#EthiopiaDiary Part 4 อักสัม (Axum)

DAY 9


16 พฤศจิกายน 2018

ออกเดินทางไปอักสัม

.

ฉันท์ชมธรรมชาติระหว่างทางจากฮอว์เซ็นไปอักสัม (แต่งตามจินตนาการ)

@ภุชงคประยาตฉันท์

ตะวันฉายประกายแสง พบูแดงประสานสี
ขยายกลีบกุสุมมี ภมรชื่นระรื่นรมย์

วิหคเหินพะเนินเขา พะนอเนาพนัสสม
ฉวัดเวียนเฉวียนดม ผกากรองสนองฆาน

ขยับปีกเผยอปาก ตระโกนพากย์ประกาศสาส์น
ผสมศัพท์สดับการ ผสานเสียงสำเนียงไพร

ระบำโบกระบัดปลิว ละลิ่วฉิวกระหวัดไหว
สล้างสวยระรวยใบ ไสวดอกสะหลาลม

ละอองฟองก็นองฉ่ำ แมลงรำขย่มข่ม
ขยับเยื้องเขยื้อนชม ขยิบมองละอองพราว

สะบัดบิ้งสะดิ้งยอด กระโดดดอดสะดุ้งหนาว
ละเลงติดระยิบวาว ละเล่นล้อระวีวาร

กระแตไต่กระรอกแตะ กระแตแขวะกระรอกขาน
กระแตคืบกระรอกคลาน สนิทคู่สนุกนัยน์

ละองมีละมั่งโดด ละองโลดทะยานไป
ละองหนีละมั่งไกล ละองหายละมั่งตาม

กระต่ายเต้นกระดุกดิก ขยุกหยิกแขยงหนาม
ขยำหญ้าขย้อนยาม คะมำคว่ำเขม่าดิน

นทีทดละหานห้วย ระรินรวยกระแสสินธ์ุ
กระเซ้าแทรกชโลมดิน กระเซ็นซ่านพนาวัลย์

ชะม้อยเมียงชะม้ายมอง ก็สุขปองเกษมสันต์
สราญรื่นภิรมย์พลัน จรุงจิตเจริญใจ

วิวทิวทัศน์สองข้างทาง










.

ออกเดินทางจากฮอว์เซ็น 8 โมงเช้าถึงอักสัม 11 โมงตรง ถนนหนทางตัดผ่านที่ราบมีเขาขนาบและช่วงหนึ่งต้องไต่เขาขึ้นไป สวยมากๆ ผ่านเมืองอั๊ดวา (Adwa) เมืองสำคัญในประวัติศาสตร์เอธิโอเปียค่าที่จักรพรรดิเมนิเลคที่ 2 (Emperor Menilek II) และจักรพรรดินีเตตู (Empress Taitou) เกณฑ์ไพร่ฟ้าประชาราษฎร์และเจ้าเมืองท้องถิ่นมารบกับกองทัพอิตาลีที่อยากจะเอาเอธิโอเปียเป็นอาณานิคม ผลคืออิตาลีแพ้ไม่เป็นท่า เอธิโอเปียเลยไม่เป็นเมืองขึ้นของฝรั่งดั้งขอ ปัจจุบันเมืองนี้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรม มีโรงงานทอผ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

.

เราตั้งใจมาอักสัมเพื่อมาดู 1) Stelae of Axum คือแท่งหินแกรนิตสูงใหญ่ตั้งตระหง่านใจกลางเมือง, 2) โบสถ์พระแม่มารี (St. Mary Church of Tsion) ที่เอธิโอเปียนเชื่อว่า Ark of Covenant ถูกเก็บรักษาไว้, และ 3) ศิลาจารึกพระเจ้าอีซานา (Ezana Inscription) ส่วนโบราณสถานอื่นๆแล้วแต่อารมณ์จะพาไป

.

หลังจากเก็บข้าวของเข้าห้องก็ออกไปเรียกรถตุ๊กๆหน้าโรงแรมเพื่อไปสวนหิน (Stelae Park) ค่าโดยสาร 30 หน่วย พลขับเสนอตัวว่าจะขอเป็นไกด์นำเที่ยว เราบอกปัดเพราะศึกษามาก่อนแล้ว ตัวสวนอยู่ตรงข้ามกับโบสถ์พระแม่มารี ภายในมีแท่งหินมากมายนับได้เกินสิบ มี 3 อันที่น่าสนใจ อันแรกตั้งตระหง่านตั้งแต่วันแรกคือพันกว่าปีมาแล้วจนถึงทุกวันนี้ รูปแบบเป็นแท่งทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าน่าจะสูงประมาณ 20 เมตรได้ รอบๆแกะสลักให้เห็นเป็นชั้นๆแต่ละชั้นมีหน้าต่างปลอมด้านละ 2 บาน ตรงฐานล่างมีประตูปลอมอยู่ด้านหน้า ข้างบนแกะเป็นทรงครึ่งวงกลม อลังการพอๆกับ Obelisk ของอียิปต์อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ อันที่สองเตี้ยกว่าเล็กน้อย ด้านหลังไม่ได้แกะสลัก อันนี้อิตาลีเอาไปตั้งที่โรมแต่ส่งคืนมา UNESCO มาช่วยติดตั้งให้ เหมือนฐานรากจะไม่แข็งแรงเลยต้องใช้สลิงดึงไว้ ส่วนอันสุดท้ายว่ากันว่าสูงถึง 30 เมตรแต่ดันล้มในช่วงที่ติดตั้ง น่าเสียดาย; ไม่มีใครรู้ว่าจุดประสงค์ของการตั้ง Stelae คืออะไร? แต่สมมติฐานที่เข้าเค้ามากที่สุดคือตั้งเพื่อประกาศความยิ่งใหญ่

Stelae ใน Stelae Park














.

จากสวนเดินตัดไปที่โบสถ์ซึ่งปิดประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในตอนเที่ยง จะเปิดให้เข้าชมอีกทีในตอนเย็น ตุ๊กๆเจ้าเดิมวิ่งมาหา เราเลยใช้บริการไปยังที่ตั้งศิลาจารึก ระหว่างทางก็พูดชี้ชวนให้ไปนู่นนี่นั่น เราบอกขอคิดดูก่อน สักพักก็วกมาชวนให้ไปเที่ยว Danakil Depression เราบอกไม่ไป ทีนี้เลยเสนอแลกเงินโดยจะให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่า เราบอกว่าแลกมาเยอะแล้ว ตอบเสร็จสามคำถามก็แปลงร่างเป็นพระเตมีย์ใบ้นั่งไขสือไม่หือไม่อือไปตลอดทาง

พลขับพามายังกระท่อมเล็กๆที่สร้างครอบศิลาจารึก โดยพระเจ้าอีซาน่าสั่งให้สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 4 ด้านยาวข้างหนึ่งจารึกเป็นภาษากรีกอีกด้านภาษาซาเบียน ส่วนด้านแคบเป็นอักขระกี๊ซ (Ge’ez) เริ่ดมาก อยากรู้จักสักภาษาจะได้นั่งอ่านศึกษาเอกสารชั้นต้น คงสนุกไม่น้อย; ออกมาจากกระท่อมเจอคนขายของมากมาย รู้สึกไมเกรนขึ้น บอกพลขับให้พากลับโรงแรม ขอยกกองก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที




.

บ่ายสองครึ่งเริ่มเดินจากโรงแรมไปโบสถ์พระแม่มารีพร้อมกับทัศนาวัตรปฏิบัติของเอธิโอเปียนระหว่างทาง ใช้เวลาเดินประมาณ 20-30 นาทีก็ถึง ง่ายกว่าไปดูโบสถ์ที่ทิเกรย์พันเท่า





ตัวโบสถ์ที่ใช้การในปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ เข้าใจว่าของเดิมพังทลายและได้รับการบูรณะให้กลับคืนสภาพคล้ายเดิมโดยตั้งอยู่ข้างๆ ตอนไปถึงผู้คนมากมายเพิ่งออกจากโบสถ์หลังจากจบศาสนกิจ มีการแจกแป้งแผ่นคล้ายขนมรวงผึ้งแต่รูผึ้งเล็กกว่าและมีอยู่ด้านเดียว เข้าใจว่าเหมือนกับที่ชาวคริสต์ยุโรปกินเวเฟอร์แต่นี่เป็น communion ฉบับเอธิโอเปีย

ภายในโบสถ์กว้างมาก มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนขึ้นใหม่เล่าเรื่องคริสตประวัติ เรารู้สึกเฉยๆแต่พอใส่ปริบทว่าโบสถ์นี้เก็บรักษา Ark of Covenant แล้วขนลุกซู่ นี่เราอยู่ใกล้ชิดกับของล้ำค่าที่อินเดียน่า โจนส์ตามหาไม่ถึงร้อยเมตร ออกมาจากโบสถ์ฝนเริ่มตกปรอยๆ รีบโบกตุ๊กๆกลับโรงแรม พลขับเรียก 50 หน่วย จะเรียกว่า error ก็ไม่ได้เพราะราคาขึ้นลงเกิน 2 SD แน่ๆ (ขามาตอนมาสวนหินแค่ 30 หน่วยและระยะกระจัดเท่ากัน) แต่ไม่คิดมาก ไม่ต่อราคาให้ขุ่นข้องหมองใจ ว่าไงว่าตามกัน

รวมรูป
















To be continued
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่