ผ่านพ้นสุดสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐอเมริกาไปหนังใหญ่ๆปลายปีก็พากันปล่อยของเต็มที่ Venom ยังผงาดอย่างยิ่งใหญ่ในจีนส่งผลให้รายรับรวมทะลุผ่านหลัก $800 ล้านไปเรียบร้อย ในขณะที่ภพายนตร์ส่วนใหญ่ก็ไปได้ดีในตลาดโลกจะมีก็เพียง Robin Hood เท่านั้นที่ทำท่าจะย่ำแย่เปิเดแผลใหญ่ให้ Lionsgate เนื่องจากทำรายได้รวมเปิดตัวในตลาดโลกไปเพียง $23 ล้านเหรียญเท่านั้น
Venom ($822.5 ล้านเหรียญ)
เจ้า Symbiote ตัวร้ายยังคงอาละวาดในจีนได้ต่อเนื่อง สุดสัปดาห์นี้ทำเงินในจีนไปอีก $19.5 ล้าน รวม $21.3 ล้านจาก 63 ประเทศ (ยังยืนโรงฉายอยู่เยอะและนานมากๆ) รวมตลาดต่างประเทศทำเงินไปแล้วถึง $610.8 ล้าน รวมทั่วโลก Venom โกยไปแล้วถึง $822.5 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ Venom กลายเป็นภาพยนตร์ Superhero ภาคแรกที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ตลอดกาลเป็นที่เรียบร้อย เอาชนะทั้ง Wonder Woman, Guardians of the Galaxy, Deadpool และ Spider-man เป็นรองเพียง Black Panther เรื่องเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ประเทศจีนยังกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยรายได้รวมมากถึง $242.9 ล้านเหรียญ (จนถึงปัจจุบัน) แซงหน้ารายได้ในอเมริกาเหนือไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง Venom ยังยึดโรงฉายในจีนได้มากพอสมควร แม้ว่าจะโดนระเบิดลูกแรกคือ Fantastic Beasts 2 และระเบิดลูกที่สอง Ralph Breaks the Internet ทิ้งใส่ในสองสัปดาห์ต่อมา แต่ทั้งสองเรื่องก็ยังโค่น Venom ไม่ลง (ภาพยนตร์ที่โค่น Venom ในจีนลงได้คือหนังจีนเรื่อง A Cool Fish) ส่วนสัปดาห์หน้าจะเจอ Crazy Rich Asians ตามด้วย Aquaman ในวันที่ 7 ธันวาคม
รายได้ต่างประเทศ Top 5 นอกจากจีนแล้วยังมี Russia ($32.6 ล้าน), เกาหลีใต้ ($30.2 ล้าน), UK ($26.3 ล้าน) และ Mexico ($24.2 ล้าน)
Fantastic Beasts : The Crimes of Grindelwald ($439.7 ล้านเหรียญ)
Newt Scamander และผองเพื่อนพากันร่ายคาถาสะกดกระเป๋าสตางค์คนทั่วโลกในตลาดต่างประเทศสุดสัปดาห์นี้ไปอีก $83.7 ล้าน รวมตลาดนอก $322.6 ล้าน และรวมทั่วโลกทำไปแล้ว $439.7 ล้านเหรียญ ซึ่งรายได้ต่างประเทศเทียบกันรวมทุกตลาดนั้นอยู่ในระดับเดียวกับ Fantastic Beasts and Where to Find Them หากแยกเป็นภูมิภาคแล้วรายได้ในยุโรป, แอฟริกา และ ตะวันออกกลางยังคงครองแชมป์หนังทำเงินในสัปดาห์นี้และรายได้รวมมากกว่า FB1 อยู่ 5% ส่วนใน Latin America อยู่ในอันดับ 2 และรายได้เทียบเท่า FB1
โดยตลาดที่น่าสนใจคือ UK รายได้รวม $28.3 ล้านจาก 1,412 โรงลดลงจาก 36.1 ล้านที่สองสัปดาห์เท่ากัน จีนได้ไป $52 ล้าน (361.3M RMB) ซึ่งลดลงจาก $72.3 ล้าน (498.5M RMB) ที่สองสัปดาห์เช่นกัน Germany = $23.2 ล้าน, France = $19.8 ล้าน, Russia = $19.4 ล้าน และตลาดสุดท้ายของโลกที่เพิ่งเปิดตัวในสัปดาห์นี้คือญี่ปุ่น FB2 กวาดไป $13 ล้านจาก 1,008 โรงฉาย รายได้นี้เทียบเท่ากับรายได้เปิดตัวของ FB1 และยังเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินเปิดตัวสูงสุดของ Warner Bros. ในญี่ปุ่นสำหรับปี 2018 อีกด้วย
Ralph Breaks the Internet ($125.9 ล้านเหรียญ)
ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของวายร้ายใจงาม Ralph Breaks the Internet ที่ขนเอา Feature เด็ดๆในโลก Cyber พร้อมทั้งตัวละครในจักรวาล Disney มาพร้อมสรรพ ทำเงินเปิดตัวทั่วโลกไป $125.9 ล้านเหรียญจาก 19 ตลาด โดยแยกเป็นรายได้ในบ้าน $84.4 ล้าน และรายได้ต่างประเทศ $41.5 ล้าน ซึ่งรายได้ในบ้านนั้นช่วงแรกคือคืนวันพุธในอเมริกามีการประเมินกันว่า Ralph จะทำเงินเปิดตัว 5 วันมากถึง $95 ล้านเหรียญ ล้มสถิติวันขอบคุณพระเจ้าของ Disney เองที่ Frozen ทำเอาไว้ $93.5 ล้านแต่ในที่สุดก็ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามรายได้ 5 วัน $84.4 ล้านก็มากพอที่จะสร้างสถิติเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลของหนังวันขอบคุณพระเจ้าของ Disney มากกว่า Moana ($82 ล้าน), Toy Story 2 ($80.1 ล้าน) และ Coco ($72.9 ล้าน)
ทางด้านรายได้ต่างประเทศ Ralph ลงสนามใน 3 ตลาดสำคัญ จีน, Mexico และ Russia ซึ่งในประเทศจีน Ralph ทำเงินได้ $19.5 ล้านต่ำกว่า Incredibles 2 เล็กน้อยและนับว่าพอใจเป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ เพราะ Ralph ต้องเจอศึกหนักทั้งหนังตลกเจ้าถิ่นแชมป์ประจำสัปดาห์อย่าง A Cool Fish, Venom ที่ฮอตฮิตเหลือเกินในจีน, FB2 ที่ยังคงขายได้ บวกกับ Johnny English ที่แรงขึ้นมาด้วย ใน Mexico Ralph ทลายรายได้ $6.3 ล้านครองแชมป์สุดสัปดาห์สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์จากสตูดิโอ Animation ของ Disney เอง (ไม่นับ Pixar) ที่เปิดตัวสูงสุด ทั้งนี้รายได้เปิดตัวมากกว่า Ralph 1 148%, Moana 114%, Big Hero 6 99%, Zootopia 54% และเป็นรอง Coco ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเพณีของชาว Mexican เพียง 28% เท่านั้น ใน Russia นั้นทำรายได้ไป $5.7 ล้าน สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ของ Disney Animation/Pixar ที่เปิดตัวสูงสุดอันดับ 2 ตลอดกาล มากกว่า Ralph 125%, Coco 99%, Moana 10%, Incredibles 2 6%
ส่วนตลาดรองอื่นๆนั้น Ralph Breaks the Internet สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดของ Disney Animation ใน Indonesia และอันดับ 2 ใน India, Malaysia และ Philippines นอกจากนี้ ใน India, Indonesia และ Philippines รายได้เปิดตัวของ Ralph 2 ยังมากกว่ารายได้ตลอดการฉายของ Wreck-It Ralph ไปแล้ว ทางด้านประเทศอื่นๆใน Latin America นั้น Ralph สามารถครองแชมป์ประจำสัปดาห์ได้ทุกตลาด
ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้นอกจากประเทศไทยของเราแล้ว Ralph Breaks the Internet ยังจะลุยด่านต่อไปที่ UK ก่อนจะตามด้วย Spain, ญี่ปุ่น และ Australia ในเดือนธันวาคม Italy, เกาหลีใต้, Brazil และ Germany เดือนมกราคม ก่อนจะจบเกมในด่านสุดท้ายที่ France ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
Robin Hood ($22.9 ล้านเหรียญ)
มีแววว่าจะนำความหายนะมาสู่ Lionsgate เสียแล้วสำหรับ Robin Hood ฉบับสุดแนวเวอร์ชั่นล่าสุดที่นำแสดงโดย Taron Egerton และ Jamie Foxx เพราะภาพยนตร์ทุนสร้างเกือบ $100 ล้านเรื่องนี้ทำเงินเปิดตัวในอเมริกาเหนือและทั่วโลกไปเพียง $22.9 ล้านจาก 34 ตลาดเท่านั้น โดยรายได้ในบ้าน 5 วันทำไปเพียง $14.2 ล้าน อยู่ในอันดับที่ 7 ซึ่งน้อยกว่า Instant Family ที่ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 2 และทำเงินต่ำกว่าเป้าเสียอีก ข้างฝ่ายตลาดต่างประเทศก็ย่ำแย่ไม่แพ้กันทำเงินไปเพียง $8.7 ล้าน ใน UK บ้านเกิดของ Robin Hood ทำเงินไปแค่ $1.7 ล้าน ในตะวันออกกลางทำเงิน $1.2 ล้าน ตามมาด้วย Australia ($0.9K), Italy ($0.9K) and Malaysia ($0.5K)
ยังมีแสงสว่างอันน้อยนิดจากตลาดใหญ่ที่ยังเหลือคือ France, เกาหลีใต้, Brazil, Russia, Mexico ในสุดสัปดาห์หน้า Spain (7 ธันวาคม) และ Germany (10 มกราคม) ซึ่งหากตลาดที่เหลือไม่สามารถกู้ชีพคืนมาได้ Robin Hood ก็จะกลายเป็นหนังตำนานของอังกฤษที่ขาดทุนยับเยินต่อเนื่องมาจาก King Arthur : The Legend of Sword ที่ทำเอา WB บาดเจ็บสาหัสไปเมื่อปีที่แล้ว
Creed II ($55.8 ล้านเหรียญ)
ยังไม่มีการฉายในต่างประเทศเทศสำหรับภาพยนตร์เรื่องที่ 8 ในหนังชุด Rocky ซึ่ง Creed II เปิดฉายเฉพาะในอเมริกาเหนือต้อนรับเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า พร้อมทั้งทำรายได้รวม 5 วันไปถึง $55.8 ล้านเหรียญ สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ Live-action / Hybrid ที่ทำเงินเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลช่วงวันขอบคุณพระเจ้า น็อคเจ้าของตำแหน่งเดิมทั้ง Enchanted ($49 ล้าน), Four Christmases ($46 ล้าน) และ Unbreakable ($46 ล้าน) ลงได้อย่างสวยงาม
Creed II พร้อมเนื้อเรื่องที่เข้มข้นขนมาทั้ง Adonis Creed (Michael B. Jordan) ลูกชาย Apollo, Rocky (Sylvester Stallone) โค้ชของ Adonis เพื่อนรักของ Apollo, Ivan Drago (Dolph Lundgren) ผู้สังหาร Apollo คาเวทีใน Rocky IV และ Viktor Drago ลูกชาย Ivan คู่ต่อสู้คนใหม่ของ Adonis จะเริ่มตระเวนขึ้นสังเวียนในตลาดใหญ่อื่นๆตั้งแต่สุดสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ทั้ง Australia (29 พฤศจิกายน) UK (30 พฤศจิกายน) Mexico (1 มกราคม) France (9 มกราคม) Russia (10 มกราคม) ญี่ปุ่น (11 มกราคม) Spain (18 มกราคม) Brazil, Germany และ Italy (24 มกราคม)
Bohemian Rhapsody ($472.1 ล้านเหรียญ)
ยังคงระเบิดพลังร็อคไม่หยุดหย่อนสำหรับ Bohemian Rhapsody สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเงินตลาดนอกไป $38 ล้าน รวมตลาดต่างประเทศ $320.2 ล้าน และรวมทั่วโลก $472.1 ล้านแล้ว แซงหน้าหนังเพลงยอดฮิตของเมื่อปีสองปีที่แล้วอย่าง The Greatest Showman และ La La Land ไปอย่างสบายๆ พร้อมทั้งคาดว่า Bohemian Rhapsody จะทะลุหลัก $500 ล้านเหรียญในสุดสัปดาห์หน้า
ตลาดต่างประเทศนั้นนำโดยบ้านเกิดของวง Queen อย่าง UK ที่ทำไปแล้ว $50.6 ล้าน ลดลงเพียง -27% จากสัปดาห์ก่อนและยังอยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางหนังทำเงิน เกาหลีใต้นั้นบ้าคลั่งกันขนาดหนักทำไปอีก $8.7 ล้านในสัปดาห์ที่ 4 มากกว่ารายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกถึง +80% รายได้รวมที่ $36.4 ล้าน ญี่ปุ่น +7% จากสัปดาห์ก่อนและมันส์กันไปแล้ว $20.9 ล้าน France ($23.4 ล้าน) และ Spain ($16.4 ล้าน) นั้นรายได้แซง La La Land ไปเรียบร้อย ส่วน Brazil นั้นมีการเพิ่มโรงฉายกลับมาให้ Bohemian Rhapsody อีกครั้งพร้อมรายได้รวม $13.9 ล้านเหรียญ
สุดสัปดาห์หน้าทัวร์คอนเสิร์ตของ Queen จะไปลงที่ Italy และแอฟริกาใต้ให้กระหึ่มกันต่อไป
Dr. Seuss’ the Grinch ($215.8 ล้านเหรียญ)
ประคองตัวหลบหนังใหญ่เรื่องอื่นไปก่อนในตลาดนอกสำหรับ The Grinch สุดสัปดาห์นี้ทำเงินไปได้ $7.6 ล้านจาก 33 ประเทศ รวมตลาดต่างประเทศทำไป $35.3 ล้าน รวมทั่วโลก $215.8 ล้านเหรียญ ปกติแล้วงานของ Dr. Seuss จะเป็นที่นิยมเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษและ Germany แต่สุดสัปดาห์นี้รายได้ตกลงเพียง -37% เท่านั้นนับว่าดีมาก โดย UK ยังคงนำหน้าตลาดอื่นๆทำไป $17.8 ล้าน (-23%) จาก 582 โรงฉายยึดอันดับ 2 บนตารางหนังทำเงินอย่างเหนียวแน่น Brazil = $4.3 ล้าน (-67%) ส่วนกลุ่มประเทศ Nordics นั้นรายได้ลดลงประมาณ -30%
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น The Grinch เปิดตัวบางส่วนในตลาดเล็กๆ เช่น Argentina = $0.3M, Protugal = $0.3 ล้าน, Turkey = $0.25 ล้าน และ Romania = $0.2 ล้าน สำหรับตลาดใหญ่ที่เหลือทั่วโลกนั้นจะมากันช่วงเดือนธันวาคมเข้ากับเหตุการณ์ในท้องเรื่องทั้ง France, Australia, Italy, Germany, Spain, Mexico, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน และ Russia
[BoxOffice WW] Venom ผงาด $822M Fantastic Beasts เสกคาถาเรียก $439M Ralph เชื่อมต่อสำเร็จ $126M Robin Hood ปล้นไม่ออก
เจ้า Symbiote ตัวร้ายยังคงอาละวาดในจีนได้ต่อเนื่อง สุดสัปดาห์นี้ทำเงินในจีนไปอีก $19.5 ล้าน รวม $21.3 ล้านจาก 63 ประเทศ (ยังยืนโรงฉายอยู่เยอะและนานมากๆ) รวมตลาดต่างประเทศทำเงินไปแล้วถึง $610.8 ล้าน รวมทั่วโลก Venom โกยไปแล้วถึง $822.5 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ Venom กลายเป็นภาพยนตร์ Superhero ภาคแรกที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ตลอดกาลเป็นที่เรียบร้อย เอาชนะทั้ง Wonder Woman, Guardians of the Galaxy, Deadpool และ Spider-man เป็นรองเพียง Black Panther เรื่องเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ประเทศจีนยังกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยรายได้รวมมากถึง $242.9 ล้านเหรียญ (จนถึงปัจจุบัน) แซงหน้ารายได้ในอเมริกาเหนือไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง Venom ยังยึดโรงฉายในจีนได้มากพอสมควร แม้ว่าจะโดนระเบิดลูกแรกคือ Fantastic Beasts 2 และระเบิดลูกที่สอง Ralph Breaks the Internet ทิ้งใส่ในสองสัปดาห์ต่อมา แต่ทั้งสองเรื่องก็ยังโค่น Venom ไม่ลง (ภาพยนตร์ที่โค่น Venom ในจีนลงได้คือหนังจีนเรื่อง A Cool Fish) ส่วนสัปดาห์หน้าจะเจอ Crazy Rich Asians ตามด้วย Aquaman ในวันที่ 7 ธันวาคม
รายได้ต่างประเทศ Top 5 นอกจากจีนแล้วยังมี Russia ($32.6 ล้าน), เกาหลีใต้ ($30.2 ล้าน), UK ($26.3 ล้าน) และ Mexico ($24.2 ล้าน)
Newt Scamander และผองเพื่อนพากันร่ายคาถาสะกดกระเป๋าสตางค์คนทั่วโลกในตลาดต่างประเทศสุดสัปดาห์นี้ไปอีก $83.7 ล้าน รวมตลาดนอก $322.6 ล้าน และรวมทั่วโลกทำไปแล้ว $439.7 ล้านเหรียญ ซึ่งรายได้ต่างประเทศเทียบกันรวมทุกตลาดนั้นอยู่ในระดับเดียวกับ Fantastic Beasts and Where to Find Them หากแยกเป็นภูมิภาคแล้วรายได้ในยุโรป, แอฟริกา และ ตะวันออกกลางยังคงครองแชมป์หนังทำเงินในสัปดาห์นี้และรายได้รวมมากกว่า FB1 อยู่ 5% ส่วนใน Latin America อยู่ในอันดับ 2 และรายได้เทียบเท่า FB1
โดยตลาดที่น่าสนใจคือ UK รายได้รวม $28.3 ล้านจาก 1,412 โรงลดลงจาก 36.1 ล้านที่สองสัปดาห์เท่ากัน จีนได้ไป $52 ล้าน (361.3M RMB) ซึ่งลดลงจาก $72.3 ล้าน (498.5M RMB) ที่สองสัปดาห์เช่นกัน Germany = $23.2 ล้าน, France = $19.8 ล้าน, Russia = $19.4 ล้าน และตลาดสุดท้ายของโลกที่เพิ่งเปิดตัวในสัปดาห์นี้คือญี่ปุ่น FB2 กวาดไป $13 ล้านจาก 1,008 โรงฉาย รายได้นี้เทียบเท่ากับรายได้เปิดตัวของ FB1 และยังเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินเปิดตัวสูงสุดของ Warner Bros. ในญี่ปุ่นสำหรับปี 2018 อีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของวายร้ายใจงาม Ralph Breaks the Internet ที่ขนเอา Feature เด็ดๆในโลก Cyber พร้อมทั้งตัวละครในจักรวาล Disney มาพร้อมสรรพ ทำเงินเปิดตัวทั่วโลกไป $125.9 ล้านเหรียญจาก 19 ตลาด โดยแยกเป็นรายได้ในบ้าน $84.4 ล้าน และรายได้ต่างประเทศ $41.5 ล้าน ซึ่งรายได้ในบ้านนั้นช่วงแรกคือคืนวันพุธในอเมริกามีการประเมินกันว่า Ralph จะทำเงินเปิดตัว 5 วันมากถึง $95 ล้านเหรียญ ล้มสถิติวันขอบคุณพระเจ้าของ Disney เองที่ Frozen ทำเอาไว้ $93.5 ล้านแต่ในที่สุดก็ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามรายได้ 5 วัน $84.4 ล้านก็มากพอที่จะสร้างสถิติเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลของหนังวันขอบคุณพระเจ้าของ Disney มากกว่า Moana ($82 ล้าน), Toy Story 2 ($80.1 ล้าน) และ Coco ($72.9 ล้าน)
ทางด้านรายได้ต่างประเทศ Ralph ลงสนามใน 3 ตลาดสำคัญ จีน, Mexico และ Russia ซึ่งในประเทศจีน Ralph ทำเงินได้ $19.5 ล้านต่ำกว่า Incredibles 2 เล็กน้อยและนับว่าพอใจเป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ เพราะ Ralph ต้องเจอศึกหนักทั้งหนังตลกเจ้าถิ่นแชมป์ประจำสัปดาห์อย่าง A Cool Fish, Venom ที่ฮอตฮิตเหลือเกินในจีน, FB2 ที่ยังคงขายได้ บวกกับ Johnny English ที่แรงขึ้นมาด้วย ใน Mexico Ralph ทลายรายได้ $6.3 ล้านครองแชมป์สุดสัปดาห์สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์จากสตูดิโอ Animation ของ Disney เอง (ไม่นับ Pixar) ที่เปิดตัวสูงสุด ทั้งนี้รายได้เปิดตัวมากกว่า Ralph 1 148%, Moana 114%, Big Hero 6 99%, Zootopia 54% และเป็นรอง Coco ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเพณีของชาว Mexican เพียง 28% เท่านั้น ใน Russia นั้นทำรายได้ไป $5.7 ล้าน สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ของ Disney Animation/Pixar ที่เปิดตัวสูงสุดอันดับ 2 ตลอดกาล มากกว่า Ralph 125%, Coco 99%, Moana 10%, Incredibles 2 6%
ส่วนตลาดรองอื่นๆนั้น Ralph Breaks the Internet สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดของ Disney Animation ใน Indonesia และอันดับ 2 ใน India, Malaysia และ Philippines นอกจากนี้ ใน India, Indonesia และ Philippines รายได้เปิดตัวของ Ralph 2 ยังมากกว่ารายได้ตลอดการฉายของ Wreck-It Ralph ไปแล้ว ทางด้านประเทศอื่นๆใน Latin America นั้น Ralph สามารถครองแชมป์ประจำสัปดาห์ได้ทุกตลาด
ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้นอกจากประเทศไทยของเราแล้ว Ralph Breaks the Internet ยังจะลุยด่านต่อไปที่ UK ก่อนจะตามด้วย Spain, ญี่ปุ่น และ Australia ในเดือนธันวาคม Italy, เกาหลีใต้, Brazil และ Germany เดือนมกราคม ก่อนจะจบเกมในด่านสุดท้ายที่ France ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
มีแววว่าจะนำความหายนะมาสู่ Lionsgate เสียแล้วสำหรับ Robin Hood ฉบับสุดแนวเวอร์ชั่นล่าสุดที่นำแสดงโดย Taron Egerton และ Jamie Foxx เพราะภาพยนตร์ทุนสร้างเกือบ $100 ล้านเรื่องนี้ทำเงินเปิดตัวในอเมริกาเหนือและทั่วโลกไปเพียง $22.9 ล้านจาก 34 ตลาดเท่านั้น โดยรายได้ในบ้าน 5 วันทำไปเพียง $14.2 ล้าน อยู่ในอันดับที่ 7 ซึ่งน้อยกว่า Instant Family ที่ฉายเป็นสัปดาห์ที่ 2 และทำเงินต่ำกว่าเป้าเสียอีก ข้างฝ่ายตลาดต่างประเทศก็ย่ำแย่ไม่แพ้กันทำเงินไปเพียง $8.7 ล้าน ใน UK บ้านเกิดของ Robin Hood ทำเงินไปแค่ $1.7 ล้าน ในตะวันออกกลางทำเงิน $1.2 ล้าน ตามมาด้วย Australia ($0.9K), Italy ($0.9K) and Malaysia ($0.5K)
ยังมีแสงสว่างอันน้อยนิดจากตลาดใหญ่ที่ยังเหลือคือ France, เกาหลีใต้, Brazil, Russia, Mexico ในสุดสัปดาห์หน้า Spain (7 ธันวาคม) และ Germany (10 มกราคม) ซึ่งหากตลาดที่เหลือไม่สามารถกู้ชีพคืนมาได้ Robin Hood ก็จะกลายเป็นหนังตำนานของอังกฤษที่ขาดทุนยับเยินต่อเนื่องมาจาก King Arthur : The Legend of Sword ที่ทำเอา WB บาดเจ็บสาหัสไปเมื่อปีที่แล้ว
ยังไม่มีการฉายในต่างประเทศเทศสำหรับภาพยนตร์เรื่องที่ 8 ในหนังชุด Rocky ซึ่ง Creed II เปิดฉายเฉพาะในอเมริกาเหนือต้อนรับเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า พร้อมทั้งทำรายได้รวม 5 วันไปถึง $55.8 ล้านเหรียญ สร้างสถิติเป็นภาพยนตร์ Live-action / Hybrid ที่ทำเงินเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลช่วงวันขอบคุณพระเจ้า น็อคเจ้าของตำแหน่งเดิมทั้ง Enchanted ($49 ล้าน), Four Christmases ($46 ล้าน) และ Unbreakable ($46 ล้าน) ลงได้อย่างสวยงาม
Creed II พร้อมเนื้อเรื่องที่เข้มข้นขนมาทั้ง Adonis Creed (Michael B. Jordan) ลูกชาย Apollo, Rocky (Sylvester Stallone) โค้ชของ Adonis เพื่อนรักของ Apollo, Ivan Drago (Dolph Lundgren) ผู้สังหาร Apollo คาเวทีใน Rocky IV และ Viktor Drago ลูกชาย Ivan คู่ต่อสู้คนใหม่ของ Adonis จะเริ่มตระเวนขึ้นสังเวียนในตลาดใหญ่อื่นๆตั้งแต่สุดสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ทั้ง Australia (29 พฤศจิกายน) UK (30 พฤศจิกายน) Mexico (1 มกราคม) France (9 มกราคม) Russia (10 มกราคม) ญี่ปุ่น (11 มกราคม) Spain (18 มกราคม) Brazil, Germany และ Italy (24 มกราคม)
ยังคงระเบิดพลังร็อคไม่หยุดหย่อนสำหรับ Bohemian Rhapsody สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเงินตลาดนอกไป $38 ล้าน รวมตลาดต่างประเทศ $320.2 ล้าน และรวมทั่วโลก $472.1 ล้านแล้ว แซงหน้าหนังเพลงยอดฮิตของเมื่อปีสองปีที่แล้วอย่าง The Greatest Showman และ La La Land ไปอย่างสบายๆ พร้อมทั้งคาดว่า Bohemian Rhapsody จะทะลุหลัก $500 ล้านเหรียญในสุดสัปดาห์หน้า
ตลาดต่างประเทศนั้นนำโดยบ้านเกิดของวง Queen อย่าง UK ที่ทำไปแล้ว $50.6 ล้าน ลดลงเพียง -27% จากสัปดาห์ก่อนและยังอยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางหนังทำเงิน เกาหลีใต้นั้นบ้าคลั่งกันขนาดหนักทำไปอีก $8.7 ล้านในสัปดาห์ที่ 4 มากกว่ารายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกถึง +80% รายได้รวมที่ $36.4 ล้าน ญี่ปุ่น +7% จากสัปดาห์ก่อนและมันส์กันไปแล้ว $20.9 ล้าน France ($23.4 ล้าน) และ Spain ($16.4 ล้าน) นั้นรายได้แซง La La Land ไปเรียบร้อย ส่วน Brazil นั้นมีการเพิ่มโรงฉายกลับมาให้ Bohemian Rhapsody อีกครั้งพร้อมรายได้รวม $13.9 ล้านเหรียญ
สุดสัปดาห์หน้าทัวร์คอนเสิร์ตของ Queen จะไปลงที่ Italy และแอฟริกาใต้ให้กระหึ่มกันต่อไป
ประคองตัวหลบหนังใหญ่เรื่องอื่นไปก่อนในตลาดนอกสำหรับ The Grinch สุดสัปดาห์นี้ทำเงินไปได้ $7.6 ล้านจาก 33 ประเทศ รวมตลาดต่างประเทศทำไป $35.3 ล้าน รวมทั่วโลก $215.8 ล้านเหรียญ ปกติแล้วงานของ Dr. Seuss จะเป็นที่นิยมเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษและ Germany แต่สุดสัปดาห์นี้รายได้ตกลงเพียง -37% เท่านั้นนับว่าดีมาก โดย UK ยังคงนำหน้าตลาดอื่นๆทำไป $17.8 ล้าน (-23%) จาก 582 โรงฉายยึดอันดับ 2 บนตารางหนังทำเงินอย่างเหนียวแน่น Brazil = $4.3 ล้าน (-67%) ส่วนกลุ่มประเทศ Nordics นั้นรายได้ลดลงประมาณ -30%
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น The Grinch เปิดตัวบางส่วนในตลาดเล็กๆ เช่น Argentina = $0.3M, Protugal = $0.3 ล้าน, Turkey = $0.25 ล้าน และ Romania = $0.2 ล้าน สำหรับตลาดใหญ่ที่เหลือทั่วโลกนั้นจะมากันช่วงเดือนธันวาคมเข้ากับเหตุการณ์ในท้องเรื่องทั้ง France, Australia, Italy, Germany, Spain, Mexico, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน และ Russia