตัวตนของเธอ แต่ก็ไม่พบสักชิ้นจึงไม่สามารถระบุได้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน ในสมัยนั้นก็ตามหาญาติได้อย่างเพราะการสื่อสารยังไม่ครอบคลุมขนาดนี้แต่หากเป็นในยุคนี้เชื่อว่าอาจตามหาญาติเธอได้ง่ายขึ้น ด้วยความที่เธอไม่มีชื่อ ทางเจ้าหน้าที่ไม่รู้จักชื่อเธอ ในบริเวณใกล้กับศพพ่อเราได้เห็นป้ายโฆษณาไม่แน่ใจว่าเป็นป้ายโฆษณาที่พักหรือร้านผ้าม่าน ที่ป้ายเขียนว่า " แอนโทนี่"พ่อเราเลยตั้งชื่อให้ผู้หญิงนี้ หลังจากทางกู้ภัยได้เก็บศพของเธอไปแล้วก็นำร่างไร้วิญญาณของเธอไปไว้สุสานไร้ญาติเพื่อรอการติดต่อของญาติเธอ แต่เนื่องด้วยเธอมีน้ำเหลืองไหลออกมาจำนวนมากทำให้น้ำเหลืองซึมผ่านภาพห่อศพและอาจมีการเปื้อนรถหรือเสื้อผ้าของเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ พวกกูภัยเขาก็จะชินในเรื่องแบบนี้เขาก็ไม่คิดอะไรมาก ตกเย็นกลุ่มกู้ภัยกล่มนี้ได้นั่งสังสรรค์กันตามประสาแต่ในระหว่างที่พวกเขาดื่มไปสักพัก พวกเขาได้กลิ่นธูปแต่ก็ไม่คิดอะไรอาจจะเป็นกลิ่นที่มาจากเตาย่างหมู สักพักกลิ่นนั้นกับหายไปแต่ตามมาด้วยกลิ่นเหม็นเน่าแทนพวกเขาเริ่มหยุดดื่มแล้วมานั่งคุยกันว่าได้กกลิ่นเหมือนกันหรือไม่แต่กลิ่นนั้นก็แรงขึ้นเรื่อยๆจนพวกเขาต้องหนีกลับบ้านใครบ้านมัน เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาเลยนำมาเล่าให้กลุ่มตำรวจที่ไปวันนั้นด้วยกันซึ่งหนึ่งในนั้นก้พ่อเรา แล้วเรื่องนี้ก็ผ่านไป3-4วัน ก็มีเหตุการณ์ที่ตำรวจทุกนายที่ไปในที่เกิดเหตูวันนั้นฝันเห็นเธอคนนั้นหรือแอนโทนี่เห็นว่าเธออยู่ในสภาพไม่ใส่เสื้อผ้าละนั่งร้องไห้ในจุดที่พบศพเธอ ทั้งหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันทำบุญให้เธอ แล้วเรื่องของเธอก็เงียบไป แต่ก็ไม่มีใครมาแสดงว่าเป็นญาติของเธอ จนเวลาล่วงเลยมาหลายปีมีการจัดพิธีล้างป่าช้า ทางกู้ภัยจึงทำการฌาปนกิจแอนโทนี่เนื่องจากไม่มีญาติมาติดต่อแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้เธอ พ่อบอกว่าเธอดูน่าสงสารมาก คงตายอย่างทรมารและโดดเดี่ยวแถมยังไม่มีใครมาติดต่อว่าเป็นญาติเธอ พ่อยังจำเหตุการณ์นี้ไม่ลืม จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีใครแสดงตัวว่าเป็นญาติเธอส่วนกระดูกของเธอก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนเพราะพ่อเราย้ายจากที่นั้นมา18ปีแล้ว
เรื่องเล่าของพ่อ