
หนังกำกับโดย J.J. Abrams ครับ (ผกก. Star Trek และก็ The Force Awaken) จริงๆ ผมชอบแกนะ แกเป็นผกก. อีกคนที่ฝีมือดีและก็มีอุดมการณ์ที่น่าเชื่อถือ ยกตัวอย่างง่ายๆ ครับ ไอ้เรื่ิอง Cloverfield อ่ะ นึกว่ามันจะเป็นแค่หนังสัตว์ประหลาดบุกเมืองธรรมดาๆ แต่ที่ไหนได้ มันไปไกลจนมี Franchise เป็นของตัวเองแล้วครับ หรือว่า Star Trek ที่ถึงแม้รายได้จะไม่ปังมาก แต่นับรวมกัน Franchise นี้ก็ทำเงินเกินพันล้านครับ อย่าง The Force Awaken นี่ภาคเดียวปาไป 2,000 ล้านครับ และก็ Cloverfield Franchise นี่ก็ทำเงินทะลุ 500 ล้านครับ พอได้เห็นตัวเลขพวกนี้ผมดันเชื่อใจเขาขึ้นมามากขึ้นเลยครับ และพอได้หยิบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาดูอีก ผมก็ยังรู้สึกโอเคกับมันเหมือนเดิมครับ

เรื่องย่อ
ฤดูร้อน ปี 1979 กลุ่มเพื่อนในเมืองเล็กๆ ของโอไฮโอ วางแผนจะถ่ายทำหนังเกี่ยวกับซอมบี้ ขณะกำลังถ่ายทำหนัง Super 8 ของพวกเขา เด็กๆ กลุ่มนี้กลับกลายเป็นพยาน เห็นเหตุการณ์รถไฟพุ่งชนรถจนพังพินาศสันตะโร หลังจากเอาตัวแทบไม่รอด ไม่นานเด็กๆ กลุ่มนี้พบว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ ตามติดมาด้วยการเกิดเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ และการหายตัวไปอย่างผิดปกติของผู้คน ที่เริ่มเกิดขึ้นในเมืองนี้ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แจ็ค แลมบ์ (ไคล แชนด์เลอร์) พยายามที่จะเปิดเผยความจริง ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัว ยิ่งกว่าชาวเมืองคนใดจะจินตนาการได้

ใครหวังว่าหนังจะมันส์กระหน่ำเหมือนพวก Godzilla ก็ต้องปรับความเข้าใจกันใหม่เลยนะครับ เพราะหนังก็ไม่ได้เหมือนพวก E.T. ด้วย แต่มันมีจุดยืนเป็นของตัวเองครับ นั่นก็คือแบบเน้นเชิงวิทยาศาสตร์ไปเลย ไม่ต้องไปเน้นมันส์มาก และก็เลือกที่จะเล่าเรื่องผ่านตัวละครเด็กทั้ง 6 คนหลัก
ผมว่าหนังที่เล่าแบบนี้ทำยากนะ เพราะต้องทำให้เราไม่รำคาญตัวเด็กจนต้องหยุดดูและก็ทำให้ตัวเด็กน่าเอาใจช่วย มีหลายเรื่องครับที่เด็กดูน่ารำคาญสุดๆ เช่นพวก Jurassic Park, Jurassic World, War of the World, บิดพิภพทะลุโลก, สลัดตาเดียวกับเด็ก 200 ตา ที่ว่ามาตัวลุครเด็กน่ารำคาญมากครับ เพราะได้รับการเล่าเรื่องและปมตัวละครไม่เพียงพอ แต่ที่เล่าแล้วเวิร์คก็มีนะครับ เช่นพวก IT, Stranger Things, Annabelle: Creation และก็เรื่องนี้
IT นี่เล่าเรื่องของแต่ละตัวละครในเวลาเพียงหยิบมือครับ แต่ทำให้เราซึมซับกับแต่ละตัวละครได้ดีมากๆ และก็เลือกที่จะทิ้งปมหนักๆ ไว้และเอาไปสานต่อในภาคสอง Stranger Things ก็เล่าเรื่องแค่หยิบมือครับ ผมจำได้ว่าเขาปูพื้นตัวละครแค่ Episode เดียวเองมั้ง จากนั้นก็เข้าสู่เนื้อหาหลักของหนังเลย, Annabelle: Creation อันนี้คงมีคนแปลกใจว่าเด็กๆ มันน่าเอาใจช่วยตรงไหน ผมว่าจุดแข็งของหนังเลยคือความกล้าของตัวละครครับ แบบกล้าเกินคนอ่ะ555 ถ้าเจอผี พวกเด็กๆ ไม่หนีครับ แต่พร้อมที่จะปะฉะดะกับผีเลย อันนี้ผมชอบ

สำหรับเรื่องนี้ผมว่าปูมาดีเลยนะ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเอง ผมเข้าถึงทุกตัวละครเด็กในเรื่องเลยครับ ตัวละครโจก็จะมีปมเรื่องแม่และการเลี้ยงดูที่ไม่ค่อยน่าพึงพอใจนัก ชาร์ลต้องคอยพยายามให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้ อลิซมีปมเรื่องพ่อและเรื่องของแม่โจกับพ่อของเธอ มาร์ตินไม่ชอบอะไรที่รุนแรง เพรสตันเป็นคนที่ชอบอยู่ตามเพื่อนฝูง และแคร์รี่ที่ชอบจุดไฟเล่น หนังใส่ปริมาณเรื่ิองราวของแต่ละตัวละครได้ดีครับ จะไปใส่ใจรายละเอียดหน่อยก็ตรงตัวละครหลักสามคน นั่นก็คือโจ ชาร์ล และก็อลิซ ส่วนคนอื่นๆ เป็นตัวละครรองก็เลยไม่ค่อยมีเรื่องราวมาก แต่ก็ยังเป็นที่จดจำอยู่ โดยเฉพาะแคร์รี่ที่การแสดงดูเด่นกว่าที่คิด(ย้ำว่าการแสดง) ส่วนทางด้านตัวละครพ่อของโจและพ่อของอลิซก็ได้รับการเล่าค่อนข้างเบาบางแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรมาก

ส่วนของตัวละครผ่าน มาถึงการดำเนินเรื่อง อันนี้ก็เป็นอีกจุดยากของหนังแนวนี้ครับ เพราะถ้าเล่าเรื่องไม่เจ๋งจริงหนังมีหวังน่าเบื่อแน่นอน มีหลายเรื่องเลยครับที่ผมไม่ได้สนใจเรื่องราวของตัวละครเลยซักกะนิด แล้วในที่สุดก็ต้องหยุดดู แต่ข่าวดีก็คือ หนังเล่าเรื่องสนุกครับ สนุกมากเลยทีเดียว ช่วง 10 นาทีเป็นช่วงปูเรื่องราวตัวละครฉะนั้นมันจะออกแนวเรื่อยๆ ครับ แต่พอถึงฉากรถไฟตกราง ความสนุกก็เริ่มไหลมาเทมาครับ มีปมปริศนาเกี่ยวกับทหารและก็เครื่องใช้ทั้งหมู่บ้านหายไป และก็มาพร้อมความลับที่ทางทหารพยายามเก็บงำเอาไว้ ช่วงแรกกับช่วงกลางผมชอบมากครับ เราได้ทำความรู้จักตัวละครมากขึ้นและได้เข้าใจเรื่องราวมากขึ้นจนนำจิ๊กซอว์มาประติดประต่อเรื่องราวได้ แล้วคำตอบมันก็เปิดเผยเป็นรูปเป็นร่าง แต่หนังจะมาแผ่วตรงช่วงท้ายครับ
จริงๆ จิ๊กซอว์ที่หนังหยอดมาโอเคนะ แต่พอประกอบรวมกันแล้วมันดูหลุดออกจากหนังมากครับ คือช่วงต้นกับกลางมันพออธิบายได้ครับ แต่พอหนังเฉลยที่มาของเหตุการณ์ต่างๆ มันดันดูหลอกๆ ไงไม่รู้อ่ะ แต่ก็ยังดีที่จิ๊กซอว์มันเอื้อครับ ก็เลยสามารถใส่พล็อตสัตว์ประหลาดเข้ามาได้ แต่จริงๆ ผมอยากให้มันเป็นพวกซอมบี้อะไรมากกว่านะ (แถมจะได้เข้ากันได้กับ Overlord ด้วยไง) ช่วงแรกกับกลางพอได้ แต่ท้ายดูหลุดๆ ไปหน่อย แต่ตอนจบก็พอรับได้

ดาราเล่นดีครับ ผมเซอร์ไพร์สกับเด็กๆ ในเรื่องนิดนึงนะ ไม่คิดว่าจะเล่นได้เป็นธรรมชาติทุกคน และเคมีระหว่างตัวละครก็น่าเชื่อถือ Courtney ไปได้ดีกับบทพระเอกของเรื่อง พอหนีตายน้องก็จะหน้านิ่งนิดนึง(จะมสติไปไหน) แต่ช่วงดราม่าก็ทำได้ดีครับ Fanning ก็เล่นได้เด่นในบทนางเอก ผมชอบช่วงที่เธอบอกความจริงกับโจมากครับ สีหน้าเธอน่าสงสารจริงๆ (ส่วนหนึ่งเพราะความลำเอียงส่วนตัว) ส่วนคนอื่นๆ ก็เล่นได้ดีในระดับนึง แต่ที่เด่นหน่อยก็จะมี Lee ในบทแคร์รี่ ที่ขโมยซีนได้หลายฉากเลย
Effect เนียนครับ ดนตรีประกอบก็ระทึกมากในระดับนึง แต่ที่อยากจะชมมากๆ ก็คือ Sound Design พวกเสียงระเบิดครับ มันกระหึ่มมาก โดยเฉพาะช่วงรถไฟตกรางกับช่วงทหารทำลายเมืองนี่โดนใจผมมาก เพราะเสียงมันสะใจจริงครับ

สรุป
๏ บทหนัง = ดี
๏ การดำเนินเรื่อง = ดี
๏ นักแสดง = ดี
๏ Production = ดี
คะแนนเฉลี่ยรวม : 8/10
เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู
[CR] ##REVIEW## Super 8 (2011) มหาวิบัติลับสะเทือนโลก | เด็กวัยใส รถไฟตกราง [ไร้ส้มป่อย]
ฤดูร้อน ปี 1979 กลุ่มเพื่อนในเมืองเล็กๆ ของโอไฮโอ วางแผนจะถ่ายทำหนังเกี่ยวกับซอมบี้ ขณะกำลังถ่ายทำหนัง Super 8 ของพวกเขา เด็กๆ กลุ่มนี้กลับกลายเป็นพยาน เห็นเหตุการณ์รถไฟพุ่งชนรถจนพังพินาศสันตะโร หลังจากเอาตัวแทบไม่รอด ไม่นานเด็กๆ กลุ่มนี้พบว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ ตามติดมาด้วยการเกิดเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ และการหายตัวไปอย่างผิดปกติของผู้คน ที่เริ่มเกิดขึ้นในเมืองนี้ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แจ็ค แลมบ์ (ไคล แชนด์เลอร์) พยายามที่จะเปิดเผยความจริง ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัว ยิ่งกว่าชาวเมืองคนใดจะจินตนาการได้
ผมว่าหนังที่เล่าแบบนี้ทำยากนะ เพราะต้องทำให้เราไม่รำคาญตัวเด็กจนต้องหยุดดูและก็ทำให้ตัวเด็กน่าเอาใจช่วย มีหลายเรื่องครับที่เด็กดูน่ารำคาญสุดๆ เช่นพวก Jurassic Park, Jurassic World, War of the World, บิดพิภพทะลุโลก, สลัดตาเดียวกับเด็ก 200 ตา ที่ว่ามาตัวลุครเด็กน่ารำคาญมากครับ เพราะได้รับการเล่าเรื่องและปมตัวละครไม่เพียงพอ แต่ที่เล่าแล้วเวิร์คก็มีนะครับ เช่นพวก IT, Stranger Things, Annabelle: Creation และก็เรื่องนี้
IT นี่เล่าเรื่องของแต่ละตัวละครในเวลาเพียงหยิบมือครับ แต่ทำให้เราซึมซับกับแต่ละตัวละครได้ดีมากๆ และก็เลือกที่จะทิ้งปมหนักๆ ไว้และเอาไปสานต่อในภาคสอง Stranger Things ก็เล่าเรื่องแค่หยิบมือครับ ผมจำได้ว่าเขาปูพื้นตัวละครแค่ Episode เดียวเองมั้ง จากนั้นก็เข้าสู่เนื้อหาหลักของหนังเลย, Annabelle: Creation อันนี้คงมีคนแปลกใจว่าเด็กๆ มันน่าเอาใจช่วยตรงไหน ผมว่าจุดแข็งของหนังเลยคือความกล้าของตัวละครครับ แบบกล้าเกินคนอ่ะ555 ถ้าเจอผี พวกเด็กๆ ไม่หนีครับ แต่พร้อมที่จะปะฉะดะกับผีเลย อันนี้ผมชอบ
จริงๆ จิ๊กซอว์ที่หนังหยอดมาโอเคนะ แต่พอประกอบรวมกันแล้วมันดูหลุดออกจากหนังมากครับ คือช่วงต้นกับกลางมันพออธิบายได้ครับ แต่พอหนังเฉลยที่มาของเหตุการณ์ต่างๆ มันดันดูหลอกๆ ไงไม่รู้อ่ะ แต่ก็ยังดีที่จิ๊กซอว์มันเอื้อครับ ก็เลยสามารถใส่พล็อตสัตว์ประหลาดเข้ามาได้ แต่จริงๆ ผมอยากให้มันเป็นพวกซอมบี้อะไรมากกว่านะ (แถมจะได้เข้ากันได้กับ Overlord ด้วยไง) ช่วงแรกกับกลางพอได้ แต่ท้ายดูหลุดๆ ไปหน่อย แต่ตอนจบก็พอรับได้
Effect เนียนครับ ดนตรีประกอบก็ระทึกมากในระดับนึง แต่ที่อยากจะชมมากๆ ก็คือ Sound Design พวกเสียงระเบิดครับ มันกระหึ่มมาก โดยเฉพาะช่วงรถไฟตกรางกับช่วงทหารทำลายเมืองนี่โดนใจผมมาก เพราะเสียงมันสะใจจริงครับ
๏ บทหนัง = ดี
๏ การดำเนินเรื่อง = ดี
๏ นักแสดง = ดี
๏ Production = ดี
เรตหนัง : หนังดีที่ควรดู
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม