“เป็นนักหนังสือ ด้วยกันไป”

อ้าง. ตอบอธิบาย ได้ดอกมะเดื่อ ✔
นานาโอเค
His Siamese Majesty's Government

Web | Nov 25, 01:36PM
Copy the Decode และ งานวิจัยสาธารณะ, Pitsanulok,
Thailand +66

"กระดานข้อความ ประเด็นวิจัยศึกษา ข้อมูล"
Ibid. At 46
หมายเหตุ ข้อมูลแบบไม่เป็นทางการ
ตอบอธิบาย รู้จะหามา

"the Dharma at Pandito Nama"

“ถ้าไม่ตามประเด็น
ไม่จับประเด็นเลย อย่างนี้ไม่ไหว ตามไปก็ยิ่งเปรอะ
พากันแต่จะยิ่งเลอะมากเข้า เพราะมีปรกติไม่จับประเด็น และหาประเด็นไม่ได้,
อย่างเรานี่มาไม่น่าสนใจ อย่างที่เราจะหามานี่ ไม่ค่อยน่าสนใจ
แต่ว่าเราหาประเด็นมา คือบังคับกระทำแนวตรง ทำประเด็นให้ตรง
ตามที่จะพิเคราะห์ อยู่แล้วมากพอสมควร”

“เพราะว่า การพูด ทุกวัน ๆ
ด้วยการเกร่อ หรือพูดกราดทั่วไปหมด มาก ๆ เข้า ต่อไป ก็จะต้องเรียกว่า
ไร้สาระ เสียเวลา เพราะไม่เอาประเด็น ไม่เอาที่ควรจะสืบสนค้นคว้า
ไปให้ถึงที่สุดให้ได้”

“ฉะนั้น ทุกคน ก็จะต้องหาประเด็นกันก่อน
ชวนพูด ชวนเข้ากล่าว ดึงกันเข้าในประเด็น ให้ได้ซะก่อน เช่นว่าจะกล่าวธรรม
เป็นเช่นที่บัณฑิตจะพึงกล่าว ไม่กล่าวอย่างพาล อย่างนี้เป็นต้น
จึงเข้าที่มีประเด็น คือพอสมควร ให้เกิดชักชวนกันเข้ามาพูด มากล่าวแล้ว
โดยที่ตนไม่ต้องว่า จะต้องเป็นเป็นสาราณียกร เป็นนักบทความ
หรือเป็นนักหนังสือ ด้วยกันไปซะทั้งหมด ทุก ๆ ราย”

“ควรแค่
พอต่อเมื่อจะกระทำบท บอกกล่าว เจรจา ตามการมีที่อ้าง
ยกคำให้เห็นการศึกษาวิจัยร่วมกัน พอจะสืบสารไปได้อยู่ เป็นบ้างเท่านั้น
ก็จึงจะพอดี”

“ตามคำถาม”

“ถ้าถามออกจำนวน ออกเลขแล้ว
ย่อมจะไม่ใช่ญาณ คงเป็นแต่การอยากพูดหลายเรื่อง เพราะญาณแท้ ๆ อันเดียว
ไม่มีมุม ไม่มีการวัด ไม่มีการเรียงเลขลำดับ, แต่เรื่องที่บัณฑิต ผู้รู้
นักปราชญ์ ท่านทั้งปวงเรียงลำดับญาณกันนั้น อย่างไรเราไม่ทราบ เพราะว่าญาณ
ที่แท้ท่านว่าเปรียบตื้น ๆ สุด ก็อย่างการระลึกรู้ไปว่า สิ่งของในหีบมีอะไร
คืออะไร หรือไม่ได้มีอะไร ใส่ไว้”

“อย่างนี้ คือเรื่องญาณตื้นสุด
พอรู้ ก็จะต้องเพ่งเอานั้น คือเรารู้ที่ว่าง คือรู้ว่าอากาศเป็นต้น
ก็เพ่งเอานั้น หาความไม่ขัดข้องลงแต่เพียงญาณ เพียงนั้น หากได้ไว้ คือว่า
ได้แล้ว ก็จะได้ญาณสัมปยุต คือมีปัญญาพร้อม  ชื่อเรียกว่าปัญญาญาณ
ปัญญาญาณนั่นจึงทรงธรรมชื่อนั้น แผ่ขยายเป็นวิหารสุข อยู่เป็นปัจจุบันได้”

“ธรรมที่ถูกต้องก็คือ
การเพ่ง เพ่งแล้วจึงได้ญาณ ตามชนิดที่จะให้ขจัด หรือจะให้สืบต่อไปได้
อย่างคนเพ่งสติเดี๋ยวนี้ โดยมาก เพ่งธรรม ในวิญญาณัญจายตนะฌาน หรือญาณ
ชื่อนั้นแหละ เหมือนการที่เราไปรู้ว่ามีอะไรอยู่ในหีบ
ใจก็จดจ่ออยู่แล้วทุกเวลา ไม่วาง, ใจไม่วางลง เหมือนหนึ่งว่า ตนก็อยู่ในหีบ
นั้น ด้วยนั่นเอง”

“ทีนี้ก็คือ นิพพิทา ก็คือความหน่าย ความเบื่อ
แต่ว่าคนมีปัญญาดี ท่านมีการกระทำปัญญาร่าเริงตามศีล ตามพรตของตนได้
ท่านก็จึงจะมีปัญญาเพ่ง คือเพ่งเห็นความเสื่อม เป็นขึ้นดั่งนั้นปุ๊บ
ร่องรอยของธรรมสังเวชเด่นอยู่ ขณะนั้น
ตรงนั้นท่านก็เพ่งเอาธรรมสังเวชเช่นนั้นเลย ยกขึ้นสู่อารมณ์
สถิตพอกันกับปัญญาญาณ กระทำงานได้ ขจัดการรบกวน จากธรรมหยาบละเอียด
ให้พ้นออกไปได้ คงการกระทำที่สุดแก่บทธรรมสังเวช เป็นกรรมฐาน ไม่ขาดสาย
ทุกเมื่อ เมื่อถึงที่ ที่สุดแห่งญาณ กิเลสคลายตัวออกแล้ว จบ เรียกว่า
สำเร็จแก่นิพพิทาญาณ”

“ได้ญาณ คือได้ความเบื่อหน่าย
หากถึงที่สุดจริง ตรงนั้นแล้ว แม้ใจจริงที่สุดว่ามีอยู่
แต่ก็จะไม่กลับกระทำความทุกข์ ชื่อดั่งนั้นให้เกิดขึ้นอีกเลย”

นานาเยี่ยม
Decode อุตรดิตถ์ อต, Uttaradit UTT, 53
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่