[CR] สายชาร์จที่ร้าน 7-11 เส้นไหนดี เส้นไหนน่าซื้อ ?

สายชาร์จที่ร้าน 7-11 เส้นไหนดี เส้นไหนน่าซื้อ ?

วันนี้ผมมีรีวิวเล็กๆ ที่ไม่เล็กมาฝากกันนะครับ เกี่ยวกับสายชาร์จอีกแล้ว  

. . . สายชาร์จที่ 7-11 เส้นไหนดี เส้นไหนน่าซื้อ มาติดตามชมกันเลยนะครับ


สายที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้คือ
---------------------------------------------------------


1. สายชาร์จ Lightning  ยี่ห้อ RIZZ รุ่น RWL-124A พร้อมที่ชาร์จ 1.2A (1200mA) ราคา 159 บาท (แพงสุดในกลุ่มเลยครับ)
2. สายชาร์จ microUSB ยี่ห้อ Asaki รุ่น A-2503 พร้อมที่ชาร์จ 1.2A 1200mA) ราคา 129 บาท
3. สายชาร์จ Lightning  ยี่ห้อ Asaki รุ่น A-2012 เขียนหน้ากล่องว่า สายยาว 100cm หรือ 1m รองรับไฟได้ 2.1A ราคา 129 บาท
4. สายชาร์จ microUSB ยี่ห้อ Asaki รุ่น A-2013 เขียนหน้ากล่องว่า สายยาว 100cm หรือ 1m รองรับไฟได้ 2.1A ราคา 109 บาท
5. สายชาร์จ Lightning  ยี่ห้อ Wealth รุ่น CL92 เขียนหน้ากล่องว่า สายยาว 120cm หรือ 1.2m ราคา 119 บาท
6. สายชาร์จ Lightning  ยี่ห้อ Xteem รุ่น X5 เขียนหน้ากล่องว่า สายยาว 100cm หรือ 1m รองรับไฟได้ 2A ราคา 119 บาท
7. สายชาร์จ microUSB  ยี่ห้อ Xteem รุ่น M6 เขียนหน้ากล่องว่า สายยาว 100cm หรือ 1m รองรับไฟได้ 2A ราคา 99 บาท
สังเกตุได้ว่าทุกรุ่นจะรับประกันสินค้า 1 ปีหมดทุกตัว มีขนาดสายยาว 100cm ยกเว้นยี่ห้อ Wealth ที่มีความยาว 120cm นะครับ
---------------------------------------------------------

อุปกรณ์ที่เรานำมาช่วยเทสต์ในวันนี้คือ
- สายแท้ iPhone
- Wall Charger Adapter ยี่ห้อ AUKEY รุ่น PA-T11
- Portable Charger (Powerbank) ยี่ห้อ AUKEY รุ่น PB-T11 ความจุ 30,000mAh
- Portable Charger (Powerbank) ยี่ห้อ ROMOSS รุ่น PH-50 Pro ความจุ 10,000mAh
- iPad 2017 เร่งจอสว่างสุด แบตเหลือประมาณ 80% ครับ
---------------------------------------------------------

มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยครับ . . .
1. สายชาร์จ Lightning  ยี่ห้อ RIZZ รุ่น RWL-124A พร้อมที่ชาร์จ 1.2A (1200mA) ราคา 159 บาท (แพงสุดในกลุ่มเลยครับ)

- มาดูภายนอกกันครับ Packaging ทั่วๆ ไปครับ ไม่ได้หวือหวาอะไร




*** คุณสมบัติ (ที่เขียนไว้บนผลิตภัณฑ์นะครับ) ***
- สายเชือกถัก แน่น แข็งแรง ข้อต่อยาว จับถนัดมือ // ผมก็งงว่าข้อต่อมันยาวตรงไหนหว่าผมว่าก็ปกตินะ
- ที่ชาร์จพร้อมสายชาร์จ จ่ายไฟเต็มกำลัง 1.2A
- ปลอดภัย ใช้งานได้กับ Apple ที่รองรับหัวชาร์จ ฯลฯ


** ลองแกะดูสภาพตัว Wall Charger กัน ***



- ด้านล่าง Adapter ก็มีเขียนระบุการรองรับการจ่ายไฟ ไว้ด้วย คือ 1.2A (Max)

- ด้านข้างก็มีเลข Serial และเบอร์ติดต่อไว้ด้วยครับ

ผมไม่แน่ใจว่า Material (วัตถุดิบ) ของ Charger ตัวนี้เลือกใช้ Plastic แบบ ABS หรือเปล่า(ไม่ใช่เบรกรถนะครับ)  

*** ABS หรือ Acrylonitrile-Butadiene-Styrene เป็นพลาสติก Thermoplastic หรือ พลาสติกที่หลอมใหม่ได้ **

เพราะฉะนั้นถ้าวัตถุดิบของ Charger ตัวนี้เลือกใช้แบบ ABS แล้ว หากเกิดการลัดวงจรแบบไม่คาดคิด ตัวพลาสติกก็จะหลอมละลายเองไม่ก่อให้เกิดการระเบิดนั่นเองครับ และ ไม่ติดไฟด้วยครับ

// ความเห็นส่วนตัว ผมว่าน้ำหนัก และ วัสดุของ Charger ตัวนี้ดูบอบบางไปหน่อยครับ แต่เนื่องด้วยราคามันขายแค่นี้ผมคิดว่าก็โอเคนะ //



?? แล้วเมื่อเราลองมาวัดไฟกันดูจะได้ไฟเท่าไหร่กัน ??
?? จะถึง 1.2A ไหม หรือดีกว่านั้น ??
?? ถ้านำสายชาร์จไปชาร์จกับชุดชาร์จตัวอื่นหละ ??


เรามาลองวัดไฟกันดูครับจาก Charger ของมันเอง ซึ่งในลองตอนแรก(ในรีวิวตอนเช้าที่เป็นวีดีโอ) มันก็ปกติดีครับวัดไฟได้ 5V จ่ายไฟได้ 0.95 - 1A ครับ สำหรับชาร์จเจอร์ 1.2A ผมว่าโอเคครับ

แต่กลายเป็นว่าพอมาลองอีกทีหลังจากที่เอาไปชาร์จไอแพดมันก็พังไปเลยครับ Volt drop.. เหลือ 4.5V . . .และขึ้นสวรรค์ไปแล้ว ไว้ผมต้องส่งซ่อมสินะ



- แต่เมื่อนำสายมาชาร์จกับ iPad ด้วยที่ชาร์จแบบไฟบ้าน และ Powerbank แล้วผลก็ออกมาอย่างในรูปครับ

** ไฟเข้า 1.81A - 1.85A สำหรับ Wall Charger (PA-T11)


** ไฟเข้า 1.94A - 2.05A สำหรับ Powerbank (PB-T11)


ถามว่าทำไมไฟจาก Powerbank สูงกว่าอันนี้อาจจะมาจาก limitation ของตัวชาร์จบ้านเอง
ที่ไม่ปล่อยกระแสมากเกินไปครับ แต่เอาจริงๆ มันก็ต่างกันไม่เยอะนะครับ สำหรับ 1.85-2.05A ต่างกัน 200mA เองครับ



** มาดูสายภายนอกกันครับ เก็บงานดีเลยแหละ **



ส่วนคำว่า ข้อต่อยาว-จับถนัดมือ ก็คงหมายถึงส่วนหัว นี่แหละครับ  ที่มันยาวกว่าสายแท้ แต่เอาจริงๆ สายแท้ผมก็จับถนัดมือนะ  แต่มันแค่หักตรงข้อต่อง่ายไปหน่อยแค่นั้นเองครับ ส่วนตัวสายเองก็ลายสวยดีครับไม่ยุ่ย ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว . . .
---------------------------------------------------------

เดี๋ยวมาต่อใน comment ที่ 2 นะครับ . . .