สายทำงาน ครีเอเตอร์ ออกแบบ นั้นแน่นอนว่าสายงานเหล่านี้ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก และ ระบบจัดการอะไรต่างๆต้องดี เร็วแรง และแม่นยำ อีกทั้งยังต้องใช้งานจอภาพที่มีความคมชัด สีตรงและใช้งานได้ดีครับ และแน่นอนว่าคนทำงานเหล่านี้จอเดียวไม่เคยพอเลยแต่มันมี Laptop ออกมาในวันนี้ที่ต้องบอกว่าเจ้าแรกของโลกที่มีมาให้ถึง 2 จอในส่วนของ Touchpad ครับ แนวคิดดีๆแบบนี้มาจากทาง Asus อีกแล้วเป็นรุ่นที่กล้าคิดออกมามากๆจับยัดใส่จอลงไปใน่ส่วนของ Touchpad และ มีฟังก์ชั่นหลากหลายมากมายให้ใช้งานครับ และ เครื่องยังมาพร้อม i9 และ สเปคภายในระดับสูงๆทั้งนั้นเลย แต่การใช้งานจริงๆของทั้ง 2 จอนั้นจะเป็นยังไง สะดวกกว่าเดิมไปต้องไปชมกัน
ASUS ZENBOOK PRO 15 มีจุดเด่นที่น่าสนใจสำหรับสายครีเอเตอร์กันแบบเยอะแยะมากครับ แน่นอนว่าหลักๆจุดขายของมันคือการที่มีหน้าจอที่ 2 อยู่ในส่วนของ Touchpad หรือ ScreenPad ดีไซน์หรูหรา บางเบา น้ำหนักเพียง 1.88 กิโลกรัม และ มาพร้อมหน้าจอขนาด 15 นิ้ว 4K UHD และรองรับสีตรงๆแม่นยำจากทาง บริษัทชื่อดัง PANTONE® พร้อมด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core i9 และ การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 Ti อีกRAM 16GB และหน่วยความจำแบบ SSD 512 GB กับ PCIe® 3.0 x4 SSD ด้วย ทั้งยังมีพอร์ทเชื่อมต่อที่สามารถรองรับได้อิสระและเพียงพอต่อการใช้งานครับ รวมถึง ลำโพงเสียงก็จัดเต็มจาก Harman/Kardon เช่นกัน
ZENBOOK PRO 15 พร้อมขายในไทยแล้ว แบ่งออกเป็นที่รีวิวนั้นคือ ตัวท็อป Core i9 + GeForce GTX 1050 Ti รุ่นนี้ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 89,990 บาท และรุ่นรอง ใช้ Intel Core i7 Gen 8 และชิปกราฟิก GeForce GTX 1050 ด้วย ในราคา 69,990 บาท เท่านั้น เอาจรีงๆเลยถือว่าราคาค่อนข้างดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแหละ
UNBOX
สำหรับตัวกล่องตัวนี้มีการบอกรุ่นชัดเจนพร้อมกับภาพตัวเครื่องสวยงามครับกล่องค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวและดูสมราคากับตัวเครื่อง ส่วนอุปกรณ์ภายในนั้นมีมาให้ครบ ทั้ง คู่มือ สายรัด สายชาร์จ Adaptor ต่างๆรวมถึงสายแปลง LAN จากหัว USB ครับ แต่ไม่เห็นพวกซองใส่เครื่องและผ้าเช็ดอันนี้ไม่แน่ใจว่าตัวขายจริงจะมีไหมนะครับ
DESIGN
การออกแบบตัวนี้บอกเลยว่ายังคงความหรูของตระกูล Zenbook มาได้ทั้งหมดครับและโทนสี น้ำเงินเข้ม กับสีทองแดงนั้นลงตัวเลยแหละ น้ำหนัก ความหนาไม่ได้หนาเลยแม้จะอัดแน่นสเปคเทพก็ตามครับจริงๆถือว่าเบากว่าที่คิดไว้กับสเปคระดับนี้ครับ และ วัสดุงานประกอบทุกอย่างทำได้ดีเลยแหละ แต่แอบติดรอยมือง่ายไปหน่อยในส่วนของฝา
การออกแบบตัวเครื่องโดยรวมนั้นเรียบหรูครับ ขนาดหน้าจอต่อตัวเครื่องค่อนข้างเต็มแต่ขอบไม่ได้บางมากนักอาจจะด้วต้องใช้จอแบบสัมผัสหรือไม่อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ถือว่าบางกว่ารุ่นเก่าๆมาพอสมควร จอแบบเงาทั้งชิ้น และตัวฝาคียบอร์ดนั้นก็มีพื้นที่วางมือมาให้แบบพอดีครับ ตัวคียบอร์ดนั้นมาแบบเต็มแต่ไม่มี Numpad มาให้ เนื่องจากตัวเครื่องที่เล็กลงนั้นเอง จีงได้ย้ายไปในส่วน Touchpad แทน ส่วนฝาหลังโค้งมน 4 มุม เล่นลวดลายสวยงามครับ
ฝาด้านหน้าของทาง Zenbook Pro 15 ตัวนี้เป็นวัสดุปัดลายวนแบบ Zen เช่นเคยครับ ใช้โทนสีน้ำเงินเข้ม ผสมกับ โลโก้สีทอง Rose Gold ลงตัวแบบหรูหรามาเลย โลโก้วัสดุเงาทำให้โดดเด่นและดูแยกกับฝาหลังได้แบบชัดเจนมากๆเลยแต่ด้วยฝาหลังแบบกึ่งเงานั้นทำให้ติดรอยนิ้วมือ หรือคราบมันบนมือค่อนข้างง่ายมากแม้จะเช็ดหลายรอบก็ออกยากหน่อย
ด้านหลังนั้นใช้โทนสีวัสดุเหมือนด้านหน้าแต่แค่ไม่มีปัดลายวนๆครับเป็นเพียงแค่เรียบๆเลย ก็เหมือนด้านหน้าคือจะติดรอยคราบมันได้ง่ายมากๆครับ มียางรองแท่นทั้ง 4 จุกแบบวงกลม ลำโพงแยกซ้ายขวาชิดขอบ ไม่มีรูระบายอากาศเลยในส่วนของฐานเครื่อง ไประบายตรงขอบจอซานด้านหลังแทนครับ มีการเล่นสีตัดขอบเงาๆทองแดงสวยงามและงานเนี้ยบมากครับ ความเงาทำได้ดีและตัดขอบได้คมสวยแต่ไม่บาดมือครับ ทำให้เครื่องมันดูมีอะไรกว่าเดิมได้เยอะ
ด้านขอบด้านหน้านั้นเป็นช่องเว้าสำหรับพื้นที่เราสามารถเอานิ้วเพื่อจะเปิดจอได้และมีไฟสถานะ ทั้ง 2 ช่อง ที่มีการเล่นการออกแบบคือเจาพเป็น 4 ช่องเล็กๆให้แสงนั้นสวยงามอีกด้วยครับ ด้านซ้ายคือไฟสถานะการทำงาน ส่วนด้านขวาคือไฟว่าเราเสียบชาร์จแบตอะไรอยู่ไหมครับดูใส่ใจการออกแบบดี ส่วนด้านหลังนั้นเป็นขอบฝาจอมีการเขียนชื่อรุ่นไว้ว่า Zenbook Series ครับผม และ อากาศระบายจะออกมาในช่องขอบจอตรงนี้นั้นเองครับการระบายหลักๆเลย
Spec Asus Zenbook Pro 15
- Windows 10 Home
- CPU Intel Core i9-8950HK (2.9GHz hexa-core with 12MB cache)
- GPU NVIDIA GeForce GTX 1050Ti 4GB GDDR5 VRAM
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว LED-backlit 4K UHD 16:9 รองรับ touchscreen, color calibration: Delta E < 2, 100% Adobe RGB color gamut ขอบจอบาง 7.3 มม. สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 83%
- ASUS Eye Care technology for up to 30% blue-light reduction
- RAM 16GB DDR4 onboard
- หน่วยความจำภายใน 512GB PCIe SSD
- พอร์ตเชื่อมต่อ Type-C™ USB 3.1 Gen 2 (Thunderbolt™ 3) x2, Type-A USB 3.1 Gen 2 x2, HDMI x1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต microSD Card x1
- คีย์บอร์ด full-sized +ฺ ไฟ Backlit
- รองรับ สแกนลายนิ้วมือ
- หน้าจอ ScreenPad ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD Super IPS+ ใช้กระจกกันรอยขีดข่วน และกันเปื้อน รองรับ gestures สูงสุด 4 นิ้ว
- ระบบเสียง ASUS SonicMaster ลำโพงคู่ปรับแต่งโดย Harman Kardon
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi Dual-band 802.11ac gigabit-class Wi-Fi, Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ 8-cell lithium-polymer
- ตัวเครื่องน้ำหนัก 1.8 กก. บาง 1.89 ซม.
PERFORMANCE
ในเรื่องประสิทธิภาพนั้นด้วยความที่มาพร้อม CPU Intel Core i9-8950HK (2.9GHz hexa-core with 12MB cache) และ ใช้ GPU NVIDIA GeForce GTX 1050Ti 4GB GDDR5 VRAM บอกเลยว่าโคตรโหด และ ยังใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วในการอ่านเขียนสูงมากๆทำให้ตัวนี้เราไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลยครับผม
คะแนนทั้ง 3DMARK ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงพอสมควร รวมถึงการทดสอบทั้ง 2 แบบนะครับคะแนนทำได้ดีเลยแหละ ส่วนในด้านการทำงาน คะแนนได้ไปเลย PCMARK 10 4760 คะแนน เกือบแตะ 5 พันคะแนนเลยครับส่วนในด้านความเร็วของ CPU BENCH ไว้ใจได้ i9 1077 และ 101 FPS ครับผม ในด้านการอ่านเขียน SSD บอกเลยว่าแรงมากทำไปได้ 2226 ในการอ่าน และเขียนทำได้ที่ 1054 เลยทีเดียวใช้งานลื่นไหลเลยแหละ และการ์ดจอมีมาคือ GTX 1050TI และ 630 INTEL ครับใช้งานได้ค่อนข้างครบทั้งทำงานและเกมประมวลผล 3D 2D สบาย
SCREEN
หน้าจอตัวนี้จัดเต็มไม่ว่าจะเป็นความคมชัดแบบ 4K รองรับการสัมผัส และสีที่ตรงมากๆครบเลยแหละมาดูสเปคชัดๆกันก่อนครับสำหรับหน้าจอตัวนี้ หน้าจอ 15.6 นิ้ว จอแบบ LED-backlit ความละเอียดสูงถึง 4K UHD อัตราส่วนจอ 16:9 รองรับระบบสัมผัสหน้าจอ touchscreen, color calibration: Delta E < 2, 100% Adobe RGB color gamut อละยังได้รับการตรวจสอบความถูกต้องของสีจาก PANTONE® ขอบจอบาง 7.3 มม. สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 83% ครับผม เป็นจอในฝันของสายงานกราฟฟิคเลยทีเดียวครับ การสัมผัสที่ใช้งานจากที่ลองคือมันตอบสนองได้ดีเลยทั้งสัมผัสใช้งาน เลือกโปรแกรม ลากไฟล์แต่มีโอกาศใช้ค่อนข้างน้อยครับเมื่อจอมาในแบบที่ไม่สามารถถอดออกหรือพับได้ ทำให้จอสัมผัสมันดูไม่ค่อยจำเป็นมากนักสำหรับ Laptop แนวๆที่จะสัมผัสหน้าจอครับแต่ยังดีที่มันรองรับปากกาของ Asus ก็น่าจะมีประโยชน์ขึ้นและเวลาพรีเซนต์โมเดลอะไรน่าจะง่ายขึ้นครับผม
มาในด้านของคุณภาพหน้าจอมุมมองการใช้งานจริงๆนั้นพบว่าตัวจอทำสีออกมาได้ค่อนข้างตรงเลยแหละทั้งในการมุมมองแบบตรงหรือเอียงๆจอแสดงผลออกมาได้ดีไม่เพี้ยนและมุมมองได้กว้างครับที่สีได้ถือว่าตรงกับความเป็นจริงในการทดสอบทั้งแต่งรูปหรือทำงานด้านภาพถ่ายเป็นจอที่ตัดว่าดีอันดับต้นๆของ Laptop เลยก็ได้ครับเป็นจอที่ใช้และค่อนข้างติดใจเลยครับความคมสวยของมัน
จอแบบเงาด้วยทำให้ภาพที่ออกมานั้นสวยงามมากและใสเคลียร์ มิติของสีทำได้ดี รองรับได้กว้างมากๆและ ตัวรายละเอียดดีเทลของภาพแบบ 4K เก็บได้หมดเลย แม้ใช้งานภายนอกจะเจอแสงสะท้อนนิดหน่อยมากกว่าแบบจอด้านนะครับ ส่วนความสว่างนั้นสู้แสงได้ดีชดเชยกันไปได้ส่วนเวลาใช้งานที่แสงน้อยอยากจะลดแสงสุดๆก็พบว่าจอทำได้ดีครับลดได้ต่ำและมืดพอสมควรไม่แยงตาเวลาใช้งานครับ
TOUCHPAD + SCREENPAD
อีก 1 จุดขายหรือจุดเด่นที่ทำเป็นเจ้าแรกของโลกเลยก็คือการยัดหน้าจอลงมาใน Touchpad หรือ Screenpad ตามชื่อเรียกใหม่นั้นเองแน่นอนว่ายัดลงมาแบบนี้มันทำอะไรได้มากกว่าเดิมแน่นอนครับและ Numpad ก็ลงมาอยู่ในข้างล่างนี้ด้วยครับผม การใช้งานทั่วไปคือตามหน้าที่มันเลยคือ Touchpad ก็ใช้งานได้ดีลื่นไหลติดนิ้ว กดลงไปคลิกซ้ายขวาได้ปกติครับ มีขนาดใหญ่พอดีใช้งานได้ 4 นิ้ว และมองจอได้ค่อนข้างชัดความสว่างสู้แสงได้ดีมากและคม ตัวหน้าหลักๆจะแบ่งเป็นหน้า ที่ใช้แอพส่วนตัวของ Screenpad ที่สามารถใช้งานได้เยอะและมีอัพเดทมาเรื่อยๆครับตามภาพด้านบนคือแอพของ เพลง ปฎิทิน Spotify แอพอื่นๆมากมายครับมีให้เลือกใช้งานเยอะแยะเลยแหละ
การตั้งค่าตัว Screenpad ก็สามารถปรับแต่งแถบข้างบนได้ ปรับความสว่างได้ พื้นหลังพวกนี้ครับผมสามารถตั้งค่าได้หมดเลย และ ใส่แอพที่รองรับเพิ่มเข้ามาได้อีกเยอะเลยครับในอนาคต จริงๆตอนนี้ก็รองรับพวก Microsoft แล้วเช่นแอพทำงาน Word พวกนี้ครับผมหน้าจอข้างล่างก็จะปรับตามการใช้งาน สำหรับเปลี่ยนฟอนต์ง่ายๆเป็นต้นครับ
[SR] รีวิว Asus Zenbook Pro 15 ตัวเทพสายทำงานพร้อมจอที่ 2 จัดเต็มด้วย i9 + GTX 1050TI !
สายทำงาน ครีเอเตอร์ ออกแบบ นั้นแน่นอนว่าสายงานเหล่านี้ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก และ ระบบจัดการอะไรต่างๆต้องดี เร็วแรง และแม่นยำ อีกทั้งยังต้องใช้งานจอภาพที่มีความคมชัด สีตรงและใช้งานได้ดีครับ และแน่นอนว่าคนทำงานเหล่านี้จอเดียวไม่เคยพอเลยแต่มันมี Laptop ออกมาในวันนี้ที่ต้องบอกว่าเจ้าแรกของโลกที่มีมาให้ถึง 2 จอในส่วนของ Touchpad ครับ แนวคิดดีๆแบบนี้มาจากทาง Asus อีกแล้วเป็นรุ่นที่กล้าคิดออกมามากๆจับยัดใส่จอลงไปใน่ส่วนของ Touchpad และ มีฟังก์ชั่นหลากหลายมากมายให้ใช้งานครับ และ เครื่องยังมาพร้อม i9 และ สเปคภายในระดับสูงๆทั้งนั้นเลย แต่การใช้งานจริงๆของทั้ง 2 จอนั้นจะเป็นยังไง สะดวกกว่าเดิมไปต้องไปชมกัน
ASUS ZENBOOK PRO 15 มีจุดเด่นที่น่าสนใจสำหรับสายครีเอเตอร์กันแบบเยอะแยะมากครับ แน่นอนว่าหลักๆจุดขายของมันคือการที่มีหน้าจอที่ 2 อยู่ในส่วนของ Touchpad หรือ ScreenPad ดีไซน์หรูหรา บางเบา น้ำหนักเพียง 1.88 กิโลกรัม และ มาพร้อมหน้าจอขนาด 15 นิ้ว 4K UHD และรองรับสีตรงๆแม่นยำจากทาง บริษัทชื่อดัง PANTONE® พร้อมด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core i9 และ การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 Ti อีกRAM 16GB และหน่วยความจำแบบ SSD 512 GB กับ PCIe® 3.0 x4 SSD ด้วย ทั้งยังมีพอร์ทเชื่อมต่อที่สามารถรองรับได้อิสระและเพียงพอต่อการใช้งานครับ รวมถึง ลำโพงเสียงก็จัดเต็มจาก Harman/Kardon เช่นกัน
ZENBOOK PRO 15 พร้อมขายในไทยแล้ว แบ่งออกเป็นที่รีวิวนั้นคือ ตัวท็อป Core i9 + GeForce GTX 1050 Ti รุ่นนี้ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 89,990 บาท และรุ่นรอง ใช้ Intel Core i7 Gen 8 และชิปกราฟิก GeForce GTX 1050 ด้วย ในราคา 69,990 บาท เท่านั้น เอาจรีงๆเลยถือว่าราคาค่อนข้างดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแหละ
UNBOX
สำหรับตัวกล่องตัวนี้มีการบอกรุ่นชัดเจนพร้อมกับภาพตัวเครื่องสวยงามครับกล่องค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวและดูสมราคากับตัวเครื่อง ส่วนอุปกรณ์ภายในนั้นมีมาให้ครบ ทั้ง คู่มือ สายรัด สายชาร์จ Adaptor ต่างๆรวมถึงสายแปลง LAN จากหัว USB ครับ แต่ไม่เห็นพวกซองใส่เครื่องและผ้าเช็ดอันนี้ไม่แน่ใจว่าตัวขายจริงจะมีไหมนะครับ
DESIGN
การออกแบบตัวนี้บอกเลยว่ายังคงความหรูของตระกูล Zenbook มาได้ทั้งหมดครับและโทนสี น้ำเงินเข้ม กับสีทองแดงนั้นลงตัวเลยแหละ น้ำหนัก ความหนาไม่ได้หนาเลยแม้จะอัดแน่นสเปคเทพก็ตามครับจริงๆถือว่าเบากว่าที่คิดไว้กับสเปคระดับนี้ครับ และ วัสดุงานประกอบทุกอย่างทำได้ดีเลยแหละ แต่แอบติดรอยมือง่ายไปหน่อยในส่วนของฝา
การออกแบบตัวเครื่องโดยรวมนั้นเรียบหรูครับ ขนาดหน้าจอต่อตัวเครื่องค่อนข้างเต็มแต่ขอบไม่ได้บางมากนักอาจจะด้วต้องใช้จอแบบสัมผัสหรือไม่อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ถือว่าบางกว่ารุ่นเก่าๆมาพอสมควร จอแบบเงาทั้งชิ้น และตัวฝาคียบอร์ดนั้นก็มีพื้นที่วางมือมาให้แบบพอดีครับ ตัวคียบอร์ดนั้นมาแบบเต็มแต่ไม่มี Numpad มาให้ เนื่องจากตัวเครื่องที่เล็กลงนั้นเอง จีงได้ย้ายไปในส่วน Touchpad แทน ส่วนฝาหลังโค้งมน 4 มุม เล่นลวดลายสวยงามครับ
ฝาด้านหน้าของทาง Zenbook Pro 15 ตัวนี้เป็นวัสดุปัดลายวนแบบ Zen เช่นเคยครับ ใช้โทนสีน้ำเงินเข้ม ผสมกับ โลโก้สีทอง Rose Gold ลงตัวแบบหรูหรามาเลย โลโก้วัสดุเงาทำให้โดดเด่นและดูแยกกับฝาหลังได้แบบชัดเจนมากๆเลยแต่ด้วยฝาหลังแบบกึ่งเงานั้นทำให้ติดรอยนิ้วมือ หรือคราบมันบนมือค่อนข้างง่ายมากแม้จะเช็ดหลายรอบก็ออกยากหน่อย
ด้านหลังนั้นใช้โทนสีวัสดุเหมือนด้านหน้าแต่แค่ไม่มีปัดลายวนๆครับเป็นเพียงแค่เรียบๆเลย ก็เหมือนด้านหน้าคือจะติดรอยคราบมันได้ง่ายมากๆครับ มียางรองแท่นทั้ง 4 จุกแบบวงกลม ลำโพงแยกซ้ายขวาชิดขอบ ไม่มีรูระบายอากาศเลยในส่วนของฐานเครื่อง ไประบายตรงขอบจอซานด้านหลังแทนครับ มีการเล่นสีตัดขอบเงาๆทองแดงสวยงามและงานเนี้ยบมากครับ ความเงาทำได้ดีและตัดขอบได้คมสวยแต่ไม่บาดมือครับ ทำให้เครื่องมันดูมีอะไรกว่าเดิมได้เยอะ
ด้านขอบด้านหน้านั้นเป็นช่องเว้าสำหรับพื้นที่เราสามารถเอานิ้วเพื่อจะเปิดจอได้และมีไฟสถานะ ทั้ง 2 ช่อง ที่มีการเล่นการออกแบบคือเจาพเป็น 4 ช่องเล็กๆให้แสงนั้นสวยงามอีกด้วยครับ ด้านซ้ายคือไฟสถานะการทำงาน ส่วนด้านขวาคือไฟว่าเราเสียบชาร์จแบตอะไรอยู่ไหมครับดูใส่ใจการออกแบบดี ส่วนด้านหลังนั้นเป็นขอบฝาจอมีการเขียนชื่อรุ่นไว้ว่า Zenbook Series ครับผม และ อากาศระบายจะออกมาในช่องขอบจอตรงนี้นั้นเองครับการระบายหลักๆเลย
Spec Asus Zenbook Pro 15
- Windows 10 Home
- CPU Intel Core i9-8950HK (2.9GHz hexa-core with 12MB cache)
- GPU NVIDIA GeForce GTX 1050Ti 4GB GDDR5 VRAM
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว LED-backlit 4K UHD 16:9 รองรับ touchscreen, color calibration: Delta E < 2, 100% Adobe RGB color gamut ขอบจอบาง 7.3 มม. สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 83%
- ASUS Eye Care technology for up to 30% blue-light reduction
- RAM 16GB DDR4 onboard
- หน่วยความจำภายใน 512GB PCIe SSD
- พอร์ตเชื่อมต่อ Type-C™ USB 3.1 Gen 2 (Thunderbolt™ 3) x2, Type-A USB 3.1 Gen 2 x2, HDMI x1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต microSD Card x1
- คีย์บอร์ด full-sized +ฺ ไฟ Backlit
- รองรับ สแกนลายนิ้วมือ
- หน้าจอ ScreenPad ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD Super IPS+ ใช้กระจกกันรอยขีดข่วน และกันเปื้อน รองรับ gestures สูงสุด 4 นิ้ว
- ระบบเสียง ASUS SonicMaster ลำโพงคู่ปรับแต่งโดย Harman Kardon
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi Dual-band 802.11ac gigabit-class Wi-Fi, Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ 8-cell lithium-polymer
- ตัวเครื่องน้ำหนัก 1.8 กก. บาง 1.89 ซม.
PERFORMANCE
ในเรื่องประสิทธิภาพนั้นด้วยความที่มาพร้อม CPU Intel Core i9-8950HK (2.9GHz hexa-core with 12MB cache) และ ใช้ GPU NVIDIA GeForce GTX 1050Ti 4GB GDDR5 VRAM บอกเลยว่าโคตรโหด และ ยังใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วในการอ่านเขียนสูงมากๆทำให้ตัวนี้เราไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลยครับผม
คะแนนทั้ง 3DMARK ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงพอสมควร รวมถึงการทดสอบทั้ง 2 แบบนะครับคะแนนทำได้ดีเลยแหละ ส่วนในด้านการทำงาน คะแนนได้ไปเลย PCMARK 10 4760 คะแนน เกือบแตะ 5 พันคะแนนเลยครับส่วนในด้านความเร็วของ CPU BENCH ไว้ใจได้ i9 1077 และ 101 FPS ครับผม ในด้านการอ่านเขียน SSD บอกเลยว่าแรงมากทำไปได้ 2226 ในการอ่าน และเขียนทำได้ที่ 1054 เลยทีเดียวใช้งานลื่นไหลเลยแหละ และการ์ดจอมีมาคือ GTX 1050TI และ 630 INTEL ครับใช้งานได้ค่อนข้างครบทั้งทำงานและเกมประมวลผล 3D 2D สบาย
SCREEN
หน้าจอตัวนี้จัดเต็มไม่ว่าจะเป็นความคมชัดแบบ 4K รองรับการสัมผัส และสีที่ตรงมากๆครบเลยแหละมาดูสเปคชัดๆกันก่อนครับสำหรับหน้าจอตัวนี้ หน้าจอ 15.6 นิ้ว จอแบบ LED-backlit ความละเอียดสูงถึง 4K UHD อัตราส่วนจอ 16:9 รองรับระบบสัมผัสหน้าจอ touchscreen, color calibration: Delta E < 2, 100% Adobe RGB color gamut อละยังได้รับการตรวจสอบความถูกต้องของสีจาก PANTONE® ขอบจอบาง 7.3 มม. สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 83% ครับผม เป็นจอในฝันของสายงานกราฟฟิคเลยทีเดียวครับ การสัมผัสที่ใช้งานจากที่ลองคือมันตอบสนองได้ดีเลยทั้งสัมผัสใช้งาน เลือกโปรแกรม ลากไฟล์แต่มีโอกาศใช้ค่อนข้างน้อยครับเมื่อจอมาในแบบที่ไม่สามารถถอดออกหรือพับได้ ทำให้จอสัมผัสมันดูไม่ค่อยจำเป็นมากนักสำหรับ Laptop แนวๆที่จะสัมผัสหน้าจอครับแต่ยังดีที่มันรองรับปากกาของ Asus ก็น่าจะมีประโยชน์ขึ้นและเวลาพรีเซนต์โมเดลอะไรน่าจะง่ายขึ้นครับผม
มาในด้านของคุณภาพหน้าจอมุมมองการใช้งานจริงๆนั้นพบว่าตัวจอทำสีออกมาได้ค่อนข้างตรงเลยแหละทั้งในการมุมมองแบบตรงหรือเอียงๆจอแสดงผลออกมาได้ดีไม่เพี้ยนและมุมมองได้กว้างครับที่สีได้ถือว่าตรงกับความเป็นจริงในการทดสอบทั้งแต่งรูปหรือทำงานด้านภาพถ่ายเป็นจอที่ตัดว่าดีอันดับต้นๆของ Laptop เลยก็ได้ครับเป็นจอที่ใช้และค่อนข้างติดใจเลยครับความคมสวยของมัน
จอแบบเงาด้วยทำให้ภาพที่ออกมานั้นสวยงามมากและใสเคลียร์ มิติของสีทำได้ดี รองรับได้กว้างมากๆและ ตัวรายละเอียดดีเทลของภาพแบบ 4K เก็บได้หมดเลย แม้ใช้งานภายนอกจะเจอแสงสะท้อนนิดหน่อยมากกว่าแบบจอด้านนะครับ ส่วนความสว่างนั้นสู้แสงได้ดีชดเชยกันไปได้ส่วนเวลาใช้งานที่แสงน้อยอยากจะลดแสงสุดๆก็พบว่าจอทำได้ดีครับลดได้ต่ำและมืดพอสมควรไม่แยงตาเวลาใช้งานครับ
TOUCHPAD + SCREENPAD
อีก 1 จุดขายหรือจุดเด่นที่ทำเป็นเจ้าแรกของโลกเลยก็คือการยัดหน้าจอลงมาใน Touchpad หรือ Screenpad ตามชื่อเรียกใหม่นั้นเองแน่นอนว่ายัดลงมาแบบนี้มันทำอะไรได้มากกว่าเดิมแน่นอนครับและ Numpad ก็ลงมาอยู่ในข้างล่างนี้ด้วยครับผม การใช้งานทั่วไปคือตามหน้าที่มันเลยคือ Touchpad ก็ใช้งานได้ดีลื่นไหลติดนิ้ว กดลงไปคลิกซ้ายขวาได้ปกติครับ มีขนาดใหญ่พอดีใช้งานได้ 4 นิ้ว และมองจอได้ค่อนข้างชัดความสว่างสู้แสงได้ดีมากและคม ตัวหน้าหลักๆจะแบ่งเป็นหน้า ที่ใช้แอพส่วนตัวของ Screenpad ที่สามารถใช้งานได้เยอะและมีอัพเดทมาเรื่อยๆครับตามภาพด้านบนคือแอพของ เพลง ปฎิทิน Spotify แอพอื่นๆมากมายครับมีให้เลือกใช้งานเยอะแยะเลยแหละ
การตั้งค่าตัว Screenpad ก็สามารถปรับแต่งแถบข้างบนได้ ปรับความสว่างได้ พื้นหลังพวกนี้ครับผมสามารถตั้งค่าได้หมดเลย และ ใส่แอพที่รองรับเพิ่มเข้ามาได้อีกเยอะเลยครับในอนาคต จริงๆตอนนี้ก็รองรับพวก Microsoft แล้วเช่นแอพทำงาน Word พวกนี้ครับผมหน้าจอข้างล่างก็จะปรับตามการใช้งาน สำหรับเปลี่ยนฟอนต์ง่ายๆเป็นต้นครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้