เริ่มจาก
เรียนมาด้าน "คอมฯกราฟิก" 5 ปี ปวช ปวส จบมาแล้ว 2 ปีครึ่ง
เพิ่งได้เรียนต่อ ป.ตรี ด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมได้งาน เลยกะว่าจะทดลองที่นี่ดูก่อนสักพัก
ขอพูดตามตรงว่า ที่เรียนมา 5 ปีนั้น ไร้ประโยชน์ เพราะ 1 คอมที่ไม่เคยพร้อมรับงานใหญ่ๆ ทำแต่งานเล็ก retouch/dicut/proof vynil stickerpvc เคลือบ ธรรมดาทั่วไป พอทำงานบริษัทโรงพิมพ์จริงๆ กลับรู้สึก...โล่ง เหมือนที่เรียนมาไร้ประโยชน์
ยิ่งการออกแบบโลโก้ นั่งดูVideo บน Youtube พวกชาวต่างชาติที่ออกแบบโลโก้กัน เริ่มจาก สี่เหลี่ยม วงกลม ครึ่งวงกลม แล้วรวมกันจนเป็นรูปร่าง ไล่ gradient แสงเงา บนพื้นฐานของวิสัยทัศน์ และรูปแบบของบริษัทที่ส่งมาให้และคำชี้แนะจากลูกค้าที่มาจากบริษัทนั้นๆ ทำให้มันมีความหมาย สื่อถึงบริษัทนั้นจริงๆ
แต่เมื่อได้รับงานออกแบบโลโก้ ความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผู้ออกแบบเหมือนเป็นผู้รับฟังและทำตามอย่างเดียว ออกแบบหรือเพิ่มเติมอะไร ก็จะเอาแค่แบบที่ตัวเองร่างใส่กระดาษมา (อันนี้บ่นลูกค้า)
เรียนมา 5 ปี ด้านนี้แต่กลับเกลียดงานด้านนี้เข้าไส้ และไม่ชอบเอามากๆ
จนตอนนี้อยากออกจากงาน อยากถามว่า จำเป็นไหมที่ต้องบอกว่า จะลาออกจากงาน และต้องบอกล่วงหน้า 1 เดือน
มีกฎหมายข้อใดบ้างที่ออกจากกลางคันแล้วมีความผิด (เรื่องเงินเดือนคงไม่ได้รับ จากที่คิดไว้)
ปัจจุบัน ค่าหอคือ 40% ของเงินเดือน และผ่อน อุปกรณ์คอมฯ ไว้ เดือนละ 1 พันกว่าๆ (เท่ากับว่า เหลือกิน 55%)
ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตเลยจริงๆ
และประเด็นคือ ชีวิตมันห่วยแตกขนาดนี้เลยหรือ...
เรียนมา เพื่อทำงานห่วยๆ ซ้ำไปซ้ำมา 10 ปี 20 ปี ที่ไม่ได้รู้สึกเจริญก้าวหน้า
เข้างานเช้าเงินงานเที่ยงคืน OT ที่ไม่แน่ไม่นอน งานเร่งงานด่วน สั่งวันนี้เอาเช้าพรุ่งนี้ ไม่มีการเทรนงาน เกิดมาต้องทำงานเป็นเลย
ข้าวต้องกินเวลางาน พักจริงๆ คือ ไม่มีเวลาพัก ดึกดื่นต้องลุกมารับโทรศัพท์ ดูLINE เช็คเฟส Email
คิอทำงานก็คือทำงาน ต้องได้ตามเป้าหมายของบริษัท แต่ทุกวันนี้มนุษย์ก็ไม่ต่างจากเมื่อก่อน ทาสก็คือทาส เป็นคนทำงาน เหมือนทาส
ภาษีไม่ต้องพูดถึง เงินเดือนไม่ถึงที่จะเสียด้วยซ้ำไป
จะกู้มาลงทุน "มีความเสี่ยง" ที่ต้องแบกรับถึง 2 ด้าน ถ้าตัดจิตใจอันอ่อนแอที่สามารถทิ้งคนรู้จักคนรอบข้างได้จะดีมาก
เศรษฐกิจพอเพียงมีไว้เพื่อ มีกินไปวันๆ เก็บหอมรอมริบ ที่ชาตินี้ก็ไม่มีวันรวย ไม่มีความสุข
สุขแบบที่เป็นอยู่คืออะไร ในเมื่อมีเงิน มันเท่ากับความสุข
รู้สึกเครียด ที่ตัวเองทำงานไม่เก่ง ไม่ตรงตามเป้าหมาย ทำได้ไม่เหมือนคนอื่น
คำกลอนที่เป็นแง่บวก แต่พอมองลึกๆ กลับมีแต่แง่ลบ และไม่เป็นจริง
เคยพยายามจนสุดตัวทั้งงาน ทั้งงานอดิเรก ทุกอย่างไปพร้อมกันอยู่ 2 ปี (ก่อนเรียนป.ตรี) แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า
เกิดมาเพื่อเป็นเบี้ยล่างรับใช้คนอื่น ถูกส่งเสีย แล้วต้องไปส่งเสียกลับ และต้องส่งเสียคนอื่น เพื่อให้คนอื่นส่งเสียกลับ
Loop นรกที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
มีชีวิตไปทำไม ในเมื่อเวลาก็ทำให้ตาย แค่ไม่ช้าก็เร็ว หรือไม่เจอพวกขับรถไม่เปิดไฟเลี้ยว ไม่ต้องเสี่ยงตายกับวินมอไซต์บนฟุตบาท ที่บีบแตรไล่คนบนทางเท้า วินมอไซต์ที่รับคน ขับย้อนศร บนมอเตอร์เวย์ วินที่ราคา แพงกว่าค่าแก้วน้ำ เปิ่น แพงกว่าขวดโค้กExtra แพงกว่าค่าอาหารต่ออาทิตย์
ไม่มีเงินเท่ากับมีความสุขแล้วจริงหรอ เคยพยายามสุดตัวแล้วก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ มันคือประสบการณ์ที่ดีจริงหรอ
จะอยู่ไปเพื่ออะไร ถ้ามันมีแต่เรื่องแย่ๆ ความเป็นจริงมันแย่ มีชีวิตก็แย่
ขนาดตายยังเป็นภาระ ตายที่หอพักก็ ภาระคนในหอ เจ้าของหอ และครอบครัว คิดแล้วคิดอีกก็ยังทำให้ปวดหัวได้มากโขกับเรื่องนี้
ขอบคุณที่อ่าน
พยายามเลิกโซเชียลทุกอย่างแล้ว แต่ยังอยากมาโพสระบาย ให้เป็นภาระคนอ่านและคนอื่นๆบนอินเทอร์เน็ตอยู่
ผมนี่มันแย่ เลว สุดๆ เกิดมาเป็นภาระทุกอย่างแท้ๆ
เกี่ยวกับเรื่องงานและการหางานใหม่และการเรียนที่ไร้ความหมายในชีวิต
เรียนมาด้าน "คอมฯกราฟิก" 5 ปี ปวช ปวส จบมาแล้ว 2 ปีครึ่ง
เพิ่งได้เรียนต่อ ป.ตรี ด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมได้งาน เลยกะว่าจะทดลองที่นี่ดูก่อนสักพัก
ขอพูดตามตรงว่า ที่เรียนมา 5 ปีนั้น ไร้ประโยชน์ เพราะ 1 คอมที่ไม่เคยพร้อมรับงานใหญ่ๆ ทำแต่งานเล็ก retouch/dicut/proof vynil stickerpvc เคลือบ ธรรมดาทั่วไป พอทำงานบริษัทโรงพิมพ์จริงๆ กลับรู้สึก...โล่ง เหมือนที่เรียนมาไร้ประโยชน์
ยิ่งการออกแบบโลโก้ นั่งดูVideo บน Youtube พวกชาวต่างชาติที่ออกแบบโลโก้กัน เริ่มจาก สี่เหลี่ยม วงกลม ครึ่งวงกลม แล้วรวมกันจนเป็นรูปร่าง ไล่ gradient แสงเงา บนพื้นฐานของวิสัยทัศน์ และรูปแบบของบริษัทที่ส่งมาให้และคำชี้แนะจากลูกค้าที่มาจากบริษัทนั้นๆ ทำให้มันมีความหมาย สื่อถึงบริษัทนั้นจริงๆ
แต่เมื่อได้รับงานออกแบบโลโก้ ความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผู้ออกแบบเหมือนเป็นผู้รับฟังและทำตามอย่างเดียว ออกแบบหรือเพิ่มเติมอะไร ก็จะเอาแค่แบบที่ตัวเองร่างใส่กระดาษมา (อันนี้บ่นลูกค้า)
เรียนมา 5 ปี ด้านนี้แต่กลับเกลียดงานด้านนี้เข้าไส้ และไม่ชอบเอามากๆ
จนตอนนี้อยากออกจากงาน อยากถามว่า จำเป็นไหมที่ต้องบอกว่า จะลาออกจากงาน และต้องบอกล่วงหน้า 1 เดือน
มีกฎหมายข้อใดบ้างที่ออกจากกลางคันแล้วมีความผิด (เรื่องเงินเดือนคงไม่ได้รับ จากที่คิดไว้)
ปัจจุบัน ค่าหอคือ 40% ของเงินเดือน และผ่อน อุปกรณ์คอมฯ ไว้ เดือนละ 1 พันกว่าๆ (เท่ากับว่า เหลือกิน 55%)
ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตเลยจริงๆ
และประเด็นคือ ชีวิตมันห่วยแตกขนาดนี้เลยหรือ...
เรียนมา เพื่อทำงานห่วยๆ ซ้ำไปซ้ำมา 10 ปี 20 ปี ที่ไม่ได้รู้สึกเจริญก้าวหน้า
เข้างานเช้าเงินงานเที่ยงคืน OT ที่ไม่แน่ไม่นอน งานเร่งงานด่วน สั่งวันนี้เอาเช้าพรุ่งนี้ ไม่มีการเทรนงาน เกิดมาต้องทำงานเป็นเลย
ข้าวต้องกินเวลางาน พักจริงๆ คือ ไม่มีเวลาพัก ดึกดื่นต้องลุกมารับโทรศัพท์ ดูLINE เช็คเฟส Email
คิอทำงานก็คือทำงาน ต้องได้ตามเป้าหมายของบริษัท แต่ทุกวันนี้มนุษย์ก็ไม่ต่างจากเมื่อก่อน ทาสก็คือทาส เป็นคนทำงาน เหมือนทาส
ภาษีไม่ต้องพูดถึง เงินเดือนไม่ถึงที่จะเสียด้วยซ้ำไป
จะกู้มาลงทุน "มีความเสี่ยง" ที่ต้องแบกรับถึง 2 ด้าน ถ้าตัดจิตใจอันอ่อนแอที่สามารถทิ้งคนรู้จักคนรอบข้างได้จะดีมาก
เศรษฐกิจพอเพียงมีไว้เพื่อ มีกินไปวันๆ เก็บหอมรอมริบ ที่ชาตินี้ก็ไม่มีวันรวย ไม่มีความสุข
สุขแบบที่เป็นอยู่คืออะไร ในเมื่อมีเงิน มันเท่ากับความสุข
รู้สึกเครียด ที่ตัวเองทำงานไม่เก่ง ไม่ตรงตามเป้าหมาย ทำได้ไม่เหมือนคนอื่น
คำกลอนที่เป็นแง่บวก แต่พอมองลึกๆ กลับมีแต่แง่ลบ และไม่เป็นจริง
เคยพยายามจนสุดตัวทั้งงาน ทั้งงานอดิเรก ทุกอย่างไปพร้อมกันอยู่ 2 ปี (ก่อนเรียนป.ตรี) แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า
เกิดมาเพื่อเป็นเบี้ยล่างรับใช้คนอื่น ถูกส่งเสีย แล้วต้องไปส่งเสียกลับ และต้องส่งเสียคนอื่น เพื่อให้คนอื่นส่งเสียกลับ
Loop นรกที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
มีชีวิตไปทำไม ในเมื่อเวลาก็ทำให้ตาย แค่ไม่ช้าก็เร็ว หรือไม่เจอพวกขับรถไม่เปิดไฟเลี้ยว ไม่ต้องเสี่ยงตายกับวินมอไซต์บนฟุตบาท ที่บีบแตรไล่คนบนทางเท้า วินมอไซต์ที่รับคน ขับย้อนศร บนมอเตอร์เวย์ วินที่ราคา แพงกว่าค่าแก้วน้ำ เปิ่น แพงกว่าขวดโค้กExtra แพงกว่าค่าอาหารต่ออาทิตย์
ไม่มีเงินเท่ากับมีความสุขแล้วจริงหรอ เคยพยายามสุดตัวแล้วก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ มันคือประสบการณ์ที่ดีจริงหรอ
จะอยู่ไปเพื่ออะไร ถ้ามันมีแต่เรื่องแย่ๆ ความเป็นจริงมันแย่ มีชีวิตก็แย่
ขนาดตายยังเป็นภาระ ตายที่หอพักก็ ภาระคนในหอ เจ้าของหอ และครอบครัว คิดแล้วคิดอีกก็ยังทำให้ปวดหัวได้มากโขกับเรื่องนี้
ขอบคุณที่อ่าน
พยายามเลิกโซเชียลทุกอย่างแล้ว แต่ยังอยากมาโพสระบาย ให้เป็นภาระคนอ่านและคนอื่นๆบนอินเทอร์เน็ตอยู่
ผมนี่มันแย่ เลว สุดๆ เกิดมาเป็นภาระทุกอย่างแท้ๆ