คำนำ
กระทู้นี้จัดทำเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลลัพท์จากความประมาทที่มีต่อการท่องเที่ยงเองในประเทศญี่ปุ่น
และบันทึกประสบการณ์การเดินทางคนเดียวแบบพลาดๆ ทำให้ที่มีเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
“ใครเรียนศิลปะ มาโอซาก้าทั้งที ลองไป Naoshima ดูสิ” เราได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างนี้ ก็ตั้งใจว่าจะไปให้ได้
ตั้งแต่ที่ราคาตั๋วเครื่องบินเริ่มถูกลง และการท่องเที่ยวเองเริ่มบูมมากขึ้น จากการมา Osaka ครั้งนี้เรามีช่วงว่างที่ต้องเที่ยวคนเดียว 2 วัน
เราจึงสนใจเกาะนี้ที่ได้ยินมานานมาก อีกทั้งเกาะนี้อยู่ค่อนข้างไกล เป็นเกาะที่อาจจะเป็นที่สนใจเฉพาะกลุ่ม
เกรงใจที่จะรบกวนคนอื่นให้ไปเป็นเพื่อนด้วยกัน เลยตัดสินใจเอาวะ คนเดียวก็ลองดูละกัน
ปล. รูปในกระทู้นี้เราใช้โทรศัพท์ถ่าย (Iphone 7+) ทั้งหมด ไม่มีการตกแต่งภาพใดๆเลยยกเว้นแค่ใส่ตัวหนังสือเพิ่ม
ส่วนตัวอยากให้รูปใกล้เคียงกับสิ่งที่เราได้ไปเห็นมามากที่สุดค่ะ
ตัดสินใจได้แล้วก็นึกจากที่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า เซ็ตเกาะศิลปะพวกเนี้ย มันจะมีอยู่ 3 เกาะ ให้เลือกนอนเกาะใดเกาะนึงแล้วนั่งเรือไปเกาะอื่นเพื่อเก็บให้ครบ เราได้ข้อมูลมาแค่นี้ นอกจากชื่อ Naoshima แล้วก็จำไม่ได้สักอย่าง เลยหาข้อมูลเพิ่มคร่าวๆ ว่าเซ็ตเกาะศิลปะนี้ประกอบไปด้วย Naoshima - Teshima - Inujima แต่ผลงานหลักๆของ Tadao Ando (สถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงจากการนำคอนกรีตหล่อเป็นวัสดุในการก่อสร้างเป็นหลัก แนวความคิดในการออกแบบของ อันโด จะเน้นเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติโดยใช้ระบบสัญลักษณ์เชิงปรัชญา) จะอยู่ที่ Naoshima นะ
ได้ข้อมูลมาขนาดนี้ เราเลยทำการจองโฮสเทลที่เกาะนี้ เลือกเอาที่อยู่ใกล้ๆท่าเรือ จนมาเจอ Dormitory in Kowloonราคา¥3100 ต่อคืน
และศึกษาจากกระทู้อื่นๆเรื่องการเดินทางไปเกาะ จึงซื้อบัตร JR kansai wide area pass บัตรนี้สามารถใช้ได้ 5 วันแถมยังขึ้น Shinkanzen ได้ด้วย
ซึ่งมันจะแตกต่างกับ JR kansai area ธรรมดาที่ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า
และแล้วเมื่อที่นอนพร้อม บัตรสำหรับเดินทางพร้อม ก็คิดว่า เฮ้ย เราเตรียมตัวขนาดนี้ก็เยอะแล้ว ที่เหลือค่อยว่ากันละกัน ลุย!
เดินทาง
แนะนำให้วางแผนออกที่ไหนก็ตามโดยยึดรอบเรือที่จะข้ามไปที่เกาะ Naoshima เป็นหลัก
อย่างของเราเดินทางจาก Namba ใน Osaka โดยคิดว่าจะไปที่ Uno เพื่อข้ามเรือรอบประมาณ 12.15 น.
เราใช้ Hyperdia ในการวางแผนเดินทางด้วยรถไฟทั้งหมด ซึ่งมันสำคัญมากกก เพราะกว่าจะไปถึงเกาะต้องต่อรถไฟประมาณ 4 ครั้ง
มันจะบอกรายละเอียดหมดเลยว่ารถไฟมาเวลากี่โมง ไปที่ไหน แล้วไปต่อรถไฟที่ชานชลาอะไร รถไฟตรงเวลา สะดวกมากๆเลย
อย่างที่บอก เราเริ่มออกเดินทางจาก Namba(Subway) > Shin-Osaka > Okayama > Chayamachi > Uno
แล้วต่อเรือเที่ยวเดียวราคา ¥290 ไปที่ท่าเรือ Miyanoura บน Naoshima
เวลาเที่ยวคนเดียวยอมรับว่ามันเหงาๆ หน่อย คนอื่นมาเป็นกลุ่ม มาเป็นคู่ แต่เรามาคนเดียวซึ่งตอนอยู่บนเกาะเราไม่เจอคนไทยเลยสักคน
นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นฝรั่ง รองลงมาด้วยเกาหลี และจีน ใครที่อยากไปเที่ยวแบบเจอคนไทยด้วยกันเองน้อยหน่อย
ขอแนะนำที่นี่เลย แต่เราชอบเจอนะ อุ่นใจดี
(Lost in) Naoshima x Teshima 2018
และบันทึกประสบการณ์การเดินทางคนเดียวแบบพลาดๆ ทำให้ที่มีเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่ที่ราคาตั๋วเครื่องบินเริ่มถูกลง และการท่องเที่ยวเองเริ่มบูมมากขึ้น จากการมา Osaka ครั้งนี้เรามีช่วงว่างที่ต้องเที่ยวคนเดียว 2 วัน
เราจึงสนใจเกาะนี้ที่ได้ยินมานานมาก อีกทั้งเกาะนี้อยู่ค่อนข้างไกล เป็นเกาะที่อาจจะเป็นที่สนใจเฉพาะกลุ่ม
เกรงใจที่จะรบกวนคนอื่นให้ไปเป็นเพื่อนด้วยกัน เลยตัดสินใจเอาวะ คนเดียวก็ลองดูละกัน
ส่วนตัวอยากให้รูปใกล้เคียงกับสิ่งที่เราได้ไปเห็นมามากที่สุดค่ะ
และศึกษาจากกระทู้อื่นๆเรื่องการเดินทางไปเกาะ จึงซื้อบัตร JR kansai wide area pass บัตรนี้สามารถใช้ได้ 5 วันแถมยังขึ้น Shinkanzen ได้ด้วย
ซึ่งมันจะแตกต่างกับ JR kansai area ธรรมดาที่ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า
และแล้วเมื่อที่นอนพร้อม บัตรสำหรับเดินทางพร้อม ก็คิดว่า เฮ้ย เราเตรียมตัวขนาดนี้ก็เยอะแล้ว ที่เหลือค่อยว่ากันละกัน ลุย!
อย่างของเราเดินทางจาก Namba ใน Osaka โดยคิดว่าจะไปที่ Uno เพื่อข้ามเรือรอบประมาณ 12.15 น.
มันจะบอกรายละเอียดหมดเลยว่ารถไฟมาเวลากี่โมง ไปที่ไหน แล้วไปต่อรถไฟที่ชานชลาอะไร รถไฟตรงเวลา สะดวกมากๆเลย
อย่างที่บอก เราเริ่มออกเดินทางจาก Namba(Subway) > Shin-Osaka > Okayama > Chayamachi > Uno
แล้วต่อเรือเที่ยวเดียวราคา ¥290 ไปที่ท่าเรือ Miyanoura บน Naoshima
นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นฝรั่ง รองลงมาด้วยเกาหลี และจีน ใครที่อยากไปเที่ยวแบบเจอคนไทยด้วยกันเองน้อยหน่อย
ขอแนะนำที่นี่เลย แต่เราชอบเจอนะ อุ่นใจดี