[CR] แบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวลาวเหนือ ด้วยงบเพียง 6,000 บาท (1)

ก่อนอีกเลยครับนี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของผมผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ เนื่องจากผมต้องการหาแรงบันดาลใจ และpassion ในการทำงานและการเรียนต่อ ผมจึงต้องการความท้าทาย จึงอยากไปเที่ยวหาสิ่งใหม่ๆ นี่เป็นการเดินทางไปลาว ลุยเดี่ยวครั้งที่ 5ของผมแล้ว แต่พึ่งได้มาเขียนรีวิวครั้งแรก ในการไปเที่ยวลาวเหนือ ปกติผมเป็นคนชอบเที่ยวลาวเหนือเป็นการส่วนตัว เพราะชอบบรรยากาศชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คน บวกกับสภาพภูมิประเทศอันสลับซับซ้อนและสวยงามครับ ผมตั้งใจว่าจะเริ่มการเดินทางเข้าด่านทางจังหวัดหนองคาย และลองออกเส้นทางใหม่ที่แนะนำคือ ทางด่านจังหวัดเลย

เริ่มแรกเลย ผมเลือกที่จะเดินทางโดยรถโดยสารระหว่างประเทศ อุดร-เวียงจันทน์ ราคาค่าตั๋ว 80 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมงครับ ย้ำนะครับว่าจะต้องมีพาสปอต หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งทำ 200บาท ที่ศาลากลางจังหวัดหนองคาย หรือที่สะพานมิตรภาพ แต่ผมแนะนำให้ทำพาสปอต์เลยครับคุ้มค่าครั้งเดียว 1000บาท ใช้ได้ตลอดระยะเวลา5ปี เดินทางได้ทั่วประเทศลาว ประเทศในอาเซี่ยน และประเทศอื่นๆกว่า 40ประเทศ โดยไม่ต้องขอวีซ่าคุ้มมากกว่าครับ  

หลังจากนั้นก็จะเป็นพิธีการระหว่างประเทศในการข้ามแดนซึ่งผมก็ไม่ได้ขออธิบายมากนั้น เพราะเห็นหลายกระทู้รีวิว การข้ามแดนทางด่านสะพานมิตรภาพ ไทยลาวแห่งที่1 มามากแล้วคับ ระหว่างการเดินทางขึ้นรถโดยสารระหว่างประเทศ ผมได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ ชื่อพี่นัย เป็นคนไทยมาทำธุระ ที่เวียงจันทน์ผมจึงตกลงตัดสินใจเที่ยวเวียงจันทน์ สักวันนึงก่อนจะไปนั่งรถที่สถานีสายเหนือ ไปอุดมไซครับ  


ครับ หลังจากนั้นพอมาถึงเวียงจันทน์ ผมได้กลุ่มเพื่อนใหม่เยอะมากครับได้รู้จักเพื่อนชาวลาวที่พี่นัยแนะนำ เพราะพี่นัย แกเป็นเจ้าของไร่อ้อยจากพิษณุโลก มาทำธุระนำแรงงานคนลาวอย่างถูกกฏหมายแถวประตูไซ ไปตัดอ้อยที่พิษโลกครับ ระหว่างนี้ผมได้รู้จักกับลุงสอน ตุ๊กตุ๊กลาว ที่นิสัยดีมากครับ แกเป็นเพื่อนของพี่นัย พาเที่ยวเวียงจันทน์ กับไปส่งผมที่สถานีสายเหนือ ทั้งวันผมเสียเงินแค่ 200 บาทเองครับ เรียกได้ว่าได้เพื่อนใหม่ และได้คอนเนคชั่นดีมากครับ



หลังจากนั้นพอสมควรแก่เวลาเราจึงได้ร่ำลาแยกย้ายกัน และขอข้อมูลติดต่อกัน ลุงสอนมาส่งผมที่สถานีสายเหนือ ช่วงประมาณ 6โมงเย็น ผมได้รถนอน เวียงจันทน์อุดมไซ ราคาก็ 190,000กีบ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 700กว่าบาทครับ ก็คุ้มค่ากับราคาตั๋วรถนอนครับ เพราะระยะทางจากเวียงจันทน์ไปอุดมไซ 700กว่ากิโล บวกกับระยะทางค่อนข้างไกล ผมกะว่าไปถึงเช้าๆหรือสายๆที่อุดมไซ น่าจะดีจะได้ไม่ต้องเสียค่าที่พัก จากนั้นจะต่อรถจากอุดมไซไปเมืองขวาครับสภาพบรรยากาศรถนอนก็อย่างที่เห็นครับ ผมว่าสนุกและตื่นเต้นดีมากครับแต่แอร์แอบหนาวไปนึดนึง อันที่จริงผมขึ้นรถสายหลวงน้ำทาครับ แต่ขอลงอุดมไซ ระหว่างทางรถจอดเกือบตลอดทางครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะปวดฉี่หรือปวดหนักรถจอดตลอดครับ
ในที่ดุดก็มาถึงแล้วครับอุดมไซ นั่งรถมาทั้งคืน มาถึงก็สายๆ เกือบเที่ยงแล้วครับ สภาพสถานีขนส่งอุดมไซเป็นสถานีใหญ่ของภาคเหนือสถานีหนึ่ง ครับมีรถมากมายไม่ว่าจะไป เดียนเบียนฟู ไปเมืองหล้าของจีน หรือแม้กระทั่งมาไทย ออกทางจังหวัดเชียงราย ของเราผู้โดยสารจึงมีมากเป็นพิเศษ และคิวรถค่อนข้างเยอะครับ



หลังจากนั้นผมจึงซื้อตั๋วรถหรือที่ลาวเรียกว่าปี้ นั่นแหละครับ จากอุดมไซไปเมือง ขวาก็ 40,000 กีบ หรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 120 กว่าบาทนี่แหละครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3ชั่วโมง สภาพบรรยากาศในรถก็แบบนี้แหละครับต้องบอกว่าผมชอบอะไรที่มันเป็น แอดแวนเจอร์ ชอบวิถีชาวบ้านกินง่ายอยู่ง่าย จึงไม่ใช่ปัญหาในการเดินทางสำหรับผมครับ


ระหว่างทางไปเมืองขวา จะผ่านเรียบแม่น้ำอู ซึ่งไหลมาจากทางประเทศจีย บวกกับ ทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงามมากครับ

ในที่สุดก็มาถึงแล้วครับเมืองขวา แขวงพงสาลี ผมเคยมาเมืองนี้เมื่อ 5ปีก่อน เมืองขวาเป็นเมืองผ่านที่จะไปชายแดนเวียดนาม เมืองเดียนเบียนฟู ซึ่งระยะทางไม่ไกลมากครับประมาณ 50กว่าๆกิโลก็ถึงชายแดน ลาว-เวียดนาม ทุกวันก็จะมีรถผ่านมาจาากหลวงพระบาง หรือทางอุดมไซ เพื่อไปเดียนเบียนฟู ครับ สภาพเมือง เงียบสงบ เป็นธรรมชาติผู้คนอัธยาศัยดีครับ คืนนี้ผมตัดสินใจพักที่เมืองขวา หนึ่งคืนเพื่อพรุ่งนี้เช้า ผมจะซื้อตั๋วเรือ เตรียมล่องเรือ ชมบรรยากาศ ธรรมชาติ ไปเมืองงอย และหนองเขียวต่อครับ

บรรยากาศสภานเมืองขวาแทบไม่เปลี่ยนไป จากกเมื่อผมเคยมา 5 ปีที่แล้วครับ เมืองยังเงียบสงบ เป็นธรรมชาติเหมือนเดิม



คืนนี้ผมเลือกเฮือนพัก มะโนธรรมครับ เพราะผมรู้จักกับเจ้าของเป็นการส่วนตัว ชื่อพ่อตู้มะโนธรรมนี่แหละครับ ตามชื่อ แกอัธยาศัยดีมาก ดูแลผมทุกอย่างเป็นกัน เอง ค่าที่พักก็แสนถูกมากครับ ตกราคา 50,000 กีบ ตีเป็นเงินไทย ก็ 200 บาท ครับ ขอโทษด้วยครับไม่ได้ถ่ายรูปที่พักมา
ตื่นเช้ามาพบกับอากาศ หนาวๆนิดๆ กับวิวธรรมชาติ หุบเขาล้อมรอบ ผมก็สดชื่นสบายใจครับจุดพีคของการเดินทาง และความสนุก และแรงบันดาลใจกำลัง จะเริ่มขึ้นแล้วครับ หลังจากพักผ่อนมา 1คืน เช้านี้ผมมารอที่ท่าเรือ เพื่อ จะล่องเรือไปเมืองงอย และหนาองเขียว ถามพี่คนขับเรือครับ "อ้ายๆ เฮืออดออกจักโมง"  "10โมงเซ้า หนุ่ม" ราคาปี้ 100,000 กีบ


ได้เวลาลงเรือแล้วครับ ความมันมาอีกแล้วครับ ผมได้เพื่อนร่วมทริปเยอะมากครับ เป็นฝรั่งทั้งนั้น ที่จะร่วมเดือนทางไปเมืองงอย และ หนองเขียวด้วย ได้เพื่อนใหม่ที่สนิทกันนคือ แดเนียล(คนใส่หมวก) เพื่อนจากออสเตรเลีย ซึ่งจะไปเมือง หนองเขียวเหมือนกัน ต้องบอกว่าบรรยากาศภายในเรือคึกคักสนุกมากครับ มีเพื่อนจากหลายเชื้อชาติสนทนากันแลกเปลี่ยนความรู้และการเดินทางของตัวเอง ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของผมเลยครับ

ระหว่างสองข้างทางจากเมืองขวา มาเมืองงอย ใช้ระยะเวลาประมาณ 4ชั่วโมงซึ่งต้องบอกว่าบรรยากาศคุ้มค่าแก่เวลามากๆครับ สวยงามกว่าวังเวียงในความรู้สึกผม คนลาวขนานนามให้เป็นวังเวียง 2เลยก็ว่าได้ครับ ในที่สุดช่วงเย็นๆผมก็มาถึงเมืองหนองเขียว ผมตัดสินใจไม่พักเมืองงอย มาเมืองหนองเขียวแทนเพราะได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ชาวลาว ชื่อ อ้ายไท เป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์อยู่เมืองงอย ชวนผมเที่ยวเมืองหนองเขียว พอดีแกกลับบ้านพอ


สภาพเมืองหนองเขียวต้องบอกว่าสวยงามมากๆครับ ตั้งแต่ผมมาเที่ยวลาวครั้งที่5 ผมว่า เป็นฮาลองเบ 2 ก็ว่าได้ครับ สวยจริงๆ หลังจากชมเมืองได้พอประมาณแล้ว เห็นไท บอกว่าต้องไปปืนภูผาแดง จุดชมวิว ของมหาชนที่ใครมาเมืองหนองเขียวต้องปืนไปให้ได้ ผมจึงเดินไปสำรวจทางขึ้น คิดว่าต้องออกตั้งแต่ตี 5ตอนเช้า เห็นเขาว่า ปืนชั่วโมงครึ่งถึงภู ผมคิดในใจน่าจะสนุกน่าท้าทาย กับความสามารถ จึงเล็งไว้ว่าพรุ่งนี้เช้าต้องตื่นมาปืนไปบนยอดถ่ายรูปพิชิต ภูผาแดงให้ได้หลังจากสำรวจเมืองสักพัก ไทก็มาส่งผมที่ที่พักครับ ได้ที่พักไซธานี ถูก มากครับ 60,000กีบ ตีเป็นเงินไทย ก็ประมาณ 240บาท ราคานี้ผมถือว่าโอเคเลยครับ ไม่แพงมากเหมาะสำหรับนักเดินทางทั้งหลายที่ต้องการที่พักราคาถูก

หลังจากนั้นเก็บของเสร็จ ไท ได้ชวนผมมากินข้าวที่บ้านพี่สาว ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากเพราะถ้าคนลาวชวนมากินข้าวที่บ้านแสดงว่าเขาให้เกียรติมากทั้งที่พึ่งรู้จักกัน ผมจึงตอบตกลง 555 และไท ได้แนะนำให้รู้จักพี่สาว ชื่อเอื้อยป๊อก(เสื้อเหลือง) กับเอื้อยอะไรสักอย่างชื่อนึงผมจำไม่ได้ต้องขอโทษด้วยนะครับ เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักถึงเสน่ห์และความน่ารักของสาวลาว555 การสนทนาพี่ๆของไท เอ็นดูผมมากเปรียบเสมือนคนในครอบครัว ผมยังรู้สึกตื้นตันใจและคิดถึงทั้งสามคนมาก หลังจากกินอาหารเสร็จเอื้อยทั้งสองกับไท ก็ชวนผมไปร้องคาราโอเกาะ สนุกมากครับ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้มีภาพประกอบ
และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญอีกครั้งครับ ต้องบอกว่าเกือบไม่ตื่น เมื่อคืนเพื่อนชาวลาว ผมชวนไปตำจอก หมดเบียร์ลาวไปหลายขวดทำเอาผมมึนไปพอสมควรเกือบไม่ตื่น กว่าจะกลับก็ล่อไปเกือบเที่ยงคืนตี1 ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี5ครับ กดเลื่อนไปสองครับ ผมได้สติรีบหยิบโทรศัพท์มาดูนาฬิกา โอ่ว6โมงเช้า คิดในใจยังพอได้ิยู่จึงรีบแต่งตัวอาบน้ำเพื่อไปปืนเขาขึ้นภูผาแดงครับ ว่าแล้วก็รีบบึ่นไปจากที่พักครับ ซื้อปี้ ก่อนขึ้น 20,000 กีบ คนลาวเรียก ซาวพันกีบ ตีเป็นเงินไทยก็80 บาทครับ
เดินมาสักพักเห็นทางขึ้น คิดในใจ ไม่น่ายาก ผมทหารเรือเก่า สบายไม่น่ามีปัญหา
เดินผ่านมาเรื่อยๆ ปืนมาเรื่อยๆใจผมเริ่มเสียระยะทางลื่นมาก ทางก็ชัน หอบสิครับ ล้มลุกคลุกคลาน ลื่นล้มไปหลายครั้ง ทางชันมาก โคลนเยอะพอสมควร ผมคิดในใจจะกลับหลังก็เสียฟอร์มเอาวะลุยต่อ ยิ่งขึ้นสูงยิ่งชันแทบปืนแทบคลานอันนี้เรื่องจริง เดืนมาได้สักพักเกือบชั่วโมง เห็นป้ายเขียนเป็นภาษาลาว ท่านเดินทางมาได้ครึ่งทาง ผมคิดในใจอะไรนะ นี่ตรูปืนมาเกือบชั่วโมง เหนื่อยก็เหนื่อย น้ำก็เหลือน้อยหิวน้ำก็หิว ได้แค่ครึ่งทาง ผมเริ่มใจเสีย เลยนั่งพักเหนื่อยสักพักจึงคิดในใจมาถึงขั้นนี้แล้วจะยอมแพ้ไม่ได้เลยกัดฟันสู้ปืนต่อ
ชื่อสินค้า:   5วัน 5คืน เวียงจันทน์-อุดมไซ-เมืองขวา-เมืองงอย-เมืองหนองเขียว-หลวงพระบาง-ไซยะบุรี-จังหวัดเลย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่