ไม่มีอะไร น่ากลัวสักนิด สำหรับรอบนี้ มันเป็นโอกาสต่างหากไม่ใช่วิกฤติ ถ้าวิกฤติ จะมีต้องเป็นรอบ หน้าไม่ใช่รอบนี้
....................................................................................................................................................................
ผมมองว่า วิกฤติสงครามการค้า จะไม่เกิด อย่างไร ก็จะตกลงเจรจา กันได้ ทำไมหนะหรือครับ
ก็ดูสภาพ อเมริกา และจีน ตอนนี้สิ ดูจืดไหม ถ้ายังสู้ต่อกันแบบเอาให้แตกหัก ใครพังครับ
มันพังข้างเดียวที่ไหน
ที่จริงมันพังทั้งสองข้าง รวมถึง ประเทศอื่นๆในโลกด้วย ดูสภาพความเป็นจริง ของ สองประเทศ คู่ขัดแย้งสิ ไปไหวไหม
การขู่ การบลั๊ฟกัน รุนแรง มันเป็นเรืองปรกติ ของการเจรจาต่อรอง ยิ่งคิดจะต่อรอง ตกลงให้ได้
ยิ่งต้องทำขึงขัง ยอมหักไม่ยอมงอ แต่คุณดูพฤติกรรม สีจิ้นผิง สิ เขาเป็นคนอย่างไร
เดินทางไปสร้างสัมพันธ์ ไมตรี กับอเมริกา กี่ครั้งแล้ว ทุกระดับเลย
ดูโครงการในอนาคต ของเขาสิ เขาสามารถทนเห็นความล้มแหลวได้หรือ
ผมเคยติดตามพฤติกรรม ของ เบน เบอร์นันเก้ ช่วงหนักๆ การพูดของเขา พฤติกรรมของเขา มันก็ส่อความคิดของเขา
ซึ่งตอนนั้น ผมก็เดาถูก เปรียบเทียบ กับสิจิ้นผิง ตอนนี้ ที่ดูง่ายกว่ากันเยอะ อย่างไร ก็ถูก
วิกฤติ จะไม่ยืดเยื้อ สิ้นเดือนนี้ ก็จะเจรจาตกลงกันได้แล้ว อีกกี่วันกันเชียว
อีกเรื่อง Brexit อันนี้ก็เหมือนกัน อังกฤษ เวลานี่มีสภาพเป็นอย่างไร สามารถ hard Brexit ได้จริงๆหรือ
คำตอบคือไม่มีทาง ไม่มีปัญญา แน่ๆ ดูสภาพเขาสิ ข้างในกลวงโบ๋ นายกและคณะรัฐมนตรี อังกฤษ รู้ดีกว่า hard Brexit ไม่ได้
แล้ว ถ้า soft Brexit หละ ถ้าตกลงกันในแนวทางนี้ อังกฤษ จะออกจากยูโร ทำไมหละ จ่ายหนักก็เหมือนเดิม
ผลประโยชน์ก็ได้ น้อยกว่าเดิม จริงๆเหตุผลมีมากกว่านี้ แต่ผมขี้เกียจเขียนแล้ว
เอาเป็นว่ารอให้การประชุม สภาล่ม ร่างของนายก เมย์ ถูกคว่ำ เกิดการตื่นตกใจ ในตลาดการเงินโลก ตรงนั้นจะเป็นจุดซื้ออีกรอบครับ
เราเป็นนักลงทุน ต้องมองหาโอกาสแล้วเล่นตามรอบ ในกล่องบน ตอนที่ใครๆบอกว่าแย่แล้ว ในช่วงเวลากล่อง 2-4
ผมพิเคาะห์เหตุผลแล้ว เห็นว่า สวนซื้อได้
หุ้นขึ้นแรง ต่อเนืองสองวัน คนในตลาดที่กลัว เริ่มกลับ มาบอกว่าเซ็ตเบรกแล้ว จะไปเท่านั้น เท่านี้
ผมกลับ ขาย ก็เพราะผมเชื่อในเหตุผล ในรอบของผม ผมไมได้สวนมั่วๆ
หุ้นมันไมได้ลงอย่างเดียว มันลงไป2-3วัน มันก็ต้องมีรอบรีบาวน์ ๆเสร็จแล้ว ข่าวร้ายยังไม่จบ
มันก็กลับไปลงใหม่ ที่เราต้องทำคือเล่นในรอบที่เล่นได้ และอยู่ในรอบ กลัวมากเกินไป ก็ไม่ได้
จับจังหวะไม่ถูก ก็ไม่ได้ ต้องไปให้พอดี
ในส่วนเรืองอิตาลี ผมไม่ให้น้ำหนัก เป็นเรืองของนักการเมืองประชานิยม ที่ปลุกระดม หาเสียง ไม่มีน้ำยา ทำอะไรได้จริงๆตามที่พูด ไม่มีราคา ไม่ให้ราคาครับ ดูแค่ประเด็น Brexit ในจุดที่เลวร้ายที่สุด เพื่อจะเข้าซื้อ เต็มๆที่ ก็พอ
ผมมองว่าเทรดวอร์ จะตกลงกันได้ และ brexit ก็จะจบ ลงด้วยไม่ brexit
....................................................................................................................................................................
ผมมองว่า วิกฤติสงครามการค้า จะไม่เกิด อย่างไร ก็จะตกลงเจรจา กันได้ ทำไมหนะหรือครับ
ก็ดูสภาพ อเมริกา และจีน ตอนนี้สิ ดูจืดไหม ถ้ายังสู้ต่อกันแบบเอาให้แตกหัก ใครพังครับ
มันพังข้างเดียวที่ไหน
ที่จริงมันพังทั้งสองข้าง รวมถึง ประเทศอื่นๆในโลกด้วย ดูสภาพความเป็นจริง ของ สองประเทศ คู่ขัดแย้งสิ ไปไหวไหม
การขู่ การบลั๊ฟกัน รุนแรง มันเป็นเรืองปรกติ ของการเจรจาต่อรอง ยิ่งคิดจะต่อรอง ตกลงให้ได้
ยิ่งต้องทำขึงขัง ยอมหักไม่ยอมงอ แต่คุณดูพฤติกรรม สีจิ้นผิง สิ เขาเป็นคนอย่างไร
เดินทางไปสร้างสัมพันธ์ ไมตรี กับอเมริกา กี่ครั้งแล้ว ทุกระดับเลย
ดูโครงการในอนาคต ของเขาสิ เขาสามารถทนเห็นความล้มแหลวได้หรือ
ผมเคยติดตามพฤติกรรม ของ เบน เบอร์นันเก้ ช่วงหนักๆ การพูดของเขา พฤติกรรมของเขา มันก็ส่อความคิดของเขา
ซึ่งตอนนั้น ผมก็เดาถูก เปรียบเทียบ กับสิจิ้นผิง ตอนนี้ ที่ดูง่ายกว่ากันเยอะ อย่างไร ก็ถูก
วิกฤติ จะไม่ยืดเยื้อ สิ้นเดือนนี้ ก็จะเจรจาตกลงกันได้แล้ว อีกกี่วันกันเชียว
อีกเรื่อง Brexit อันนี้ก็เหมือนกัน อังกฤษ เวลานี่มีสภาพเป็นอย่างไร สามารถ hard Brexit ได้จริงๆหรือ
คำตอบคือไม่มีทาง ไม่มีปัญญา แน่ๆ ดูสภาพเขาสิ ข้างในกลวงโบ๋ นายกและคณะรัฐมนตรี อังกฤษ รู้ดีกว่า hard Brexit ไม่ได้
แล้ว ถ้า soft Brexit หละ ถ้าตกลงกันในแนวทางนี้ อังกฤษ จะออกจากยูโร ทำไมหละ จ่ายหนักก็เหมือนเดิม
ผลประโยชน์ก็ได้ น้อยกว่าเดิม จริงๆเหตุผลมีมากกว่านี้ แต่ผมขี้เกียจเขียนแล้ว
เอาเป็นว่ารอให้การประชุม สภาล่ม ร่างของนายก เมย์ ถูกคว่ำ เกิดการตื่นตกใจ ในตลาดการเงินโลก ตรงนั้นจะเป็นจุดซื้ออีกรอบครับ
เราเป็นนักลงทุน ต้องมองหาโอกาสแล้วเล่นตามรอบ ในกล่องบน ตอนที่ใครๆบอกว่าแย่แล้ว ในช่วงเวลากล่อง 2-4
ผมพิเคาะห์เหตุผลแล้ว เห็นว่า สวนซื้อได้
หุ้นขึ้นแรง ต่อเนืองสองวัน คนในตลาดที่กลัว เริ่มกลับ มาบอกว่าเซ็ตเบรกแล้ว จะไปเท่านั้น เท่านี้
ผมกลับ ขาย ก็เพราะผมเชื่อในเหตุผล ในรอบของผม ผมไมได้สวนมั่วๆ
หุ้นมันไมได้ลงอย่างเดียว มันลงไป2-3วัน มันก็ต้องมีรอบรีบาวน์ ๆเสร็จแล้ว ข่าวร้ายยังไม่จบ
มันก็กลับไปลงใหม่ ที่เราต้องทำคือเล่นในรอบที่เล่นได้ และอยู่ในรอบ กลัวมากเกินไป ก็ไม่ได้
จับจังหวะไม่ถูก ก็ไม่ได้ ต้องไปให้พอดี
ในส่วนเรืองอิตาลี ผมไม่ให้น้ำหนัก เป็นเรืองของนักการเมืองประชานิยม ที่ปลุกระดม หาเสียง ไม่มีน้ำยา ทำอะไรได้จริงๆตามที่พูด ไม่มีราคา ไม่ให้ราคาครับ ดูแค่ประเด็น Brexit ในจุดที่เลวร้ายที่สุด เพื่อจะเข้าซื้อ เต็มๆที่ ก็พอ