'สนช.' ผ่านฉลุยร่างกฎหมาย 'แจกเบี้ยประชุมศาล'
https://voicetv.co.th/read/B1lbEz4Rm
ที่ประชุมสนช. ผ่านร่างกฎหมายแจกเบี้ยประชุมศาล แบบไร้เสียงค้าน ชี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาพิพากษา ให้มีความรอบคอบยิ่งขึ้น
ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนาย
สุรชัย เลี้ยงบุญเลิญชัย ประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มีมติในวาระสามผ่านร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯเสนอ ด้วยคะแนน 145 ต่อ 0 งดออกเสียง 6 โดยที่กมธ.ไม่มีการสงวนความเห็น สมาชิกสนช.ไม่มีการเสนอคำแปรญญัติ ไม่มีการแก้ไข และลุกขึ้นอภิปรายเลยแม้แต่รายเดียว
โดยยังคงสาระคัญคือ ให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมมีอำนาจออกระเบียบกำหนดเบี้ยประชุมของข้าราชการตุลาการ ซึ่งเข้าร่วมในการประชุมใหญ่ของศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ พร้อมกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อรับรอง ระเบียบคณะบริหารราชการศาลยุติธรรมว่า ด้วยเบี้ยประชุมในการประชุมใหญ่ และการประชุมแผนกคดีอาญาในศาลฎีกาและศาลชั้นอุทธรณ์ พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมที่ออกครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2560 และแก้ไขเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ให้มีผลบังคับใช้จนกว่าจะออกระเบียบตามร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วย
สำหรับงบประมาณการรายจ่ายเบี้ยประชุม ประกอบด้วย ประธานได้รับเบี้ยประชุม 10,000 บาท องค์ประชุมคนละ 8,000 บาท เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการคนละ 6,000 บาท ผู้เข้าร่วมประชุมคนละ 6,000 บาท ใน 12 หน่วยงานศาลคือ ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ และศาลอุทธรณ์ภาค 1-9 ที่จะประชุมเดือนละ 2 ครั้ง รวมปีละ 24 ครั้ง ประมาณการรายจ่ายราย 12 ปี ศาลต่อปีอยู่ที่ 207,360,000 บาท คาดว่า 5 ปีแรกต้องใช้งบประมาณแตะ 1,100 ล้านบาท
โดยให้เหตุว่า เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาพิพากษาให้มีความรอบคอบยิ่งขึ้น จึงเป็นหลักประกันแก่ประชาชนว่า ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมจะมีการพิพากษาเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนอย่างละเอียด รอบคอบ และเที่ยงธรรม
ประธาน กกต. เตรียมตรวจสอบกรณีเพิ่มเงินบัตรคนจนเข้าข่ายหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่
https://voicetv.co.th/read/rJ4ijj70X
ประธาน กกต. ฟังความเห็นพรรคการเมือง ก่อนนำประชุมแม่น้ำ 5 สาย จะเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ ยืนยันการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ไม่ถูก คสช. ครอบงำ ระบุกรณีเพิ่มเงินบัตรคนจน ต้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่
นาย
อิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองยื่นหนังสือขอเลื่อนเลือกตั้ง และบางพรรคการเมืองของให้การเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมป กกต. จะนำความเห็นของพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณา เพื่อตัดสินใจภาพรวมว่าจะเกิดประโยชน์ หรือผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ ในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ กกต. จะยังไม่ตัดสินใจตอนนี้ทันที แต่เบื้องต้นมองว่ายังไม่มีเหตุปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากโรดแมป ส่วนการตัดสินใจว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปหรือไม่นั้น คงจะมีความชัดเจนหลังจากการประชุมร่วมกันระหว่างแม่น้ำ 5 สายกับตัวแทนพรรคการเมืองตามข้อ 8 ของคำสั่ง คสช.ที่ 53/2561 และคาดว่าวันประชุมจะชัดเจนหลังพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับ แต่หากมีข้อสรุปให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป กกต. เองก็ไม่จำเป็นแสดงความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชนและความเชื่อมั่นของนานชาติ แต่ต้องชี้แจงเหตุผลให้เข้าใจ
อย่างไรก็ตาม กกต. จะแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเผื่อเวลาการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไว้ด้วย โดยยืนยันว่าจะพิจารณาการแบ่งเขตให้สอดคล้องตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 27 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่คำนึงถึงจำนวนประชากรต้องมีความใกล้เคียงกันในแต่ละเขต เพราะไม่ว่าคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2561 และ 16/2561 ระบุชัดเจนให้ กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศใช้ 11 ธันวาคม ทั้งนี้ กกต. จะทบทวนข้อร้องเรียนของพรรคการเมืองให้เสร็จภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้
ส่วนการปรับเปลี่ยนเขตเลือกตั้ง กกต. คิดว่าไม่น่ามีการปรับเปลี่ยนไปมากกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อร้องเรียนของพรรคการเมืองที่ส่งเข้ามา ถ้ามีมาก และอยู่บนพื้นฐานของหลักเกณฑ์ตามมาตรา 27 ก็จะพิจารณาเฉพาะรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่สอดคล้องและหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย แต่ข้อร้องเรียนไหนที่ไม่เข้าข่าย กกต. ก็จะไม่นำมาพิจารณา นายอิทธิพร ยังยืนยันว่า คำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 ไม่ได้คุ้มครอง กกต. ให้แบ่งเขตการเลือกตั้งอย่างไรก็ได้ แต่เป็นเพียงการขยายช่องทาง ในคำสั่งระบุชัดเจนว่า ให้แบ่งเขตตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เป็นการขยายช่องทางมากกว่า และปฏิสธว่า กกต. ไม่ได้ถูกครอบงำโดยรัฐบาลและ คสช. แม้จะมีช่องทางให้รัฐบาลก็ส่งคำร้องเรียนจากรัฐบาลได้ก็ตาม แต่ กกต. รับฟังความเห็นและข้อร้องเรียนอย่างเท่าเทียมกันทุกฝ่าย และไม่ได้เป็นคำสั่งที่มีผลนิรโทษกรรมให้กับ กกต. ที่ต้องขยายเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้ง และไม่ได้เป็นคำสั่งที่มีผลนิรโทษกรรมให้กับ กกต. ที่ต้องขยายเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้ง
สำหรับเงื่อนไขในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2561 อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสังกัดพรรคการเมืองภายใน 90 วัน ว่าสามารถสมัครได้จนกว่าจะปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น ประธาน กกต. บอกว่า ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ เพราะอยู่ระหว่างให้ความสำคัญเกี่ยวกับการแบ่งเขตอยู่ แต่ได้ยืนยันต่อที่ประชุมตัวแทนพรรคการเมืองในวันนี้แล้ว ว่า กกต. จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนเรื่องที่มีการวิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจนทำให้การแบ่งเขตเลือกตั้งล่าช้าออกไปนั้น ก็เป็นความเห็นของแต่ละปัจเจกบุคคล ว่ากันไม่ได้
ประธาน กกต. ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาลจัดสรรงบเพิ่มสิทธิบัตรคนจนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง อาจเข้าข่ายใช้นโยบายหาเสียงล่วงหน้า ว่า เป็นเรื่องที่สำนักงาน กกต. จะพิจารณา โดยตามอำนาจแล้ว หากมีมูลสามารถดำเนินการตรวจสอบได้เลยโดยไม่ต้องมีผู้ร้อง และเชื่อว่ากรณีนี้จะถูกนำมาตรวจสอบด้วยเช่นกัน แต่หากพบว่าไม่เข้าข่ายความผิดจะยุติเรื่อง
วิเศษนิยม! ‘วิษณุ’ยัน แจกเงินคนจน ไม่ใช่ประชานิยม ต้นธค.นี้แม่น้ำ5สายถกพรรค
https://www.khaosod.co.th/politics/news_1860845
‘วิษณุ’ยันรัฐบาล แจกเงินคนจน ไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นวิเศษนิยม เมินกกต.สอบ เล็งเปิดเวทีถกแม่น้ำ 5 สาย-พรรคการเมือง ต้นธ.ค.นี้ แจงจำเป็นต้องขยายวลาให้กกต.แบ่งเขต หวั่นถูกฟ้อง
แจกเงินคนจน – ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย
วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สายกับพรรคการเมือง ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53/2560 ว่า คาดว่าครม.และคสช. จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพรรคการเมืองได้ภายในต้นเดือนธ.ค.นี้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนยื่นเรื่องให้ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. พิจารณาเลือกวันประชุม
ทั้งนี้ ถึงแม้จะปลดล็อกการเมืองในเร็ววันนี้ แต่ยังไม่สามารถหาเสียงได้ เพราะจะหาเสียงได้ต่อเมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)เลือกตั้ง และคสช. ก็ไม่อาจปล่อยให้หาเสียงได้ตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากมีเรื่องงบประมาณหาเสียง ที่ต้องเริ่มนับหนึ่งของการใช้จ่ายงบหาเสียง ต่อเมื่อมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้วเช่นกัน
เมื่อถามว่าฝ่ายการเมืองวิจารณ์คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 6/2561 ไม่ให้กกต.ยึดเขตเดิมเป็นหลัก ตามที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดไว้ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนเข้ามาที่คสช. และกกต. รวมถึงที่กระทรวงมหาดไทยจำนวนมาก เพราะก่อนหน้านี้กกต.ดำเนินการด้วยความเร่งรีบ จึงต้องยืดเวลาให้กกต.พิจารณาอีกครั้ง เดิมกกต. ระบุจะประกาศเขตเลือกตั้งให้ได้ตามกำหนด
ต่อมาประธานกกต.ไม่สบาย มีอาการป่วยทางสายตาจนต้องปิดตาทั้งสองข้าง จึงไม่ทันได้ดูรายละเอียด ถ้าประกาศเขตเลือกตั้งออกไป จะได้รับเสียงวิจารณ์ โวยวายและฟ้องร้องกกต. จึงต้องออกคำสั่งคสช. เพื่อยืดเวลาให้
นาย
วิษณุ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์มติครม. ที่อนุมัติงบประมาณในโครงการบัตรสวัสดิการของรัฐเพิ่มเติมหลายหมื่นล้านบาท เหมือนการหาเสียงล่วงหน้าให้แก่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ว่า คิดว่าไม่เกี่ยวกับการได้เปรียบเสียเปรียบ หรือผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมือง เพราะรมว.คลัง เป็นผู้เสนอโครงการดังกล่าวให้ครม.พิจารณา ไม่ได้เอื้อให้ใคร เป็นโครงการที่คิดกันมานานแล้ว ตนบอก ครม.นานแล้วว่า หากมีโครงการใดที่จะให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ขอให้กระทรวงรีบเสนอ ก่อนจะมีประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง
“ผมคิดว่าไม่ได้เอื้อให้กับพรรคใด ถึงแม้จะมีรัฐมนตรี 4 คนอยู่ใน พปชร. แต่สมมติว่าถ้าเอื้อก็ไม่เกี่ยวกับ 4 รัฐมนตรี เพราะทั้ง 4 คนไม่ได้ลงสมัครส.ส. ส่วนที่วิจารณ์ว่าหาเสียงล่วงหน้านั้น คนเป็นรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย เวลาทำอะไรจะถูกมองทั้งนั้น เมื่อถูกวิจารณ์ก็ให้ชี้แจงกันไป และที่กกต.จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก็ถือว่า ดีแล้ว” นาย
วิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่าในอนาคตหากมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง รัฐบาลควรระมัดระวังการอนุมัติงบประมาณที่ส่อจะถูกมองว่าหาเสียงหรือไม่ นาย
วิษณุ กล่าวว่า แม้จะมีประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว ก็ยังทำได้ตามปกติ เพราะรัฐบาลนี้ไม่มีสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ ยังทำงานได้เต็มร้อยทุกอย่าง
ส่วนที่วิจารณ์ว่ารัฐบาลวิจารณ์นโยบายประชานิยมมาตลอด แต่กลับออกนโยบายประชานิยมมาเช่นกันนั้น เรื่องนี้นาย
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บอกแล้วว่า
โครงการนี้ไม่ใช่ประชานิยม แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นวิเศษนิยม
เมื่อถามว่าแม้ในทางกฎหมายจะทำได้ แต่โดยมารยาท ควรทำหรือไม่ นาย
วิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันตามมารยาท เพราะรัฐบาลนี้จะอยู่ไปมีรัฐบาลใหม่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ ถ้าคิดว่าจะต้องมีมารยาทเป๊ะทั้งหมดแล้ว ระหว่างที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามาทำงาน จะให้ทำอย่างไร หากเกิดเหตุขึ้นไม่ว่าน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เรือล่ม
JJNY : 5in1 ผ่านฉลุยกม.แจกเบี้ย/เตรียมสอบเพิ่มเงินบัตรคนจน/วิเศษนิยม!‘วิษณุ’ยัน/ทิชาบ่นวิธีคิดนายทหาร/หวั่นยุโรปชูใบแดง
https://voicetv.co.th/read/B1lbEz4Rm
ที่ประชุมสนช. ผ่านร่างกฎหมายแจกเบี้ยประชุมศาล แบบไร้เสียงค้าน ชี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาพิพากษา ให้มีความรอบคอบยิ่งขึ้น
ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิญชัย ประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้มีมติในวาระสามผ่านร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯเสนอ ด้วยคะแนน 145 ต่อ 0 งดออกเสียง 6 โดยที่กมธ.ไม่มีการสงวนความเห็น สมาชิกสนช.ไม่มีการเสนอคำแปรญญัติ ไม่มีการแก้ไข และลุกขึ้นอภิปรายเลยแม้แต่รายเดียว
โดยยังคงสาระคัญคือ ให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมมีอำนาจออกระเบียบกำหนดเบี้ยประชุมของข้าราชการตุลาการ ซึ่งเข้าร่วมในการประชุมใหญ่ของศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ พร้อมกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อรับรอง ระเบียบคณะบริหารราชการศาลยุติธรรมว่า ด้วยเบี้ยประชุมในการประชุมใหญ่ และการประชุมแผนกคดีอาญาในศาลฎีกาและศาลชั้นอุทธรณ์ พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมที่ออกครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2560 และแก้ไขเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ให้มีผลบังคับใช้จนกว่าจะออกระเบียบตามร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วย
สำหรับงบประมาณการรายจ่ายเบี้ยประชุม ประกอบด้วย ประธานได้รับเบี้ยประชุม 10,000 บาท องค์ประชุมคนละ 8,000 บาท เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการคนละ 6,000 บาท ผู้เข้าร่วมประชุมคนละ 6,000 บาท ใน 12 หน่วยงานศาลคือ ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ และศาลอุทธรณ์ภาค 1-9 ที่จะประชุมเดือนละ 2 ครั้ง รวมปีละ 24 ครั้ง ประมาณการรายจ่ายราย 12 ปี ศาลต่อปีอยู่ที่ 207,360,000 บาท คาดว่า 5 ปีแรกต้องใช้งบประมาณแตะ 1,100 ล้านบาท
โดยให้เหตุว่า เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาพิพากษาให้มีความรอบคอบยิ่งขึ้น จึงเป็นหลักประกันแก่ประชาชนว่า ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมจะมีการพิพากษาเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนอย่างละเอียด รอบคอบ และเที่ยงธรรม
ประธาน กกต. เตรียมตรวจสอบกรณีเพิ่มเงินบัตรคนจนเข้าข่ายหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่
https://voicetv.co.th/read/rJ4ijj70X
ประธาน กกต. ฟังความเห็นพรรคการเมือง ก่อนนำประชุมแม่น้ำ 5 สาย จะเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ ยืนยันการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ไม่ถูก คสช. ครอบงำ ระบุกรณีเพิ่มเงินบัตรคนจน ต้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองยื่นหนังสือขอเลื่อนเลือกตั้ง และบางพรรคการเมืองของให้การเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมป กกต. จะนำความเห็นของพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณา เพื่อตัดสินใจภาพรวมว่าจะเกิดประโยชน์ หรือผลกระทบต่อปัจจัยอื่นๆ ในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ กกต. จะยังไม่ตัดสินใจตอนนี้ทันที แต่เบื้องต้นมองว่ายังไม่มีเหตุปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากโรดแมป ส่วนการตัดสินใจว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปหรือไม่นั้น คงจะมีความชัดเจนหลังจากการประชุมร่วมกันระหว่างแม่น้ำ 5 สายกับตัวแทนพรรคการเมืองตามข้อ 8 ของคำสั่ง คสช.ที่ 53/2561 และคาดว่าวันประชุมจะชัดเจนหลังพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับ แต่หากมีข้อสรุปให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป กกต. เองก็ไม่จำเป็นแสดงความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชนและความเชื่อมั่นของนานชาติ แต่ต้องชี้แจงเหตุผลให้เข้าใจ
อย่างไรก็ตาม กกต. จะแบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเผื่อเวลาการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไว้ด้วย โดยยืนยันว่าจะพิจารณาการแบ่งเขตให้สอดคล้องตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 27 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่คำนึงถึงจำนวนประชากรต้องมีความใกล้เคียงกันในแต่ละเขต เพราะไม่ว่าคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2561 และ 16/2561 ระบุชัดเจนให้ กกต. แบ่งเขตเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศใช้ 11 ธันวาคม ทั้งนี้ กกต. จะทบทวนข้อร้องเรียนของพรรคการเมืองให้เสร็จภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้
ส่วนการปรับเปลี่ยนเขตเลือกตั้ง กกต. คิดว่าไม่น่ามีการปรับเปลี่ยนไปมากกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อร้องเรียนของพรรคการเมืองที่ส่งเข้ามา ถ้ามีมาก และอยู่บนพื้นฐานของหลักเกณฑ์ตามมาตรา 27 ก็จะพิจารณาเฉพาะรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่สอดคล้องและหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย แต่ข้อร้องเรียนไหนที่ไม่เข้าข่าย กกต. ก็จะไม่นำมาพิจารณา นายอิทธิพร ยังยืนยันว่า คำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 ไม่ได้คุ้มครอง กกต. ให้แบ่งเขตการเลือกตั้งอย่างไรก็ได้ แต่เป็นเพียงการขยายช่องทาง ในคำสั่งระบุชัดเจนว่า ให้แบ่งเขตตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เป็นการขยายช่องทางมากกว่า และปฏิสธว่า กกต. ไม่ได้ถูกครอบงำโดยรัฐบาลและ คสช. แม้จะมีช่องทางให้รัฐบาลก็ส่งคำร้องเรียนจากรัฐบาลได้ก็ตาม แต่ กกต. รับฟังความเห็นและข้อร้องเรียนอย่างเท่าเทียมกันทุกฝ่าย และไม่ได้เป็นคำสั่งที่มีผลนิรโทษกรรมให้กับ กกต. ที่ต้องขยายเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้ง และไม่ได้เป็นคำสั่งที่มีผลนิรโทษกรรมให้กับ กกต. ที่ต้องขยายเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้ง
สำหรับเงื่อนไขในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2561 อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสังกัดพรรคการเมืองภายใน 90 วัน ว่าสามารถสมัครได้จนกว่าจะปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น ประธาน กกต. บอกว่า ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ เพราะอยู่ระหว่างให้ความสำคัญเกี่ยวกับการแบ่งเขตอยู่ แต่ได้ยืนยันต่อที่ประชุมตัวแทนพรรคการเมืองในวันนี้แล้ว ว่า กกต. จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนเรื่องที่มีการวิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจนทำให้การแบ่งเขตเลือกตั้งล่าช้าออกไปนั้น ก็เป็นความเห็นของแต่ละปัจเจกบุคคล ว่ากันไม่ได้
ประธาน กกต. ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาลจัดสรรงบเพิ่มสิทธิบัตรคนจนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง อาจเข้าข่ายใช้นโยบายหาเสียงล่วงหน้า ว่า เป็นเรื่องที่สำนักงาน กกต. จะพิจารณา โดยตามอำนาจแล้ว หากมีมูลสามารถดำเนินการตรวจสอบได้เลยโดยไม่ต้องมีผู้ร้อง และเชื่อว่ากรณีนี้จะถูกนำมาตรวจสอบด้วยเช่นกัน แต่หากพบว่าไม่เข้าข่ายความผิดจะยุติเรื่อง
วิเศษนิยม! ‘วิษณุ’ยัน แจกเงินคนจน ไม่ใช่ประชานิยม ต้นธค.นี้แม่น้ำ5สายถกพรรค
https://www.khaosod.co.th/politics/news_1860845
‘วิษณุ’ยันรัฐบาล แจกเงินคนจน ไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นวิเศษนิยม เมินกกต.สอบ เล็งเปิดเวทีถกแม่น้ำ 5 สาย-พรรคการเมือง ต้นธ.ค.นี้ แจงจำเป็นต้องขยายวลาให้กกต.แบ่งเขต หวั่นถูกฟ้อง
แจกเงินคนจน – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สายกับพรรคการเมือง ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53/2560 ว่า คาดว่าครม.และคสช. จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพรรคการเมืองได้ภายในต้นเดือนธ.ค.นี้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนยื่นเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. พิจารณาเลือกวันประชุม
ทั้งนี้ ถึงแม้จะปลดล็อกการเมืองในเร็ววันนี้ แต่ยังไม่สามารถหาเสียงได้ เพราะจะหาเสียงได้ต่อเมื่อมีประกาศพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)เลือกตั้ง และคสช. ก็ไม่อาจปล่อยให้หาเสียงได้ตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากมีเรื่องงบประมาณหาเสียง ที่ต้องเริ่มนับหนึ่งของการใช้จ่ายงบหาเสียง ต่อเมื่อมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้วเช่นกัน
เมื่อถามว่าฝ่ายการเมืองวิจารณ์คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 6/2561 ไม่ให้กกต.ยึดเขตเดิมเป็นหลัก ตามที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดไว้ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนเข้ามาที่คสช. และกกต. รวมถึงที่กระทรวงมหาดไทยจำนวนมาก เพราะก่อนหน้านี้กกต.ดำเนินการด้วยความเร่งรีบ จึงต้องยืดเวลาให้กกต.พิจารณาอีกครั้ง เดิมกกต. ระบุจะประกาศเขตเลือกตั้งให้ได้ตามกำหนด
ต่อมาประธานกกต.ไม่สบาย มีอาการป่วยทางสายตาจนต้องปิดตาทั้งสองข้าง จึงไม่ทันได้ดูรายละเอียด ถ้าประกาศเขตเลือกตั้งออกไป จะได้รับเสียงวิจารณ์ โวยวายและฟ้องร้องกกต. จึงต้องออกคำสั่งคสช. เพื่อยืดเวลาให้
นายวิษณุ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์มติครม. ที่อนุมัติงบประมาณในโครงการบัตรสวัสดิการของรัฐเพิ่มเติมหลายหมื่นล้านบาท เหมือนการหาเสียงล่วงหน้าให้แก่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ว่า คิดว่าไม่เกี่ยวกับการได้เปรียบเสียเปรียบ หรือผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมือง เพราะรมว.คลัง เป็นผู้เสนอโครงการดังกล่าวให้ครม.พิจารณา ไม่ได้เอื้อให้ใคร เป็นโครงการที่คิดกันมานานแล้ว ตนบอก ครม.นานแล้วว่า หากมีโครงการใดที่จะให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ขอให้กระทรวงรีบเสนอ ก่อนจะมีประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง
“ผมคิดว่าไม่ได้เอื้อให้กับพรรคใด ถึงแม้จะมีรัฐมนตรี 4 คนอยู่ใน พปชร. แต่สมมติว่าถ้าเอื้อก็ไม่เกี่ยวกับ 4 รัฐมนตรี เพราะทั้ง 4 คนไม่ได้ลงสมัครส.ส. ส่วนที่วิจารณ์ว่าหาเสียงล่วงหน้านั้น คนเป็นรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย เวลาทำอะไรจะถูกมองทั้งนั้น เมื่อถูกวิจารณ์ก็ให้ชี้แจงกันไป และที่กกต.จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก็ถือว่า ดีแล้ว” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่าในอนาคตหากมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง รัฐบาลควรระมัดระวังการอนุมัติงบประมาณที่ส่อจะถูกมองว่าหาเสียงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แม้จะมีประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว ก็ยังทำได้ตามปกติ เพราะรัฐบาลนี้ไม่มีสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ ยังทำงานได้เต็มร้อยทุกอย่าง
ส่วนที่วิจารณ์ว่ารัฐบาลวิจารณ์นโยบายประชานิยมมาตลอด แต่กลับออกนโยบายประชานิยมมาเช่นกันนั้น เรื่องนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บอกแล้วว่า โครงการนี้ไม่ใช่ประชานิยม แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นวิเศษนิยม
เมื่อถามว่าแม้ในทางกฎหมายจะทำได้ แต่โดยมารยาท ควรทำหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันตามมารยาท เพราะรัฐบาลนี้จะอยู่ไปมีรัฐบาลใหม่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ ถ้าคิดว่าจะต้องมีมารยาทเป๊ะทั้งหมดแล้ว ระหว่างที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามาทำงาน จะให้ทำอย่างไร หากเกิดเหตุขึ้นไม่ว่าน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เรือล่ม