ขอถามเรื่องสภาวะของ "พระอรหันต์" จิตอรหันต์-จิตปุถุชน

หลวงพ่อพุธตอบในหนังสือ “จิตอรหันต์-จิตปุถุชน” ว่า

“พระอรหันต์ก็ยังร้องไห้ได้ การร้องไห้มันเป็นกิริยาของกายต่างหาก ตัวร้องไห้มันก็ร้องไป ตัวที่นิ่งเฉยอยู่มันก็นิ่ง พระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระปุถุชนโศกเศร้าเสียใจ พระอรหันต์ได้ธรรมสังเวช ธรรมสังเวชนี่แหละมันทำให้น้ำตาไหล ไม่ใช่ว่าพอสำเร็จอรหันต์แล้ว มันจะไม่มีอะไร มันก็เหมือนกับปุถุชนธรรมดานี่แหละ แต่สิ่งที่ทำให้ท่านเกิดกิเลสเมื่อก่อนนี้มันหมดไปความตื้นตัน ความปีติต่างๆ มันเป็นองค์ประกอบของสมาธิ มันก็ต้องมีอยู่เป็นเรื่องธรรมดา”

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เมื่อหลวงพ่อพุธอธิบายถึงตรงนี้ ท่านจึงได้เล่าว่า ครั้งหนึ่ง ท่านเคยร้องไห้มาก่อน ตอนที่ต้องเดินทางไปสวดมนต์ในวัง ระหว่างทาง
รถยนต์ที่หลวงพ่อพุธโดยสารขับผ่านแก่งคอย ทำให้นึกถึงโยมพ่อที่เสียชีวิต ณ สถานที่แห่งนี้ ด้วยความกตัญญู หลวงพ่อพุธจึงตั้งจิตอุทิศบุญกุศลให้โยมพ่อ แต่ช่วงที่กำหนดจิตนั้นปรากฏว่า “พอกำหนดไปปั๊บ มองไปข้างหน้า สายตามันพร่า แล้วก็เห็นตาแก่คนหนึ่ง แบกเด็กน้อยลอยผ่านหน้าไป ทีนี้ พอลับสายตาไป จิตก็มานึกว่า “พ่อแบกเรามาตั้งแต่เด็ก แล้วมันก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นขึ้นมาทันที คนที่นั่งมาในรถเขาก็ถามว่า หลวงพ่อเป็นอะไรๆ ก็โบกมือ เฉยๆ เดี๋ยวก็รู้ พออาการอย่างนั้น มันหายไปก็เล่าให้เขาฟังปีติมันเกิดจากกายต่างหาก อย่างสมมุตว่าเรามีเรื่องขำ เราหัวเราะเสียจนไส้ขดไส้แข็ง เราเมื่อยเกือบตาย เราไม่อยากหัวเราะ แต่มันก็อดไม่ได้ นั่น คือความเป็นเองของร่างกาย อันนี้มันได้หลักมาว่า ภายในตัวของเรานี่ สมองเป็นผู้สั่งการ กองบัญชาการในสมองที่มันสั่งออกมานี่ ให้ร่างกายมันเตี้ย ให้ร่างกายมันโต ให้ร่างกายมันสูงโย่ง อันนี้เป็นเรื่องของสมองทั้งนั้นคำสั่งของสมองอันนี้หรือจิตดวงนี้ ตามหลักของการสะกดจิตเขาเรียกว่า ‘จิตอิสระ’ จิตอิสระดวงนี้จะคอยบังคับดูแลและใช้เครื่องจักรกลไกต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานให้แก่เราอย่างตรงไปตรงมาอาการปีตินี่เป็นอาการที่จิตดื่มรสพระสัทธรรม มันเหมือนกับว่า เราอยากได้อะไรมากๆ พอได้สมประสงค์ก็เกิดปีติเหมือนกัน แต่ทีนี้

สมมติว่า ผู้ที่เป็นพระอรหันต์จริงๆ นี่ เวลาท่านกำหนดจิตรู้ อารมณ์จิตมันก็ปรุงแต่งเหมือนคนธรรมดา

ทีนี้ภายในสมาธิ มันก็เกิดนิมิตขึ้นมา ถ้าท่านรู้เรื่องอดีตชาติ ท่านก็แสดงอาการร้องไห้ ร้องไห้ในสมาธิ แต่ร้องไห้นั้นน้ำตาไม่ออก อย่างคนที่จิตยังไม่พ้นกิเลส พอได้นิมิตว่าชาติก่อนเราได้ไปเกิดเป็นอันนั้นๆ ได้ไป

ทะเลาะตบต่อยตีกันที่ตรงนั้น พอรู้สึกอย่างนั้น ก็ลุกขึ้นมากระโดดโขมงโฉงเฉง”

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่